เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1226
บทที่ 1226 ทุกอย่างเป็นไปตามที่ฉันคิด
เสี่ยวเหยียนรับรู้ได้ถึงการกระทำนี้ แล้วยิ่งรู้สึกว่ามันเสียหน้านิดหน่อย เลยทำได้แค่ซบอกของหานชิง พลางหลับตาเพราะไม่มีหน้าจะสู้หน้าใครแล้ว
หานชิงไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ ดังนั้นอกหนาของเขา เลยอบอุ่นเป็นพิเศษ แถมยังได้ยินเสียงเต้นของหัวใจของเขาอีกด้วย
ในตอนแรกเสี่ยวเหยียนได้ยินว่าหัวใจของเขานั้นเต้นเร็วมาก
เธอคิดว่าเป็นเสียงหัวใจของตัวเอง ยังแอบยิ้มเยาะตัวเองอยู่ในใจอีกด้วย
แต่เมื่อผ่านไปสักพัก เธอก็พบว่าเหมือนกับว่าเสียงเต้นของหัวใจนั้นมันไม่ใช่ของตัวเธอเอง ถ้าเกิดว่าไม่ใช่ของตัวเธอเองแล้วจะเป็นของใครล่ะ?
เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมามองหานชิง เขามีท่าทีนิ่งสงบ ขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นมานั้นเขาเองก็ก้มหน้ามาสบตาเธอเหมือนกัน
แววตาสงบนิ่งนั้นมันมีความสั่นไหวซ่อนอยู่ มองไม่ออกเลยว่าเมื่อครู่ที่เขาจูบเธอนั้นมันทำให้เธอใจสั่นขนาดไหน
ถ้าเกิดว่าไม่ได้เข้ามาใกล้นั้น เสี่ยวเหยียนก็คงจะไม่รู้ ……
คนคนนี้ภายนอกดูนิ่งเฉย แต่ว่าหัวใจกลับเต้นอย่างรวดเร็ว
ที่แท้……มันก็ไม่ใช่เธอเพียงคนเดียว
หลังจากที่คิดถึงเรื่องจริงๆ นี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมา เธอมองหานชิงพลางยิ้มให้ด้วยความสุข ก่อนจะยื่นมือออกไปจับอกของหานชิง
“หัวใจของคุณเต้นเร็วจังเลย”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสุข เหมือนกับตั้งใจที่จะหยอกล้อหานชิง
หานชิงนั้นหน้าหนากว่าที่คิด ไม่กลัวเธอหัวเราะเยาะอะไรเลย แต่กลับจับมือของเธอที่วางอยู่บนอกของเธอ ก่อนจะพูดเสียงต่ำ: “ใช่สิ เป็นเพราะคุณทั้งนั้นเลย”
มือขาวๆ นั้นวางอยู่ตรงบริเวณหัวใจ เสี่ยวเหยียนรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นอย่างเป็นจังหวะของเขา มากระทบกับฝ่ามือของเธอ
มันเป็นแรงที่กระทบอย่างรุนแรง
เสี่ยวเหยียนกะพริบตาปริบๆ หัวใจที่เต้นอย่างสงบนั้นก็ถูกหานชิงทำให้เต้นแรงขึ้นมาเช่นกัน ในตอนแรกที่เธอแค่อยากจะหยอกล้อหานชิง ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้กลับถูกหยอกหลับมา จนใบหน้าที่ยังไม่ทันหายแดงนั้นร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง
แค่แวบเดียว เธอเลยทำได้แค่อยู่ในอ้อมกอดของเขาโดยที่ไม่พูดอะไร
อีกฝั่งล่ะ?
หลังจากที่หลินชิ่นเอ๋อถูกไล่ลงจากเรือไป ก็ยืนอยู่ตรงทางออกด้วยความโกรธเคืองเป็นอย่างมาก ก่อนจะกำมือแน่น จนเล็บแทบจะแทงเข้าไปในเนื้อ
น่าโมโหจริงๆ เลย!ถ้ารู้ว่าจะถูกไล่ลงจากเรือ เธอก็น่าจะอดทนเอาไว้ ตอนนี้ถูกไล่ลงมาแล้ว ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง!
แล้วก็ไม่รู้ว่าพวกเธอจะขึ้นเกาะไปกี่วัน เธอควรจะรออยู่ที่นี่ไหม?รอให้สามีที่ชอบทำร้ายเธอออกมาจากสถานีตำรวจ ถึงตอนนั้นสิ่งที่เธอต้องเจอนั้นมันโหดร้ายและน่ากลัวกว่ามาก
ไม่ได้การล่ะ เธอไม่สามารถนั่งเฉยได้อีกแล้ว เธอต้องคิดหาวิธี
เกาะนั้นมันไม่ได้ไกลมาก แต่ก็ต้องใช้เวลา เสี่ยวเหยียนซบอกของหานชิงเพราะความอาย แต่สุดท้ายเธอก็ง่วง ดังนั้นเธอเลยหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขา
รอเธอตื่น ก็ถึงที่หมายพอดี
ทุกคนถอดเสื้อชูชีพออก
บรรยากาศบนเกาะนั้นดีมาก ก่อนจะขึ้นเรือก็ได้ให้พวกเธอรองเท้าที่เหมือนกัน แถมบนเกาะยังติดกล้องอีกด้วย ห้ามทิ้งขยะลงบนพื้น และห้ามเก็บเปลือกหอยจากหาดทรายกลับมาด้วย
มันเป็นกฎปกติที่ควรจะทำ เพื่อให้เกาะเล็กๆ แห่งนี้ได้คงความธรรมชาติเอาไว้
เมื่อขึ้นไปบนเกาะ เสี่ยวเหยียนคิดว่าอากาศที่นี่ไม่เหมือนกันเลย บนเกาะนั้นมีแขกอยู่มาก แต่ก็ถูกกำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้เป็นอย่างดี
พนักงานยืนต้องรับและแนะนำอยู่ทางฝั่งหนึ่ง
“เกาะนี้มีบ้านพักตากอากาศโดยเฉพาะ ทุกๆ วันมีการกำหนดจำนวนผู้ให้บริการ ดังนั้นเลยต้องมีการจองล่วงหน้าเอาไว้ก่อน รอบนอกนี้สามารถเดินชมได้ตามสบาย จะมีการกำหนดเวลาของกิจกรรม แต่สามารถเลือกได้ว่าอยากจะเข้าร่วมหรือไม่”
เสี่ยวเหยียนฟังไปพลางพยักหน้า เพราะยังมีเวลาอีกมาก ดังนั้นพนักงานเลยพาพวกเขาขึ้นรถไปเยี่ยมชมเกาะรอบหนึ่งก่อน
“รถนี้ขับวนรอบเกาะวันละหลายรอบ จ่ายเงินก็ขึ้นรถได้เลย ถ้าเกิดไม่มีเศษเงินก็สามารถทำบัตรชั่วคราวได้ ก็สามารถขึ้นลงรถได้ตามสบาย”
วนรอบเกาะ เพื่อให้คุ้นชินกับสถานที่ จากนั้นพนักงานก็ส่งพวกเธอไปที่บ้านพักตากอากาศ
“บริษัทของพวกเราเตรียมห้องพักริมทะเลเอาไว้ให้ทั้งสองท่านแล้ว ถ้าเกิดว่าคุณนายหานไม่พอใจตรงไหนก็สามารถโทรมาเปลี่ยนห้องกับพนักงานของพวกเราได้เลยทันที”
เสี่ยวเหยียนกะพริบตาปริบๆ เมื่อคิดถึงห้องในโรงแรมที่เคยอยู่ก่อนหน้านี้ พวกเธอมาที่ตรงนี้แล้ว สิ่งของทางฝั่งนั้นจะทำอย่างไรล่ะ?
เสี่ยวเหยียนเลยจะถามสิ่งที่สงสัยออกไป
พนักงานยิ้มเบาๆ พลางอธิบาย: “คุณนายหานวางใจเถอะ ห้องของโรงแรมฝั่งนั้นเตรียมเอาไว้ให้พวกคุณเป็นพิเศษ ก่อนที่ทริปนี้จะจบลง สามารถใช้ห้องทั้งหมดได้เลย ตรงจุดนี้วางใจได้เลย”
อ๋อ งั้นก็ดี
เสี่ยวเหยียนพยักหน้าตอบอย่างดีใจ
จากนั้นตอนที่พนักงานไม่เห็น เสี่ยวเหยียนก็เข้าไปเกาะแขนของหานชิงก่อนจะพูดว่า: “คือ……ที่นี่เป็นเกาะเล็กๆ มันจะมีห้องว่างไหมนะ?”
เมื่อได้ฟังดังนั้น หานชิงก็นิ่งไป หลังจากนั้นเขาก็ก้มหน้ามองเธอ พลางมีรอบยิ้มเบาๆ ที่มุมปาก “ห้องที่ว่างเหรอ?”
“ใช่สิ” เสี่ยวเหยียนกระพริบตา ก่อนจะพูดต่อ: “ก่อนหน้านี้คุณแอบไปเปิดห้องของตัวเองใช่ไหม ไม่อยากนอนกับฉันเหรอ?ดังนั้นเลย……”
การก้าวเท้าของหานชิงนั้นหยุดลง
“ดังนั้นอะไร?คืนที่สองพวกเราก็นอนด้วยกันไม่ใช่เหรอ?”
เสี่ยวเหยียน: “……”
เธอเอียงคอ ด้วยท่าทีสงสัยในแววตา
น่าจะเป็นแบบนั้นนะ
“แต่……” เสี่ยวเหยียนกัดปากของตัวเอง ด้วยสีหน้าลังเล: “นั้นมันไม่มีทางเลือก ถ้าเกิดมีทางเลือก คุณคงจะไม่ไปเปิดห้องอีกใช่ไหม?”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนก็เริ่มมีความคิดมากมายในหัว ทำไมหานชิงถึงไม่อยากนอนห้องเดียวกับเธอ ถึงมานอนด้วยกันเขาก็คงไม่ทำอะไรตัวเอง แต่……
ระหว่างที่คิดอยู่นั้น หัวก็เกิดเจ็บขึ้นมา
เสี่ยวเหยียนหายใจเบาๆ ก่อนจะมีสติกลับมา พลางมองหานชิงด้วยความอิดออดเล็กน้อย
“ทำไมจู่ๆ คุณมาตีฉันล่ะ?”
“ไมตีคุณ จะปล่อยให้คุณพูดอะไรมั่วๆ ต่อไปเหรอ?ยัยโง่ คุณเป็นผู้หญิง แต่ฉันเป็นผู้ชาย มานอนห้องเดียวกันแบบนั้น คนที่จะเสียหายก็คือคุณ”
อะไร?
ที่แท้เขาก็คิดแบบนี้นี่เอง คิดว่าคนที่จะเสียเปรียบก็คือตัวเอง ดังนั้นเลยไม่ยอมนอนห้องเดียวกับเธองั้นเหรอ?
“แต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนะ!” เสี่ยวเหยียนส่ายหัว ก่อนจะคล้องมือของเขาแน่นขึ้นอีก “พวกเรามาเที่ยวในฐานะสามีภรรยานะ ถ้าเกิดว่าให้คนอื่นรู้ว่าเราไม่ได้นอนห้องเดียวกัน มันจะ……”
ยังไม่ทันจะพูดจบ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
“ฮึ อันที่จริงฉันหมายความว่า……”
“ไม่ต้องอธิบาย” หานชิงยิ้มเบาๆ พลางมองเธอ: “ถ้าจะให้พูดให้ถูก คุณอยากจะนอนห้องเดียวกับฉัน ก็พูดมาตรงๆ เถอะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะ!” เสี่ยวเหยียนปฏิเสธเสียงแข็ง: “ฉันเพียงแค่กังวลว่าพนักงานจะเข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าฉันคิดแบบนั้นซะหน่อย……”
“โอเค” หานชิงประคองหัวของเธอ ก่อนจะเข้ามาในทันใด: “ฉันคิดแบบนั้นเอง ทั้งหมดฉันเป็นคนคิดเอง โอเคไหม?