เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1222
บทที่ 1222 อยากจะมาแย่งสามีของคนอื่นเหรอ
ตอนที่พูดคำนี้ หลินชิ่นเอ๋อผลุบตาลง ดูแล้วเหมือนคนที่เจ็บปวด เธอคิดว่านี่เป็นท่าไม้ตายของตัวเธอเอง ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนรอดไปได้เมื่อเห็นท่าทีนี้ของเธอ นอกจากอีกฝ่ายจะโง่เง่าจนไม่รู้อะไร
ดังนั้นยิ่งหลินชิ่นเอ๋อเลยมีท่าทีน้อยใจมากกว่าเดิม น่าเสียดายที่หานชิงไม่ได้สนใจเธอเท่าไหร่ เพียงแต่ใช้สายตามองไปทางพนักงานข้างๆ ก่อนจะส่งซิกให้เขา จากนั้นพนักงานก็ดึงสติกลับมาได้
เขาเลยรีบเดินเข้าไปหา
“คุณหลินคนนี้เนี่ย หัวข้อของพวกเราในครั้งนี้ คือการฮันนีมูนนะ ดังนั้นแถวหนึ่งเลยนั่งได้แค่สองคน ก็คือคู่สามีภรรยา คุณกับนายหานไม่ใช่สามีภรรยากัน เลยมานั่งแถวเดียวกันไม่ได้นะ”
พนักงานตอบด้วยความรวดเร็ว แต่ในใจกลับรู้สึกว่าใครๆ ก็รู้ว่ามันเป็นการจัดแบบน่าประหลาดใจเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรก็เป็นงานที่ตัวเขาเองเป็นคนจัดขึ้นมา
เพื่อทุนครึ่งปีของตัวเอง และเพื่อให้ลูกค้าสบายใจ ถึงแม้ว่าจะต้องให้เขาท่องผลงานชิ้นเอกทั้งสี่ชิ้นออกมาเขาก็ยอม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแค่การจัดงานทั้งหมดขึ้นมาเองเลย
เมื่อได้ฟังดังนั้น หลินชิ่นเอ๋อก็หรี่ตาลงด้วยความสงสัย: “มีการจัดแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“ใช่สิๆ”
พนักงานพยักหน้ายอมรับ: “ถึงแม้ว่าการจัดแบบนี้มันดูเหมือนจะไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ แต่หลายๆ คู่ก็เป็นคู่สามีภรรยาที่มาทริปฮันนีมูน ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อนเหมือนในวันนี้เลย ดังนั้นเลยไม่เคยมีความขัดแย้งอะไรเลย”
เมื่อหลินชิ่นเอ๋อได้ยินดังนั้นก็มองไปรอบๆ ก็พบว่าเขานั่งกันเป็นคู่จริงๆ เพราะเรือมีที่นั่งอยู่มาก ดังนั้นไม่มีใครคิดว่าจะต้องไปนั่งกับคู่รักคู่อื่นๆ
ในตอนนั้นเองบนเรือดูเหมือนจะมีคนเกินมาคนหนึ่ง เลยมีคนทนไม่ไหว จึงพูดขึ้นว่า: “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?นี่ไม่ใช่ทริปฮันนีมูนหรอกเหรอ?ทำไมถึงมีผู้หญิงคนเดียวอยู่ล่ะ?”
“นั่นสิ เกิดอะไรขึ้นกับเธอเหรอ?ทำไมถึงมาคนเดียวล่ะ?หรือว่าถูกสามีของตัวเองทิ้งแล้วเหรอ?”
“ไม่หรอก?ถูกสามีของตัวเองทิ้งแล้วมานั่งกับผู้ชายคนอื่นงั้นเหรอ?หรือว่าเธออยากจะแย่งสามีของคนอื่น?”
“หืม หน้าไม่อายเลยจริงๆ พวกเราทุกคนต้องอยู่ห่างๆ จากเธอหน่อยนะ อย่าให้เธอมานั่งกับพวกเรา”
เสียงพูดเหล่านี้ ทุกคนพูดเสียงเบามาก แต่ว่านี่ มันไม่ใช่เสียงกระซิบที่จะไม่ได้ยินซะหน่อย?เมื่อหลินชิ่นเอ๋อได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนจะพูดออกมาอย่างไร้สติว่า: “พวกคุณพูดมั่วอะไรออกมาเนี่ย?แย่งสามีคนอื่นมันหมายความว่าอย่างไร?แล้วที่ฉันถูกสามีทิ้งมันหมายความว่าอย่างไร?พวกคุณเห็นด้วยตาตัวเองหรือเปล่า?”
พนักงานทำได้แค่ยิ้มออกมา: “คุณหลินอย่าโกรธไปเลย นี่มันเป็นกฎ หรือไม่……ให้ฉันหาที่นั่งให้คุณใหม่ดีไหม?”
ในใจของหลินชิ่นเอ๋อคิดแผนออกมาได้ เธอหรี่ตาลงก่อนจะมองพนักงาน: “เมื่อครู่คุณพูดว่า ไม่ใช่สามีภรรยาไม่สามารถนั่งด้วยกันได้เหรอ?”
พนักงานพยักหน้า: “ใช่ๆ หมายความว่าแบบนั้นแหละ”
“งั้นก็ดีเลย ดูๆ ไปแล้วนายหานคนนี้คงต้องนั่งคนเดียวแล้วล่ะ” หลินชิ่นเอ๋อยิ้มพลางมองหานชิง ก่อนจะพูดขึ้นอีกว่า: “เพราะเขากับน้องเสี่ยวเหยียนไม่ได้แต่งงานกัน เป็นแค่แฟนกันเฉยๆ”
เธอจะแย่งสามีของคนอื่นเหรอ?เธอเลยเปิดเผยความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเลย
เมื่อได้ฟังดังนั้น พนักงานก็อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด “คุณพูดอะไร?ไม่ได้แต่งงานเหรอ??”
นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?ตอนแรกที่เขาตะโกนชื่อของนายหานกับคุณนายหาน ทั้งสองคนก็ตอบแล้ว จะไม่ได้แต่งงานได้อย่างไร?
แต่หลังจากที่เสี่ยวเหยียนได้ยินสิ่งที่หลินชิ่นเอ๋อพูด ก็ต้องขมวดคิ้วสวยขึ้นมา
ถ้าเกิดว่าก่อนหน้านี้เธอยังมีความไม่แน่ใจอยู่ แต่ตอนนี้เธอแทบจะมั่นใจได้แล้วว่าหลินชิ่นเอ๋ออยากจะทำอะไร ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
เธอกับหานชิงช่วยเหลือเธอชัดๆ แต่เธอกลับมีความคิดแบบนี้
ในใจของเสี่ยวเหยียนนั้นรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าตัวเองต้องมีความเกรงใจ หลินชิ่นเอ๋ออยากจะแสดงละครแบบนี้เสี่ยวเหยียนก็จะทำให้ถึงที่สุดเหมือนกัน
ก็แค่แสดงไม่ใช่เหรอ?มีใครทำไม่ได้บ้างล่ะ?
แต่ตอนนี้ หล่อนอยากฉีกหน้ากับตัวเองอย่างเห็นได้ชัดเลยใช่ไหม?หรือคิดว่าเธอเด็กกว่าเลยกลั่นแกล้งง่ายกว่างั้นเหรอ?
เสี่ยวเหยียนอยากจะระเบิดอารมณ์ออกมา แต่เมื่อคิดๆ ดูถ้าทำแบบนั้นก็เข้าแผนของอีกฝ่ายน่ะสิ?
แววตาของเธอล่อกแล่กเล็กน้อย ก่อนจะคิดออกด้วยความเร็วไวว่าจะทำอย่างไรดี
เธอเดินเข้าไปหา “พี่หลิน ทำไมคุณถึงแช่งฉันกับสามีของฉันล่ะ?”
การปรากฏตัวของเสี่ยวเหยียน ทำให้กลุ่มคนที่กำลังดูสถานการณ์อยู่นั้นยิ่งสนใจมากขึ้นไปอีก อีกอย่างกลุ่มคนพวกนั้นยังพบอีกว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเป็นเด็กสาว แต่งตัวเรียบง่าย แต่ดูแล้วแข็งแกร่งและมีพลัง
แต่ตัวหลินชิ่นเอ๋อล่ะ?หุ่นสวยๆ นั้นไม่ใช่ว่าใครๆ จะมีหุ่นแบบนั้นได้ สิ่งที่ผู้หญิงอยากมีนั้นเธอมีหมดเลย อีกอย่างมันยิ่งทำให้น่ามั่นอกมั่นใจอีกด้วย
ละครที่เกิดขึ้นในทันใดทำให้ทุกคนคิดว่าการเที่ยวนี้มันมีอะไรสนุกๆ มากขึ้นอีก กลุ่มสามีภรรยานี้ว่างมากพอที่จะดูละครสนุกๆ ฉากนี้
“นี่มันผู้หญิงสองคนแย่งผู้ชายคนเดียวกันเหรอ?”
“คิดไม่ถึงเลยนะว่าการมาเที่ยวครั้งนี้จะได้ดูละครด้วย?มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?ลงชื่อมาเป็นสามีภรรยาไม่ใช่เหรอ?ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกล่ะ?”
“นั่นสิ แปลกจริงๆ”
“พวกคุณว่าผู้ชายคนนี้จะเลือกใคร?สไตล์ของผู้หญิงทั้งสองคนนี้ไม่เหมือนกันเลย”
“พวกคุณโง่หรือเปล่า?เมื่อครู่ผู้หญิงคนนั้นจะเข้าไปนั่งแล้ว ผู้ชายไม่อยากให้นั่ง แน่นอนว่าจะไม่เลือกเธออยู่แล้ว ดูหุ่นของผู้หญิงคนนั้นก็รู้แล้วว่าบ้าผู้ชายขนาดไหน ดูเธอแล้ว……”
คนกลุ่มนั้นพูดกันไปเรื่อยๆ
มีแต่ผู้หญิงพูด แต่สามีนั้นไม่ได้กล้าพูดอะไรมากเท่ากับพวกภรรยา เลยไม่ได้พูดอะไรออกมามาก
ดังนั้นถือว่าเสี่ยวเหยียนถือไพ่เหนือกว่า
หลังจากที่เธอพูดประโยคนั้นจบ ก็พูดต่อ
“ฉันกับสามีของฉันช่วยคุณ แถมยังพาคุณขึ้นมาที่เรือนี้ด้วย คุณไม่พูดอะไรที่มันน่าฟังก็ไม่เป็นไร แต่ยังมาแช่งให้ฉันกับสามีของฉันหย่ากันอีก” เสี่ยวเหยียนพูดมาถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจ ด้วยท่าทีไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
ในใจกลับรู้สึกว่า กำลังแสดงละครอยู่ไม่เหรอ?ใครจะไปกลัวกันล่ะ?
ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้หานชิงก็พูดต่อหน้าพนักงานแล้ว เธอเลยสามารถพูดได้อย่างเต็มปาก โดยไม่โทษเธอ!
หลินชิ่นเอ๋อคิดว่าเสี่ยวเหยียนนั้นคลุมเครือ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะไม่ไว้หน้าตัวเองขนาดนี้ เลยตกใจอึ้งไป: “น้องเสี่ยวเหยียน คุณกำลังพูดอะไรอยู่เนี่ย?ฉันแช่งให้คุณกับนายหานหย่ากันตั้งแต่เมื่อไหร่?พวกคุณไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ คุณเป็นคนบอกฉันเองนะ ตอนนี้คุณจะไม่ยอมรับเหรอ?”
“พี่หลินคุณจำผิดหรือเปล่า?ถ้าเกิดว่าพวกเราไม่ได้แต่งงานกันแล้วพวกเราจะมาทริปฮันนีมูนกันทำไม?”
ทุกคนรอบๆ ได้ยินอย่างชัดเจนดังนั้น ก็พลางพยักหน้าไปตามๆ กัน
“นั่นสิ ถ้าเกิดว่าไม่ได้แต่งงาน แล้วจะมาทริปฮันนีมูนทำไม มีอีกตั้งหลายทริปให้เลือก ทำไมถึงมาเลือกทริปนี้ล่ะ?”
“นั่นสิ ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจจังเลย ไม่ใช่ว่าเธอเห็นว่าสามีของคนอื่นหล่อก็อยากจะจับนะ?แถมยังแช่งให้หย่ากันอีก?น่ารังเกียจจริงๆ !”
“คิดว่าตัวเองรูปร่างดีหน่อยผู้ชายทั้งโลกก็จะมาชอบเธอเหรอไง?ไม่ดูน้ำหน้าตัวเองหน่อยเลย ไม่มีความสวยเลยแม้แต่น้อย!”
“คนพวกนี้เนี่ย ใช้วิธีอื่นในการหลอกล่อผู้ชายน่ะ พวกคุณจะไปเข้าใจอะไรกัน”
ผู้หญิงที่อยู่ตรงนั้นต่างเป็นคนที่แต่งงานแล้ว ดังนั้นคำที่พูดออกมา เลยดูหนักหน่วงยิ่งขึ้นไปอีก