เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1261
บทที่ 1261 ขอคิดดูก่อน
พูดแบบนี้อีกแล้ว!
เจียงเสี่ยวไป๋เบ้ปาก ครั้งที่แล้วหล่อนเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน ต่อมารู้สึกว่าตัวเองเอาเปรียบเขา เมื่อตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋บอกให้เขาจูบตัวเองกลับ เซียวซู่ก็ทำท่าทางแบบนี้เช่นกัน และยังพูดแบบนี้อีกด้วย
ทำเหมือนหล่อนอยากจะเอาเปรียบเขามาก!
เจียงเสี่ยวไป๋โมโหจนจ้องเขาตาเขม็ง: “คุณเป็นอะไรกันแน่? คุณเป็นผู้ชายนะ! และคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณตอนนี้ก็คือสาวน้อยคนหนึ่ง ที่แค่จับหูของคุณเท่านั้น ทำไมคุณต้องทำท่าทางเหมือนฉันขืนใจคุณขนาดนั้นด้วยล่ะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวซู่ก็เม้มปากด้วยความไม่พอใจ “หรือว่าไม่ใช่ล่ะ?”
เจียงเสี่ยวไป๋: “…”
หล่อนเงียบไปทันที กัดฟันไว้ ตัดสินใจไม่จับอีกแล้ว!
ก็แค่หูคู่หนึ่ง! ทำเหมือนว่าหล่อนไม่เคยเห็นไม่เคยจับมาเลยทั้งชีวิตนี้!
แต่เมื่อลองคิดดูดีๆ ดูเหมือนว่าทั้งชีวิตนี้ของหล่อนไม่เคยจับหูของผู้ชายเลย ฮือๆๆๆ….อยากจับจังเลย หล่อนรู้สึกว่าหูแดงๆของเซียวซู่น่ารักมาก
เจียงเสี่ยวไป๋เองก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีนิสัยแปลกๆแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทว่าเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อหล่อนเห็นหูของเซียวซู่ ก็อดไม่ได้ที่จะไปจับสักหน่อย…
หล่อนครุ่นคิดไปมาสักพัก ก็เก็บมือกลับ จากนั้นก็พุ่งตัวเข้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วราวกับสายลม ฉวยโอกาสตอนเซียวซู่ไม่ทันระวังจับไปที่หูทั้งสองข้างของเขา จากนั้นออกแรงบิดขยี้ และจับคลำอีกครั้ง จากนั้นก็เก็บมือกลับไปอย่างรวดเร็ว
ระยะเวลาก่อนและหลังของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ถึงสามวินาที
เซียวซู่ที่ถูกขืนใจจับหูยังไม่ทันตั้งสติกลับมาได้ มองหน้าสาวน้อยตรงหน้าที่ทำตัวเหมือนโจรด้วยความตกตะลึง หล่อนทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้สำเร็จ จนเผยให้สีหน้าที่บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจ “ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ให้ฉันจับ ฉันก็จะจับ ตอนนี้ก็ถูกฉันจับได้แล้วไม่ใช่หรือไง?”
หูของเซียวซู่แดงขึ้นมาอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้
เขากัดฟันไว้ พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ: “โจรสาว”
เจียงเสี่ยวไป๋กระตุกหูขึ้นมา เมื่อได้ยินเขาพูดกับตัวเองแบบนี้ จึงเลิกคิ้วขึ้น: “ว่าไงนะ? โจรสาว ในเมื่อคุณบอกว่าฉันเป็นโจรสาว งั้นถ้าฉันยังไม่จับเพิ่มอีก คงเสียชื่อที่คุณอุตส่าห์ตั้งให้แย่เลย”
เมื่อพูดจบ หล่อนก็ลุกขึ้นยืน เตรียมจะเข้าไปเล่นหูของเซียวซู่อีกครั้ง
เพราะเคยมีประสบการณ์มาก่อน ดังนั้นครั้งนี้เจียงเสี่ยวไป๋จึงทำไม่สำเร็จ มือทั้งสองของหล่อนถูกเซียวซู่จับไว้ได้ ทั้งสองเผชิญหน้าเข้าหากัน เซียวซู่จ้องหน้าหล่อนด้วยความโกรธเคือง
ทั้งสองห่างกันเพียงนิดเดียว เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋เห็นหูของเขาที่แดงมากขึ้นเรื่อยๆ หล่อนก็ทำตัวเหมือนสาวอันธพาล กระพริบตาใส่เขา สีหน้าอารมณ์ลึกซึ้ง: “คุณจับมือทั้งสองข้างของฉันทำไม?”
ใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่ของสาวน้อยปรากฏรอยยิ้มขึ้น สายตาที่ใสเป็นประกายกลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เหมือนจิ้งจอกแสนสวยตัวหนึ่ง
เซียวซู่ถูกท่าทางของหล่อนสะกดจนทำให้จิตใจไหวหวั่น ผ่านไปสักพักจึงจะตั้งสติกลับมาได้ ยิ้มเย้ยและกำลังจะเอ่ยปากพูดขึ้น
แต่เจียงเสี่ยวไป๋กลับไม่เปิดโอกาสให้เขา รีบพูดแทรกขึ้นก่อนต่อหน้าต่อตา: “หรือว่าคุณก็อยากจับฉันเหมือนกัน?”
ความหมายที่แท้จริงของหล่อนก็คือ หรือคุณก็อยากจับหูฉันเหมือนกัน?
เพียงแต่ไม่ได้พูดคำส่วนท้ายออกมาด้วย พูดแค่คำพูดส่วนแรกออกมาเท่านั้น เมื่อฟังแล้วก็ตีความได้หลายแบบ เซียวซู่เขินจนหน้าแดงใส่หล่อนและพูดอะไรไม่ออก
คำพูดเพียงคำเดียวติดอยู่ที่ปากเขานานครู่หนึ่ง แต่เมื่อคิดถึงครั้งที่แล้วที่สาวน้อยทำท่าทีปกป้องเขา เขาจึงเก็บคำพูดนั้นไว้ไม่พูดออกมา
“น่าเบื่อ” เขาสะบัดมือสาวน้อยออก จากนั้นหันหลังกลับไปและไม่มองหล่อนอีก
“คุณไม่มองฉันหน่อยเหรอ ทำแบบนี้เท่ากับว่าเปิดโอกาสให้ฉันจัดการกับหูคุณได้ใช่ไหม?”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างมีความสุข จึงทำให้เซียวซู่หันกลับมาอีกครั้ง และมองมาด้วยสายตาอันเฉียบคม “คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”
เมื่อคิดถึงความลำบากที่ตัวเองต้องเผชิญอยู่ในช่วงนี้ สีหน้าเจียงเสี่ยวไป๋ก็เปลี่ยนไปทันที ทำตัวดูน่าสงสารมาก “ฉันไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ฉันเห็นคนคุ้นเคย ก็เลยมาทักทายเท่านั้น ทำไมคุณต้องดุดันขนาดนี้ด้วยล่ะ?”
เขาดุ?
เซียวซู่หัวเราะแห้ง รอสิ่งที่หล่อนจะพูดขึ้นต่อ
เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋เห็นว่าเขาไม่ถามอะไร ตัวเองก็ทนได้ไม่นาน จึงเอ่ยปากถามขึ้นก่อน: “อันที่จริงเรื่องเป็นแบบนี้นะ ฉันอยากให้คุณปลอมเป็นแฟนของฉันหนึ่งครั้ง!”
ไม่รอให้เซียวซู่ได้พูดปฏิเสธ เจียงเสี่ยวไป๋ก็รีบพูดต่ออย่างรวดเร็ว: “ครั้งนี้ฉันเป็นฝ่ายมาขอช่วยคุณเอง ไม่ได้มาชดใช้บุญคุณ ดังนั้นก็ถือซะว่าคุณช่วยฉันชดใช้หนี้บุญคุณ ต่อไปคุณจะให้ฉันทำอะไรแทนคุณก็ได้ หรือถ้าคุณรู้สึกว่าบุญคุณของฉันไม่สำคัญ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นรางวัลตอบแทนอย่างอื่นแทนได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวซู่ก็ค่อยๆขมวดคิ้วขึ้นมา
“ผมจำได้ว่า ครั้งที่แล้วผมเคยบอกคุณว่าไม่มีครั้งที่สองอีกต่อไป”
“ใช่ๆ แต่สถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เราลิขิตตัวเราเองดีกว่าให้ฟ้าลิขิต ถือเสียว่าช่วยฉันหน่อยนะ ตอนนี้นายก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เวลาเสียใจก็แค่ไปจิบเหล้าที่บาร์ อันที่จริงอาชีพรองของฉันก็คือผู้แนะนำแนวทางชีวิต ถ้าคุณช่วยฉัน ฉันก็สามารถช่วยคุณให้หลุดพ้นจากการอกหักได้นะ”
เหอะ อาชีพรองเป็นผู้แนะแนวทางชีวิต ถ้าเขาเชื่อขึ้นมาก็บ้าแล้ว!
เมื่อเห็นว่าเซียวซู่ไม่ตอบอะไร เจียงเสี่ยวไป๋จึงมองด้วยสายตาออดอ้อนน่าสงสาร ก้มหน้าลง ท่าทางเศร้าเสียใจมาก
“ฉันหาคนอื่นไม่ได้แล้วจริงๆ ตอนนี้ผู้ชายข้างนอกน่ากลัวและอันตรายทั้งนั้น เมื่อกี้ฉันเจอคนหนึ่ง คิดอยากจะได้แต่ร่างกายฉัน ไม่คิดจะสร้างปฏิสัมพันธ์ทางจิตใจกับฉันบ้างเลย!”
เซียวซู่: “…”
เขาต้องยอมรับจริงๆว่า ผู้หญิงตรงหน้าช่างแปลกประหลาดมากเหลือเกิน อีกทั้งยังพูดคำพูดแปลกๆอย่างไม่หยุดยั้ง บางครั้งยังมีท่าทางทำให้คนอื่นกลัวจนตื่นตกใจอีกด้วย
อะไรคือการบอกว่า พวกเขาคิดเพียงแต่อยากได้ร่างกายของหล่อน แต่ไม่อยากปฏิสัมพันธ์ทางจิตใจใดๆด้วย
คำพูดนี้…คือคำพูดที่ออกมาจากปากเด็กผู้หญิงเหรอ? ถึงแม้จะเป็นเด็กผู้หญิงพูด ในสถานการณ์ปกติทั่วไป ก็ไม่ควรพูดกับผู้ชายอย่างเขาแบบนี้รึเปล่า?
“คุณช่วยฉันหน่อยนะ ฉันทำอาหารอร่อย และฉันยังทำขนมอีกหลายรูปแบบได้อีกด้วย คุณอยากทานอะไรฉันทำให้ได้หมด คุณอยู่คนเดียวใช่ไหม? เดี๋ยวต่อไปฉันจะรับผิดชอบทำอาหารสามมื้อให้คุณเอง”
รับผิดชอบอาหารสามมื้อ?
เซียวซู่รู้สึกหวั่นไหวกับข้อเสนอนี้
หลังจากที่คุณชายเย่กลายเป็นที่หลงใหลโปรดปรานของภรรยาและลูกๆตัวแสบ เรื่องที่บริษัทก็ยกให้เขาจัดการตลอด เพราะเขาเชื่อใจตัวเองเพียงคนเดียว
ดังนั้นตอนนี้เซียวซู่ นอกจากตอนกลางคืน และเวลาช่วงหนึ่งในตอนกลางวัน เขาอ่อนเพลียมาก ต้องทำงานเหนื่อยทุกวัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขานอนแล้วจะหลับได้เลย ดังนั้นนอกจากเวลาทำงานแล้ว เวลาอื่นเขาจึงไปดื่มบ้าง เพื่อใช้แอลกอฮอล์มอมตัวเองให้เมา เช่นนี้จึงจะทำให้เขาลืมใครคนหนึ่งได้อย่างชั่วคราว
วันต่อมา เมื่อตื่นขึ้นมา ก็เป็นวันใหม่อีกครั้ง
ถ้าให้หล่อนมารับผิดชอบอาหารทั้งสามมื้อ…
“เป็นยังไง? ขอเสนอนี้ดีมากใช่ไหมล่ะ ฉันย้ายไปอยู่บ้านคุณเลยก็ได้นะ เป็นแบบนี้แม่ของฉันจะได้ไม่ต้องคอยถามทุกวันอีกด้วย!”
อันที่จริงเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้เป็นคนปล่อยตัวขนาดนั้น หล่อนรู้แล้วเข้าใจความอันตรายของผู้ชายดี
แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ หล่อนรู้ดีว่า ถึงแม้จะให้หล่อนเปลือยกายยืนต่อหน้าเขา เขาคงทำสีหน้าเย็นชาและหันไปทางอื่น ไม่มีหยุดมองแน่นอน
ผู้ชายคนนี้ปลอดภัย น่าเชื่อถือ
ต้องให้เขาปลอมเป็นแฟนให้ได้ หากพลาดโอกาสนี้ไป หล่อนคงหาใครที่เหมาะสมไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
“ให้ผมคิดดูก่อน” เซียวซู่พูดด้วยท่าทีนิ่งสุขุม
“อะไรนะ? ยังต้องคิดอีก?”