เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1365
บทที่1365 ไม่อยากรู้แล้ว
“ต่อมาหลังจากโตขึ้นแล้ว ตระกูลสวี่ก็ย้ายออกไป หลายปีมานี้พวกเราก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเป็นคู่หมั้นของฉันเลย”
หานชิงอธิบายเบาๆ อย่างชัดถ้อยชัดคำ เสี่ยวเหยียนก็สงบและฟังที่เขาพูด
ถ้าอิงจากคำพูดที่เขาพูด สองคนเหมือนกับว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน งั้นทำไมสวี่เย็นหวั่นต้องพูดว่าตัวเองเป็นคู่หมั้นของเขาด้วยล่ะ?
“คุณแน่ใจเหรอว่าพวกคุณสองคนไม่ได้หมั้นกัน? เธอไม่ใช่คู่หมั้นของคุณจริงๆ เหรอ? ”
“เหยียนเหยียน งานหมั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าหากระหว่างพวกเราสองคนมีการหมั้นกันจริงๆ เธอว่าฉันจะจำไม่ได้เหรอ? ”
ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแล้ว เธอคิดอะไรขึ้นได้ ก็ถามขึ้นมา : “งั้นตอนที่อยู่บ้านก่อนหน้านี้คุณมาหาฉัน ฉันถามคุณว่าทำไมคุณไม่บอกฉัน ก็คือเรื่องนี้ ตอนนั้นคุณบอกว่ามันพูดยาก ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ยังงั้นเหรอ? ”
หานชิงย้อนกลับไปคิด แล้วก็คลี่ยิ้มออกมา “ฉันนึกว่าเธอพูดถึงเหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่ฉลองวันเกิด”
“……”
ที่เธอโกรธอยู่นานมาก มันเปล่าประโยชน์ยังงั้นเหรอ?
คำถามที่เธอถาม หานชิงกลับนึกว่าเป็นเรื่องอื่น แถมเธอก็เข้าใจผิด
“ครั้งต่อไปก่อนที่จะถามอะไร ช่วยระบุให้ชัดเจนหน่อยได้ไหม? ตอนนั้นคำถามของเธอคลุมเครือจะตาย ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอถามเรื่องอะไร? ”
เสี่ยวเหยียนรู้สึกได้เหมือนกับว่าตอนนี้เขากำลังโทษเธออยู่ เธอกะพริบตา “นี่คุณกำลังบอกว่าฉันเอาแต่ใจตัวเองอยู่ใช่ไหม? ถ้าเกิดว่าพวกคุณไม่ได้หมั้นกันจริงๆ แล้วทำไมเธอถึงต้องยอมรับด้วยล่ะ? คุณลืมอะไรไปรึเปล่า? ”
“ยอมรับ? ” หานชิงจับประเด็นสำคัญได้ในประโยคนี้ “เธอพูดกับปากของตัวเองเลยเหรอว่าเธอเป็นคู่หมั้นของฉัน”
“ประมาณนั้นแหละ” เสี่ยวเหยียนเม้มริมฝีปากของตัวเอง พร้อมกับพูดอย่างไม่มีความสุขว่า “แต่ว่าตอนแรกเธอไม่ได้วางแผนจะบอกฉัน คนในบริษัทเป็นคนบอกฉันก่อน หลังจากนั้นเธอก็เลยยอมรับ”
หานชิงเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม พอเธอพูดแบบนี้ เขาก็คาดเดากระบวนการเดินทางของความคิดของเธอได้ในทันที
เธอนึกว่าเขากับสวี่เย็นหวั่นมีการหมั้นหมายกัน และคนในบริษัทก็รู้กันหมดแล้ว มีแต่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ถูกปิดบัง ตอนที่ถูกทิ้งตอนงานฉลองวันเกิดนั้น เดิมทีเธอก็ทุกข์ใจอยู่แล้ว แถมยังต้องมาได้ยินข่าวที่ไม่สามารถจะรับได้อีก ตอนนั้นเธอก็เลยไม่สามารถรับการโจมตีแบบนี้ได้ พอหลังจากที่ถามเขาแล้ว ทั้งสองคนก็เลยเกิดความเข้าใจผิดกัน
และเธอก็เลยอยากจะเลิกกับเขา
ในสถานการณ์แบบนี้ คนทั่วไปก็ต้องสูญเสียสติไปเหมือนกัน
และยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าสาวน้อยคนนี้ชอบเขามากแค่ไหน พอนึกถึงน้ำตาของเธอที่ไหลรินในหลายวันที่ผ่านมา หานชิงก็ยิ่งรู้สึกเจ็บหัวใจ มือหนาเอื้อมไปจับที่ด้านหลังศีรษะของเธอ แล้วก็ดึงเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก
“ไม่ได้มีการหมั้น ระหว่างฉันกับเธอไม่ได้มีอะไรกันทั้งนั้น ฉันหานชิงเป็นคนที่สะอาดบริสุทธิ์ขนาดนี้ เธอเองก็เป็นคนที่เข้ามายั่วฉันก่อน ฉันก็เคยบอกแล้วว่าฉันเลือกเธอแล้ว ก็จะไม่มีวันเปลี่ยนคนอีกแล้ว”
เสี่ยวเหยียนหน้าแนบอยู่กับหน้าอกของเขา พอได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเขา ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็แดงก่ำขึ้นมา
ช่วงนี้เธอเอาแต่โกรธแบบเสียเปล่า เขาไม่มีทางโกหกเธอ ตอนนี้เขาปฏิเสธแบบนี้ ก็แสดงว่าระหว่างทั้งสองคนนั้นไม่ได้มีงานหมั้นหมายเกิดขึ้นจริงๆ
แต่ว่า….สรุปแล้วเรื่องนี้มันเป็นยังไงกันแน่?
ทำไมสวี่เย็นหวั่นต้องบอกเธอว่าตัวเองเป็นคู่หมั้นของเขา แล้วคนในบริษัทอีกล่ะ?
“ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เรื่องนี้พอกลับไปแล้วฉันจะถามให้ชัดเจน แล้วจะมาบอกเธอ”
“หึ” เสี่ยวเหยียนกระแอมอย่างเย่อหยิ่ง แล้วก็บิดตัวในอ้อมอกที่อบอุ่นของเขา “ใครอยากรู้กัน…..”
“ไม่อยากรู้เหรอ? ถ้ายังงั้นกลับไปก็ไม่ต้องสนใจแล้วใช่ไหม? ”
“กล้าเหรอ! ” เสี่ยวเหยียนตะคอกใส่เขาอัตโนมัติ หลังจากนั้นก็อึ้งไป
หานชิงมองหน้าเธอนิ่ง แววตาของเขามีอารมณ์ที่หอมกรุ่น นิ้วของเขาแตะที่หางตาของเธอ พร้อมกับกระซิบว่า “ต่อไปเป็นแบบนี้ก็พอแล้ว”
“อะไรนะ? ”
“ต่อไปนี้ ปฏิบัติกับฉันแบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่ต้องระมัดระวังตัวหรอก อยู่ต่อหน้าฉันเธอสามารถเอาแต่ใจยังไงก็ได้ ฉันจะตามใจเธอ”
เสี่ยวเหยียน:“……”
พอย้อนกลับไปคิด ครั้งนี้เธอเอาแต่ใจมากจริงๆ แต่ว่าหานชิงก็ให้อภัยเธอ เอาแต่ตามเธอมาตลอด เธอพูดในสิ่งที่ทำร้ายจิตใจ ถ้าเกิดว่าเป็นคนที่มีอีโก้สูงหน่อย ต้องรับไม่ได้อย่างแน่นอน
แต่ว่าเขาไม่เคยโมโหเลย เอาแต่ตามเธอมาตลอด ให้อภัยเธอในทุกๆ อย่าง
ถ้าเกิดว่า….ถ้าเกิดว่าเมื่อกี้เธอไม่ได้หลุดปากพูดเรื่องคู่หมั้นของเขา เธอต้องพลาดเขาไปรึเปล่า
พอคิดได้แบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็อยากจะขอโทษเธอ แต่ว่าในใจก็ยังรู้สึกไม่สบอารมณ์ ก็เลยได้แต่กระแอมเบาๆ
“ลำพองใจให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ ไม่ต้องมาสอนฉันว่าให้ทำยังไงหรอก ฉันอยากทำยังไงฉันก็จะทำยังงั้นแหละ”
“อืม เธออยากทำอะไรก็ทำแบบนั้นนั่นแหละ”
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองคน
ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงที่ทุ้มต่ำของหานชิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่อยากฉลองวันเกิด? ”
พอได้ยินคำพูดนี้ หัวใจของเสี่ยวเหยียนก็เต้นผิดจังหวะ เธอกะพริบตาอย่างตื่นเต้น ตอนนี้เขากำลังจะเล่าให้เธอฟังเรื่องที่ว่าทำไมเขาถึงไม่ฉลองวันเกิดน่ะเหรอ?
ตามปกติแล้ว ทุกคนไม่มีใครไม่ชอบฉลองวันเกิด
ถึงแม้ว่าไม่ได้เป็นการฉลองที่ตั้งใจเป็นพิเศษก็ตาม แต่ว่าถ้าเกิดว่ามีคนมาฉลองให้เขาล่ะก็ ทุกคนก็น่าจะดีใจกัน
ถ้ายังงั้นการที่เขาไม่ฉลองวันเกิดนั้น แสดงว่าวันนั้นต้องเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นที่ทำให้เขาไม่อยากจะไปย้อนคิดถึงมัน
ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนก็นึกถึงเรื่องวันนั้นตอนที่ให้เขาเป่าเทียนนั้น ท่าทางของเขาดูเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ดังนั้นเธอก็เลยรีบตอบทันที “ไม่อยาก”
เธอส่ายหน้า แล้วก็พุ่งเข้าไปในอ้อมอกของหานชิง “ทำไมคุณถึงไม่ฉลองวันเกิดนั้น ฉันไม่อยากรู้เลยแม้แต่นิดเดียว ในเมื่อคุณไม่อยากฉลอง ถ้ายังงั้นต่อไปทุกปีก็ไม่ต้องฉลองก็พอแล้ว ฉันจะอยู่กับคุณ ฉันก็จะไม่ฉลองวันเกิดเหมือนกัน”
พอได้ยินคำพูดที่บีบหัวใจจากสาวน้อย หัวใจของหานชิงก็อ่อนโยน อารมณ์ที่ขุ่นมัวในหลายๆ วันที่ผ่านมานี้ก็หายไปเช่นกัน เขาคลี่ยิ้มออกมา “ไม่อยากรู้จริงๆ เหรอ? ตอนที่ฉันอยากจะพูด เธอแน่ใจนะว่าจะไม่ฟัง? ครั้งหน้าไม่มีโอกาสแล้วนะ”
“ไม่ฟัง!! ” สาวน้อยส่ายหน้าในอ้อมอกของเขาอย่างรุนแรง “ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรฉันก็ไม่ฟังหรอก ฉันไม่ได้อยากรู้”
ล้อเล่นแล้ว วันนั้นสีหน้าของเขาดูทุกข์ทรมานขนาดนั้น แม้แต่เค้กเพียงก้อนเดียวยังทำให้เขาทุกข์ขนาดนั้น ถ้าเกิดว่าให้เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น เขาจะเป็นยังไง
เธอไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น ที่ต้องให้เขาเปิดบาดแผลในใจของตัวเองแล้วเล่าให้เธอฟัง
ดูสิ ฉันให้เธอดู นี่คือบาดแผลของฉัน
แค่คิดก็รู้สึกปวดใจแล้ว!
“เดิมทีฉันไม่ได้โกรธเรื่องนี้ เรื่องที่ฉันโกรธคือเรื่องที่คุณมีคู่หมั้นแล้ว ในเมื่อตอนนี้พูดออกมาแล้ว ฉันก็ไม่โกรธคุณแล้วล่ะ”
“และก็ไม่เลิกกันแล้วใช่ไหม? ”
“อืม”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้า “ไม่เลิกแล้ว”
“แล้วยังจะเอากระเป๋าตังค์กับบัตรประชาชนอยู่ไหม? ”
“ไม่เอาแล้ว”
“ถ้ายังงั้นวันนี้กลับไปกับฉันไหม? ”
เสี่ยวเหยียนตอบสนองอย่างรวดเร็วและเงยหน้าขึ้นมองเขา
ใครจะไปรู้ว่าตอนที่เงยหน้าขึ้นไป หานชิงก็จับคางของเธอไว้แล้วก็ก้มลงมาจูบเธอ ในตอนที่เธอกำลังตะลึงอยู่นั้น ลิ้นของเขาก็ดันเข้ามาในปากของเธอ
“อื้อ” เสี่ยวเหยียนมีเสียงออกมา แต่ว่าตอนนี้เธอไม่ได้ขัดขืนแล้ว หัวใจของเธออ่อนปวกเปียกเพราะคำพูดของหานชิง เธอก็ได้แต่กอดคอของเขาไว้แล้วก็รับรอยจูบจากเขา บางครั้งก็ตอบสนองไปบ้าง
และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านไปนานแค่ไหน หานชิงก็ถอยไป แล้วก็ถามเธอด้วยเสียงต่ำอีกครั้ง
“จะกลับไปกับฉันไหม? ”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้าอย่างงุนงง “อืม!