เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 616
บทที่ 616 ทวงหนี้
เรื่องราวได้พัฒนามาถึงปัจจุบัน เธอกับ เส่โยว เป็นไปไม่ได้ที่จะย้อนกลับไปในอดีต
มองจากดวงตาของหล่อนก็สามารถจินตนาการออกได้ว่า หล่อนเกลียดตัวเธอเองมากแค่ไหน เมื่อนึกถึงจุดนี้ หานมู่จื่อจึงพูดอย่างเศร้า ๆเล็กน้อย
“ เดาว่าเธอคงจะเกลียดฉัน จนอยากที่จะฆ่าฉันแล้วสินะ” ถ้าไม่อย่างนั้นเธอจะทำเรื่องแบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างไร เมื่อเห็นดวงตาของเธอ เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่แทบจะเอ่อล้นออกมา
เมื่อนึกถึงเมื่อก่อนที่ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งฉันพี่น้อง แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้พวกเธอกลับกลายเป็นแบบนี้ ในใจของหานมู่จื่อยังคงเสียใจเป็นอย่างมาก
เธอหลับตาลง และไม่ได้พูดอะไรต่อ
ทันใดนั้นเย่โม่เซินก็พูดอะไรออกมาหนึ่งประโยค
“ผมจะปกป้องคุณเอง”
*
เย่โม่เซินนับว่ารักษาคำมั่นสัญญา ภายในวันต่อมา เมื่อเธอบอกว่าให้เวลาและพื้นที่ส่วนตัวในการพิจารณากับเธอ ก็ไม่ได้ไปหาเธออีก และก็ไม่ได้พัวพันที่จะอยู่กับเธอให้ได้
ตอนแรกหานมู่จื่อกลัวว่าเขาจะโจมตีอย่างกะทันหัน ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าไปหาเสี่ยวหมี่โต้วอยู่ตลอด หลังจากที่สังเกตอย่างเงียบ ๆ อยู่สองวันนั้น พบว่าเย่โม่เซินไม่ได้แวะเวียนมาเยี่ยมอีก ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะไปหาเสี่ยวหมี่โต้ว
ตอนที่เสี่ยวหมี่โต้วเห็นเธอนั้น แทบจะวิ่งและกระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของเธอ หานมู่จื่อก้มตัวลงและกอด เสี่ยวหมี่โต้วไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่น คิดถึงมากๆเป็นพิเศษ
“หม่ามี๊คิดถึงหนูจะแย่แล้ว” หานมู่จื่อลูบหลังศีรษะของเขาเบา ๆ และถอนหายใจหนึ่งครั้ง
“ฮือๆ เสี่ยวหมี่โต้วก็คิดถึงหม่ามี๊มากๆ”
หลังจากพูดจบ เสี่ยวหมี่โต้วก็ยืนเขย่งเท้าและจุ๊บไปที่ใบหน้าของหานมู่จื่อหนึ่งครั้ง “หม่ามี๊ จุ๊บๆ”
เขาชี้ไปที่แก้มด้านข้างของเขา แสดงเจตนาการตอบแทนให้กับหานมู่จื่อ
หานมู่จื่อยิ้มเล็กน้อย แววตาและการแสดงออกบนใบหน้ากลายเป็นนุ่มนวลจนเกินไป เธอก้มศีรษะและจุ๊บใบหน้าของ เสี่ยวหมี่โต้วเพื่อเป็นการตอบแทน เมื่อเห็นว่าเสี่ยวหมี่ยังคงทำหน้ามุ่ยอยู่ เธอจึงจุ๊บไปที่แก้มอีกข้างหนึ่งของเขาอีกครั้ง แล้วถามเบา ๆ ว่า “ตอนนี้พอใจแล้วหรือยัง?”
“เชอะ” ทว่าเสี่ยวหมี่โต้วกลับอวดดีขึ้นมา “นับได้แค่ว่าบังคับให้พอใจ หม่ามี๊ไม่ได้มาหาเสี่ยวหมี่โต้วตั้งนานขนาดนี้ แถมยังไม่ส่งข้อความหาเสี่ยวหมี่โต้วด้วยตัวเองอีก เสี่ยวหมี่โต้วก็นึกว่าหม่ามี๊จะทอดทิ้งลูกชายของตัวเองซะแล้ว! ”
คำพูดที่จริงจังเหล่านี้ทำให้หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา จากนั้นก็เอื้อมมือไปบีบจมูกของเสี่ยวหมี่โต้ว และพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “หนูกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเนี่ย? ทอดทิ้งลูกชายตัวเอง หม่ามี๊จะทำแบบนั้นได้อย่างไรกัน?”
“เชอะ หม่ามี๊มักจะพูดเสมอว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่นอน แต่ว่าหม่ามี๊ไม่ได้ให้ความสนใจกับเสี่ยวหมี่โต้วมานานแล้วนี่นา” หลังจากพูดเสร็จ เสี่ยวหมี่โต้วก็กอดแขนของหานมู่จื่อด้วยมือทั้งสองข้าง และออดอ้อนอย่างจนปัญญา”หม่ามี๊สัญญากับหนูไว้แล้ว หลังจากรับหนูกลับบ้านมาในคราวนี้ จะไม่ขับไล่เสี่ยวหมี่โต้วอีกแล้ว ”
“อืม … ” หานมู่จื่อพยักหน้า “ใช่แล้ว หม่ามี๊สัญญากับหนูไว้แล้ว”
“งั้นหม่ามี๊ คราวนี้นับว่าพูดเป็นคำพูด ถ้าหากว่าคุณขับไล่เสี่ยวหมี่โต้วอีกละก็ เสี่ยวหมี่โต้วจะไม่สนใจหม่ามี๊อีกต่อไปแล้ว”
“คำไหนคำนั้น จะไม่ส่งเสี่ยวหมี่โต้วไปที่อื่นอีกแน่นอน”
“หม่ามี๊ พวกเราต้องเกี่ยวก้อยสัญญา”
เสี่ยวหมี่โต้วยื่นมือของตัวเองออกมา หานมู่จื่อก็ทำได้เพียงยื่นนิ้วก้อยออกมาและเกี่ยวก้อยกับเขาแล้ว หลังจากสัญญาสิ้นสุดลง แสงวูบวาบอย่างเจ้าเล่ห์ในดวงตาสีหมึกของเสี่ยวหมี่โต้วก็กะพริบเหมือนกับลูกปัดแก้ว
ตราบใดที่สามารถอยู่เคียงข้างกับหม่ามี๊ตลอดได้ งั้นการได้พบเจอแดดดี้ก็ใกล้แค่เอื้อมแล้ว~
ถึงแม้ว่าเขาอยากจะรู้จักแดดดี้ของเขามากๆ แต่เขาก็รู้ว่าหม่ามี๊ไม่ยินยอม ดังนั้นเสี่ยวหมี่โต้วจึงไม่สามารถให้แดดดี้รู้รูปลักษณ์และฐานะของเขาได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหม่ามี๊
แต่ว่าถ้ากลับไปอยู่กับหม่ามี๊มันก็จะแตกต่างออกไปถ้าแดดดี้มา บังเอิญจนเขาเข้า และเห็นหน้าตาของเขา
ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเขาแล้ว เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างบังเอิญ
พอถึงตอนนั้น หม่ามี๊ก็สามารถอยู่ด้วยกันกับแดดดี้แล้ว
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หัวใจของเสี่ยวหมี่โต้วก็มีความสุขเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเขาภายในใจของเขาจึงเริ่มคำนวณการเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันต่างๆนานา ห้าปีมานี้แดดดี้ไม่ได้ทำตามความรับผิดชอบที่ต้องดูแลเขา เมื่อถึงเวลาที่รู้จักแดดดี้แล้วนั้น เขาจะต้องบีบคั้นแดดดี้อย่างเหี้ยมโหดสักครั้ง
“ งั้นหม่ามี๊ ตอนนี้พวกเรากลับบ้านกันเถอะ?”
คิดๆดู หานมู่จื่อก็พยักหน้า “โอเค แต่หนูต้องสวมหมวกและแว่นกันแดด”
เสี่ยวหมี่โต้วตอบรับโดยทันที
หลังจากที่หานมู่จื่อพาเสี่ยวหมี่โต้วออกไปนั้น ก็ได้เจอหานชิงที่ประตูบ้านพอดิบพอดี
นับตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งที่แล้ว หานมู่จื่อและพี่ชายคนนี้ก็ไม่ค่อยได้เจอกันแล้ว ดังนั้นเมื่อหานชิงเห็นเธอ เขาจึงไม่สามารถละสายตาจากร่างกายของเธอได้ จากนั้นก็กระซิบว่า “มารับเสี่ยวหมี่โต้วเหรอ?”
“พี่ชาย” หานมู่จื่อพยักหน้า และเรียกเขาหนึ่งครั้ง “หลายวันมานี้เสี่ยวหมี่โต้วอาศัยอยู่ที่นี่ตลอด และเรื่องงานทางนั้นของฉันก็เสร็จแล้ว ดังนั้นฉันจึงอยากพาเขากลับไป”
หานชิงมองต่ำไปที่เสี่ยวหมี่โต้วที่อยู่ข้างๆเธอ ยิ้มเล็กน้อยเอ่ยว่า “ถ้าหากยุ่งกับงานมากเกินไปละก็ ถ้าไม่อย่างนั้นเธอก็ย้ายกลับมาบ้านดีกว่า เสี่ยวหมี่โต้วอยู่ที่นี่แถมยังช่วยกันดูแลได้ง่าย ตอนงานยุ่งก็ไม่ส่งเขามา”
ย้ายกลับไปมาบ้าน?
หานมู่จือส่ายศีรษะโดยทันที
เธอจะย้ายกลับมาบ้านได้อย่างไร? ไม่เพียงแต่เธอต้องการใช้ชีวิตอย่างอิสระ สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ช่วงนี้เย่โม่เซินมักจะรบกวนเธอบ่อยๆ ถ้าหากเธอย้ายกลับมาอยู่ละก็ เย่โม่เซินจะตรงไปที่ประตูบ้านของตระกูลหานและเข้าไปในห้องนอนของเธอโดยตรงหรือไม่? ถ้าเย่โม่เซินเผชิญหน้ากับหานชิง จะต้องเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากอีกครั้งแน่ๆ
“ไม่ดีกว่าค่ะ อยู่ที่นั่นยังมีฉัน เสี่ยวเหยียน และ เสี่ยวหมี่โต้วสามคน ล้วนแต่สามารถช่วยดูแลซึ่งกันและกันได้ นอกจากนี้ ฉันยังต้องการใช้ชีวิตที่เป็นของตัวเอง ไม่สามารถพึ่งพาพี่ชายได้ตลอดไป ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หานชิงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจหนึ่งครั้ง ก้าวไปข้างหน้าและจ้องมองเธออย่างลึก ๆ
“ แต่ว่ามู่จื่อ พี่ยินดีที่จะดูแลเธอเสมอ”
หานมู่จื่อ “… ”
เธอเงยหน้าขึ้นมามองหานชิง เมื่อเห็นว่าดวงตาของเขาจับจ้องมาที่เธออย่างไม่กะพริบ ดวงตาคู่นี้มีเพียงแค่เธอเท่านั้น ทำให้คนน่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ถ้หากว่าหานชิงไม่ใช่พี่ชายแท้ๆของเธอ เธอเกือบจะคิดว่าหานชิงชอบเธอแล้ว
ท้ายที่สุด จะมีพี่ชายของตัวเองที่ไหนที่ยอมทำกับน้องสาวแบบนี้ได้? ไม่ว่าในกรณีใด ก็ดูเหมือนจะไม่ไปไม่ได้
แต่ว่า… เมื่อนึกถึงประประสบการณ์เลวร้ายของเขาในเมื่อก่อน ก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ
ตั้งแต่ที่เขาสูญเสียคุณพ่อ และน้องสาวหายตัวไป และจากนั้นไปนานก็สูญเสียคุณแม่ไปอีก การจากไปของคนในครอบครัวมักจะสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับหานชิง
และต่อมาหลังจากหาหานมู่จื่อเจอแล้วนั้น เธอก็เป็นคนในครอบครัวเพียงคนเดียวของเขา
คนที่อยู่คนเดียวมานาน จนกระทั่งไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นระหว่างคนในครอบครัว จึงอยากดูแลเธออยู่ตลอด และพึ่งพาซึ่งกันและกันกับเธอไปตลอดชีวิต
ความรู้สึกนี้ หานมู่จื่อรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ตัวเธอเองสามารถเข้าใจได้
แต่ในขณะเดียวกันความรู้สึกเช่นนี้ ก็ทำให้คนไม่มีอิสระด้วยเช่นกัน
โชคดีตรงที่ ความหึงหวงของหานชิงที่มีต่อเธอควบคุมได้ไม่ค่อยแข็งแกร่งเป็นพิเศษนัก ยอมให้เธอเปิดบริษัทอย่างอิสระ จัดการอย่างอิสระ และอนุมัติให้เธอย้ายออกไป
แน่นอนว่าหานมู่จื่อก็รู้ดีว่า นี่เป็นสิ่งที่เขาตามใจตัวเธอเอง
เพราะว่า เธอเป็นน้องสาวคนโปรดที่สุดของเขา
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หานมู่จื่อก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ และกระซิบว่า “พี่ชาย ฉันยังอยากอยู่ด้วยตัวเอง แต่ว่า… ต่อจากนี้ไปฉันจะพาเสี่ยวหมี่โต้วกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ และถ้าพี่มีเวลาละก็ สามารถไปบ้านของฉันที่นั่นทานข้าวด้วยกันก็ได้ ห้องเยอะขนาดนั้น พี่อยากจะมาอยู่ด้วยก็ได้นะ”
ในที่สุดหานชิงก็เผยรอยยิ้มออกอย่างโล่งใจ
“โอเค”