เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 334
บทที่334 ไม่มีที่ไป
“หนูยอมไม่ต้องให้แม่มาเลี้ยงดูหนูดีกว่า!”
เอ่ยประโยคนี้ออกไปแล้วนั้น เสิ่นเฉียวเอามือที่ วางอยู่บนไหล่ของเธอนั้นดึงออกไป แล้วร่างของเธอก็ ถอยหลังออกไป เพื่อรักษาระยะห่างจากคุณแม่เสิ่น
“ตลกจริงๆนะคะ ก่อนที่จะเหยียบเข้ามาในบ้าน หลังนี้ หนูยังมีคงมีความหวัง หวังว่าแม่จะพูดอะไรที่รั้ง หนูเอาไว้ ถึงแม้จะเป็นการโกหกแต่หนูก็ยังรู้สึกอุ่นใจ แต่ …แม่ไม่เพียงแต่ไม่พูดรั้งหนูเอาไว้ แต่นี่แม้ กระทั่ง….ให้หนูเอาสถานะตัวตนของหนูให้กับน้อง ถูก ค่ะ ที่หนูไม่ชอบความหรูหรามั่งมีพวกนี้ แต่ที่หนูให้ ความสำคัญมากกว่า….คือครอบครัว ถ้าไม่อย่างนั้น หนูก็คงจะไม่เชื่อฟังแม่โดยไปแต่งงานกับตระกูลเย่ แทนน้องแบบนั้น แม่พูดถูก แม่เลี้ยงดูหนูมา มีความดี ความชอบ แต่ในขณะเดียวกันแม่ก็ขูดรีดขูดเนื้อกับ หนูไปไม่น้อยไม่ใช่หรือคะ?”
เสิ่นเฉียวเอ่ยออกมาทั้งน้ำตา น้ำตาเอ่อล้นเต็ม ดวงตาของเธอ แต่ก็พยายามที่จะฝืนไม่ให้น้ำตาไหล ออกมา กัดริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่ออดกลั้นเอาไว้
“หลังจากที่หนูหย่าไม่มีการเอ่ยถามหนูซักคำ คำ สั่งเดียวที่ดูเย็นชาสั่งให้หนูไปอยู่ที่ตระกูลเย่ แม่คิดว่า หนูเป็นคุณนายน้อยของตระกูลเย่แล้วใช้ชีวิตสุข
สบาย ถ้าหากแม่รู้สึกว่านี่เป็นชีวิตที่ดีทำไมตอนนั้นแม่ถึงไม่ให้เสิ่นโย่วไปเองล่ะคะ? ไม่ใช่เพราะว่าแม่รู้สึกว่า อีกฝ่ายนึงที่จะต้องแต่งงานด้วยเป็นคนพิการแม่กลัวว่า ลูกสาวแท้ๆของตัวเองถ้าได้ก้าวเท้าเข้าไปแล้วจะต้อง ไปเจอกับขุมนรก! เพราะฉะนั้น แม่ก็เลยผลักหนูเข้าไป แทน ถ้าเป็นแบบนี้ หนูก็ชดใช้คืนบุญคุณที่แม่เลี้ยงดู าได้แล้ว ถือว่าหมดสิ้นแล้วใช่ไหมคะ?” หนูมา
“ไม่!” คุณแม่เสิ่นส่ายหน้าอย่างแรง : “ไม่หมด เสิ่น เฉียวแกอย่าคิดที่จะสลัดตระกูลเสิ่นเชียวนะ ไม่ว่าจะ อย่างไรแกก็เป็นเด็กที่ฉันรับเลี้ยงดูมาจนโต ฉันให้แก ทำอะไรนั่นก็เป็นหน้าที่ของแก! แต่งงานแทนน้องสาว แกแล้วยังไง ผู้หญิงที่แต่งงานใหม่อย่างแกคิดว่าจะมี ใครต้องการแกอีกอย่างนั้นหรือ? ถ้าหากไม่ใช่เพราะ ตระกูลเสิ่นตอนนี้แกก็คงไม่มีอะไรทั้งนั้น ถ้าหากแกไม่ ได้แต่งงานแทนเสิ่นโย่วแกเองก็คงไม่ได้เป็นคุณนาย น้อยของตระกูลเย่เหมือนกัน!”
“ถ้าอย่างนั้นหนูก็ไม่ต้องการตำแหน่งคุณนายน้อย ของตระกูลเย่นั่น!”
เสิ่นเฉียวตอบกลับออกมาเสียงดัง “แม่คิดว่าหนู ต้องการหรือ?? มีสิทธิอะไรคะที่แม่คิดว่าตำแหน่งนั้นดี แล้วหนูจะต้องรู้สึกว่ามันดีด้วย? หลังจากที่หนูแต่งงาน กับตระกูลเย่แม่เคยถามหนูไหมว่าหนูใช้ชีวิตได้ดีหรือ เปล่า?? หลายปีขนาดนี้หนูคิดว่าตัวเองเป็นลูกแท้ๆของ ตระกูลเสิ่น สิ่งที่หนูทำทั้งหมด….ก็เป็นเพราะหนูเห็น แม่เป็นแม่แท้ๆของหนู เพราะฉะนั้นถึงแม้จะเรื่องที่ไม่ ยุติธรรม หนูก็อดทนความทุกข์ทั้งหมดรับปากทำให้”
“แต่ในที่สุดวันนี้หนูก็เข้าใจแล้ว….ตอนนี้แม่ก็ยัง คงหลอกใช้หนู แม่เพียงต้องการขูดรีดเอาผล ประโยชน์สกปรกๆพวกนั้น แล้ววันนึงถ้าหนูไม่มี ประโยชน์ แม่ก็จะถีบหนูออกไปอย่างไม่ลังเล!”
“หลอกใช้ประโยชน์อะไรกัน? ไม่ใช่ว่าแกไม่อยาก ได้ไม่ใช่หรือไง? ในเมื่อแกไม่ได้อยากได้ความร่ำรวย มั่งมีพวกนี้ ก็เอาให้น้องสาวแกไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”
เธอไม่ต้องการก็ต้องให้คนอื่นได้สิ?
“ใครบอกว่าหนูไม่ต้องการ?” ทันใดนั้นเสิ่นเฉียวก็ ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “ที่แม่พูดมาทั้งหมด นั่นคือ สถานะของคุณหนูตระกูลหานเชียวนะ อีกทั้ง…นั่นก็ นับว่าเป็นของของหนูอย่างแท้จริงด้วย นั่นก็คู่ควรที่หนู จะได้รับมันอยู่แล้ว”
ได้ยินแล้วนั้น คุณแม่เสิ่นก็รู้สึกอึ้งไป “แก….แก ต้องการอย่างนั้นหรือ?”
เสิ่นเฉียวไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแต่สายตาของ เธอนั้นเย็นชาขึ้นมามาก อารมณ์ของเธอไม่เหมือนกับ ตอนที่เพิ่งจะเข้ามาตอนแรกแล้ว
เดิมทีเธอกอดเอาความหวังมาด้วย แต่ตอนนี้ความ หวังเพียงน้อยนิดนั้นก็หายไปหมดแล้ว ไม่มีความ จำเป็นที่จะอยู่ที่นี่ต่อแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวจึงหันหลังแล้วเดินออกมา เห็นเธอจะเดินออกไปแล้วนั้น สีหน้าของคุณแม่เสิ่นก็เปลี่ยนไปในทันที ในใจนั้นก็รู้สึกร้อนรนตามไป ด้วย จึงเดินหน้าแล้วจับข้อมือเธอเอาไว้ : “แกจะไป ไหน?”
ได้ยินแล้วนั้น ในใจของเสิ่นเฉียวนั้นกระตุกขึ้นมา ยังไม่ได้ได้รอให้เธอเอ่ยพูดก็ได้ยินคุณแม่เสิ่นเอ่ยขึ้น มาเสียก่อน : “ถึงแม้แกจะไป ก็ต้องจำบุญคุณที่ฉัน เลี้ยงดูแกเอาไว้ด้วยสิ? ฉันจะบอกความจริงให้นะ ฉัน ติดหนี้พนันเอาไว้ไม่น้อย ตอนนี้แกเป็นคุณหนูตระกูล หานแล้ว แม้แต่ความดีความชอบที่ผ่านมา แกก็ควรจะ ชุดใช้ให้ฉันบ้างหรือเปล่า?”
เอาล่ะ ตอนนี้เธอหมดกำลังใจจริงๆแล้ว
เสิ่นเฉียวยิ้มออกมาจางๆ แววตาไม่มีประกายใดๆ เลยแม้แต่นิดเดียว
“หนูรู้ค่ะ แม่วางใจได้ หนูไม่มีทางลืม…บุญคุณนี้ อยู่แล้ว”
คุณแม่เสิ่นได้ยินแล้ว ใบหน้าจึงปรากฏรอยยิ้ม ออกมา : “อย่างนี้สิถึงจะถูก ถึงยังไงแม่ก็เลี้ยงดูแกมา ขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นแกกลับไปเถอะ กลับดีๆล่ะ”
เธอไม่ได้มองดูอาการที่แสดงออกมาบนใบหน้า ของเสิ่นเฉียว ไม่รู้เลยว่าเสิ่นเฉียวกำลังคิดอะไรอยู่
หรือบางที เธอไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าเสิ่นเฉียวจะ คิดอย่างไร อย่างไรก็ตามตอนที่เสิ่นเฉียวเดินออกมาจากประตู เธอรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองนั้นเย็นไปหมด ลม เย็นๆยามค่ำคืนนั้นพัดผมยาวๆของเธอ เส้นผมพลิ้ว ไหวอยู่กลางอากาศ เสิ่นเฉียวหยุดเดินแล้วยื่นมือออก มากอดแขนของตัวเองเอาไว้
หนาวจริงๆ
ปีนี้ยังไม่ถึงฤดูหนาว เธอก็รู้สึกหนาวขนาดนี้แล้ว ที่ไหนก็หนาว ไม่มี …ความอบอุ่นอยู่เลยแม้แต่นิด เดียว
ตอนที่เดินออกมาถึงปากทางนั้น เสิ่นเฉียวพบว่า รถคันนั้นของตระกูลหานยังคงจอดอยู่ตรงนั้น เธอยืน มองอยู่ตรงที่เดิมอย่างเหม่อลอย ผ่านไปซักพักหนึ่ง ประตูรถจึงเปิดออก คุณลุงคนขับรถวิ่งมาตรงหน้าเธอ
“คุณหนู ออกมาแล้ว ผมไปส่งคุณกลับนะครับ”
“กลับไปไหนคะ?” เสิ่นเฉียวเอ่ยถาม
คนขับรถยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น : “คุณผู้ชายสั่ง เอาไว้ครับ เพียงแค่คุณหนูอยากกลับบ้าน ก็สามารถ กลับได้ทุกเวลา ถ้าหากคุณหนูไม่ยอม ถ้าอย่างนั้นผม ก็จะไปส่งคุณหนูในที่ที่คุณอยากจะไป”
ที่ที่เธออยากจะไปอย่างนั้นหรือ?
ตอนนี้นอกจากเสี่ยวเหยียนทางนั้น เธอยังมีที่ไหน ที่จะไปได้อีกหรือ?
ช่างตลกเสียจริงๆ เธอผู้หญิงที่แต่งงานมีสามีแล้วไม่ว่าจะเป็นบ้านแม่สามี บ้านแม่ก็ไม่สามารถกลับไป ที่ไหนได้เลย
ไม่ใช่สิ….ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่แต่งงานมีสามี แล้ว เยโม่เซินเอาสัญญาการหย่าให้เธอแล้ว ต่อ ไป..เธอก็เป็นผู้หญิงที่ผ่านการหย่ามาแล้วถึงสอง
ครั้ง
เธอช่าง….โง่และไร้เดียงสาเสียจริงๆ
ตอนนั้นที่เยโม่เซินเห็นเธอเป็นสินค้ามือสอง เธอก็ ควรจะเห็นถึงสถานะของตัวเองแล้ว เสียดายที่เธอยัง คงฝันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้คิดว่าเธอจะสามารถรักและ อยู่ด้วยกันกับเขาได้
ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นชีวิตจะเหมือนกับความฝัน
ขนาดนี้
ไปที่ไหน?
เสิ่นเฉียวเหลือบตาขึ้นมอง พลางส่ายหน้า
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ….ว่าจะไปที่ไหน….”
คุณลุงคนขับรถมองเธออยู่พักหนึ่งแล้วทันใดนั้น เองจึงเอ่ยขึ้นมา : “คุณหนูขึ้นรถก่อนเถอะครับ เดี่ยว ผมไปส่งคุณเอง”
เสิ่นเฉียวยืนอยู่ตรงที่เดิมอยู่นาน ถึงได้เดินตาม เขาขึ้นรถไป
หลังจากที่ขึ้นรถไปแล้วนั้น จู่ๆเสิ่นเฉียวกลับเอ่ยขึ้น : “ไปส่งฉันที่โรงแรมนะคะ”
เธอไม่อยากไปรบกวนเสี่ยวเหยียนอีก ตระกูล หาน….ก็ไม่ใช่ที่ที่เธออยากจะไปในตอนนี้ ในใจของ เธอนั้นยังไม่สามารถยอมรับกับความจริงนี้ได้ เธอจะ ต้องหาที่สงบสติอารมณ์ตัวเองเพียงลำพังก่อน
คนขับรถลังเล สุดท้ายจึงฟังตามที่เธอบอก พา เสิ่นเฉียวไปส่งที่โรงแรม
เสิ่นเฉียวเอาบัตรประชาชนมา เพียงแต่เธอไม่ได้ เอาเสื้อผ้ามาด้วย หลังจากที่เธอเอ่ยขอโทษคนขับรถ แล้วนั้นเธอก็ไปเปิดห้องพักของโรงแรมเอง
คนขับรถเห็นเธอเดินขึ้นลิฟต์ไปแล้ว หลังจากนั้น จึงเดินออกมาตรงหน้าประตูแล้วโทรหาหานชิง
“คุณผู้ชายครับ คุณหนูขอให้ผมมาส่งเธอที่ โรงแรมครับ”
“รู้แล้ว ฉันจะส่งคนให้คอยติดตามเธอ เพื่อคุ้มกัน ความปลอดภัยให้เธอ”
“ครับคุณผู้ชาย ผมจะส่งสถานที่ให้นะครับ”