เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 649
บทที่649 หลงเสน่ห์เขาเข้าเหรอ
“พูดจริงนะ ถึงเวลานั้นอย่าลืมส่งการ์ดเชิญมาให้ตระกูลตวนมู่ด้วยนะ ผมจะพาน้องสาวของผมคนนี้ไปร่วมงานแต่งของคุณ เพื่อหาเจ้าบ่าวในงานที่หล่อกว่าคุณเป็นร้อยเท่าให้เธอ แต่ว่าคุณคงไม่เห็นว่าเพราะเป็นงานแต่งของคุณ ก็เลยห้ามไม่ให้คนในงานหล่อกว่าคุณหรอกใช่ไหม”
พูดถึงตรงนี้ ตวนมู่เจ๋อก็ยังเท้าคางแล้วทำท่าเหมือนกำลังครุ่นคิด
หานมู่จื่อได้ยินแล้วก็รู้สึกมึนงงไปหมด ผู้ชายตรงหน้าที่รูปโฉมงดงามแต่ดูไม่เบี่ยงเบนคนนี้แท้จริงแล้วคือพี่ชายของตวนมู่เสว่อย่างนั้นหรือ ?
ทั้งสองคน……
หน้าไม่เห็นจะเหมือนกันเลยสักนิด
ถึงแม้ว่าตวนมู่เสว่จะเป็นคนสวยเหมือนกัน แต่บรรยากาศต่างจากตวนมู่เจ๋อเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบบนใบหน้า หรือว่าคิ้วกับตา ก็ไม่มีส่วนไหนคล้ายกันเลยแม้แต่น้อย
พอตวนมู่เสว่ได้ยินตวนมู่เจ๋อพูดแบบนี้ ก็กระวนกระวาย ดึงแขนเสื้อของเขา
“พี่คะ พี่พูดอะไรของพี่ ใครจะไปร่วมงานแต่งของเขากัน ใครจะไปเลือกผู้ชายในงานแต่ง ตวนมู่เจ๋อ พี่เห็นน้องสาวของตัวเองเป็นคนยังไงกัน”
สีหน้าของตวนมู่เจ๋อออกแววดูถูก เขายิ้มอ่อนๆ “เธอก็ถูกใจผู้ชายคนนี้เพราะใบหน้าของเขาไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ชาวบ้านเขาจะแต่งงานแล้ว เธอยังจะตื๊อเขาอยู่แบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่อง ดังนั้นพี่ชายก็เลยจะพาเธอไปหาคนที่หน้าตาดีกว่าให้พากลับบ้านไง”
ที่จริงเธออยากจะแสดงให้คู่แข่งเห็นถึงความยิ่งใหญ่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้จะถูกตวนมู่เจ๋อทำให้ป่นปี้ไปหมดแล้ว
“ใครบอกว่าฉันสนใจเขาเพราะใบหน้านี้กัน พี่ไม่เข้าใจเลยสักนิด”
พอพูดจบ ตวนมู่เสว่ก็จ้องไปที่หานมู่จื่ออย่างแค้นเคือง จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปทันที
“ไม่ต้องส่งการ์ดเชิญไปที่ตระกูลตวนมู่ ฉันไม่มีทางไปร่วมงานแต่งของพวกเธอหรอก”
หานมู่จื่อขยับปาก พ่นคำสองคำออกมา
ตวนมู่เสว่ “……”
“เชิญตามสบาย”
เย่โม่เซินมองไปทางเธออย่างเย็นชา “ตามที่เธอปรารถนา”
ตวนมู่เสว่เดินออกไปทันที ตอนที่ถึงหน้าประตูเหล่าคนรับใช้ก็เข้ามาพยุงเธอไว้ “คุณหนูตวนมู่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ ?”
ตวนมู่เสว่เดินยืดอก เย่อหยิ่งเหมือนนกยูง เหล่าคนรับใช้รีบตามไป
หลังจากเดินออกไปหลายก้าว จู่ๆตวนมู่เสว่ก็ยกมือขึ้น “รีบมาพยุงฉันเร็ว ฉันโมโหจนแทบยืนไม่อยู่แล้ว”
“คุณหนูตวนมู่เสว่! ! !” เหล่าคนรับใช้รีบพุ่งเข้าไป พยุงเธออย่างรวดเร็ว
“น่าโมโหเป็นที่สุด กว่าจะเจอผู้ชายที่ถูกใจ ทำไมถึงได้โดนคนตัดหน้าได้ ก่อนหน้านี้พวกนายคนไหนที่เป็นคนบอกฉัน ว่าเย่โม่เซินยังโสดอยู่ ทำไมจู่ๆถึงได้มีคู่แต่งงานโผล่ออกมาได้ ทำเอาฉันเสียหน้ายกใหญ่ขนาดนี้ !”
“อาจ อาจจะเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดก็ได้ครับ คุณหนูตวนมู่ กลับไปแล้วผมจะจัดการฆ่าคนที่ส่งข้อมูลนี้มาให้เองครับ”
“ใช่ ต้องฆ่าให้ตาย”
“ช่างเถอะ รีบพยุงฉันกลับก่อน ฉันจะไปสงบสติอารมณ์ แล้วค่อยวางแผนใหม่”
เดิมทีตวนมู่เสว่คิดว่าคงจะเป็นแค่ผู้หญิงที่ไล่ตามเย่โม่เซินคนหนึ่งเท่านั้น ยังไงเธอก็ต้องสู้ได้ เพราะยังไงเธอในฐานะคุณหนูตวนมู่เสว่ ทั้งฐานะและรูปลักษณ์ ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จีบไม่ติดแน่
แต่ว่าตอนนี้ พอได้ยินว่าเขาจะแต่งงาน ปฏิกิริยาแรกของตวนมู่เสว่ก็คือโอกาสที่จะไล่ตามเขาแทบจะหมดแล้ว
แต่ความอัปยศในใจก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว
ชาวบ้านกำลังจะแต่งงานอยู่แล้ว เธอจะไปตื๊อเขาอยู่อีกทำไม แถมยังพูดจาโหดร้ายแบบนั้นกับคู่หมั้นชาวบ้านอีก เมื่อคิดว่าเธอกำลังพูดกับตัวเองในฐานะของคู่หมั้น ตวนมู่เสว่ก็รู้สึกว่าตัวเองโง่มาก ! โง่มากที่สุด! ! !
“น้องสาวผมถูกทำให้โมโหจนหนีไปแล้วเหรอ พวกคุณนี่มีความสามารถจริงๆ งั้นผมก็ขอตัวไปก่อนนะ” ในที่สุดตวนมู่เจ๋อก็ไม่พิงโซฟาอีกต่อไป เขาล้วงกระเป๋าข้างหนึ่งแล้วลุกขึ้น “เย่โม่เซิน เดือนหน้าอย่าลืมส่งการ์ดเชิญมาให้ผมนะ น้องสาวผมไม่เอา แต่ผมเอา”
ดวงตาจิ้งจอกที่ชี้ขึ้นของเขามองมาที่ใบหน้าของหานมู่จื่อ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ไม่ทราบว่าคุณนายเย่ในอนาคตยังมีพี่สาวน้องสาวเหลืออยู่หรือเปล่าครับ”
มุมปากของหานมู่จื่อขยับขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ตอบเขา ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของเย่โม่เซินดังขึ้นก่อน “ไม่เกี่ยวกับคุณ ธุระของคุณหมดแล้ว ไสหัวออกไปได้แล้ว”
“ให้ตาย” ตวนมู่เจ๋อสาปแช่งออกมาคำหนึ่ง “คุณนี่ไร้น้ำใจจริงๆ ผมอุตส่าห์มาช่วยคุณแต่เช้า ตอนนี้น้องสาวผมไปแล้ว คุณก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีเลยเหรอ”
เย่โม่เซินขมวดคิ้ว มองดูผู้ชายเอ้อระเหยตรงหน้าด้วยสีหน้าบึ้งตึง
ก่อนเซ็นสัญญา เขากับตวนมู่เจ๋อก็เคยเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ผู้ชายตรงหน้าถึงแม้จะดูเหมือนยิ้มแย้มแจ่มใส แต่เย่โม่เซินก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้รับมือง่ายเหมือนที่แสดงออก
ตระกูลใหญ่อย่างตระตวนมู่ถูกเขาคุมไว้อย่างอยู่หมัด ไม่ว่าจะเบื้องบนหรือเบื้องล่าง ก็จัดการได้อย่างไร้ที่ติ
บางที ความเอ้อระเหยที่เห็นนั้นอาจเป็นเพียงแค่สิ่งที่เขาใช้หลอกคนอื่นเท่านั้น
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ แววตาของเย่โม่เซินก็เปลี่ยนเป็นเฉียบขาดขึ้นทันที มองไปที่ตวนมู่เจ๋อราวกับศรที่แหลมคม
“ได้ สายตาแบบนี้ผมเองก็กลัวเหมือนกัน ยังไงน้องสาวผมก็ไปแล้ว ผมก็ไม่มีธุระอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อน คุณนายเย่ในอนาคตครับ ถ้ามีน้องสาวหรือพี่สาวถึงตอนนั้นอย่าลืมแนะนำให้ผมรู้จักนะครับ”
พอสิ้นเสียง ตวนมู่เจ๋อก็ขยิบตาให้เธอทีหนึ่ง
หานมู่จื่อ “……”
คนๆนี้ช่าง……มุมปากของเธอขยับขึ้นอย่างอดไม่ได้
พอนับดูดีๆแล้ว นี่น่าจะเป็นวันที่เธอมีอาการกระตุกที่มุมปากมากที่สุดวันหนึ่งแล้ว
หลังจากตวนมู่เจ๋อจากไปแล้ว หานมู่จื่อก็ตกอยู่ในความคิดของตัวเอง จนตอนที่เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เอวจึงทำให้เธอได้สติกลับมา
มองดูเย่โม่เซินที่กอดตัวเองไว้ในอก ห้านมู่จื่อก็เลิกคิ้วงามขึ้น
“ทำไมคุณถึงกอดแน่นขนาดนี้ เจ็บนะ”
เธอยื่นมือออกไป หมายจะปัดมือใหญ่ของเย่โม่เซินที่อยู่ตรงเอวเธอ
เย่โม่เซินขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม ไม่เพียงไม่ยอมผ่อนแรง แต่มืออีกข้างกลับบีบด้วยอีกแรง
“กำลังคิดอะไรอยู่”
เสียงของเขาแหบพร่า เต็มไปด้วยความหึงหวงอย่างรุนแรง ถามเธออย่างไม่พอใจ “เหม่อลอยขนาดนั้น หลงเสน่ห์เขาเข้าเหรอ ?”
หานมู่จื่อชะงักไปหลายวินาทีกว่าจะได้สติกลับมา มองใบหน้าหล่อเหล่าที่อยู่ตรงหน้าอย่างขบขัน
“เย่โม่เซิน คุณไม่มั่นใจในตัวเองขนาดไหนกัน”
“อืม ?”
“คุณอยู่ตรงหน้าฉันแบบนี้แล้ว ฉันจะไปหลงเสน่ห์ผู้ชายคนอื่นอีกได้ยังไง”
คำชมที่มาอย่างกะทันหันทำให้เย่โม่เซินชะงักไป พอหานมู่จื่อพูดจบก็อึ้งไปเหมือนกัน เกือบจะเผลอกัดลิ้นตัวเอง
ทำไมเธอถึงออกปากชมเขา แบบนี้จะทำให้เขาเหลิงน่ะสิ
หานมู่จื่อกำลังคิดจะพูดอะไรเพื่ออธิบาย แต่กลับพบว่าใบหูของเย่โม่เซินกลายเป็นสีแดง
เธอยังคิดว่าตัวเองดูผิดหรือเปล่า แต่พอดูดีๆอีกทีก็พบว่าแดงแล้วจริงๆ
“คุณ……ก็อายเป็นด้วยเหรอ”
หานมู่จื่อมองใบหูสีแดงของเขาอย่างตื่นเต้นราวกับได้ค้นพบแผ่นดินผืนใหม่ เพราะความสงสัย เลยอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป สัมผัสใบหูสีแดงระเรื่อของเย่โม่เซิน
แล้วพอปลายนิ้วสัมผัสโดนใบหูเขา ก็ถูกเย่โม่เซินรวบมือทั้งคู่ไว้ทันที
“ทำอะไร” เสียงของเขาแหบพร่าเล็กน้อย
หานมู่จื่อกะพริบตาปริบๆ สีหน้าอยากรู้อยากเห็นและยังพยายามจะยื่นมือออกไปอีกครั้ง “ให้ฉันจับดูหน่อยสิ”
เพิ่งเคยเห็นเย่โม่เซินทำท่าเขินอายต่อหน้าเธอเป็นครั้งแรก ทำให้เธอเซอร์ไพรส์มาก
“จะจับก็ได้” เย่โม่เซินโน้มตัวเข้าไปใกล้ แล้วกัดที่ใบหูของเธอคำหนึ่ง “แต่ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน”
หานมู่จื่อ “……ช่างเถอะ”
“เธอบอกว่าช่างก็ช่างงั้นเหรอ ?”