เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1610
บทที่1610 เพื่อนที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก
สุดท้ายทุกคนก็เคารพการตัดสินใจของถางหยวนหยวน
เพราะว่าช่วงบ่ายจะต้องเข้าเรียน จึงนั่งอยู่สักพัก ถางหยวนหยวนก็ต้องกลับไป แน่นอนว่ายู่ฉือยี่ซูจะต้องเป็นตัวเลือกแรกที่จะไปส่งเธออยู่แล้ว
จงฉู่เฟิงไม่ยอมปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ไป
“ให้ฉันไปส่งเธอเถอะ”
ตอนที่ถางหยวนหยวนดื่มน้ำอยู่ จงฉู่เฟิงก็ได้ดึงยู่ฉือยี่ซูไปอีกด้านนึง พร้อมพูดกับเขาออกไป
ได้ยินอย่างนั้น ยู่ฉือยี่ซูก็กวาดสายตามองเขาไปนิ่งๆ
“โอกาสที่หาได้ยากเชียวนะ เด็กน้อยใกล้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ปีที่แล้วน้องรับปากว่าให้พี่อยู่เป็นเพื่อนน้องให้มากๆ แต่มาวันนี้เด็กน้อยกลับลดความอ้วนขึ้นมา ก็ไม่ยอมเจอพี่เสียแล้ว”
พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา สายตาของยู่ฉือยี่ซูเยือกเย็นออกมาเล็กน้อย บรรยากาศโดยรอบเย็นยะเยือกขึ้นมา
“ทำไมเธอถึงลดความอ้วน นายก็รู้อยู่แก่ใจ?”
จงฉู่เฟิงนิ่งค้างไป
ไม่รอให้เขาได้มีการตอบสนองออกมา ยู่ฉือยี่ซูก็ได้เดินผ่านร่างเขาออกไปเสียแล้ว เขาผู้ที่มีร่างสูงโปร่งได้ก้มตัวลงยกกล่องทั้งสองแทนถางหยวนหยวน “ไปกัน”
น้ำของถางหยวนหยวนเพิ่งจะดื่มเสร็จไป เห็นยู่ฉือยี่ซูถือของขวัญขึ้นมา ก็รีบวางแก้วลงเดินเข้าไปทางเขา
ต่อมา ยู่ฉือยี่ซูก็ได้ย่อตัวลง “ขึ้นมา”
“หา?” ถางหยวนหยวนไม่มีการตอบสนองอะไรออกไป “พี่ชาย?”
“ตอนมาไม่เหนื่อย? จะแบกเธอกลับไปเอง”
“ไม่ ไม่ต้องค่ะ” ถางหยวนหยวนหน้าแดงออกมาทันที ต่อหน้าคนอายุมากกว่า เธอไม่กล้าปีนขึ้นหลังยู่ฉือยี่ซูซี้ซั้วหรอก อีกอย่างที่นี่ก็เป็นโรงเรียนของเขา ถ้าให้คนอื่นเห็นเข้า มันก็น่าอายแย่
“โอ้~~”
นอกจากจงฉู่เฟิงแล้ว รูมเมทอีกสองคนที่เหลือก็อดไม่ได้ที่จะโห่ร้องเสียงสูงกันออกมา
หน้าของถางหยวนหยวนฝาดแดงออกมาเสียยิ่งกว่าเดิม
เธอเอามือไปดึงชายเสื้อของยู่ฉือยี่ซูเอาไว้ “พี่ชาย พวกเราเดินกันไปเถอะ”
“นี่น้องสาวอาย? วางใจเถอะ พวกเราไม่ล้อน้องหรอก ก็แค่ไม่เคยเห็นพี่ซูมีท่าทางอ่อนโยนอย่างนี้มาก่อน ก็เลยอดใจไม่ไหวนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
ยู่ฉือยี่ซูเดิมทีก็อยากแบกหญิงสาวออกไป เพราะถึงยังไงเธอก็มาที่นี่คนเดียวตอนกลางวันแสกๆ ตอนนี้จะต้องทั้งเหนื่อยทั้งกระหายแน่ๆ น้ำก็ดื่มไปแล้ว แต่จะให้เธอเดินไปเอง ก็รู้สึกสงสาร
คงเป็นเพราะคอยพะเน้าพะนอเธอมาตั้งแต่เล็กจนโตจนเคยชินไปแล้ว
“ไปกันเถอะ”
ยู่ฉือยี่ซูก้าวเท้าออกไป ถางหยวนหยวนจับชายเสื้อของเขาเหมือนกับหางน้อยๆที่ออกมาจากทางข้างหลัง
ก่อนที่จะออกไปหน้าประตู ถางหยวนหยวนก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ หันกลับไปเหลือบมองอีกหลายคนที่เหลือ
“แล้วเจอกันนะคะพวกพี่ๆ ฉันไปก่อนนะคะ”
“เดินทางปลอดภัยนะน้องสาว แล้วเจอกัน”
รอจนถางหยวนหยวนออกไป รูมเมททั้งสองคนของยู่ฉือยี่ซูก็มองหน้ากัน จากนั้นก็เอามือขึ้นมาจับเอาไว้ที่คาง
“เยสเข้ น้องสาวพี่ซูน่ารักเป็นบ้าเลย มองดูก็รู้ว่าเป็นเด็กน่ารักคนนึง”
“พูดอะไร?” จงฉู่เฟิงพูดแทรกเข้ามา เอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “พวกนายห้ามคิดอะไรกับเธอ”
“จงฉู่เฟิง นี่มันหมายความว่าไง?”
รูมเมททั้งสองคนหรี่ตามองสำรวจจงฉู่เฟิง “นายคงไม่คิดอะไรกับผู้หญิงของคนอื่นเขาหรอกมั้ง? แม่งเอ๊ย นายนี่มันเลวเสียยิ่งกว่าสัตว์อีกเหรอเนี่ย?”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว จงฉู่เฟิงก็มีสีหน้ามืดครึ้มออกมา “ฉันไปเลวเสียยิ่งกว่าสัตว์ที่ไหน?”
“นึกไม่ถึงว่านายจะชอบสาวน้อยของคนอื่น สาวน้อยคนนั้นดูไปแล้วคงเป็นเด็กม.ต้นล่ะมั้ง! นายมันเกินไปแล้วนะจงฉู่เฟิง!”
“ใช่! นึกไม่ถึงว่าขนาดเด็กม.ต้นนายก็คิดจะลงมือได้!”
ทั้งสองมองจงฉู่เฟิงไปอย่างชิงชัง
จงฉู่เฟิงหมดคำพูดจริงๆ แต่ได้ยินพวกเขาชมถางหยวนหยวนก็รู้สึกมีความสุข ความรู้สึกทั้งสองมันขัดแย้งกันมาก ทำได้เพียงตีหน้าขรึมอธิบายออกไป
“ใครบอกพวกนายว่าเธอเป็นเด็กม.ต้น? เธออยู่ม.ปลายแล้ว ปีใหม่นี้ก็บรรลุนิติภาวะแล้ว?”
“อะไรนะ?” ทั้งสองคนแปลกใจกันเล็กน้อย “จะบรรลุนิติภาวะแล้ว? เร็วขนาดนั้นเลย? แต่เธอดูเด็กมากเลยนะ”
จงฉู่เฟิงเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ “นั่นเป็นเพราะว่าคนเขาหน้าตาน่ารักไง”
“ชิส์ นายกำลังดีใจอะไรอยู่ หน้าตาจะน่ารักแค่ไหน ก็ไม่ใช่น้องนายสักหน่อย นั่นเป็นน้องของพี่ซูต่างหาก”
“ตอนนี้ไม่ใช่ หลังจากนี้ก็ไม่แน่”
จงฉู่เฟิงมีความมั่นใจอย่างมาก อีกทั้งเขาก็มีความปรารถนาต่อตัวถางหยวนหยวนเช่นกัน หลายปีมานี้ เธอไม่เคยคิดที่จะไปชอบผู้หญิงคนอื่นเลย เอาแต่เฝ้ารอถางหยวนหยวนโตอยู่อย่างเดียว
อีกทั้งสิ่งที่มันบ้าบอคอแตกในตอนนี้เลยก็คือ เขาคิดว่านอกจากหยวนหยวนแล้ว ผู้หญิงคนอื่นไม่สวยเลย แต่ทำไมหยวนหยวนถึงได้น่ารักขนาดนั้นกัน ไม่ว่าจะมองยังไงก็ชอบไปหมด
“ยังจะมาบอกว่าหลังจากนี้ไม่แน่อีกนะ ดูเหมือนว่านายจะหลงสาวน้อยของคนอื่นเขาเข้าจริงๆเสียแล้ว พี่ซูว่าไง ยอมให้นายจีบน้องสาวของเขาหรือเปล่า?”
จงฉู่เฟิงแข็งค้างไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ก็เคยเห็นด้วยอยู่ แต่ตอนนี้จงฉู่เฟิงกลับรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก เพราะถึงยังไงคำพูดนั้นที่ยู่ฉือยี่ซูพูดกับเขาเมื่อกี้นี้ ก็ยังทำให้ภายในใจของจงฉู่เฟิงอยู่ไม่สุขขึ้นมา เขาก็ต้องโทษตัวเองเหมือนกัน เพราะถึงยังไงเรื่องที่หยวนหยวนต้องกลายมาเป็นอย่างนี้ไปเขาเองก็มีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
คิดมาถึงตรงนี้ จงฉู่เฟิงก็เบ้ปากเอ่ยออกไป “ไม่ยอมฉันก็จะจีบ ถึงยังไงก็ไม่ได้เป็นพี่ชายแท้ๆกันอยู่แล้ว”
“อะไรนะ?”
รูมเมททั้งสองคนตื่นตะลึงกันออกมาเล็กน้อย “ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ?”
“อืม” จงฉู่เฟิงพยักหน้า พร้อมพูดอธิบายออกไป “ทั้งสองคนโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ก็แค่เรียกกันว่าพี่ชายน้องสาวเท่านั้นเอง”
“เหี้ยยยย นึกไม่ถึงว่าจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ ก็แค่โตมาด้วยกัน?”
“ใช่แล้ว”
“จงฉู่เฟิง เพื่อนเอ๋ย งั้นนายก็แย่แล้วล่ะ”
จงฉู่เฟิง “?”
สองคนนี้หมายความว่าไง? จงฉู่เฟิงมองพวกเขาอย่างไม่เข้าใจ
บนใบหน้าของรูมเมททั้งสองคนเผยสีหน้าที่ทั้งเสียใจและเสียดายออกมา ไม่สิ คงจะเป็นสีหน้าเห็นอกเห็นใจเขามากกว่า “เพื่อนรัก ไม่ใช่ว่าพวกเราจะอยากทำร้ายจิตใจนายหรอกนะ แต่นายคงไม่มีโอกาสแล้วล่ะ”
“ใช่แล้วเพื่อน คนเขาเป็นเพื่อนเล่นที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก โตมาด้วยกัน นายคิดว่านายจะไปมีโอกาสอะไรอีก?”
จงฉู่เฟิง “โตมาด้วยกันแล้วมันจะยังไง? พวกเขามีจิตใจที่บริสุทธิ์ต่อกัน”
“บริสุทธิ์? นั่นคงเป็นเพราะว่านายมองเห็นแบบผิวเผินไง ไม่เห็นผู้หญิงเขาให้ความวางใจต่อพี่ซูหรือไง? เพียงแค่ตรงจุดนี้ นายก็คงต้องแพ้แล้ว”
“วางใจแล้วยังไง วางใจก็ไม่ได้ชอบเสียหน่อย”
“ตอนนี้ไม่ชอบ หลังจากนั้นล่ะ?”
จู่ๆจงฉู่เฟิงก็ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาเม้มริมฝีปากมองรูมเมททั้งสองคน
“ตอนนี้สาวน้อยเขาดูไม่คิดอะไร แต่หลังจากนี้ล่ะ? รอหลังจากที่เธอได้รู้ว่าอะไรคือชอบแล้ว นายคิดว่านายจะสู้พี่ซูได้?”
หัวใจของจงฉู่เฟิงจมดิ่งลงไป
ถูกต้องแล้ว ทางด้านความสามารถและหน้าตา จงฉู่เฟิงนั้นเทียบไม่ได้กับยู่ฉือยี่ซู ไม่ว่าจะเป็นตรงไหนก็เทียบไม่ได้เลย แต่ความรู้สึกถ้าต้องพึ่งการเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ดีกว่าแล้ว อย่างนั้นแล้วคนบนโลกนี้คงไม่เจอคนที่ใจตรงกันหรอก
อันที่จริงก็มีคนที่เพอร์เฟคอยู่ตลอดอยู่แล้ว แต่การชอบพอกันทั้งสองฝ่ายนั้นมันก็ยาก
“เพื่อนรัก รู้ตอนนี้ก็ยังไม่นับว่าสายเกินไปนะ เปิดใจให้กว้างสักหน่อย เปลี่ยนคนเสียเถอะ”
“ใช่ ถึงแม้ว่าจะไม่เปลี่ยนนายก็อย่าเอาความคิดไปหยุดอยู่ที่เธอเสียหมด มองคนอื่นเสียบ้าง ยังมีคนสวยอีกเยอะ”
สวย?
จงฉู่เฟิงมองพวกเขาไปอย่างหมดคำพูด พูดทิ้งเอาไว้หนึ่งประโยค “พวกนายมันจะไปเข้าใจอะไร? ฉันชอบเธอไม่ได้ดูกันที่หน้าตาสักหน่อย”
หลังจากที่พูดจบก็ผันร่างเดินออกไปจากห้อง
รูมเมททั้งสองคนหันมามองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก
“นี่โกรธแล้วใช่มั้ยเนี่ย?”
“เหมือนจะใช่นะ”
“แต่พวกเราเหมือนจะไม่ได้พูดอะไรผิดเลยนะ เตือนเขาไปด้วยความหวังดีเท่านั้นเอง”
“ใครจะไปรู้กันล่ะ คงจะชอบจริงๆล่ะมั้ง”
“แค่เด็กคนเดียว เขาคิดจริงจัง?”
“จะไปรู้เรอะ”