เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1341
บทที่1341 กำหนดของโชคชะตา
ดูแลเธอแทนคุณลุงคุณป้าสวี่สักหน่อยงั้นหรอ?
เพียงเพราะเรื่องนี้ ก็เลยย้ายตำแหน่งให้เธองั้นหรอ?
ได้ยินคำพูดพวกนี้แล้ว สวี่เย็นหวั่นก็รู้สึกเพียงความขมขื่นที่ก่อขึ้นมาทั่วทั้งหัวใจ รู้สึกแย่มากๆ เธอช้อนสายตามองไปทางหานชิง
“ไม่มีสาเหตุอื่นแล้วหรอคะ?”
เธอได้ยินตัวเองใช้เสียงเบาเอามากๆถามหานชิงออกไป
เสียงนั้นเบาบางเอามากๆ ตัวสวี่เย็นหวั่นเองก็แทบจะได้ยินไม่ชัด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหานชิงเลย
ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนถึงแม้ว่าจะไม่ไกล แต่ไม่ได้ใกล้กันนัก ดังนั้นแล้วครั้งนี้หานชิงจึงไม่ได้ยินเลยว่าเธอพูดอะไร แต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจว่าเธอจะพูดอะไรอยู่แล้ว
เพราะหานชิงรู้ว่าเธอมาหาตนที่นี่ สิ่งที่อยากพูดจะต้องเป็นเกี่ยวกับเรื่องที่จะปฏิเสธการย้ายตำแหน่งนั่น
“เย็นหวั่น” หานชิงทอดถอนหายใจออกมาอีกครั้งพร้อมกับเรียกชื่อเธอ “ฉันรู้ว่าเธออยากแข็งแกร่ง แต่…สภาพในตอนนี้ ไม่ใช่เวลาที่เธอจะต้องแข็งแกร่ง หลายเรื่อง มันก็ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเลือกเดียวนะ”
สวี่เย็นหวั่นมองใบหน้าหล่อเย็นชาตรงหน้า ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี สายตาที่หานชิงมองเธอยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ในดวงตาที่ดำลึกอ่านยากมีเพียงความรู้สึกที่เฉยชา ไม่มีอะไรอื่น
ไม่เหมือนกับวันนั้นที่โรงพยาบาล ตอนที่เขามองเสี่ยวเหยียน ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ทั้งยังมีการแสดงเป็นเจ้าข้าวเจ้าของที่รุนแรงออกมา
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้?
สวี่เย็นหวั่นหลับตาลง จากนั้นก็เอ่ยออกไป “ฉันรู้แล้ว ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นฉันก็ต้องขอบคุณสำหรับความหวังดีของประธานหานแทนพ่อแม่ฉันด้วยนะคะ”
พูดจบ สวี่เย็นหวั่นก็ยิ้มให้กับหานชิงไปเล็กน้อย จากนั้นก็ผันร่างเดินออกจากห้องทำงานไป
หานชิงไม่รู้ว่าภายในใจของสวี่เย็นหวั่นคิดยังไง เธอก็คงจะหยิ่งในศักดิ์ศรี เพราะถึงยังไงก็เคยเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลสวี่ ตอนนี้กลับต้องตกอับจนมาทำงานที่บริษัทของเขา
ถ้าเธอยอมรับล่ะก็ หานชิงก็จะช่วยเธออีกสักหน่อย แต่จากนิสัยของเธอ คาดว่าคงทำได้แค่เพียงช่วยถึงตรงนี้แล้วจริงๆ
หลังจากที่สวี่เย็นหวั่นออกไปจากห้องทำงานนั้น ก็ได้เดินไปยังแผนกของตัวเองอย่างนิ่งเงียบ จากนั้นก็ไม่พูดไม่จาแล้วเริ่มเก็บข้าวของทันที
เจี่ยงเหวินเหวินเห็นตอนที่เธอกลับมาก็เงียบไป ก็เลยเดินเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เป็นอะไรไป? เย็นหวั่น เธอตัดสินใจจะย้ายตำแหน่งแล้วหรอ?”
ได้ยินอย่างนั้น สวี่เย็นหวั่นก็นิ่งไปแป๊บนึง จากนั้นก็ส่งยิ้มไปให้เจี่ยงเหวินเหวิน “ใช่ค่ะ การกำหนดของโชคชะตา ทำไมจะไม่ยอมรับล่ะคะ?”
เธอในตอนนี้ มีสิทธิ์ที่จะไม่รับด้วยหรอ?
ก็เหมือนกับตอนแรกที่ตระกูลสวี่เกิดเรื่อง ทั้งหมดก็ได้ถูกกำหนดไว้อย่างแจ่มแจ้ง เธอจะมีสิทธิ์อะไรไปบอกว่าไม่อีก ทั้งมีสิทธิ์อะไรจะไปพยายามอย่างหนักเพื่อกอบกู้วิกฤติอีกล่ะ?
เป็นตัวเธอเองที่อ่อนแอเกินไป
เจี่ยงเหวินเหวินได้ยินความหมายอื่นที่ออกมาจากคำพูดนี้ จึงถามออกไปอย่างระมัดระวัง “เธอไม่ได้ยินยอมใช่มั้ย?”
“อันที่จริงพี่เหวินเหวินก็คิดว่าความสามารถในการทำงานของเธอก็ดีมาก สามารถอยู่ช่วยพี่เหวินเหวินที่นี่ได้ก็จะดีมากๆเลย ถ้าเธอไม่ยอมจริงๆ จะให้พี่เหวินเหวินลองพยายามแย่งตัวเธอมาอีกแรงมั้ย?”
น่าขัน ประธานหานออกคำสั่งมาด้วยตัวเอง เธอจะแย่งกลับมาได้ยังไงอีก
เพียงแต่เจี่ยงเหวินเหวินรู้ว่าถ้าพูดอะไรแบบนี้ไปในตอนนี้ มันจะทำให้สวี่เย็นหวั่นรู้สึกดีขึ้น
สวี่เย็นหวั่นคงนึกไม่ถึงว่าเจี่ยงเหวินเหวินจะพูดออกมาว่าจะช่วยเธอ ก็เลยหันไปส่งยิ้มจางๆให้เธอ พร้อมเอ่ยเสียงหวานออกไป “พี่เหวินเหวิน ขอบคุณพี่นะคะ แต่ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันคิดว่าที่พี่พูดมาก่อนหน้านี้มันถูกต้องแล้ว เพราะสุขภาพของฉันตอนนี้ เปลี่ยนไปอยู่ที่ที่สบายๆหน่อยมันจะดีกว่าเยอะจริงๆนั่นแหละค่ะ จริงสิพี่เหวินเหวิน ต้องขอบคุณการดูแลของพี่ในตลอดช่วงนี้มากๆเลยนะคะ”
เจี่ยงเหวินเหวินได้ยินคำพูดนี้ก็รู้ว่าเธอได้ตัดสินใจแล้ว จึงได้เข้าไปตบไหล่เธอเบาๆ
“ดูลงดูแลอะไรกัน ทุกคนก็เป็นคนบริษัทเดียวกันทั้งนั้น อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วย ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก”
สวี่เย็นหวั่นยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่ได้ตอบกลับไป
เจี่ยงเหวินเหวินกลับเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาว่า “จริงๆ ถ้าหลังจากที่ไปแล้วเธอมีอะไรไม่สบายใจ อย่าลืมกลับมาบอกพี่เหวินเหวินได้เลยนะ เธอเป็นคนที่ออกไปจากแผนกของพี่นี่ ถ้ามีใครกล้ารังแกเธอเจ้านั่นคงอยู่ร่วมโลกกับเจี่ยงเหวินเหวินไม่ได้ ถึงตอนนั้นพี่เหวินเหวินออกหน้าให้เธอเอง”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่เหวินเหวิน”
หลังจากที่สวี่เย็นหวั่นเก็บของออกไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีข่าวแพร่เข้ามาในกลุ่มอีกครั้ง
ในกลุ่มก็เลยคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
“สุดยอดเลย สถานะคู่หมั้นคงไม่ไปไหนแล้วล่ะมั้ง? ประธานหานย้ายตำแหน่งให้เธอด้วยตัวเองเลย งั้นปัญหาก็มาแล้วสิ? แล้วมือที่สามคนนั้นจะทำยังไง? สุดท้ายประธานหานจะเลือกยังไงเนี่ย?”
“ถ้าตามหลักแล้ว เมียหลวงจะต้องสู้เมียน้อยไม่ได้ สิ่งดีๆที่เมียหลวงได้รับมาตอนนี้ ทั้งหมดนี้เป็นความละอายใจที่มีต่อเมียหลวงหลังจากที่ฝ่ายชายได้เจอกับเมียน้อยแล้วทั้งนั้น นี่คงจะเป็นการชดเชยให้กันสักหน่อยล่ะมั้ง”
“ทำไมฉันถึงคิดว่าคู่หมั้นคนนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ เข้าบริษัทมาโดยไม่บอกไม่กล่าว แล้วยังได้ยินข่าวเด็ดมาว่าที่ที่คู่หมั้นคนนั้นเป็นลมเมื่อวันก่อนนั้นไม่ใช่ที่อื่นเลย แต่เป็นตรงหน้าแฟนคนปัจจุบันของประธานหานต่างหาก พวกเธอคิดว่า เธอเป็นลมไม่ดีตรงไหน ทำไมจะต้องมาเป็นลมตรงหน้าคนปัจจุบัน? ความรู้สึกเหมือนกับว่าจงใจจะสร้างสถานการณ์เลยไม่มีผิด?”
“จงใจสร้างสถานการณ์ขึ้นมา? นี่มันค่อนข้างจะดูเป็นทฤษฎีสมคบคิดไปหน่อยมั้ย? ถ้าจงใจสร้างสถานการณ์ ทำไมไม่ไปเป็นลมหน้าประธานหานเสียเลยล่ะ? จะได้ไม่ต้องไปเป็นลมหน้าคนปัจจุบันของเขา ถ้าคนปัจจุบันนั้นร้ายกาจสักหน่อย เธอเป็นลมไปแล้วมันจะมีประโยชน์อะไรอีก?”
“นี่ก็คือสิ่งที่ฉันบอกว่าเธอไม่ธรรมดาไง กล้าเป็นลมหน้าคนปัจจุบันของเขา แล้วยังคาดเดาเอาไว้แล้วว่าคนปัจจุบันจะไม่มีทางนิ่งเฉยทิ้งเธอเอาไว้ได้อีก”
“เธอพูดมาได้น่ากลัวเสียจริง แต่ฉันคิดว่าไม่มีทางหรอก จะไปคาดเดาแม้แต่ความคิดของอีกฝ่ายได้ขนาดนั้นได้ยังไงกัน?”
“ถ้าไม่ได้คาดเดาเอาไว้แล้ว งั้นก็คงเดิมพันเอาไว้แล้วล่ะมั้ง ยังไงฉันก็พนันร้อยหยวนเลยว่าคู่หมั้นคนนี้ไม่ธรรมดา!”
กลุ่มคนในกลุ่มต่างคนต่างแย่งกันพูดกัน
ถึงขนาดที่มีบางคนออกมาแก้ตัวแทนคู่หมั้นด้วย
ส่วนเจี่ยงเหวินเหวินเห็นการแสดงความคิดเห็นพวกนี้แล้ว ริมฝีปากก็แสยะยิ้มหยันออกมาเล็กน้อย
ในกลุ่มส่วนใหญ่จะเป็นสาวน้อยกันทั้งนั้น จะว่าไปสาวน้อยก็เป็นสาวน้อยอยู่วันยังค่ำล่ะนะ
เรื่องบนโลกนี้น่ะ มันจะไปบังเอิญมากมายขนาดนั้นได้ที่ไหนกัน
ความบังเอิญส่วนใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนที่สร้างมันขึ้นมาเองทั้งนั้น
ที่ที่เกิดความบังเอิญอยู่มากนั่นคือในละคร เหอะ ช่างเป็นกลุ่มที่ดูละครมากไปจริงๆ แล้วยังคิดเพ้อไปต่างๆนานาได้ง่ายจริงๆ บางทีก็ไร้เดียงสาเกินไป
**
วันเกิดของหานชิงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ช่วงนี้เสี่ยวเหยียนเอาแต่คิดอยู่ตลอดว่าจะต้องเตรียมของขวัญอะไรที่จะดูพิเศษให้กับเขาดี
ความจริงเธอได้ตัดสินใจเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าในวันเกิดของหานชิงวันนั้น จะฉลองวันเกิดให้เขา แล้วค่อยบอกข่าวดีเรื่องที่เธอท้องกับเขา
ให้เขาได้ฉลองวันเกิดที่เขาลืมไม่ลง
เพียงแต่สิ่งที่เสี่ยวเหยียนกังวลนั่นก็คือจะฉลองกับเขายังไง
ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงฉลองวันเกิดให้ใครมาก่อน และก็ไม่เคยซื้อของขวัญให้ผู้ชายมาก่อนเหมือนกัน ก็เลยปวดหัวมาก เพราะไม่รู้เลยว่าจะต้องให้ของขวัญอะไรกับผู้ชายอีกฝ่ายเขาถึงจะชอบ
เธอก็เลยลองเข้าไปเสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ตดูสักหน่อยว่าใกล้วันเกิดแฟนแล้วจะให้ของขวัญอะไรดี
ผลคำตอบทั้งหมดก็ล้วนแล้วจะเป็นของจำพวกเข็มขัดเอย กระเป๋าตังค์เอย ไฟแช็กเอย อะไรพวกนี้กันทั้งนั้นเลย ของพวกนี้เป็นของดีที่มักจะมอบให้กันเป็นของขวัญที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ ดูเหมือนว่ามันจะน่าเบื่อไป
อีกอย่างหานชิงก็ไม่ได้ขาดอะไรเลย ของที่เธอซื้อจะต้องไม่ได้เอาออกมาใช้แน่
เสี่ยวเหยียนก็เลยแอบส่งข้อความไปหาหลินสวี่เจิ้ง ถามว่าหานชิงชอบอะไร
หลินสวี่เจิ้งในตอนที่ได้รับข้อความนี้จากหญิงสาว อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลงครุ่นคิด จากนั้นก็พูดพิเรนทร์ออกมาด้วยคำพูดที่ไร้ยางอาย