เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1200
บทที่1200 เธอหนุนแขนของฉันอยู่
รอยแผลบนตัวของผู้ชาย คือรอยจารึก
เจียงเสี่ยวไป๋แอบคาดเดา ว่ารอยแผลนี้จะได้มาเพราะผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่านะ ถ้าเป็นแบบนั้น คงโหดร้ายมาก
เธอขนลุกซู่ ในใจรู้สึกปวดแปลบ
ตัวเองลำบากดูแลเขาอยู่ตั้งครึ่งวัน แต่เขายังมาแต๊ะอั๋งเธออีก แต๊ะอั๋งยังพอว่า นี่ยังใช้เธอเป็นตัวแทนผู้หญิงคนอื่นอีก
ช่างโหดร้ายเป็นที่สุด
พอคิดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยื่นมือไปดีดหน้าผากของเซียวซู่
คงเป็นเพราะเจ็บจากที่ถูกดีด คิ้วที่ผ่อนคลายอยู่ของเซียวซู่เลยขมวดแน่นขึ้นอีกครั้ง
“เหอะ ไม่ดีดให้ระเบิดออกก็ถือว่าฉันมีน้ำเมตตาแค่ไหนแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋เริ่มรู้สึกหดหู่ขึ้นมา หวังว่ามือตัวเองจะหลุดออก หรือว่าเธอต้องผ่านคืนนี้ไปด้วยสภาพแบบนี้กัน
แล้วความจริงก็พิสูจน์แล้วว่า เจียงเสี่ยวไป๋นั้นเป็นหญ้าหางสุนัข ไม่ต้องใส่ใจอะไรเธอด้วยซ้ำ แค่โยนเธอทิ้งที่ไหนก็ได้ เธอก็สามารถมีชีวิตอยู่ด้วยตัวเองได้
ดังนั้นตอนแรกเจียงเสี่ยวไป๋ก็รังเกียจ แต่ต่อมาก็พิงโซฟาแล้วหลับไปทั้งอย่างนั้น แล้วเข้าสู่ห้วงแห่งความฝันไปอย่างรวดเร็ว
*
เซียวซู่รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองชาไปหมด แล้วก็ปวดหัวเหมือนจะระเบิด ในมือเขาเหมือนจะจับอะไรบางอย่างไว้แน่น แต่ว่าเปลือกตาหนักมาก เลยต้องใช้ความพยายามอยู่นานกว่าจะลืมตาได้
สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาเป็นอย่างแรก ก็คือสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย
ถึงจะบอกว่าไม่คุ้นเคย แต่……ก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยอยู่บ้าง เหมือนว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
แต่ก็คิดไม่ออกว่าเป็นที่ไหนกันแน่ เซียวซู่ปวดขมับมาก อยากจะยกมือขึ้นไปนวดขมับตัวเอง แต่กลับพบว่าตัวเองขยับแขนไม่ได้
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วมองไปทางแขนขวาของตัวเอง
เพียงแค่แวบเดียว ก็ทำให้เขาชะงักอยู่กับที่
เด็กสาวตัวเล็กๆในชุดนอนสีขาวนั่งบนพื้นพิงโซฟา นอนหลับสนิทโดยพิงแก้มอยู่บนแขนของเขา ผมที่นุ่มราวกับผ้าไหมแผ่อยู่รอบแขนเขา พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ
แบบใบหน้านั้น……
แล้วเซียวซู่ก็นึกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้อย่างรวดเร็ว
ตอนนั้นเขาอยู่ที่บาร์ จากนั้นแม่สาวนักเขียนนิรนามคนนี้ก็เข้ามาคุยกับเขา แต่หลังจากที่ทั้งสองคนไม่ได้คุยกันแล้ว เซียวซู่ก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มทนไม่ไหวแล้ว
เขายังค่อนข้างพอใจอยู่เลย ที่ในที่สุดตัวเองก็เมาล้มพับจนได้
จากนั้นเขาก็เมาสมใจ แต่ไม่เหลือความทรงจำหลังจากนั้นแล้ว ตอนนี้พอเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าก็เลยรู้สึกสับสนเล็กน้อย
แต่ว่าเซียวซู่ไม่ใช่คนโง่ พอลองเรียบเรียงดูก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เขามีเจ้าของหัวใจแล้ว พอมีผู้หญิงคนอื่นมาเข้าใกล้ เขาก็เลยรู้สึกไม่ชอบใจ ดังนั้นพอสติกลับมาแล้ว เซียวซู่ก็อยากจะผลักเจียงเสี่ยวไป๋ที่พิงอยู่บนแขนของตัวเองออกไป
แต่พอขยับทีเดียว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตื่นขึ้น เธอลืมตาที่ขมุกขมัวขึ้น แววตายังพร่ามัวอยู่ หันไปมองรอบๆ ห้าวินาทีเต็มๆ
ตอนที่เซียวซู่กำลังคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะกรีดร้องนั้น ใครจะรู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะขยับมุมปาก แล้วพูดว่า “นายตื่นแล้วเหรอ”
เซียวซู่ “???”
นี่เป็นปฏิกิริยาที่หญิงสาวทั่วไปควรจะมีหรือ หรือว่าที่อยู่ตรงหน้านี้คือตัวประหลาด
ความจริงก็คือถ้าหากว่าเจียงเสี่ยวไป๋รู้ว่าตัวเองอยู่ใกล้ชิดกับเซียวซู่ภายหลังการตื่น เธอก็คงจะตกใจ แต่นี่ไม่ใช่ เพราะเมื่อคืนเธอเหนื่อยแทบตาย เป็นความทรงจำที่ฝังลึกมาก ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางลืมเด็ดขาด
“ลุกขึ้น” น้ำเสียงเย็นชา และไร้อารมณ์เอ่ยขึ้นกับเธอ
“??” เจียงเสี่ยวไป๋มองดูเซียวซู่ เขาทำสีหน้าไม่สบอารมณ์เหมือนกำลังมองดูศัตรูคู่แค้น “นายหมายความว่ายังไง”
“เธอหนุนแขนฉันอยู่” เซียวซู่เตือนเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เจียงเสี่ยวไป๋ “……”
เธอชะงักไป แต่ก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว อยากโมโหแต่พอเห็นเขาจับมือตัวเองอยู่ ก็เลยเขยิบเข้าไปใกล้เซียวซู่กว่าเดิม “ฉันหนุนแขนนาย แล้วนายไม่พอใจเหรอ”
พอได้ยินแบบนั้น เซียวซู่ก็ขมวดคิ้วแน่น แล้วก็จ้องมองเธออย่างไม่เข้าใจ
“งั้นนายลองพูดสิ ว่านายจับมือฉันไว้แบบนี้ ฉันจะพอใจไหม”
พอพูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ชูมือของตัวเองขึ้น
ถูกเซียวซู่จับมือไว้แน่นทั้งคืน ส่วนเซียวซู่ที่อยู่ในความฝันก็จับมือเธอไว้แน่นเกินไป พอตื่นขึ้นมาตั้งนานก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเธอ
ตอนนี้พอได้เห็นแล้ว สีหน้าเซียวซู่ก็มืดลงทันที เป็นเขาเองที่จับข้อมือของผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมปล่อยจริงๆ ไม่เพียงแค่นั้น ยังจับไว้แน่นมากด้วย
แล้วเขาก็ปล่อยออกกะทันหัน แต่บนข้อมือเรียวเล็กของเจียงเสี่ยวไป๋ก็มีรอยแดงที่เด่นชัดมากเสียแล้ว……
แววตาของเซียวซู่สะดุ้งด้วยความตกใจเล็กน้อย เมื่อคืนเขา……
“เห็นชัดหรือยัง ไม่ใช่ว่าฉันอยากหนุนแขนนายหรอกนะ เป็นเพราะนายจับฉันไว้ตลอด แล้วฉันก็สลัดไม่ออก ก็เลยต้องนั่งหลับอยู่ตรงนี้ทั้งคืน ทั้งๆที่นายเป็นคนทำผิด แต่กลับมาหาเรื่องฉันเนี่ยนะ”
“ขอโทษ!” พอรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดต่ออีกฝ่ายแล้ว เซียวซู่ก็รีบขอโทษทันที และแววตาที่เย็นชาก็หายไปหมดสิ้น และแทนที่ด้วยความรู้สึกผิดอันเข้มข้น
ปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงนี้เป็นสิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋คาดไม่ถึง “นายก็ขอโทษได้เร็วดีนี่ แต่ว่าฉันไม่ต้องการคำขอโทษของนายหรอก นายดึงแขนฉันทั้งคืน แถมยังบวมแล้วด้วย นายเองก็คงเห็นสินะ
เป็นอย่างนั้นจริงๆ แขนของเธอถูกตัวเองบีบจนช้ำ เซียวซู่เองก็ไม่รู้ว่าตัวเองที่อยู่ในความฝันนั้นลงแรงไปขนาดไหน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เซียวซู่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต่อต้าน
พอดูแขนเธออีกรอบ เซียวซู่ก็ยิ่งหมดคำพูด ทำได้เพียงพูดว่า “เรื่องนี้เป็นความผิดของฉันจริงๆ เธออยากให้รับผิดชอบยังไง หรือว่าเธออยากลงโทษฉันแบบไหน”
รับผิดชอบ ลงโทษ ?
ถ้าจะให้เจียงเสี่ยวไป๋เลือกยังไงก็คงเป็นข้อแรก
เพราะเธอไม่ได้มีนิสัยชอบการลงโทษผู้อื่น อีกอย่างลงโทษคนอื่นไปแล้วตัวเธอจะได้อะไรขึ้นมา เธอไม่เอาหรอก
แต่ว่า……พอได้เห็นเซียวซู่ทำสีหน้าที่น่าพึงพอใจแบบนี้แล้ว มันก็แตกต่างจากก่อนหน้านี้มาก
บางที……
เซียวซู่ไม่ทันได้สังเกตว่าสายตาของเจียงเสี่ยวไป๋มีแววเจ้าเล่ห์วาบผ่าน
เจียงเสี่ยวไป๋เริ่มแสดงลูกอ้อน “ช่างมันเถอะ ฉันรู้ว่านายไม่ได้ตั้งใจ ยังไงนายก็เป็นคนอกหัก พอเมาแล้วก็คงไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ถือว่าเป็นเหตุที่เกินจากความรู้สึก ฉันใจกว้างขนาดนี้ไม่มีทางถือสานายหรอก แต่ว่า……เมื่อคืนฉันช่วยนายไว้ ก็ถือว่านายติดหนี้บุญคุณฉันครั้งหนึ่งก็แล้วกัน”
ติดหนี้บุญคุณ ?
เซียวซู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ติดหนี้บุญคุณเป็นเรื่องที่คนส่วนมากกลัว เพราะอย่างไรถ้าติดหนี้เงินก็ยังใช้เงินคืนได้ แต่ถ้าติดหนี้บุญคุณนั้นไม่รู้ว่าจะต้องคืนตอนไหน แล้วยังทำให้คนเรามีภาระทางจิตใจด้วย
แต่ว่า……เซียวซู่มองดูหญิงสาวที่นั่งอยู่บนพื้นเย็นๆ แล้วบนข้อมือยังมีรอยแดงที่เกิดจากการที่ถูกเขาบีบ เขาทำร้ายเธอถึงขนาดนี้ จะมีเหตุผลอะไรปฏิเสธได้อีก
“ได้ ต่อไปถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือ ให้บอกมาได้เลย”
พอพูดเรื่องนี้จบ เซียวซู่ก็ลุกขึ้นมานั่ง แล้วเขาก็เห็นว่าบนตัวของตัวเองมีผ้าห่มผืนหนึ่งห่มอยู่ สายตาก็มีแววประหลาดใจวาบผ่าน คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนที่มีน้ำใจแบบนี้
แต่พอลองคิดดูก็ถูก ถ้าไม่ใช่คนมีน้ำใจ จากลากผู้ชายตัวโตอย่างเขากลับมาบ้านตัวเองทำไม
แล้วก็ยังโชคดีที่เขาก็ไม่ใช่คนเลวร้าย
พอคิดถึงตรงนี้ เซียวซู่ก็หันไปมองดูดวงตาที่เปล่งประกายของเจียงเสี่ยวไป๋อีกครั้ง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนเธอ “ต่อไปถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีก เธออย่าเข้าไปยุ่งเลยจะดีกว่า”