เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1653
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1653 ชิงช้าสวรรค์
ตอนแรกเธอยังอยู่บนม้าหมุนดีๆอยู่ พอลงมาแล้วกลับพุ่งเข้ามาถามยู่ฉือยี่ซูอย่างโมโห
“ทำไมเหรอ?”
ถางหยวนหยวนเบะปาก พูดอย่างโมโหว่า: “พี่บอกว่า ในสายตาพี่ฉันเป็นเด็กน้อยตลอด”
“อืม ทำไมเหรอ?” ยู่ฉือยี่ซูไม่รู้ว่าคำนี้มีปัญหาเลย ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่าถางหยวนหยวนโมโหตัวเองเรื่องอะไร
“พี่ลืมไปแล้วเหรอ ก่อนหน้านั้นที่เคยตกลงอะไรกับฉันไว้น่ะ?”
“อืม?”
ถางหยวนหยวนอยากพูดเรื่องนี้ แต่ก็ไม่กล้าพูดให้มันชัดเจน เพราะยังไงอายุก็พึ่งเท่านี้ เธอยังไร้เดียงสาอยู่มาก แม้ต่อมาจะรู้เรื่องความรักแล้วบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกเขินอายอยู่ดี
เธอจ้องมองยู่ฉือยี่ซู ไม่ได้พูดอะไร
“เรื่องอะไร? เธอรีบพูดสิ”
ยู่ฉือยี่ซูก็ดีดหน้าผากสาวน้อยดังเปาะ “ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ?”
ถางหยวนหยวนพอถูกแตะแบบนี้ รู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก เธอเงยหน้าขึ้นมาพูดว่า: “พี่ลืมไปแล้วเหรอ งั้นฉันพูดอีกจะมีความหมายอะไรล่ะ?”
พูดจบ สาวน้อยก็กลับหลังหันเดินหนี แต่กลับถูกยู่ฉือยี่ซูคว้าข้อมือไว้
“ทำไมถึงไม่มีความหมายแล้วล่ะ? และฉันลืมอะไรเหรอ? คำสัญญาของฉันทำได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
พูดถึงตรงนี้ ยู่ฉือยี่ซูก็หยุดพูด และเสียงเบาลงมาก
“ตอนนี้ฉันก็ยังโสดอยู่ ถ้าจำไม่ผิดละก็ ตามคำขอของเธอ ก็คือก่อนที่เธอจะโต พี่จะมีแฟนไม่ได้ไม่ใช่เหรอ?”
ได้ยินดังนั้น ถางหยวนหยวนอึ้ง
เหมือนตอนนั้นจะพูดกันแบบนี้จริง เธอคิดว่าพี่สาวคนสวยคนนั้นเป็นแฟนของพี่ชาย ตอนนั้นก็เลยไม่ยอมให้พี่ชายหาแฟน ส่วนเรื่องที่ก่อนที่เธอจะโตห้ามมีแฟน แบบนี้ก็ยุติธรรมกับเธอหน่อย
เหมือนจะยังไม่ลืมสินะ
“ใช่ไหม?” เห็นเธอเงียบอยู่นาน ยู่ฉือยี่ซูก็ไล่ถามต่อ
ถางหยวนหยวนพยักหน้าอย่างเขินอาย
“ดังนั้นเธอบอกว่าพี่ลืมแล้ว หมายความว่ายังไงกัน? อธิบายได้ไหม? หืม?”
เงียบอยู่นานสองนาน ถางหยวนหยวนก็เงยหน้าขึ้นถาม: “เมื่อกี้พี่บอกว่า ในสายตาพี่ หยวนหยวนเป็นเด็กตลอด หมายความว่าหยวนหยวนจะไม่มีโอกาสแล้วใช่ไหม?”
ถามหน่อย ใครจะมาชอบเด็กคนหนึ่งกัน?
อาจจะแค่ชอบ แต่ชอบเด็กก็คงไม่ใช่ความชอบแบบนั้นแน่ ดังนั้นถางหยวนหยวนเลยรู้สึกอึดอัดใจ
“เพราะคำนี้เหรอ?”
“ก็เพราะคำนี้แหละ? พี่คิดว่าคำพูดนี้ยังไม่พอเหรอ?”
“ทำไมเหรอ? พี่เอ็นดูเธอเหมือนเด็กน้อยไม่ได้เหรอ?” ยู่ฉือยี่ซูยื่นมือไปอย่างเหนื่อยใจ อยากจะลูบหัวเธอ พึ่งจับหัวเธอ ก็เห็นทรงผมของเธอในวันนี้ ถ้าลูบแรงละก็อาจจะทำให้ทรงผมยุ่งได้ จึงต้องเอามือลง และลูบผมยาวสลวยของเธอแทน
“และใครบอกว่าเธอไม่มีโอกาสล่ะ?”
คำพูดสุดท้าย ถางหยวนหยวนเบิกตาโพลงโต ยังอยากจะพูดอะไร แต่กลับถูกยู่ฉือยี่ซูจับมือไปที่อื่นแทน “ไปเถอะ ไปเล่นเครื่องเล่นต่อไปกัน”
ถางหยวนหยวนขมวดคิ้ว กัดปากตัวเองอย่างช่วยไม่ได้
พี่หมายความว่าอะไรอีกนะ? ทั้งที่บอกแล้ว แต่ก็ไม่ให้เธอพูดตอบ
“เครื่องเล่นต่อไปอยากเล่นอะไร?”
ถางหยวนหยวนดูไปดูมา ไม่มีอะไรอยากเล่นเลยจริงๆ แต่พี่ชายบอกว่าวันนี้จะพาเธอเล่นทั้งวัน เธอคิดไปคิดมาแล้ว กำลังจะพูด
“ไปเล่นชิงช้าสวรรค์ไหม?”
ได้ยินดังนี้ สีหน้าถางหยวนหยวนซีดไปทันที และส่ายหน้าอย่างเร็ว
“ไปเถอะ ฉันไปซื้อตั๋วเอง”
เธอยังไม่ทันอนุญาตเลยก็ไม่ซื้อตั๋วอีกแล้ว ถางหยวนหยวนยืนอยู่กับที่โดยที่ทำอะไรไม่ได้ เพราะครั้งก่อนนั่งชิงช้าสวรรค์คนเดียว เสียใจอยู่ข้างบนคนเดียว
เธอมาสวนสนุกก็รับไม่ได้แล้ว อย่าว่าแต่ต้องขึ้นไปเล่นชิงช้าสวรรค์เลย
อีกอย่าง พี่ชายก็ไม่ยอมขึ้นไปนั่งกับตัวเองอีก เธอเลยต้องนั่งคนเดียว……
กำลังคิดอะไรเพลินๆ ยู่ฉือยี่ซูก็กลับมาแล้ว ในมือมีตั๋วสองใบ
“ไปเถอะ”
ถางหยวนหยวนมองดูตั๋วสองใบ รู้สึกแปลกใจมาก
“พี่คะ พี่จะขึ้นไปเล่นกับฉันเหรอ?”
“ไม่ได้เหรอ?”
ถางหยวนหยวนส่ายหน้า: “ได้สิ ฉันแค่ไม่คิดว่าพี่จะขึ้นไปเล่นกับฉันด้วย”
“ม้าหมุนด้านบนมีแต่เด็ก ฉันขึ้นไปไม่สะดวกน่ะ ชิงช้าสวรรค์ไม่เหมือนกัน ข้างบนเรานั่งได้หมดเลย ไปยื่นตั๋วข้างหน้ากัน ไปเถอะ”
มียู่ฉือยี่ซูเล่นด้วยแล้ว ถางหยวนหยวนก็รู้สึกว่าปมในใจหายไปทันที
อย่างน้อยครั้งนี้ เธอก็ไม่ต้องอยู่ข้างบนคนเดียวมองดูคนที่ตัวเองชอบอยู่กับคนอื่นอีกแล้ว
พอยื่นตั๋วแล้ว ทั้งสองก็ขึ้นชิงช้าสวรรค์ไปด้วยกัน
ชิงช้าสวรรค์มีผู้ใหญ่มากมายที่พาเด็กขึ้นไปเล่น และมีคู่รักด้วย คู่รักจะเยอะกว่าอีก ต่อแถวอยู่ข้างหน้าข้างหลังยู่ฉือยี่ซูกับถางหยวนหยวนก็คือคู่รักสองคู่
พอขึ้นชิงช้าสวรรค์แล้ว ถางหยวนหยวนก็นั่งไปอย่างตื่นเต้น ยู่ฉือยี่ซูเห็นว่าฝ่ามือเธอมีเหงื่อออก รู้สึกสงสารเธอจับใจ เขาจับมือเธอไว้แน่น และถามว่า
“ตื่นเต้นเหรอ?”
“ไม่ ไม่ค่ะ”
ที่จริงเธอไม่ได้ตื่นเต้นหรอก ครั้งแรกตอนที่เธอขึ้นมา เธอขึ้นมานั่งอย่ามึนงง จนกระทั่งนั่งเสร็จแล้วก็เดินออกไป
ชิงช้าสวรรค์เริ่มขยับ ยู่ฉือยี่ซูเพื่อทำให้สาวน้อยหายตื่นเต้น ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ถ่ายรูปไหม? พี่ช่วยเธอถ่ายเอาไหม?”
ถางหยวนหยวนพยักหน้า: “ได้สิ”
จากนั้นยู่ฉือยี่ซูก็เปิดกล้องและกดถ่ายรูปให้เธอ สีหน้าและท่าทางของถางหยวนหยวนดูจะไม่เหม่อลอย ถ่ายไปหลายรูปก็ไม่พอใจ ลบแล้วถ่ายใหม่ไปเรื่อยๆ
จากนั้นสาวน้อยก็พูดขึ้นว่า: “พี่คะ พวกเราถ่ายด้วยกันหนึ่งรูปไหม?”
“อืม”
จากนั้นถางหยวนหยวนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ใช้ของฉันดีกว่า”
จากนั้นเธอก็เปิดแอปกล้องที่ช่วงนี้กำลังฮิตกันอยู่ ได้ยินว่ากล้องนี้จะทำให้หน้าคนสวยได้ และยังปรับแต่งให้เราอัตโนมัติอีก เธอเห็นคนใช้ก็เลยดาวน์โหลดไว้ ยังไม่เคยใช้เลย
วันนี้ก็ลองหน่อยแล้วกัน
เห็นเธอเปิดแอปสีชมพู ยู่ฉือยี่ซูก็หรี่ตาถาม “นี่อะไรเหรอ?”
“อืม เป็นแอปถ่ายรูปค่ะ”
ถางหยวนหยวนเปิดฟิลเตอร์ ด้านในมีรูปน่ารักมากมายให้เลือก พอกดเลือกแล้ว ใบหน้าบนจอของทั้งสองก็จะมีหูแมวน่ารักขึ้นมา ข้างๆยังมีหนวดอีก
ท่าทางของทั้งสองดูน่ารักขึ้นมาทันทีเลย
“ว้าว เป็นแบบนี้เองเหรอ” ถางหยวนหยวนตกใจ ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้น ขนาดยู่ฉือยี่ซูยังแปลกใจเลย
“น่ารักดีนะ”
ทั้งสองถ่ายอยู่หลายรูป จากนั้นก็เลือกที่แปลกที่สุด หรือฟิลเตอร์ที่เป็นโบราณ ทั้งสองถ่ายเยอะมาก
ไม่รู้ตัว ชิงช้าสวรรค์ก็ไปถึงจุดสูงสุด
ยู่ฉือยี่ซูสายตาลึกซึ้ง และพูดกับถางหยวนหยวน
“อยากรู้ไหมว่าในตอนที่ชิงช้าสวรรค์ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดหลับตาแล้วจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ถางหยวนหยวนงง หันหน้าไปก็ได้ยินยู่ฉือยี่ซูพูดต่อว่า: “ยัยเด็กน้อย หลับตาสิ”
ยู่ฉือยี่ซูในตอนนี้สายเปล่งประกาย ส่องสว่างกว่าดวงดาวบนท้องฟ้าอีก เสียงโทนต่ำของเขามีเสน่ห์อย่างมาก ถางหยวนหยวนก็หลับตาตามที่เขาบอก