เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 338
บทที่338 ดูแล้วเจริญอาหารดี
“ถ้าอย่างนั้นมันเป็นยังไงกันล่ะ?” เสี่ยวเหยียนกระ พริบตาใส่เธอ “ช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นมากเหลือเกิน ฉัน แทบจะรับรู้ไม่ไหวแล้วนะ คุณหานกับเธอมีความ สัมพันธ์อะไรกันแน่”
“เสี่ยวเหยียน เธอจะอยากรู้มากไปกว่านี้อีกไหม?” เสิ่นเฉียวมองเธออย่างจำใจ แล้ววางตะเกียบในมือลง : “ระหว่างฉันกับเขาเราไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ส่วน ความสัมพันธ์อะไรนั้น….ตอนนี้ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ เลย”
เธอยังไม่คิดให้ดีเลยว่าตัวเองจะยอมรับกับ ครอบครัวนี้หรือเปล่า
เสี่ยวเหยียน : “เชอะ ขี้เหนียวจริงๆ แม้แต่เรื่องนี้ก็ จะไม่ยอมบอกฉันหรือ หืม”
ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น จู่ๆเสียงออก ประตูจากทางด้านนอกก็ดังขึ้นมา
เสี่ยวเหยียนลุกขึ้นมาในทันที : “ฉันไปเปิดให้!”
ที่ป้าเหลียนพูดมาก่อนหน้านี้ เสี่ยวเหยียนก็รู้ว่าคน ที่มากดออดคงจะเป็นหานชิง!
ไฟความอยากรู้อยากเห็นในใจของเธอกำลังลุก โซนจนสามารถแผดเผาขึ้นมาได้จริงๆ หลังจากเปิด ประตูแล้วนั้น เป็นอย่างที่คิดไว้เสี่ยวเหยียนเห็นหานชิงยืนอยู่ตรงด้านนอก
หานชิงใส่ชุดสูทสีเข้ม สีหน้าเย็นชา ดูแล้วออร่า ไม่ตกหล่นไปเลยแม้แต่นิดเดียว
จ้บุคลิกที่มีออร่าแบบนี้ รู้สึกว่าเสิ่นเฉียวนี่ทำบุญ มาดีเสียจริงๆ ถึงแม้ว่าจะหย่ากับเย่โม่เซินแล้ว แต่ก็มี เย่หลิ่นหานที่คอยตามจีบอยู่ตลอด ส่วนทางนี้ก็ยังมี หานชิงที่เป็นบุคคลที่มีออร่าและบุคลิกที่ดีงามขนาดนี้ อีก
เลือกไว้ซักคน ก็คงจะไม่ได้แย่ขนาดนั้น
เมื่อเห็นเสี่ยวเหยียน แววตาของหานชิงจึงชะงัก ไปเล็กน้อย หลังจากนั้นสายตาของเขาก็มองข้ามผ่าน เสี่ยวเหยียนเข้าไปด้านในห้อง
เสี่ยวเหยียนยิ้มพลางเอ่ยถาม : “คุณหาน?”
หานชิงพยักหน้าพลางเม้มปาก
เสี่ยวเหยียนเอียงตัว : “เฉียวเฉียวอยู่ข้างในค่ะ”
หานชิงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อก้าวเข้ามาแล้วก็ อดที่จะมองพิจารณาเสี่ยวเหยียนจากทางหางตาไม่ได้ พบว่าเด็กคนนี้มีสีหน้าท่าทางที่ดูทะเล้น และสายตาที่ มองเขาก็ดูราวกับมีเจตนาไม่ดีอีกด้วย
หรือว่าเด็กคนนี้จะเข้าใจอะไรผิด?
คิดมาถึงตรงนี้แล้วหานชิงยิ่งขมวดคิ้วยิ่งขึ้นกว่า
เดิม
จริงๆแล้วหลังจากที่เสี่ยวเหยียนไปเปิดประตูแล้ว นั้น เสิ่นเฉียวเองก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแปลกๆ ว่ากันตาม ตรงแล้วสถานการณ์ของเธอในตอนนี้เธอยังไม่ค่อย อยากเจอหานชิงเลยจริงๆ เธออยากจะขอเวลา ทำความเข้าใจกับความคิดของตัวเองสักพักหนึ่ง
ดังนั้นตอนที่หานชิงเดินมาทางด้านหลังเธอนั้น จิตใต้สำนึกของเสิ่นเฉียวนั้นจึงลุกขึ้นมาทันที
“คุณ….
“ร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง?”
หานชิงหยิบกระเป๋าเอกสารมาไว้ข้างๆตัวเองอย่าง เป็นธรรมชาติ สายตามองเธอ น้ำเสียงเต็มไปด้วย ความเป็นห่วงที่ผู้ใหญ่มีต่อคนที่เด็กกว่า หลังจากเอ่ย ถามแล้วเขาก็มองอาหารเช้าบนโต๊ะที่ถูกจัดการจน เรียบแล้ว
หลังจากที่รู้สึกตกตะลึงอยู่นั้น หานชิงจึงอดที่จะ ยิ้มออกมาไม่ได้
“ดูแล้วเธอเจริญอาหารดีนี่ ร่างกายคงไม่ได้มี ปัญหาอะไรแล้ว”
คาดว่าคงจะปรับอารมณ์ได้แล้ว
นึกไม่ถึงว่า น้องสาวของเขาคนนี้จะนิสัยเหมือน แม่ของเขามากเช่นกัน
เดิมที่เสิ่นเฉียวอยากจะพูดอะไรออกมา แต่พอเขา พูดแบบนี้ออกมาแล้ว คำพูดที่ออกมาอยู่ตรงปากก็กลับต้องกลืนกลับเข้าไปเช่นเดิม
หลังจากที่เธอมองดูอาหารเช้าบนโต๊ะที่หายไป เหมือนกับพายุพัดหอบไปแล้วนั้น อดที่จะมองไปยัง เสี่ยวเหยียนที่กำลังเดินมาไม่ได้
จริงๆเลยสิ….ภาพลักษณ์การกินคงไม่หลงเหลือ อยู่แล้ว
“คุณหานวางใจได้ค่ะ เฉียวเฉียวเจริญอาหารดี มาก แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่กิน ฉันก็จะตามคุมเธออยู่ แล้วค่ะ”
ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ หานชิงจึงยิ้มออกมาอย่าง สุภาพอ่อนโยนกับเธอ : “ขอบคุณครับ”
“ไม่มีอะไรเลยค่ะ” เสี่ยวเหยียนโบกมือ “ฉันเป็น เพื่อนสนิทกับเธอ จะต้องเป็นห่วงแล้วก็คอยดูแลเธอ อยู่แล้ว…” ปลายเสียงประโยคหลังนั้นลากยาว จริงๆ แล้วเสี่ยวเหยียนอยากจะหยั่งเชิงหานชิงเสียหน่อย แต่ เหมือนกับว่าหานชิงไม่เข้าใจความหมายของเธอ เขา ยกมือขึ้นมาดูเวลาด้วยสีหน้านิ่งๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว ฉันมีประชุมหลังจากนี้อีกครึ่ง ชั่วโมง นั่งอยู่อีกซักสิบนาทีก็จะไปแล้ว”
พูดจบแล้วเขาก็นั่งลงจริงๆ เสิ่นเฉียวที่เห็นว่าของ บนโต๊ะนั้นเยอะมากเกินไป จึงแอบกระทุ้งแขนของ เสี่ยวเหยียนเพื่อส่งสัญญาณบอกให้เช่วยเธอเก็บของ
ทั้งสองคนจึงรีบเก็บข้าวของบนโต๊ะ หลังจากนั้นเสิ่นเฉียวก็มองไปยังหานชิง
“หาน…คุณทานอาหารเช้าหรือยังคะ? ถ้าไม่ อย่างนั้น….” สายตาของหานชิงมองมาที่เธออย่างอ่อนโยน “ไม่
เป็นไร ฉันไม่หิว”
เขาอยากจะมากินอาหารเช้ากับเธอก็จริงอยู่ แต่ หลักๆแล้วก็จะมาจับตาดูเธอกินอาหารเช้า ในเมื่อเธอ กินอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว หานชิงรู้สึกว่าตัวเขาเอง จะกินหรือไม่กินก็ไม่สำคัญขนาดนั้นอยู่แล้ว
เสี่ยวเหยียนมองดูด้วยความรู้สึกแปลกๆอยู่ข้างๆ แล้วก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกด้วยเช่นกัน : “อา….ขอโทษนะ คะ ฉันไม่คิดว่าคุณหานจะมา ถ้าหากรู้ตั้งแต่แรก ฉันก็ คงจะรอคุณก่อน”
จริงๆแล้วเธอรู้ เพียงแต่…เธอนึกไม่ถึงว่าประธาน บริษัทตระกูลหานจะมากินอาหารเช้ากับพวกเธอถึง โรงแรมแบบนี้ เรื่องนี้คิดๆดูแล้วช่างเป็นเรื่องอัศจรรย์ ยิ่งนัก
ดังนั้นจึงไม่ได้อยู่ในเรื่องที่เธอจะต้องนึกถึงเลย เป็นธรรมดา…ที่จะหายไปเหมือนกับพายุพัดหอบไป แล้วแบบนั้น เธอยังกลัวจะเสียของเลยยัดเข้าไปทั้ง เยอะเลยเสียด้วยซ้ำ จนตอนนี้ท้องของเธอจึงรู้สึกไม่ ค่อยสบายอีกด้วย
“ไม่ใช่ปัญหา เดี๋ยวก็ไปแล้วล่ะ”
“ฉันไปรินน้ำให้นะคะ” เสี่ยวเหยียนรู้ว่าตัวเองกิน เยอะมาก ดังนั้นจึงรีบไปรินน้ำให้กับหานชิง
หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกว่ารินน้ำเปล่าให้นั้นมันดูไม่ดี เท่าไรนัก จึงหันกลับมายิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “เมื่อเช้าตอน ที่จะขึ้นมาฉันเห็นว่ามีร้านกาแฟอยู่แถวๆนี้ ประธาน หานถ้าไม่ถือสาฉันลงไปซื้อกาแฟกับแซนวิชมาให้นะ คะ?”
หานชิงชะงักไปในทีแรก แล้วหลังจากนั้นก็มองไป ยังเสิ่นเฉียวแล้วพยักหน้า “ครับ”
“ฉันไปตอนนี้เลยแล้วกันนะคะ แป๊บเดียวเท่านั้น
ค่ะ!”
ปีง-
เสี่ยวเหยียนเด็กคนนี้มีความรวดเร็วมาก บอกจะ ไปก็ไปเลย
หลังจากที่เธอไปแล้วนั้น ภายในห้องพักใน โรงแรมก็เหลือเพียงแค่เสิ่นเฉียวกับหานชิงเพียงสอง
คน
ถึงแม้ว่าจะพูดว่ามีความสัมพันธ์เป็นครอบครัวกัน แต่เสิ่นเฉียวก็ยังรู้สึกทำตัวไม่ถูกเป็นอย่างมาก เธอไม่ อยากจะอยู่กับหานชิงเพียงลำพังในห้องแบบนี้เลย จริงๆ
รอบๆด้านเงียบไปสักพักหนึ่ง แล้วจู่ๆหานชิงก็เอ่ย พูดขึ้น : “เส่โยวทางนั้นฉันจะจัดการเอง”
ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ เสิ่นเฉียวมองเขาแล้วอดที่จะ เอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้ : “คุณจะจัดการอย่างไรคะ? พวก คุณมั่นใจสถานะของฉันแบบนี้แล้วจริงๆหรือ? ไม่ สงสัยเลยหรือคะ? ถึงอย่างไร….เสยก็เป็นบทเรียก จากความผิดครั้งก่อน ฉันรู้สึกว่า….คุณหานรอบคอบ ไว้หน่อยจะดีกว่านะคะ เพื่อหลีกเลี่ยงว่าหากวันนึงพบ กว่าสถานะของฉันไม่ได้เป็นความจริง ถึงตอนนั้น….”
“ไม่หรอก” หานชิงเอ่ยตัดบทขึ้นมาด้วยสีหน้า ท่าทางที่นิ่งๆ สีหน้าเย็นชา : “ครั้งนี้ ไม่ผิดแล้ว”
เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่าง หลบตาลงมองปลายนิ้ว ของตัวเอง
“เธอกำลังกลัวอย่างนั้นหรือ?”
เธอไม่ตอบ เพียงแต่ก้มหน้าลงให้ต่ำลงไปยิ่งกว่า เดิม
เธอไม่กลัวได้ด้วยอย่างนั้นหรือ? จู่ๆก็ถูกบอกว่า พ่อแม่ที่อยู่ด้วยกันมาทุกวันหลายปีขนาดนี้ไม่ใช่พ่อแม่ แท้ๆของตัวเอง เพียงแค่เวลาชั่วครู่เธอก็กลายเป็นเด็ก ที่ไม่มีใครต้องการแล้ว ถึงแม้ว่าตระกูลหานจะบอกว่า เธอเป็นคนในครอบครัวของพวกเขา แต่….บทเรียน จากความผิดครั้งก่อนของหานโสโยวก็ทำให้เธอกลัว วันนึงถ้าหากเธอยอมรับครอบครัวนี้ได้แล้ว ตระกูล หานก็จะออกมาบอกว่าหาตัวคนผิดอีกหรือเปล่า…
สุดท้ายแล้ว เธอเป็นใคร? เธอจะสามารถเป็นใคร ได้กัน?
หานชิงมองทางด้านหลังศีรษะของเธออยู่นาน ถึง ได้ถอนหายใจออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“เดิมทีมีคำถามนึงที่ฉันไม่อยากจะถามเธอหรอก นะ แต่ถ้าหากเธอยังคงไม่วางใจอยู่แบบนี้ ถ้าอย่างนั้น แล้วฉันก็คงจะไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว”
ได้ยินแล้ว เสิ่นเฉียวจึงเงยหน้าขึ้นมา มองเขาอย่า งงงๆ : “คำถามอะไรคะ?”
แววตาของหานชิงดูมีนัยอยู่บ้าง ตามหลักแล้วเขา
ไม่อยากจะถามคำถามแบบนี้เลยจริงๆ ถึงอย่างไรตอนนี้น้องสาวของเขาเองก็โตเป็น ผู้ใหญ่แล้ว