เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 308
บทที่ 308 เย่โม่เซินเป็นสามีของฉัน
“คุณชายใหญ่พูดตลกแล้ว คุณเอ่ยปากแล้ว มี เหตุผลอะไรที่จะไม่ให้เธอเข้าไป คุณผู้หญิงท่านนี้ ต้อง ขอโทษด้วยจริง ๆ พวกเราไม่รู้จักคุณและไม่รู้ฐานะของ คุณ ถ้ารู้เร็วกว่านี้อีกสักนิดจะต้องให้คุณเข้าไปแน่นอน เชิญทางนี้”
เสิ่นเฉียวยืนอยู่กับที่ แล้วมองเงาด้านหลังของเย่ หลิ่นหานด้วยความเป็นห่วง เธอไม่ยอมก้าวเท้าอยู่พัก หนึ่ง
เย่หลิ่นหานหันกลับมาด้วยใบหน้าที่ซีดขาวอ่อน แรง แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนมองเธอ
“ยังไม่รีบเข้าไป? ถ้ายังยืนบื้ออยู่ งานเลี้ยงคงก็ จะจบแล้วนะ?”
“แล้วคุณ…” เสิ่นเฉียวยังคงไม่วางใจเรื่องเขาเล็ก น้อย “หลังจากที่เธอเดินเข้าไปแล้ว ฉันก็จะไป”
“งั้น….คุณต้องพูดคำไหนคำนั้นแน่นะ!” เสิ่นเฉียว กัดฟัน แล้วก้าวเดินไปข้างหน้า พอเธอเดินไปถึงประตูก็ หันกลับมามองเย่หลิ่นหานแวบหนึ่ง
ยังคงเป็นสายตาที่อบอุ่นและอ่อนโยน เขามอง เธอด้วยสายตาที่อ่อนโยนแล้วยิ้มให้บาง ๆ พอเห็นเธอ หันกลับมา เขาก็ยังพูดเบา ๆ: “ไปเถอะ อย่าหันกลับมา” เสิ่นเฉียวรู้สึกเสียใจอย่างสุดชีวิต แต่ก็ยังหักใจ
แล้วหับหน้าเดินเข้าไปข้างใบ
เย่หลิ่นหานมองเงาของเธออยู่อย่างนี้ พอเธอ หายลับไปจากสายตาของตนเอง เขาก็ฝืนตัวเองไว้ไม่ อยู่แล้วไอออกมาอย่างหนัก หลังจากนั้นร่างกายก็เซล้ม ลงไปข้างหน้า
คนที่เห็นเหตุการณ์อยู่ด้านข้างรีบเข้ามาพยุงเขา ไว้: “คุณชายใหญ่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณพระช่วย ทำไมคุณถึงได้บาดเจ็บอย่างนี้?”
“ไม่ได้มีอะไรหนักหนา” เย่หลิ่นหานไอเบา ๆ แล้วยื่นมือออกไปผลักคนนั้นออกเบา ๆ
เขาไม่ชอบให้คนพวกนี้เข้ามาใกล้ชิด
“คุณดูบาดเจ็บสาหัสมาก ให้ฉันหาคนไปส่ง คุณชายใหญ่ที่โรงพยาบาลเถอะ”
“ไม่จำเป็น” เย่หลิ่นหานส่ายหัวเบา ๆ คิดแค่ว่าคน ข้างในนั้นอาจจะพบเจอปัญหา ดังนั้น…เขาคงหันหลัง กลับไปไม่ได้ ถ้าคืนนี้ไม่ได้เห็นเธอกับเย่โม่เซินออกจาก
ที่นี่อย่างสงบ เขาก็คงไม่สบายใจ
หลังจากที่เข้าไปในงานเลี้ยง ก็พบว่ามีคนจำนวน มาก แถมยังมีบันไดสูง ชุดกระโปรงที่เธอสวมยาวเล็ก น้อย จึงทำได้เพียงยกกระโปรงไปด้วย มองดูบันไดไป ด้วย แล้วก้าวขึ้นไปอย่างช้า ๆ
แต่ฝูงชนที่แออัดและยังมีโต๊ะอาหารมากมาย ทำ ให้เสิ่นเฉียวหาร่างของเย่โม่เซินไม่พบเลย เธอจะไปหาเขาได้จากที่ไหน?
หลังจากคิดสักพัก ทันใดนั้นเสิ่นเฉียวก็นึกบาง อย่างได้
ด้วยตำแหน่งของเย่โม่เซินในเมืองเป่ย ถ้าเขาอยู่ ในงานเลี้ยงในคืนนี้ล่ะก็ มันควรจะเป็นจุดสนใจของงาน เลี้ยง ดังนั้นเธอจึงต้องหาเขาในสถานที่ที่มีคน พลุกพล่านที่สุดเท่านั้น
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เสิ่นเฉียวก็มีความสุขมากจนแทบ จะร้องไห้ เธอเหลือบมองไปที่งานเลี้ยงและรีบเดินไปยัง จุดที่มีคนมากที่สุด
สภาพเธอแย่เกินไปแล้ว มีคนจำนวนมากที่เห็น เธอเป็นแบบนี้ แต่ก็หลบด้วยความรังเกียจ จากนั้นก็จ้อง มองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ
“นี่ใครน่ะ? ทำไมสภาพเป็นแบบนั้น? เธอปะปน เข้ามาได้อย่างไร?”
“ไม่เคยเห็น ไม่คุ้นหน้าเลย คุณหนูตระกูลไหน กัน หน้าตาไม่เลว”
“หีหึ้ ไปดูกันเถอะ”
เสิ่นเฉียวกำลังคิดจะเดินไปข้างหน้า แต่กลับถูก ผู้ชายสองคนขวางไว้อย่างกะทันหัน ทั้งสองคนถือแก้ว ค็อกเทลอยู่ในมือแล้วยิ้มเหมือนพวกอันธพาล: “คนสวย ไม่รู้ว่าพวกเราจะได้รับเกียรติเชิญคุณมาเต้นรำไหม?”
“ขอโทษค่ะ ฉันกำลังตามหาคน” เสิ่นเฉียวมอง ไปทางพวกเขาแล้วพยักหน้าก่อนจะเดินไป ใครจะรู้ว่า พวกเขาจะยังตามพัวพันเหมือนวิญญาณ: “คนสวยกำลังหาคนแบบไหนอยู่เหรอ? บอกมาสิพวกเราช่วยเธอได้
นะ”
“นั่นสิถ้าไม่มีเวลาเต้นรำก็ไม่เป็นไรขอเพิ่มเพื่อน ใน WeChat เพื่อทำความรู้จักสักหน่อย จะได้มีเพื่อน เพิ่มขึ้นดีไหมล่ะ?”
เสิ่นเฉียว: “..ขอโทษด้วยฉันรีบจริงๆ”
หนึ่งในผู้ชายหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา: “รู้แล้ว รู้แล้ว มามามา พิมพ์เลข WeChat ของเธอเข้าไป พิมพ์ เสร็จแล้วเธอก็ไปได้”
“ไม่มี” เสิ่นเฉียวมีสีหน้าเย็นชาแล้วจ้องไปที่เขา” คุณผู้ชายท่านนี้ ขอร้องคุณอย่าฝืนใจคนอื่นเลย”
พอคนคนนั้นได้ยิน สีหน้าที่แย่ลงในพริบตา
เธอชื่ออะไร? ทุกคนที่มาร่วมงานเลี้ยงมีใครแย่ กว่าเธองั้นเหรอ ก็แค่ทำความรู้จักเพื่อนให้กว้างขวางมี อะไรผิดกัน?”
“ไม่มีอะไรผิด แต่ฉันบอกว่าฉันรีบ ฉันกำลังตาม หาคนใช่ไหม? หลีกทางได้หรือยัง?”
ตามหาคน? ยังงั้นเธอบอกสิว่าเธอตามหาใคร ตามหาคนจริงๆหรือแค่พูดแบบนี้พวกฉันอย่างขอไปที”
“เย่โม่เซิน!”
วินาทีต่อมา เสิ่นเฉียวก็พูดชื่อออกไปตามตรง ตอนแรกสองคนนั้นตะลึงไป แต่หลังจากที่เพิ่ง
ได้สติก็รีบตอบกลับมา “เธอ เธอพูดอะไร? ตามหาใคร?”
“ตามหาสามีของฉันเยโม่เซินรู้จักไหม? พาฉันไป ได้ไหม?” เสิ่นเฉียวมองคนพวกนั้นแล้วพูด เธอรู้ถ้า ตนเองไม่ใช้ไม้นี้ สองคนนั้นคงไม่ยอมให้เธอจากไป
เธอไม่มีเวลา มันเล่นเป็นเพื่อนพวกเขามากมาย ขนาดนั้น
ฮ่า เธอเพิ่งจะบอกว่าเย่โม่เซินเป็นสามีเธอ? ไม่ ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
ถึงแม้ว่าพวกเขามีท่าทีไม่เชื่อ แต่ก็เห็นได้ชัดว่า สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป การดำรงอยู่ของเย่โม่เซิน เป็นแบบไหน แม้ว่าคนส่วนใหญ่ทอดทิ้งเพราะเขาเป็น คนพิการ แต่ในวงการธุรกิจกลับไม่มีใครใช้กลยุทธ์ใด ๆ เอาชนะเขาได้
เมื่อก่อนในวงการธุรกิจบริษัทตระกูลลู่นั้นไม่ใช่ แค่ร้ายกาจมาก ร้ายกาจจนไม่มีใครกล้ายุ่ง แต่หลังจาก นั้นเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพลาดให้เยโม่เซินได้อย่างไร ไม่คาดคิดว่าจะถูกเยโม่เซินทำลายไปแล้ว
และบริษัทตระกูลลู่ก็ยังหายไปแบบไม่มีข่าวคราว ภายในคืนเดียว
ดังนั้นจึงมีประโยคหนึ่งในแวดวงของพวกเขา ก็ คือหาเรื่องเย่โม่เซินก็เท่ากับการถอนขนบนหัวเสือ ใคร จะยอมร่วมทำเรื่องที่กินแรงแบบนี้ ถ้าจัดการไม่ดีแม้แต่ อนาคตก็ไม่เหลือแล้ว!
“ถ้าพวกคุณอยากรู้ว่าล้อเล่นหรือเปล่า ตามขึ้นมา ดูก็รู้แล้ว”
พูดจบ เสิ่นเฉียวก็เดินผ่านพวกเขาไป ผู้ชายสอง คนนั้นกล้าตามขึ้นไปซะที่ไหน พวกเขาต่างรู้สึก ว่า..ไม่มีใครกล้าล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรเสียเย่โม่เซิน แต่งงานเรื่องใหญ่นี้ จะมีผู้หญิงคนไหนกล้าพูดไร้สาระ กัน? แถมผู้หญิงคนนี้ยังมีอำนาจมากขนาดนี้ แปดสิบ เปอร์เซ็นต์มันคือเรื่องจริง
“หรือว่า เธอก็คือลูกสาวของตระกูลเสิ่นที่เยโม่ เซินเคยขอแต่งงาน?”
“ชิ ก็แค่แต่งงานไม่ใช่เหรอ? เรื่องที่คนพิการคน นั้นแต่งภรรยาก็แค่เรื่องตลก เขาจะทำอะไรได้? เฮ้อ ผู้ หญิงสวยขนาดนั้น น่าเสียดายจริงๆ …
“จๆ เป็นโชคดีของคนพิการนั่น อย่ามองว่าคนอื่น พิการ คนอื่นยังได้แต่งงานกับคนสวยเลิศล้ำที่สุด”
หลังจากเดินไปได้ไม่ไกล เสิ่นเฉียวก็มองย้อน กลับไปและพบว่าพวกเขาไม่ได้ตามมา โชคดีที่เธอขู่ พวกเขา
เฮ้อ–
เธอถอนหายใจ แล้วรีบเดินไปข้างหน้า ไม่ง่าย เลยกว่าที่จะเบียดมาถึงข้างหน้า ในที่สุดเพียงแค่พริบตา เดียวเสิ่นเฉียวก็มองเห็นร่างที่คุ้นเคย
คือเซียวซู่!
“ผู้ช่วยเซียว!”
เสิ่นเฉียวทนไม่ไหว ตะโกนเรียกเขา
เซียวซู่ที่ยืนอยู่บนเวทีตะลึงไปสักพัก เหมือนจะ ได้ยินเสียงคนเรียกตนเอง แถมเสียงนั้นก็ฟังดูคุ้นมาก เขาหันมาหาที่มาของเสียงแวบหนึ่ง
แค่มองแวบเดียว เกือบจะทำให้เซียวซูตกใจจน สะดุ้งออกมา
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากและเขาเกือบ จะเสียอาการ แต่ตระหนักว่าตนเองยังอยู่บนเวทีก็เลย สงบลงทันที จากนั้นเดินล้อมลงมาที่ด้านหน้าของเสิ่น เฉียวและพาเธอออกไป
เสิ่นเฉียวถูกเขาดึงให้เดินออกไปข้างนอก แต่ก็ ยังหันกลับมองหาร่างของใครบางคน
“เยโม่เซินล่ะ?”