เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 305
บทที่ 305 ฉันจะพาเธอไปส่งที่ข้างกายเขา
เสิ่นเฉียว: “..ไม่ได้! ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ได้! คุณ บาดเจ็บขนาดนี้ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
ถ้าเธอไปตอนนี้ หรือว่าขอให้เย่หลิ่นหานไปส่ง เธอที่งานเลี้ยง เธอคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต!
และเธอก็ไม่คิดที่จะเป็นคนไม่มีคุณธรรมและไม่มี เมตตา!
“คนโง่” เย่หลิ่นหานพูดกับเธอเบา ๆ อดไม่ได้ที่ จะยิ้มบางๆ ให้เธอเล็กน้อย: “เธอชอบเขามากไม่ใช่เห รอ? พี่ใหญ่ช่วยเธออยู่นะ”
ไม่!” เสิ่นเฉียวส่ายหน้าอย่างสุดแรง รอยยิ้มที่ ขมขึ้นและไม่เห็นคุณค่าตัวเองของเย่หลิ่นหาน ทำร้าย และทำให้เธอแสบจมูกในคราวเดียว หลังจากสายหัว น้ำตาของเธอก็ร่วงลงทันที: “ฉันไม่ต้องการให้พี่ใหญ่ทำ แบบนี้ พี่ใหญ่แค่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลให้หายดีก็ พอแล้ว!”
“พี่ใหญ่ไม่ได้บอกเหรอ? ฉันไม่เป็นไร พวกนั้น เป็นแค่แผลบาดแผลภายนอก แค่พันแผลก็พอ ไปกัน เถอะ ถ้าเธอไม่ไปมันก็อาจจะสายไปจริง ๆ แล้ว”
ไม่ ไม่เอา!” เสิ่นเฉียวกัดปากอย่างแรง หยาด น้ำตาร่วงลงติ้ง ๆ : “ฉันไม่ต้องการ พี่ใหญ่ คุณเข้าใจ ไหม? ถ้าจะไป ฉันก็จะไปเอง ฉันจะไม่ให้พี่ใหญ่ไปส่ง
ฉันอีกแล้ว! ฉันไม่อยากทำร้ายพี่ใหญ่อีกแล้ว”
หลังจากพูดจบ เธอก็ยังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เล็ก น้อย
ก่อนหน้านี้เธอสงสัยมาตลอดว่าเย่หลิ่นหานมีจุด ประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์ แต่ตอนนี้ เธอตระหนักแล้วว่า ตนเองเป็นคนที่น่ารังเกียจ ผู้อื่นปฏิบัติต่อเธออย่างดี แต่ เธอมักจะสงสัยคนอื่นเสมอและคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดี
ตอนนี้ เขาบาดเจ็บมากขนาดนี้แต่ก็ยังยืนยันที่ จะไปส่งเธอที่งาน
พยาบาลสาวอยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้ คงเพราะเธอ ยังเด็ก เลยถูกทำให้ตื้นตันใจจนน้ำตาไหลเป็นระยะ ๆ ช่างตื้นตันใจจริง ๆ เดิมที่เธอคิดว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกัน แต่เธอคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะไม่ใช่…
ถึงไม่ใช่แต่ก็ไม่เชิง เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้กำลัง ช่วยผู้หญิงคนนี้ให้ไปกับผู้ชายคนอื่น มันน่าประทับใจ จริงๆ!
ต้องส่งผู้หญิงที่รักให้กับผู้ชายคนอื่น เรื่องแบบนี้ ต้องใช้ความกล้ามากแค่ไหนกัน?
“ไม่ต้องร้องแล้ว” เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นมันทำ ให้เย่หลิ่นหานขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว เขาคิดเรื่องนี้แทน เธอแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะปฏิเสธข้อเสนอของเขา
“ถ้าเธอยังร้องต่ออีก ก็จะเสียเวลานะ ไปเถอะ ฉัน ส่งเธอไปที่งาน จากนั้นฉันค่อยกลับมาพักรักษาตัวที่โรง พยาบาล เป็นไง?”
เสิ่นเฉียวก็ยังคงส่ายหน้าอย่างสุดแรง ผลคือในวินาทีถัดมาเย่หลิ่นหานจับข้อมือของเธออย่างแรงแล้ว ดึงเธอเดินออกไปข้างนอก ใบหน้าของเสิ่นเฉียวขาวซีด แล้วตอบสนองอย่างกะทันหัน: “พี่ใหญ่ ฉันไม่อยากไป คุณปล่อยฉันไป ฉันไปเองได้ คุณปล่อยฉันไป!”
พยาบาลสาวอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้
ถึงแม้เย่หลิ่นหานจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็เป็นผู้ชาย คนหนึ่ง เขายังมีเรี่ยวแรงเยอะมาก เสิ่นเฉียวขัดขืนเขา ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเขาได้รับบาดเจ็บอยู่จึงไม่กล้าขยับ มาก ทำได้เพียงยอมถูกเขาดึงให้เดินไปข้างหน้า
แม้ว่าเขาจะดึงเธอเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไร แต่ เสิ่นเฉียวก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจังหวะก้าวเดินของเย่ หลิ่นหานในตอนนี้ไม่มั่นคงเท่าเมื่อก่อน เขาต้องได้รับ บาดเจ็บสาหัสมากกว่าที่เธอคิดและสิ่งที่พยาบาลบอก กับเธอก่อนหน้านี้ทำให้เธอยิ่งเชื่อมากขึ้นว่าที่เย่หลี่ นหานสามารถคงท่าทางของเขาในตอนนี้ไว้ได้ จะต้อง เป็นเพราะเขาฝืนทำเป็นเข้มแข็งอย่างแน่นอน
ถ้าเธอไม่หยุดเขาล่ะก็ ร่างกายของเขาจะทนไหว ได้อย่างไร? แม้ว่าจะฝืนทนเอาไว้ได้ เดิมที่ร่างกายทน ไม่ไหวแต่ก็เป็นเพราะความตั้งใจที่จะฝืนของเขา
“พี่ใหญ่ คุณรีบหยุดเถอะ ฉันมีเรื่องที่จะต้องพูด กับคุณ พี่ใหญ่..เย่หลิ่นหาน!”
เส้นเฉียวโกรธจนเรียกชื่อเขาออกมา!
ลมหายใจของเย่หลิ่นหานไม่สม่ำเสมอ แต่ก้าว ของเขาหยุดลงจริง ๆ เขาหันศีรษะแล้วมองเสิ่นเฉียวด้วยความเศร้าแวบหนึ่ง
เสิ่นเฉียวก็หายใจหอบ ที่หางตาของเธอมีน้ำตา ไหล: “คุณฟังฉันพูดนะ ฉันรู้ว่าพี่ใหญ่ทำเพื่อฉัน ฉัน สามารถนั่งรถไปเองได้ พี่ใหญ่กลับไปในห้องแล้วพัก ผ่อนดูแลอาการบาดเจ็บดี ๆ ไม่อย่างนั้น ฉันก็จะไม่ไป แล้ว ดีไหม? ”
พอพูดถึงตรงนี้เสิ่นเฉียวก็ยิ้มแล้วพูดกับเย่หลิ่ นหานว่า: “ไม่ได้ไปหาโม่เซินที่นั่นก็ไม่เป็นไร อย่างไร ฉันกับเขาก็เป็นสามีภรรยากัน ฉันสามารถอธิบายเรื่องนี้ กับเขาทีหลังได้ พี่ใหญ่! ฉันไม่ไปแล้ว ฉันจะกลับห้อง พักฟื้นเป็นเพื่อนคุณ”
เธออยากจะดึงเย่หลิ่นหานให้กลับไป แต่ร่างของ เย่หลิ่นหานก็หยุดนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ ไม่ว่าเธอจะดึง อย่างไรก็ไม่ขยับ
จนในที่สุดเสิ่นเฉียวก็ทนไม่ไหวแล้วร้องไห้ออก มา
“เย่หลิ่นหาน ฉันไม่ได้อยากให้คุณทำเพื่อฉัน มากมายขนาดนี้คุณอย่าทำแบบนี้ได้ไหม? กลับไปพัก รักษาตัวที่ห้องกับฉันเถอะ ถ้าเกิดคุณล้มไปอีก ฉันคงไม่ สบายใจไปตลอดชีวิต”
สายตาของเย่หลิ่นหานจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง และหัวเราะอย่างขมขื่นอยู่พักใหญ่: “มีอะไรให้ไม่ สบายใจกัน? ฉันไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ฉันแค่หวังว่าเธอจะมีความสุขอีกนิดและพอใจมากขึ้น”
“ไปกันเถอะ รีบไปตอนที่งานเลี้ยงยังไม่จบ ให้ฉัน วางใจพาเธอไปส่งที่ประตูงานเลี้ยง ส่งเธอให้ถึงข้าง กายเขา”
“รีบไปเถอะ ถ้ายังล่าช้าต่อไปอาจจะไม่มีเวลา แล้ว ถึงตอนนั้น ถ้าฉันเสียเวลาอยู่กับเธอที่นี่ เธอก็จะ ไม่ได้เจอโม่เซินที่นั่น”
เสิ่นเฉียวยืนนิ่ง เธอก้าวไม่ออกอยู่ครึ่งนาที เธอ ไม่สามารถทำเรื่องที่โหดร้ายแบบนี้ได้
“เฉียวเฉียว สิ่งเหล่านี้เป็นความสมัครใจฉันเอง ฉันให้ความสุขเธอไม่ได้ ก็ขอให้ฉันทำอะไรแทนเธอ หน่อยเถอะ? และสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนี้ ก็คือส่ง เธอกลับไปหาเขาด้วยมือของฉันเอง แทนที่จะให้เธอ มาเป็นห่วงอยู่เป็นเพื่อนฉันที่นี่ ถ้าเธอยังไม่จากไป ฉัน กลัวว่าอาการบาดเจ็บนี้คงจะรักษาไม่หายแล้ว แค่กแค่ ก” พูดจบ เย่หลิ่นหานก็ไออย่างแรง เดิมที่เขาก็มีรูปร่าง ผอมบางดูเหมือนจะยืนไม่มั่นคง
เสิ่นเฉียวตกใจจนหน้าขาวซีด รีบพยักหน้า รับปากเขา: “ได้ ฉันรับปากคุณ”
“ในที่สุดเธอก็รับปากแล้ว งั้นไปกันเถอะ เวลาไม่ เคยคอยท่า”
เส้นเฉียวไม่มีทางเลือก เธอขัดใจเขาไม่ได้จริง ๆ แทนที่จะคุยกับเขาท่ามกลางลมหนาวต่อ ยังไม่สู้ให้เขา ไปกับตนเอง
“พวกเราเรียกรถแท็กซี่กันเถอะ ตอนนี้คุณไม่ เหมาะที่จะขับรถ แถมรถของคุณยัง…อยู่ที่สถานีตำรวจ และฉันเดาว่าตอนนี้คงขับไม่ได้แล้ว
เย่หลิ่นหานยิ้ม: “ได้ ฟังเธอ”
หลังจากนั้นทั้งสองก็โบกรถข้างทางคันหนึ่ง ดูเห มือนว่าเย่หลิ่นหานจะบิดตัวเล็กน้อยตอนที่เขากัมตัว เข้าไปในรถ ความเจ็บปวดนี้ทำให้หน้าผากเขาเหงื่อตก เสิ่นเฉียวตกใจจนหน้าขาวซีด: “คุณไม่เป็นไรนะ….ไม่ อย่างนั้น…
“ไม่จำเป็น” เย่หลิ่นหานอดทนต่อความเจ็บปวด แล้วเข้าไปนั่งในรถ เสิ่นเฉียวไม่มีทางเลือก ได้แต่ตาม เข้าไป
“คุณไม่เป็นไรจริง ๆ นะ?”
เย่หลิ่นหานฝืนยิ้ม: “ฉันบอกว่าจะส่งคุณให้ถึง %3D ข้างกายเขา ก็ต้องทำให้ได้ คนขับรถ ไปตามที่อยู่นี้”
หลังจากที่เย่หลิ่นหานบอกที่อยู่คนขับรถก็ยัง บอกอีกว่า: “เพิ่งจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นบน สะพาน ดังนั้นจึงไม่สามารถผ่านทางนั้นได้
คุณขับวนไปเถอะ พยายามให้เร็วที่สุด แต่ความ ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
“ครับผม”
คนขับพยักหน้า แล้วเหยียบคันเร่งอย่างรวดเร็ว รถก็ขับออกไปอย่างสง่าผ่าเผย
เสิ่นเฉียวที่นั่งอยู่ในรถ ยังคงกังวลมาก เธอกัดริม ฝีปากล่างของตัวเอง
ตอนนี้หัวใจของเธอตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เย่หลิ่นหานบาดเจ็บขนาดนี้กลับยังไปงานเลี้ยงเป็น เพื่อนเธอ แต่เธอมาสายขนาดนี้แล้ว เย่โม่เซินยังจะรอ เธออยู่เหรอ?