เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1275
บทที่ 1275 พี่ยังบอกกับฉันอีกหรอว่ายังไงก็ได้?
หานชิงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในข้อถกเถียงของกลุ่มคนในบริษัท
เขาพาหญิงสาวไปกินข้าว จากนั้นก็พาเธอไปส่งเธอกลับบ้าน
ระหว่างทางกลับก็ได้โทรหาหานมู่จื่อ สองพี่น้องก็ได้จองห้องเอาไว้
หานมู่จื่อมาเพียงคนเดียว เดิมทีเย่โม่เซินก็อยากตามมาด้วย แต่หานมู่จื่อก็ไม่ได้เห็นด้วย เธอคิดว่าเรื่องที่เธอต้องการจะพูดมันค่อนข้างจะรุนแรง พาเย่โม่เซินไปด้วยแล้วมันจะดูยังไงเอาได้
และถ้าเย่โม่เซินไป เสี่ยวหมี่โต้วจะต้องตามมาด้วยแน่
ดังนั้นแล้วในท้ายที่สุดก็ออกมาเพียงคนเดียว หานชิงก็มารับเธอ
สองพี่น้องสั่งอาหารกันหลายอย่าง นั่งลงกินกันพลางพูดกันไปพลาง
ทั้งสองคนไม่ได้กินข้าวด้วยกันอย่างตอนนี้กันมานานแล้ว เมื่อก่อนหานชิงก็เป็นซิสคอน หลังจากที่เจอน้องสาวก็รักหลงเธอเป็นพิเศษ อยากเอาทุกสิ่งทุกอย่างมอบให้กับเธอ
แต่ในภายหลังหลังจากที่หานมู่จื่อเจอที่พึ่งพิงของตัวเอง เวลาของเธอก็แทบจะเป็นของเย่โม่เซินไปทั้งหมด ดังนั้นแล้วโอกาสที่ทั้งสองพี่น้องได้อยู่ด้วยกันก็น้อยลงกว่าเดิม
ในตอนนี้ได้นั่งอยู่ด้วยกัน หานมู่จื่อก็ยังอัศจรรย์สุดๆ จู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนั้นหานชิงมักจะเดินทางบินไปทั้งในประเทศนอกประเทศทั่วทุกสารทิศ ในตอนนั้นเธอเพิ่งจะคลอดลูก เสี่ยวเหยียนก็เพิ่งจะชอบหานชิง
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว ใบหน้าของหานมู่จื่อก็อดไม่ได้ที่จะปรากฏรอยยิ้มจางๆออกมา
“คิดเรื่องอะไร น่าตลกขนาดนั้น?” หานชิงเห็นหน้าของน้องสาวตนปรากฏรอยยิ้มออกมา ความรู้สึกภายในใจก็อ่อนโยนลงหลายส่วน น้ำเสียงที่พูดกับเธอนุ่มนวลเป็นพิเศษ
หานมู่จื่อเอ่ยเสียงหวานออกมา “ไม่มีอะไร ก็แค่คิดถึงเมื่อก่อน”
“เมื่อก่อน?”
“อืม ในตอนนั้นพวกเราเพิ่งจะได้กลับมาเจอกัน พี่ยังต้องทำงานทุกวัน แล้วยังบินไปต่างประเทศอยู่เป็นประจำ ตอนนั้นพี่ก็ผอมลงตั้งเยอะ แต่กลับไม่บ่นว่าเหนื่อยเลยสักคำ”
เอ่ยถึงเมื่อตอนนั้น หานชิงเองก็ได้กระตุ้นความรู้สึกมากมายออกมา
ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ เขาก็ยิ้มจางๆออกมา “นี่มันจะอะไร? พี่มีน้องเป็นน้องสาวแค่คนเดียว การดูแลน้องให้ดีก็เป็นหน้าที่ของพี่”
“ใช่ ฉันในตอนนั้นก็ยังกลัวเลยว่าพี่จะไม่แต่งงาน ตอนนี้ก็ดีแล้ว ฉันไม่ต้องกังวลอีกแล้ว”
พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา หานชิงก็เหมือนกับว่าจะกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่ได้ตอบอะไรกับมาเหมือนกัน เพียงแต่ก็ได้ยกมือหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารให้กับหานมู่จื่อ ทั้งสองคนกินกันอยู่เงียบๆไปสักพัก
จู่ๆหานมู่จื่อก็ถามออกมา “พี่คะ ทางสวี่เย็นหวั่น พี่วางแผนจะจัดการยังไง?”
ได้ยินอย่างนั้น หานชิงก็มีใบหน้าเฉยชาออกมา “หืม?”
หานมู่จื่อยิ้มออกมาเล็กน้อย “ความหมายของฉันก็คือตอนนี้ฐานะทางบ้านของหล่อนตกต่ำลง แต่เมื่อก่อนทั้งสองครอบครัวก็คบหากันมาหลายชั่วรุ่น พี่ไม่คิดจะยื่นมือออกไปช่วยหรอคะ?”
ริมฝีปากของหานชิงเม้มเข้าหากัน แล้วก็ได้พูดอธิบายเสียงเรียบออกมา “นิสัยของเย็นหวั่น เหมือนกับคุณลุงสวี่มาก เธอบอกว่าไม่ต้องการให้พี่ยื่นมือออกไปช่วย และนั่นก็เป็นสิ่งที่เธอไม่ต้องการ ถ้าพี่ผลีผลามยื่นมือออกไปช่วยเธอ ก็คงทำให้เธอถูกโจมตีเอาได้”
อันที่จริงเมื่อก่อนทั้งสองคนก็เคยไปมาหาสู่กันอยู่ช่วงหนึ่ง ดังนั้นแล้วหานชิงก็เลยรู้ดีว่าสวี่เย็นหวั่นเป็นคนยังไง
ได้ยินน้ำเสียงของเขาแล้ว ความรู้สึกระแวดระวังของหานมู่จื่อก็ก่อขึ้นมา จึงหรี่ตาลงเล็กน้อย
“พี่รู้จักสวี่เย็นหวั่นดี?”
“สวี่เย็นหวั่นอะไร?” หานชิงมองเธออย่างจนใจ พูดแก้ออกมา “เธอแก่กว่าน้องตั้งหลายปี พวกเราทั้งสองตระกูลเป็นตระกูลเก่าแก่ น้องควรเรียกเธอว่าพี่นะ”
หานมู่จื่อก็ได้ยักไหล่ออกมา “ตอนฉันอยู่ต่อหน้าเธอฉันก็เรียกนะ แต่ตอนนี้พูดอยู่กับพี่มันก็สะดวกกว่าเยอะเลยนี่? อีกอย่าง ก็แค่คำเรียกคำนึงเท่านั้นเอง มันไม่เห็นจะบอกอะไรได้? พี่จะแคร์มากมายไปทำไมกัน?”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หานชิงก็ขมวดคิ้วออกมา “ใครบอกว่าคำเรียกคำเดียวบ่งบอกอะไรไม่ได้ เมื่อก่อนพวกเราตระกูลหานกับตระกูลสวี่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน คุณลุงสวี่เขา…”
“พี่คะ” หานมู่จื่อเอ่ยขัดเขาออกมา “พี่หมั้นกับสวี่เย็นหวั่นใช่มั้ยคะ?”
“…”
บนโต๊ะอาหารเงียบเชียบ
หานมู่จื่อก็ไม่ได้กินต่ออีก แต่ก็ได้จ้องมองหานชิงไปอย่างเอาจริงเอาจัง “ใช่หรอ?”
หานชิงเม้มริมฝีปากออกมา หลังจากที่ผ่านไปได้สักพักก็ได้คีบมาใส่ชามเธออย่างต่อเนื่อง สีหน้าเรียบนิ่ง “นั่นมันเรื่องสมัยเด็ก ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ภายหลังทุกคนก็ไม่ได้พูดกันออกมาอีก การหมั้นหมายนี้มันไม่นับ”
“ไม่นับ?” หานมู่จื่อกะพริบตาออกมา “ในตอนแรกเพียงแค่การหมั้นหมายที่พูดปากเปล่า หรือว่าจะมีแลกเปลี่ยนของหมั้นอะไรกัน?”
“ไม่มี” หานชิงส่ายหน้าออกมา “ตามที่พี่บอกไป ก็ควรจะไม่เคยแลกเปลี่ยนของหมั้นกันอยู่แล้ว เพียงแค่คำพูดเล่นๆของผู้ใหญ่เท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าจะเคยพูดกันมาหลากหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้ดำเนินการเป็นเรื่องเป็นราว”
“พี่ก็เลยไม่เคยคิดจะใส่ใจเรื่องนี้เลย?” หานมู่จื่อถามออกมา
หานชิงพยักหน้า “อืม เรื่องสมมติขึ้น ทำไมต้องใส่ใจ?”
สีหน้าของเขาเหมือนกับว่าจะไม่แคร์อะไรเลยจริงๆ แต่หานมู่จื่อกลับนึกถึงคำพูดพวกนั้นในตอนที่สวี่เย็นหวั่นพูดกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เมื่อวันนั้น สีหน้าและแววตาที่เผยออกมา ล้วนแล้วแต่จะจริงจังและมุ่งมั่นอย่างมาก
อย่างที่เห็น เธอเก็บเอาเรื่องนี้มาไว้ในใจ
แต่ในครั้งนี้ หล่อนตกอับกลายมาเป็นอย่างนี้ แล้วกลับมาหาหานชิง แต่ก็ไม่ได้ขอความช่วยเหลือ เพียงแค่มาเพื่อมาหาเขา
คิดมาถึงตรงนี้ หานมู่จื่อรู้สึกว่าภายในใจของเธอได้คำตอบนึงออกมาแล้ว
เธอมองหานชิง ค่อยๆเอ่ยพูดออกไป “พี่ไม่สนใจ แต่ถ้าเกิดสวี่เย็นหวั่นคิดจริงขึ้นมา แล้วแคร์เรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ?”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว สีหน้าของหานชิงก็ดูแปลกใจสุดๆ พร้อมเลิกคิ้วออกมา “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เธอไม่เคยยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเลย อีกอย่างพวกเราก็ไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว”
ผู้ชายอ่ะนะ ก็เป็นคนเป็นตรงไปตรงมาอย่างที่คิดเลย เดิมทีก็ไร้หนทางที่จะเข้าใจความคิดที่ซับซ้อนจำพวกนั้นในใจผู้หญิงได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นพี่ชายของเธอ ก็เหมือนกับนกตัวนึงเหมือนกัน
หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะคิดล้อเล่นกับหานชิงออกมาเลยจริงๆ
คิดอยู่ได้สักพัก คนผู้นั้นที่อยู่บ้านเธอเองก็คงเป็นอย่างนี้เหมือนกัน ประมาณว่าผู้ชายคงเป็นอย่างนี้กันหมดเลยล่ะมั้ง
เธอถอนหายใจอย่างจนใจ จากนั้นก็เอ่ยพูดออกไป “พี่คะ พี่ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆ เธอไม่เคยพูดถึงมาก่อน ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่แคร์เรื่องนี้นะคะ”
ฟังมาจนถึงตรงนี้แล้ว หานชิงคิดว่าตนเข้าใจจุดประสงค์ในการมาพบตนของน้องสาวของตัวเองในวันนี้แล้ว
“วันนี้เธอมาหาพี่เพราะเรื่องนี้?”
“ทำไม คิดว่านี่มันไม่ใช่เรื่อง?”
หานชิงมองเธอไปด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างที่จะจนใจอยู่บ้าง
“พี่ก็นึกว่าน้องสาวของพี่จะอยากกินข้าวกับพี่ชายสักมื้อ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้ วางใจเสียเถอะ พี่จะจัดการให้เรียบร้อย”
“งั้นพี่บอกฉันได้มั้ยล่ะว่าพี่จะจัดการยังไง?” หานมู่จื่อถามซอกแซกออกมา
หานชิง “…”
“แม้แต่เรื่องที่คนเขาแคร์เรื่องการหมั้นหมายหรือเปล่าพี่ก็ยังไม่รู้เลย พี่จะจัดการอะไรได้?”
“มู่จื่อ เธอคิดมากไปแล้ว”
“เป็นฉันที่คิดเยอะไป?” หานมู่จื่อยิ้มจางๆออกมา “งั้นพี่บอกฉันได้มั้ยล่ะว่าทำไมถึงมาหาพี่หลังจากที่สถานะการเงินทางบ้านเธอตกต่ำกันล่ะ? ในเมื่อไม่ได้มาเพื่อขอความช่วยเหลือ แล้วเธอทำไปเพื่ออะไร?”
หานชิงชะงักไป
“พี่อย่ามาบอกฉันว่าชีวิตของเธอผ่านไปอย่างยากลำบาก แล้วมีความคิดที่จะมาหาเพื่อนเก่ากัน ไม่สู้ให้ฉันช่วยพี่ลองถามเธอดู ว่าเคยไปหาคนอื่นบ้างหรือเปล่า?”
หานชิงเม้มริมฝีปากออกมา มองน้องสาวคนนี้ของตนไปอย่างเอาจริงเอาจัง
“ตอบไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ? ไม่อย่างนั้นแล้วก็ให้ฉันตอบแทนพี่เอามั้ย? เพราะว่าเธอแคร์เรื่องการหมั้นหมาย แคร์พี่คนนี้ ดังนั้นแล้วหลังจากที่เรื่องนี้คลี่คลายไป ก็ได้มาหาพี่ตั้งแต่ครั้งแรก”
“มู่จื่อ…”
“ดังนั้นแล้วตอนนี้พี่ยังบอกกับฉันอีกหรอว่ายังไงก็ได้?”