เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1477
บทที่1477ความเศร้าโศก
เหลียงหย่าเหอฟังออกในทันที ได้ถามอย่างค่อนข้างอึดอัด:“เซียวหยู่ เสียงของเธอเป็นอะไร?”
เสียงของตัวเองคืออดหลับอดนอนมาทั้งคืนจนแหบ หรือว่าตู้เซียวหยู่ก็เป็นเหมือนเธอ?
ตู้เซียวหยู่ที่อยู่ในสายถอนหายใจแรงๆทีนึง ก็ไม่ถือสาที่จะพูดตามตรงกับเธอ
“เมื่อคืนนอนไม่หลับ เสียงเลยเปลี่ยนไปนิดหน่อย เธอก็นอนไม่หลับเหมือนกันใช่มั้ย?”
ฝ่ายตรงข้ามตรงไปตรงมาและเปิดใจแล้ว เหลียงหย่าเหอก็ถอนหายใจตาม
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันกังวลจนไม่ได้นอนมาทั้งคืน เมื่อวานหลังจากไปดูดวงกลับมาฉันก็คิดซ้ายตรองขวา กังวลจะแย่อยู่แล้ว ฉันเลยรู้สึกว่าโทรคุยกับเธอดู เรื่องนี้อย่าเพิ่งบอกกับเด็กทั้งสองเลย เพราะความสัมพันธ์ของเขาสองคนดีๆกันอยู่ จู่ๆถ้าพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่พูดเรื่องนี้ จะต้องทำให้พวกเขาไม่พอใจแน่ๆ”
ตอนที่เหลียงหย่าเหอพูดเรื่องพวกนี้ ไม่มีความมั่นใจเลย เพราะฉะนั้นเลยยิ่งพูดยิ่งเสียงเบา“เซียวหยู่ ให้อภัยที่ฉันเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่ฉันรู้สึกตอนนี้เซียวซู่กับเสี่ยวไป๋ต่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ล้วนมีความคิดของตัวเองแน่นอน พวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ มากสุดก็แค่ปรึกษาหารือกับพวกเขาหน่อย ควบคุมความคิดของพวกเขาไม่ได้หรอก ถ้าพวกเขาอยากอยู่ด้วยกันจริงๆ และพวกเราที่เป็นพ่อแม่ถ้ากลายเป็นอุปสรรคขัดขวางพวกเขา เด็กสองคนจะต้องเสียใจมากเลย”
ทางฝั่งของตู้เซียวหยู่ไม่พูดจาสักที มีแค่เสียงหายใจเบาๆ เหลียงหย่าเหอค่อนข้างวิตกกังวล “ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่” ตู้เซียวหยู่ส่ายหัว เธอไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาทั้งคืน ตื่นเช้าก็โทรหาเสี่ยวไป๋ แต่ว่าตอนนี้เธอกลับมีอารมณ์อีกแบบนึง
คำพูดของเสี่ยวไป๋คอยสะท้อนอยู่ที่ข้างหูเธอ
“นั่นเป็นเพราะว่าแม่ไม่ฟังหนู ถ้าแม่ยอมฟังหนู ก็ไม่เกิดเรื่องแบบนี้แล้ว!”
“ก่อนหน้านั้นหนูไม่อยากมีแฟน แต่แม่บีบให้หนูมีแฟน บีบจนหนูไม่กล้ากลับบ้าน ต้องไปเช่าห้องอยู่ที่ข้างนอก ตอนนี้หนูมีแฟนแล้ว แม่ก็มาบีบบังคับให้หนูเลิกกับเขา แม่หวังดีกับหนูจริงๆเหรอคะ? ทำไมชีวิตของหนูต้องเป็นไปตามกฎที่แม่คิดไว้ด้วย? หนูไม่ใช่เด็กสักหน่อย หนูเป็นผู้ใหญ่ หนูอยากวางแผนเองไม่ได้เหรอคะ?”
“พวกนั้นล้วนเป็นคำพูดจากใจจริงของหนู หนูไม่อยากใช้ชีวิตที่ถูกแม่สร้างกฎเกณฑ์ไว้ ชีวิตของหนูๆจัดการเอง ไม่ว่าจะมีผลตามมายังไงหนูล้วนสามารถรับผิดชอบเอง”
ที่ผ่านมาลูกสาวเธอเป็นเด็กดีเชื่อฟัง เพราะเป็นลูกคนเดียว ดังนั้นเธออยากได้อะไรก็มีอะไร ตู้เซียวหยู่ไม่เคยปฏิบัติไม่ดีกับลูกสาวคนนี้เลย แต่ในขณะที่โอ๋และประคบประหงมเธอก็ติดนิสัย อยากสร้างเธอให้เป็นเหมือนที่ตัวเองอยากได้ อยากให้เธอใช้ชีวิตตามความคิดของตัวเอง
ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้เจียงเสี่ยวไป๋คัดค้าน ตู้เซียวหยู่ไม่เคยคิดจริงๆ เรื่องที่ตัวเองทำเหล่านั้น ไม่นึกเลยว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่ขนาดนี้กับเธอ
ใช่ ลูกสาวเธอโตแล้ว ไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว
ไม่ใช่หุ่นเชิดสักหน่อย จะปล่อยให้คนชักใยได้ยังไง?
เฮ้อ เสียดายที่เธอรู้ช้าไป
ถ้าเธอดึงสติกลับมาเร็วหน่อย บางทีก็อาจจะไม่พูดเรื่องนี้กับเธอแล้ว ตอนนี้เสี่ยวไป๋รู้แล้ว ส่วนเหลียงหย่าเหอเห็นได้ชัดว่าให้เกียรติเด็กมากกว่าเธอ และให้เกียรติเธอด้วย ทนมาทั้งคืนตอนนี้ถึงโทรมาปรึกษาเรื่องนี้กับเธอ
คิดถึงตรงนี้ ตู้เซียวหยู่รู้สึกละอายใจอย่างยิ่ง
“ขอโทษนะหย่าเหอ ตอนเช้าฉันได้บอกกับลูกสาวฉันไปแล้ว”
“อะไรนะ?” เหลียงหย่าเหอค่อนข้างแปลกใจ: “บอกไปแล้ว? บอกไปตอนไหน?”
“ก่อนที่เธอจะโทรศัพท์มาไม่นานนี้เอง”
จู่ๆเหลียงหย่าเหอเสียงหาย ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
“ฉันคงจะทำผิดไปแล้ว ขอโทษนะ”
สักพักใหญ่ๆเหลียงหย่าเหอถึงดึงสติกลับมา เธอพูดด้วยรอยยิ้ม: “ไม่เป็นไรๆ ยังไงซะก็คนเป็นพ่อแม่ เรื่องแบบนี้บอกกับลูกสาวก็สามารถเข้าใจได้ งั้นเอาอย่างนี้ ทางฉันก็ไม่บอกเซียวซู่แล้ว เสี่ยวไป๋จะรู้ก็รู้ไป ทั้งหมดก็ดูความคิดของเสี่ยวไป๋ ถ้าเสี่ยวไป๋ไม่ยอม งั้นเซียวซู่ก็ไม่ฝืนใจเสี่ยวไป๋หรอก”
ตู้เซียวหยู่ฟังแล้วค่อนข้างประหลาดใจ “เธอไม่รู้สึกแบบนี้ไม่ยุติธรรมกับเซียวซู่มากเลยเหรอ?”
“ลูกชายฉันกว่าจะมีแฟนไม่ใช่ง่ายๆ ฉันเชื่อสายตาเขา และเชื่อความสามารถในการจัดการเรื่องราวของเขา อีกอย่างเรื่องมากมายล้วนต้องอาศัยตัวเอง เป็นไปได้ยังไงที่จะให้ฟ้าเบื้องบนพูดแล้วเป็นใหญ่? ถ้าฟ้าให้เธอไม่มีอะไรทำ งั้นเธอก็จะไม่พยายามแล้วจริงๆเหรอ? ลูกชายฉันก็ไม่ใช่คนที่ยอมจำนนต่อโชคชะตา ไม่ถือสาพวกนี้แน่นอน”
หลังจากวางสาย ในใจของตู้เซียวหยู่สงบลงมาไม่ได้สักที
ความจริงใจของฝ่ายตรงข้ามเอาออกมาหมดแล้ว ต่อจากนี้ก็ดูแค่ว่าเสี่ยวไป๋จะคิดยังไงแล้ว
ตกดึกพอถึงเลิกงาน เซียวซู่กลับมาผลักประตูออก ก็รู้สึกบรรยากาศในบ้านดูเหมือนค่อนข้างผิดปกติ
ไฟของห้องรับแขกไม่ได้เปิด มืดสนิทไปทั่วทั้งห้อง เขาอึ้งไปครู่นึงจากนั้นได้เปิดไฟ จากนั้นก็เห็นบนโต๊ะมีขนมวางอยู่เยอะมาก ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋ใส่ชุดนอนหลับอยู่ที่โซฟา
เห็นภาพนี้ เซียวซู่อดขมวดคิ้วไม่ได้ เขาเปลี่ยนรองเท้าเสร็จก็ได้เดินไป
ยัยเด็กคนนี้ ทำไมไม่ไปนอนที่ห้อง ก็หลับคาที่โซฟาโดยตรงเลย ถึงแม้ในห้องมีเครื่องทำความร้อน แต่ยังไงซะก็ฤดูหนาว นอนอย่างนี้เป็นหวัดได้ง่ายมาก
ไม่นาน เซียวซู่ก็เดินไปอุ้มเจียงเสี่ยวไป๋ขึ้นมา เตรียมอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน
ใครจะไปรู้เซียวซู่เพิ่งอุ้มเธอขึ้นมา เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตื่นแล้ว เธอขยี้ตา ดวงตาค่อนข้างขมุกขมัว
“เอ่อ คุณกลับมาแล้วเหรอคะ?”
เซียวซู่ขยับจมูก เม้มริมฝีปากบางถามเธอ: “คุณดื่มเหล้า?”
“เปล่าค่ะ แค่ดื่มนิดเดียวเอง”
ระหว่างพูด เจียงเสี่ยวไป๋ตบมือของเขา “ปล่อยฉันลงมาค่ะ”
เซียวซู่กลัวเจียงเสี่ยวไป๋เมาเหล้า แต่ดูแววตาและน้ำเสียงของเธอ เหมือนยังมีสติอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยเธอลงมา แต่ได้พูด: “คุณง่วงแล้วไม่ใช่เหรอ? อย่านอนที่นี่ ผมอุ้มคุณไปที่ห้องนอน”
“ไม่ๆๆ” เจียงเสี่ยวไป๋ได้ปฏิเสธเขา “ฉันไม่ง่วง เมื่อกี๊ฉันแค่เผลอหลับไป คุณปล่อยฉันลงมา ฉันจะอยู่ที่นี่”
เซียวซู่วางเธอลงมา พอเจียงเสี่ยวไป๋แตะโดนโซฟาก็อ่อนยวบยาบลงมา กอดหมอนและชี้ที่นั่งข้างตัวเอง “มา มานั่งที่นี่”
เซียวซู่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเธอผิดสังเกต ก็เลยนั่งลงไปอย่างเงียบๆ
หลังจากนั่งลงมาก็รอเธอเปิดปากพูด แต่ผ่านไปตั้งนานเธอก็ไม่พูด เซียวซู่ก็ได้เงยหน้ามองไปที่เธอ: “เป็นอะไรไป? ทำไมอยู่ดีๆถึงดื่มเหล้า?”
“อยากดื่มก็ดื่มน่ะสิ แค่ดื่มเหล้าหน่อยคุณก็ต้องยุ่งด้วย? เซียวซู่ คุณคงไม่ใช่คิดว่าคุณเป็นแฟนของฉันแล้ว ก็จะสามารถยุ่งเรื่องของฉันได้มั้งคะ?”
เซียวซู่เม้มริมฝีปากบางและย้อนถาม: “ไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้!”
“ถ้าอย่างนั้นไม่ได้” เซียวซู่จับข้อมือเรียวขาวของเธอไว้ และกุมไว้ในฝ่ามืออบอุ่นของตัวเอง “เรื่องบางเรื่องผมต้องยุ่ง อย่างเช่นเรื่องที่คุณนอนที่โซฟา ถ้าผมไม่ยุ่ง คุณเป็นหวัดจะทำยังไง? และเรื่องที่คุณดื่มเหล้าไปมั่ว ผมไม่อยู่บ้าน ถ้าคุณเกิดเรื่องจะทำยังไง?”
เดิมทีเจียงเสี่ยวไป๋ควบคุมอารมณ์ไว้ดีๆ จู่ๆได้ยินเซียวซู่พูดแบบนี้ ในใจมีความเศร้าโศกที่เข้มข้นโผล่ออกมา