เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1212
บทที่ 1212 เธอคิดจะแย่งผู้ชายคนนี้
ท้ายที่สุดเสี่ยวเหยียนก็พาหลินชิ่นเอ๋อกลับไปที่โรงแรม
เพราะตอนแรกเสี่ยวเหยียนจะให้หลินชิ่นเอ๋อรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน เธอจะกลับไปคิดหาวิธี แต่หลินชิ่นเอ๋อไม่ยอม บอกว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาลคนเดียวรู้สึกกลัว กลัวว่าจู่ๆสามีจะออกมา ถึงตอนนั้นเธอคงไม่มีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อไปแน่
ตอนที่พูดคำพูดเหล่านี้กับเสี่ยวเหยียนเรียกได้ว่าพูดด้วยเสียงสะอื้น เสี่ยวเหยียนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงถามว่าเธอจะทำอย่างไร
หลินชิ่นเอ๋อปาดน้ำตา:“คุณพักที่ไหน ให้ฉันไปพักอยู่กับพวกคุณชั่วคราวสักสองวันได้มั้ย คุณไม่ต้องห่วง หลังจากสองวันผ่านไปฉันก็จะซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน จะไม่ทำให้คุณเดือดร้อนแน่นอน”
เธอพูดขนาดนี้แล้ว แม้เสี่ยวเหยียนจะรู้สึกลำบากใจมาก แต่สุดท้ายก็ยังรับปาก
การเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ ก็กลายเป็นเพิ่มคนเข้ามาหนึ่งคนหนึ่งคนโดยไม่มีเหตุผล เสี่ยวเหยียนผิดหวังเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ปล่อยวางได้
หลินชิ่นเอ๋อที่ถูกพาตัวกลับมาที่โรงแรมกำลังอาบน้ำในห้องน้ำ
เธอมองตัวเองในกระจกที่มีไอน้ำปกคลุมอยู่ แล้วมองไปยังเสื้อผ้าที่เสี่ยวเหยียนหยิบให้เธอ มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
เด็กน้อยก็คือเด็กน้อย เสื้อผ้าที่ใส่ก็เหมือนเด็กน้อยขนาดนั้น ไม่รู้ว่าเธอเอาชนะใจผู้ชายอย่างหานชิงได้ยังไง คนธรรมดาที่ไม่รู้จักปรับปรุงตัวให้ดีอย่างนั้น จะคุ้มค่าพอให้ชื่นชอบเหรอ
หลังจากได้รู้ว่าพวกเขาสองคนไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน หลินชิ่นเอ๋อก็เกิดความคิดอื่นขึ้นมา
ความจริงตอนแรกยังไม่ได้มีความคิดอื่นใด แต่ว่าผู้ชายอย่างหานชิงช่างแสนดีเหลือเกิน ไม่ว่าจะมองจากภายนอก หรือท่าทางการพูดจา ก็ล้วนมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างยิ่ง
ตอนที่เขาจัดการล็อกแขนของผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงนั้น หลินชิ่นเอ๋อก็เงยหน้าขึ้นมาเห็นภาพนั้นพอดี เมื่อเทียบกับหานชิง
สามีของเธอเหมือนเป็นคนอัปลักษณ์คนหนึ่ง ส่วนหานชิง……หน้าตาหล่อเหลาราวเทพบุตร
มองไปยังหญิงสาวข้างกาย ปัญญาอ่อน รูปร่างบอบบางไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด รูปร่างหน้าตาเทียบกับเธอไม่ได้เลย
แต่กลับเป็นผู้หญิงคนนี้ ที่ได้ครอบครองผู้ชายดีขนาดนี้
ส่วนเธอหลินชิ่นเอ๋อล่ะ
เห็นชัดว่ารูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ด้อยกว่าเธอ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรที่ต้องมาถูกผู้ชายเลวๆแบบนี้ด่าทอทุบตีด้วย ดังนั้นหลินชิ่นเอ๋อก็เกิดความคิดขึ้นมา ดังนั้น……ความคิดเช่นนี้จึงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็กลายเป็นต้นอ่อนเติบโตเป็นต้นไม่สูงใหญ่
เธออยากได้ผู้ชายคนนี้!
และตรงหน้าก็มีโอกาสที่ดีมากอยู่ หลอกใช้เสี่ยวเหยียนเพื่อได้ใกล้ชิดเขาก่อน จากนั้นก็แสดงความสามารถของตนให้เขาเห็น ให้เขารู้ว่าตนเองดีกว่าเสี่ยวเหยียน ไม่แน่ว่า……
คิดมาถึงตรงนี้ รอยยิ้มของหลินชิ่นเอ๋อก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขึ้นมา
แม่สาวน้อยนะแม่สาวน้อย เธอจะมาโทษว่าฉันหลอกใช้เธอไม่ได้นะ ต้องโทษที่เธอมันโง่เอง
วินาทีนี้ หลินชิ่นเอ๋อคิดว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามที่เธอคิดวางแผนไว้ทั้งหมด ไม่รู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อย ด้วยทักษะที่สูงส่งของเธอ ไม่นานผู้ชายก็ต้องรีบมาสยบที่แทบเท้าของเธอ
แล้วยังมีสามีของเธอผู้ชายเลวๆแบบนี้อยู่ เรื่องอะไรก็ทำไม่เคยสำเร็จและยังชอบเอาเธอมาเป็นเครื่องระบายอารมณ์อีก
เธอจะต้องกำจัดเขาให้ได้!
หานชิงก็คือเป้าหมายของเธอ!
เวลานี้ภายในห้องของโรงแรมเสี่ยวเหยียนที่คุยอยู่กับหานมู่จื่อ ไม่รู้ตัวเลยว่าหานชิงแฟนของตัวเองถูกหมายตาเอาไว้แล้ว ยังคงเล่าบรรยายถึงเรื่องราวที่เจอมาวันนี้ อย่างโกรธมาก
“ฉันจะบอกแกนะ ว่าฉันไม่เคยเห็นผู้ชายที่เลวร้ายขนาดนี้มาก่อน จับภรรยากดไว้กับพื้นเรียกได้ว่าจะทุบตีให้ตาย หรือว่าเขาไม่ใช่สามีของเธอ ฉันรู้สึกว่าตอนที่เขาทุบตีทำร้ายคนอยู่นั้นเหมือนกำลังตีคนร้าย เธอว่าในโลกนี้ทำไมถึงมีผู้ชายเลวๆแบบนี้อยู่นะ”
ทั้งสองคนคุยผ่านวิดิโอคอล หานมู่จื่อมองเสี่ยวเหยียนที่อยู่ทางนั้นโกรธจนหน้าดำหน้าแดงโดยไม่รู้จะทำอย่างไรดี ได้แต่ปลอบด้วยเสียงแผ่วเบาว่า:“เอาละ แกอย่าโมโหไปเลย จะยังไงมันก็เป็นเรื่องของคนอื่น ทางเลือกของเขา เรื่องแบบนี้ถ้าเขาอยากจะแก้ไขด้วยตัวเองล่ะก็ มันก็ไม่ต้องมาถึงมือแกหรอก ”
“อะไรกัน ตอนที่เธอถูกตบตียังไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ ทั้งตัวมีแต่บาดแผล แผลเก่าแผลใหม่……ฉันเห็นยังรู้สึกตกใจ”
หานมู่จื่อไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากที่เสี่ยวเหยียนเล่าให้ฟังก็พอจะสามารถจินตนาการได้ว่าอีกฝ่ายสาหัสมากขนาดไหน คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น จากนั้นเธอก็พูดว่า:“ช่วยคนเป็นเรื่องดี แต่ว่าครั้งนี้พวกเธอไปเที่ยวกันนะ ตัวเองก็ต้องระมัดระวังด้วย อีกฝ่ายเลวร้ายขนาดนั้น ตอนนี้พวกคุณก็ยังไปยุ่งเรื่องของเขาอีก ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแก้แค้น”
ได้ยินหานมู่จื่อพูดอย่างนี้ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่ามีเหตุผล ดังนั้นจึงพยักหน้าอย่างจริงจัง
“มู่จื่อ เธอสบายใจเถอะ พวกเราจะคอยระมัดระวังความปลอดภัยแน่นอน”
ทั้งสองพูดคุยกันถึงเรื่องอื่นอีกเล็กน้อย แล้วจึงวางสาย
เสี่ยวเหยียนเพิ่งจะวางสาย เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าหลินชิ่นเอ๋อเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว
ท่ามกลางไอหมอกที่ปกคลุมหลินชิ่นเอ๋อที่สวมชุดของเสี่ยวเหยียน ซึ่งเดิมตอนที่เสี่ยวเหยียนสวมนั้นยังหลวมอยู่ตอนนี้เมื่อมาอยู่บนร่างของหลินชิ่นเอ๋อ กลับเปลี่ยนเป็นรัดแน่น แนบกับรูปร่างของหลินชิ่นเอ๋อ และยัง……ทำให้เสี่ยวเหยียนตะลึงอ้าปากค้างก็คือรูปร่างของหลินชิ่นเอ๋อนั้นเซ็กซี่อย่างมาก มีความเป็นสาวสะพรั่ง มีกลิ่นอายความเป็นผู้หญิงเต็มตัว
“……”มุมปากเสี่ยวเหยียนห่อเข้ามา
ที่แท้คนเราไม่เหมือนกัน แม้จะใส่เสื้อผ้าเหมือนกันแต่ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกัน
ถ้าบอกว่าเสื้อผ้าเหล่านี้สวมอยู่บนตัวของเสี่ยวเหยียนแล้วดูเหมือนนักเรียนมัธยมปลาย อย่างนั้นเมื่อหลินชิ่นเอ๋อสวมใส่ ก็เรียกได้ว่าทำให้ผู้ชายไม่อาจละสายตาไปได้เลย
หลินชิ่นเอ๋อหันไปทางเสี่ยวเหยียนยิ้มๆ ขยับร่างตัวเองส่ายไปมาอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
“เป็นยังไงบ้าง ฉันสวมชุดของคุณ ดูแล้วไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ใช่มั้ย น้องเสี่ยวเหยียน”
เพราะหลินชิ่นเอ๋ออายุมากกว่าเสี่ยวเหยียนเจ็ดแปดปี ดังนั้นจึงเรียกเสี่ยวเหยียนว่าน้องได้เลย
เสี่ยวเหยียนตั้งสติได้ รีบส่ายหน้า:“เปล่าๆไม่ใช่นะ ดูเหมาะมากเลย คุณใส่แล้วสวยกว่าฉันอีกค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้นหลินชิ่นเอ๋อยิ้มอย่างเขินๆ เอาผมหยิกปล่อยสยายไว้ด้านหลัง จากนั้นก็มองไปรอบๆ:“อ่าว มีแค่คุณคนเดียวเหรอคะ”
เสี่ยวเหยียนตั้งสติได้ว่าเธอถามอะไร จึงพยักหน้าอย่างอึดอัดเล็กน้อย
สายตาหลินชิ่นเอ๋อฉายความรู้สึกผิดปกติ เธอเดินมาข้างๆเสี่ยวเหยียนโอบไหล่เธอเบาๆ:“พวกคุณมาเที่ยว ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ”
คำถามนี้……เป็นเรื่องลับส่วนตัวมาก……
เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าต่อไปเธอจะยังถามอะไรอีก แต่ก็ส่ายหน้าอย่างซื่อสัตย์
ได้รับคำตอบหลินชิ่นเอ๋อก็ตกใจอ้าปาก:“พวกคุณไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ หรือว่า……พวกคุณยังไม่ได้อย่างนั้นกัน”
“!!”
เสี่ยวเหยียนจับมือของหลินชิ่นเอ๋อแน่น หน้ายิ่งแดงขึ้นอีก
“โอ้ย ไม่ต้องอายขนาดนั้นหรอก ฉันก็เป็นผู้หญิงเหมือนกับเธอ ที่พวกเราคุยกันเขาก็ไม่รู้เรื่องอะไร เธอจะกลัวอะไร”
เสี่ยวเหยียนส่ายหน้าเบาๆ“ฉันไม่ได้กลัว ฉันก็แค่….”
“น้องเสี่ยวเหยียนเธอนี่ก็ช่างขี้อายเหลือเกิน เป็นผู้หญิงเหมือนกันเธอยังอายขนาดนี้ ถ้าหากวันหนึ่งเขาเกิดอยากจะกับ…เธอ”
ท้ายประโยคเธอไม่ได้พูดให้จบ แต่ว่าเสี่ยวเหยียนกลับรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร หูก็แดงเรื่อขึ้นมา
เห็นท่าทางเธอแบบนี้ หลินชิ่นเอ๋อก็ยิ้มเยาะอยู่ในใจ
สมแล้วที่เป็นเด็กน้อยผู้ไม่ประสีประสาอะไรเลย ก่อนหน้านี้เธอยังคิดว่าเด็กคนนี้พิชิตใจของผู้ชายอย่างหานชิงได้ก็ด้วยความสามารถที่น่าทึ่ง คิดไม่ถึงว่าทั้งสองคนยังไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันเลย