เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1278
บทที่ 1278 ที่บ้านมีคนกำลังรอเขาอยู่
ช่วงเกือบหนึ่งสัปดาห์ เจียงเสี่ยวไป๋แทบจะทำของในห้องโล่งไปหมด
มีวันหนึ่งฟางถังถังมาหาเธอ ตอนที่เปิดประตูเข้ามาเจียงเสี่ยวไป๋กำลังเก็บเสื้อผ้าตัวเองอยู่ จากนั้นฟางถังถังก็เห็นบรรยากาศภายในห้อง ก็ช็อกนิ่งยืนอยู่ตรงที่เดิม ไม่กล้าขยับอยู่นาน
“ฉัน…มาผิดใช่มั้ย?”
เจียงเสี่ยวไป๋หันไปกลอกตาใส่เธอ “เธอมาครั้งแรกหรือไง ยังมาผิดทางอีกนะ แม้แต่บ้านฉันก็ไม่รู้จักกันแล้วสินะ?”
ฟางถังถังอย่างกับถูกฟ้าผ่าลงมา ยืนอยู่ตรงที่เดิมมองออกไปรอบๆ เพื่อยืนยันอย่างละเอียดอีกครั้ง จะมองยังไงก็ไม่คิดว่าที่แห่งนี้จะเป็นบ้านของเจียงเสี่ยวไป๋ที่ตนเคยมา
เธอยังรู้สึกว่ามันยากที่จะเชื่อ “นี่ใช่บ้านเธอจริงๆหรอ?”
“พูดบ้าๆน่า”
ฟางถังถังถามออกมาอย่างยากลำบาก “งั้นบ้านเธอคือถูกปล้นไปหมดแล้วหรอ? ขโมยเข้าบ้าน? แจ้งความแล้วยัง? แม่ง หรือว่าเธอล้มละลาย?”
เจียงเสี่ยวไป๋มองเธออย่างกับคนโง่ เอ่ยพูดออกไปอย่างไม่ชอบใจ “ฟางถังถังเธอความจำเสื่อมหรือไง ก่อนหน้านี้ใครแนะนำให้ฉันย้ายของไปที่บ้านเซียวซู่กันล่ะ? ตอนนี้ฉันทำกับข้าวอยู่ที่บ้านเขา แน่นอนว่าจะต้องย้ายข้าวของไปสิ ย้ายไปแล้ว ทางนี้ก็ไม่มีของแล้ว นี่มันแปลกหรอ?”
“นี่มันไม่แปลกหรอ?”
“นี่มันแปลกหรอ??”
“ไม่แปลกหรอ???”
แปลกหรอ…เจียงเสี่ยวไป๋คิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าแปลกตรงไหน
“แปลกหรอ?” เธอถามออกไปอีกครั้ง
ฟางถังถังพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ดูหมดคำพูด “นี่ไม่แปลกหรอ? เธอคิดให้ดีสิ เธอแค่ไปทำอาหารให้เขาเท่านั้นเอง ตอนแรกเธออยากซื้อเครื่องครัวอะไรจำพวกนั้นที่ต้องเสียเงินซื้อ ฉันก็เลยให้เธอย้ายของในครัวไปยังไงล่ะ ไม่ได้ให้เธอย้ายข้าวของไปหมดทั้งบ้านเสียหน่อย? แต่เธอดูสิ ตอนนี้ห้องเธอโล่งไปหมดแล้ว…พูดตามตรง ห้องนี้อย่างกับเคยถูกโจรเป็นร้อยมาปล้นแหนะ น่ากลัวจริงๆ”
เคยถูกโจรเป็นร้อยมาปล้น…
นี่มันเป็นการอธิบายบ้าบออะไรกัน?
แต่ถูกฟางถังถังพูดมาอย่างนี้แล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกแปลกเล็กน้อย แต่เพียงไม่นานเธอก็คิดได้อย่างชัดเจนแล้ว “ฉันคิดว่าไม่แปลกนะ ฉันไปทำอาหาร อาชีพของฉันเขาก็รู้ วิ่งไปวิ่งมามันเหนื่อยมากนะ ถ้าฉันต้องไปแน่นอนว่าจะต้องย้ายข้าวของที่บ้านไปด้วยอยู่แล้ว ทำบรรยากาศให้เป็นแบบที่ฉันชอบ อย่างนี้ฉันถึงจะมีอารมณ์ทำงานที่นั่น ฉันคิดว่ามันไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย”
ฟางถังถังกลับจ้องเธอมา ไม่พูดอะไร
“ทำไมเธอถึงต้องจ้องฉันอย่างนี้ น่ากลัวเสียจริง…”
“ฉันกำลังคิดว่า ตอนนี้เธอเพียงแค่เอาของย้ายไปที่ห้องเขา แล้ว…จะอยู่กับเขาไปเลยมั้ยล่ะ?”
คำพูดนี้ได้ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋นิ่งตะลึงอยู่กับที่ขึ้นมาทันที ผ่านไปสักพักกว่าจะได้สติกลับมา ต่อว่าฟางถังถังไปอย่างแรง “ประสาท จะเป็นไปได้ยังไง! ฉันกับเขาเป็นแค่แฟนหลอกๆกัน ไม่มีทางอยู่บ้านของเขาหรอกนะ!”
เซียวซู่คนนั้น เตือนเธออยู่บ่อยๆว่าทั้งสองคนเป็นแฟนหลอกๆกัน ทำเสียอย่างกับเธอไปเกาะแกะเขาอย่างนั้นแหละ ถ้าไม่เป็นเพราะต้องรับมือกับแม่ที่ขี้เซ้าซี้คนนั้น เธอก็คงไม่ต้องทำอย่างนี้
คนอย่างฉันนี่มันยากเต็มทีจริงๆ!!
“ฉันว่าไม่แน่” ฟางถังถังกลับเข้าประชิดเธอด้วยใบหน้าจริงจัง “บางทีสุดท้ายการเล่นละครของพวกเธออาจจะเป็นจริงขึ้นมาก็ไม่แน่นะ”
“เป็นไปไม่ได้” เจียงเสี่ยวไป๋ปฏิเสธออกมาอย่างรวดเร็ว
“เธอไม่มั่นใจในตัวเองขนาดนั้นเลย? หรือว่าเธอจะไม่ชอบเขาเลยสักนิด?”
เจียงเสี่ยวไป๋เอ่ยถามออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “คนเขามีคนในใจอยู่แล้ว อีกอย่างชีวิตตอนนี้ของฉันก็ดีเอามากๆ ฉันจะต้องหาผู้ชายมาให้ตัวเองอารมณ์เสียไปทำไม ถ้าฉันอยากคบกับเขา แล้วฉันจะไปดูตัวหาคู่ทำไมกันล่ะ อย่างน้อยๆก็สามารถหาใครสักคนที่มีที่ว่างในใจให้ได้ ทำไมฉันจะต้องพาตัวเองไปเจอกับเรื่องที่ไม่มีความสุขกัน?”
คำพูดนี้ของเธอทั้งรวดเร็วและทั้งร้อนรน เหมือนกับว่ากำลังชี้แจงอะไรอยู่ ทั้งยังเหมือนกับกำลังพิสูจน์อะไรบางอย่าง แต่ฟางถังถังกลับได้ยินด้วยความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน ในแววตามีประกายของรอยยิ้มขบขันแวบผ่านออกมา จากนั้นก็เอ่ยเย้าออกมา “เอาเถอะ ในเมื่อเธอพูดออกมาอย่างนี้แล้ว ฉันจะรอตบหน้าเธอแล้วกัน”
เธอกับเสี่ยวไป๋รู้จักกันมานานหลายปี เสี่ยวไป๋คบค้าสมาคมอยู่กับผู้ชายน้อยมาก
สำหรับหลายๆคนแล้ว ความรู้สึกนั้นเป็นสิ่งที่ปลูกฝังมาจากการไปมาหาสู่กัน เจียงเสี่ยวไป๋ในตอนนี้กลับอยู่กับผู้ชายคนนั้นตั้งแต่เช้าจนเย็นทุกวัน นานไปแล้วจะไม่เกิดความรักต่อกันเลยสักนิด เธอจะเด็ดหัวให้เธอเตะเป็นลูกบอลเสีย
รอวันที่จะตบหน้าเธอ
“วันนี้เธอก็เลยเตรียมจะย้ายอะไรไปอีก?”
“ชุดลำลองน่ะ ฉันจะได้สวมตอนนอนดูหนังบนโซฟา เธอไม่รู้ว่าที่บ้านเขาไม่มีอะไรเลยจริงๆ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเงินเลย แต่กลับยากจนข้นแค้น ฉันนี่นับถือเลยจริงๆ”
เพราะว่าเซียวซู่ยังไม่ได้กลับบ้าน เจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยพาฟางถังถังไปเดินทั่วบ้านเซียวซู่ด้วยกัน
หลังจากนั้นฟางถังถังก็พบว่าในบ้านของเซียวซู่เหมือนอย่างที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดจริงๆ ไม่มีอะไรเลย เพราะว่าข้าวของที่เห็นล้วนแล้วแต่จะเป็นข้าวของที่เธอเห็นที่บ้านของเสี่ยวไป๋ทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้ห้องของเสี่ยวไป๋เหมือนกับถูกยกเค้าไปจนหมด แต่บ้านของผู้ชายคนนี้กลับเต็มไปด้วยของใช้ประจำวันกับความมีชีวิตชีวา
หลังจากที่เธอมองไปรอบๆ ก็รับโทรศัพท์สายหนึ่ง จากนั้นก็รีบออกไปอย่างรีบร้อน
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นว่าเวลามันไม่ดึกแล้ว ก็ไปทำอาหาร เพราะว่าช่วงนี้งานไม่เยอะ เธอก็เลยไม่ได้เปิดคอมเลย จึงได้เปิดทีวีกดเลื่อนดูซี่รี่ส์ไป
ในตอนที่เซียวซู่เลิกงาน เดินมาถึงล่างบริษัท ทันใดนั้นเองก็มีพนักงานสาวของบริษัทวิ่งมาด้านหน้าของเขา ใบหน้าแดงก่ำ แสดงอาการเขินอายออกมา
“ผู้ ผู้ช่วยเซียว คุณเลิกงานแล้ว?”
เซียวซู่มองอีกฝ่ายไปเล็กน้อย เป็นพนักงานสาวของบริษัท พลางพยักหน้าส่งเสียงอืมออกไป “มีธุระอะไร?”
พนักงานสาวมีสีหน้าเขินอายออกมา หลุบสายตาเอ่ยออกมาเบาๆ “คือ คืออย่างนี้นะคะ…ฉันรู้มาว่าแถวนี้มีร้านอาหารเพิ่งจะมาเปิดอยู่ร้านนึง รสชาติเหมือนจะไม่เลวเลย ฉันก็เลยอยากถามว่าคุณอยากไปลองด้วยกันหรือเปล่า…”
ในตอนแรก เซียวซู่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรออกมา จนหลังจากที่เขารู้ตัว ก็เข้าใจว่าผู้หญิงคนตรงหน้ากำลังทำอะไรอยู่
เธอกำลังนัดเขาอยู่
พนักงานสาวกลัวว่าเซียวซู่ปฏิเสธ จึงได้พูดต่อออกมาอีก “หรือว่าคุณไม่ชอบกินอาหารตะวันตก งั้นพวกเราไปกินอาหารจีนกันก็ได้…”
“ขอโทษนะ” เซียวซู่ปฏิเสธออกมาเสียงนุ่ม “ที่บ้านผมมีคนทำอาหารแล้ว”
“หา?” พนักงานสาวตื่นตกใจออกมา “ผู้ช่วยเซียวแต่งงานแล้ว?”
แต่งงาน?
นี่มันชวนให้คิดถึงเรื่องการแต่งงานไปได้ยังไง? เซียวซู่กำลังจะปฏิเสธออกไป พนักงานสาวก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาด้วยสีหน้าท้อแท้ใจพร้อมเอ่ยออกมา “งั้นก็เอาเถอะค่ะ ฉันรบกวนผู้ช่วยเซียวแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”
จากนั้นเธอก็ผันร่างเดินหายออกไปอย่างรวดเร็ว เหลือทิ้งให้เซียวซู่ยืนคิดอยู่เพียงลำพังตรงที่เดิมอยู่นาน
หรือว่ามีเพียงแค่การแต่งงานถึงจะอยู่ทำอาหารที่บ้านได้งั้นหรอ?
ในตอนที่เซียวซู่ถึงบ้าน ทันทีที่เปิดประตูก็ได้กลิ่นหอมของอาหารอันแสนคุ้นเคยลอยออกมา และบรรยากาศตรงหน้ามันทั้งแปลกตาและทั้งยังคุ้นเคยไปด้วย
บ้านก็ยังคงเป็นบ้านหลังนั้น แต่ก็ดูเหมือนว่าจะต่างออกไปอีกด้วย
เมื่อก่อนตอนเขากลับมา ภายในบ้านก็หนาวเหน็บมาโดยตลอด รอบๆว่างเปล่าไปหมด มีเพียงเขาเพียงคนเดียว ทีวีถึงแม้ว่าจะซื้อมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยเปิดมาก่อน
แต่ตั้งแต่ที่เจียงเสี่ยวไป๋มาที่นี่ สีสันภายในบ้านจู่ๆก็ดูสดใสขึ้นทันตา ทุกวันที่เขากลับบ้านทีวีก็เปิดอยู่ตลอด แล้วในทีวีก็เป็นการออกอากาศของซีรี่ส์