เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1240
บทที่ 1240 ไม่แน่อาจจะถูกปากคุณ
“เดิมทีก็มาท่องเที่ยวอยู่แล้ว จะอยู่ที่นี่นานได้อย่างไร?”
หลินชิ่นเอ๋ออึ้งอยู่ตรงที่เดิม ก่อนหน้านี้เธอยังคิดที่จะทำให้เสี่ยวเหยียนตายใจเสียก่อน จากนั้นค่อยคิดเรื่องให้ท่าหานชิง แต่ว่าตอนนี้พวกเขาจะกลับประเทศกันแล้ว แบบนี้จะได้ยังไง?
เธอร้อนใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
เพราะเหลือเวลาให้เธอไม่มากแล้ว เธอต้องเร่งมือแล้ว
“ไม่เป็นไรนี่ กลับประเทศก็กลับประเทศสิ ฉันก็เป็นคนจีนเหมือนกัน เราสามารถแอดวีแชทกัน ถึงเวลาก็สามารถติดต่อกันได้แล้ว”
พูดจบ หลินชิ่นเอ๋อก็ล้วงมือถือออกมา เพื่อจะแอดวีแชทของเสี่ยวเหยียน
แต่เสี่ยวเหยียนกลับไม่ขยับมือเลย หลินชิ่นเอ๋อรอไปตั้งนาน รู้สึกบรรยากาศโดยรอบอึดอัดขึ้นมาแล้ว และหานชิงที่อยู่ทางโน้นก็เห็นภาพที่อยู่ทางนี้ เดิมทีอยากจะเข้าไป แต่เมื่อคิดๆดูแล้ว ไม่รู้ว่าเขาทำไมถึงได้ลดฝีเท้าลง
สาวน้อยของเขา เมื่อก่อนนั้นใสซื่อเกินไปแล้ว ต้องให้เธอเห็นความน่ากลัวของสังคมนี้เยอะหน่อย ให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเอง
ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าไปก้าวก่าย
“น้องเสี่ยวเหยียน วีแชทของเธอคืออะไรเหรอ ฉันเพิ่มเธอเอง?”
“ไม่ต้องแล้ว” เสี่ยวเหยียนยิ้มอย่างไม่แยแส ปกมือแล้วกล่าว: “โดยปกติฉันไม่เพิ่มวีแชท เพิ่มแล้วก็ไม่ได้ใช้”
หลินชิ่นเอ๋อยังไม่รู้ตัว ก็ได้ถามกลับไป: “เธอไม่ใช้? แต่ว่าคืนนั้นที่ฉันอยู่กับเธอ ฉันยังเห็นเธอใช้วีแชทอยู่เลย เธอไม่เต็มใจเพิ่มฉัน เพราะรังเกียจฉันใช่มั้ย……..”
เสี่ยวเหยียนเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง การแสดงออกบนใบหน้าของเขาค่อนข้างที่จะจริงจัง
“ในเมื่อรู้แล้ว ยังจะทำถามทำไม?”
ยอมรับแล้วเหรอ???
เลือดบนใบหน้าของหลินชิ่นเอ๋อหายไปทันที มองเสี่ยวเหยียนด้วยสีหน้าที่แย่มาก “น้องเสี่ยวเหยียน เธอทำไมถึงทำแบบนี้? ฉันมาขอโทษเธออย่างจริงใจ อีกอย่างพวกเธอก็ไม่ได้แต่งงานกันนี่นา เรื่องคำสาปแช่งก็คงไม่สำคัญ”
ได้ยินแบบนี้ เสี่ยวเหยียนหัวเราะอย่างเย็นชา: “คุณขอโทษกับฉันอย่างจริงใจ ฉันก็ต้องอภัยให้คุณงั้นเหรอ? สิทธิ์มันอยู่ในมือฉัน อภัยหรือไม่อภัยอยู่ที่ฉันพูด ยังมีอีก ฉันเคยบอกคุณตอนไหนว่าฉันยังไม่แต่งงาน? คุณมีหลักฐานมั้ย? ฉันได้ส่งข้อความให้คุณหรือส่งข้อความเสียงให้คุณเหรอ?”
หลินชิ่นเอ๋อถูกเธอทำให้โกรธจนพูดไม่ออก
ก่อนหน้านี้รู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้ใสซื่อบริสุทธิ์ จะหลอกใช้เธอนั้นง่ายมาก ตอนนี้ถึงจะรู้ว่ายัยเด็ดน้อยคนนี้ก่อนหน้านี้ไม่ได้แสดงท่าแท้ของตัวเองออกมาเท่านั้นเอง
เพราะเขาช่วยเธอไว้ ดังนั้นเขาจึงเห็นเธอเป็นคนอ่อนแอ ดังนั้นจึงไม่ได้แสดงกรงเล็บที่แหลมคมต่อเธอ
แต่ตอนนี้ละ? เมื่อรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ได้แสดงกรงเล็บที่แหลมคมต่อเธอ ความหมายของเขาชัดเจนมาก
ขอเพียงคุณคิดไม่ซื่อกับผู้ชายของฉัน กรงเล็บที่แหลมคมของฉันก็จะพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล ข่วนหน้าคุณให้มันเละไปเลย!
มุมนี้ทำให้หลินชิ่นเอ๋อสยอง มือที่กำโทรศัพท์ไว้สั่นขึ้นเล็กน้อย มองดูหญิงสาวที่ท่าทางมุ่งมั่นทระนง ทันใดนั้นก็ไม่รู้จะพูดโต้ตอบยังไง
เสี่ยวเหยียนไม่สนใจอารมณ์ของเธอ สายตามองไปผืนทะเลที่สงบ แทบจะไม่มีรอยยิ้ม
“คุณถูกซ้อม ฉันช่วยคุณด้วยสัญชาตญาณ แต่ฉันเสี่ยวเหยียนไม่ใช่ว่าใครก็จะมารังแกได้ คุณต้องการมาเที่ยวเล่นหาความสุขในเกาะเล็กๆนี้ในเวลาที่เหลือไม่กี่วันนั้นไม่มีปัญหา แต่หากคุณกล้าที่จะทำเรื่องไม่ดี เรื่องราวต่อจากนี้ฉันรับประกันได้เลยว่าฉันจะไม่ยุ่งแม้แต่นิดเดียว คุณอาจจะคิดว่า คุณมาให้ท่าสามีฉันเป็นเรื่องของเขา เขาจะเล่นด้วยหรือเปล่าไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ว่าคุณคงไม่รู้มั้ง? สามีฉันเป็นคนที่นิสัยเย็นชา ไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงอย่างเธอเลย ต่อให้นางฟังที่ลงมาจากสวรรค์มายืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาอาจจะไม่มีความรู้สึกอะไรเลยก็ได้”
ไม่ใช่ว่าเธอพูดจาโอเวอร์ แต่เป็นเพราะเธอนั้นเข้าใจหานชิงมากจริงๆ
เมื่อก่อนหานชิงเป็นคนที่นิ่งสงบมากเพียงไหน หยอกล้อจีบเขาไปตั้งหลายครั้ง เขายังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลยแม้แต่นิดเดียวเลย? เสี่ยวเหยียนจีบเขาตั้งนาน เขาถึงได้สนใจเธอ
เธอมีความเชื่อมั่นมาก หานชิงไม่ใช่คนที่ชอบไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงไม่เลือก
เหมือนจะนึกอะไรได้ จู่ๆเสี่ยวเหยียนก็หัวเราะขึ้นมา จากนั้นก็มองหลินชิ่นเอ๋อด้วยสายตาที่น่าสงสาร
“สิ่งที่สำคัญคือ คุณเป็นคนที่มีสามีแล้ว แล้วสามีฉันนั้น พอดีประเภทที่เกลียดคนเข้าไส้ คุณที่เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว หากอยู่ต่อหน้าเขายังไม่รักษาศีลธรรม เชื่อฉัน เขาไม่เพียงแต่ไม่ชอบคุณแถมยังรังเกียจคุณด้วย ดังนั้น ฉันขอเตือนคุณด้วยความหวังดีอย่าทำให้ตัวเองต้องอับอายเลย”
อะไรก็ถูกเขาพูดไปหมดแล้ว ตัวเธอกลับไม่ได้ผลประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียวเหรอ?
หลินชิ่นเอ๋อโกรธมากจนกัดฟันกรามของเธอ แม้ว่าสีหน้าจะดูแย่มาก แต่ก็ยังคงไว้ด้วยรอยยิ้มที่เจื่อนๆ
เสี่ยวเหยียนพูดจบ แล้วมองดูสีหน้าที่แย่ของหลินชิ่นเอ๋ออีกครั้ง แล้วรู้สึกสะใจมาก
เธอใช้สองมือดันตัวเองขึ้นมา จากนั้นก็สะบัดทรายที่อยู่ในฝ่ามือ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจงใจหรือเปล่า ขณะที่สะบัดทรายในมือออกจงใจหันไปทางหลินชิ่นเอ๋อ เขาใส่เสื้อคอลึก ทรายก็ได้กระเด็นไปในเสื้อของเขา หลินชิ่นเอ๋ออุทานไปหนึ่งที จากนั้นก็เอามือกุมหน้าอกตัวเองไว้โดยสัญชาตญาณ
“น้องเสี่ยวเหยียน เธอ……….”
เสี่ยเหยียนทำเสียงเฮ้ยไปหนึ่งที พูดด้วยสีหน้าที่ตกใจ: “ขอโทษด้วยนะคุณหลิน ฉันสะบัดมือโดยไม่รู้ตัวน่ะ ไม่คิดว่าคอเสื้อคุณจะลึกขนาดนี้ ทรายก็เลยกระเด็นเข้าไป รบกวนคุณเอามันออกเองละกัน? คุณคงไม่โทษฉันใช่มั้ย?”
พูดจบ เธอยังคงยิ้มให้กับหลินชิ่นเอ๋อ รอยยิ้มของเธอเผยให้เห็นฟันขาวที่เรียงรายอย่างสวยงาม คนทั้งคนดูแล้วช่างน่ารักโดนใจ
จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็มองไปรอบๆ ก็เห็นหานชิงที่อยู่ไม่ไกลนัก ก็เลยหันไปโบกมือให้กับหลินชิ่นเอ๋อ: “บ๊ายบายนะ~”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็กระโดดวิ่งไปทางหานชิง
หาดทรายวิ่งเร็วไม่ได้ เพราะทุกอย่างก้าวเท้าก็จะจมเข้าไปในทราย ดังนั้นจึงวิ่งได้ช้านิดหนึ่ง ตอนที่ถึงด้านของหานชิงนั้น หน้าผากของเสี่ยวเหยียนมีเหงื่อบางๆเต็มเลย
เธอมองไปที่หานชิง น้ำเสียงแฝงด้วยความตำหนิ
“คุณมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ? เห็นเธอแล้วใช่มั้ย? ทำไมคุณไม่เข้ามาละ? ฉันเห็นถึงความใจกล้าของเธอ………..ไม่แน่คุณ…………”
เดิมทีเสี่ยวเหยียนก็แค่จะพูดไปอย่างนั้นแหละ พูดจนถึงสุดท้ายก็ไม่กล้าพูดต่อ เสียงก็ค่อยๆเบาลงมาก
ไม่แน่อะไรเหรอ? หานชิงยังรอฟังคำพูดของเธอ จู่ๆสาวน้อยกลับไม่พูดต่อ เขาจึงได้พูดต่อหนึ่งประโยค
เสี่ยวเหยียนใบ้กินเล็กน้อย เมื่อกี้เธอพร่ำบ้าอะไรเหรอ? ทั้งๆที่รู้ว่าหานชิงเป็นคนยังไง แต่ก็ยังจงใจพูดสิ่งเหล่านี้เพื่อให้เขาโกรธอย่างนั้นเหรอ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็ส่ายหัว พูดด้วยเสียงเบา: “ไม่มีอะไร……….”
“ไม่มีอะไร?” หานชิงก้มหน้าลง โน้มตัวไปใกล้เธอ ระยะห่างของเขาทั้งสองใกล้ขึ้นมาทันที ลมหายใจของเขาพ่นกระจายเต็มใบหน้าของเธอ ทำให้ปอยผมที่หน้าผากของเธอพลิ้วไหว
“ไม่มีอะไร หรือว่าไม่กล้าพูดละ? หืม?”
เผชิญหน้ากับหานชิงที่เป็นแบบนี้ สาวน้อยหน้าแดงระรื่นทันที ทำปากจู๋แล้วกล่าว: “เอาล่ะ คุณก็รู้ว่าฉันจะพูดอะไร ก็ไม่ต้องถามฉันแล้ว”
“คุณจะพูดอะไร? ผมจะไปรู้ได้ยังไง?” หานชิงตั้งใจที่จะแกล้งเธอ ขณะที่พูดก็ได้ม้วนผมยาวของเธอ จากนั้นมือก็ได้เคลื่อนไปที่หน้าผากช่วยเธอซับเหงื่อให้แห้ง
“คุณอย่าแกล้งเลย ฉันจะบอกว่าหุ่นของหลินชิ่นเอ๋อนั้นดีมาก กล้าที่จะแต่งตัว ไม่แน่อาจจะถูกปากคุณก็ได้!”