เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 653
บทที่653 รอยดูด
ไหนๆก็บอกให้รอแล้ว งั้นตอนนี้เธอคงออกไปไหนไม่ได้สินะ จะเป็นการที่ให้เย่โม่เซินมาถึงแล้วถูกเบี้ยวนัดซะเปล่าๆ
อีกอย่างหานมู่จื่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่ที่ไหน
คิดๆดูแล้ว เธอลุกเดินไปที่นอกบ้าน ว่าจะดูบรรยากาศโดยรอบสักหน่อย แล้วจะดูว่าที่นี่ที่ไหนกัน
เมื่อมาถึงห้องโถง หานมู่จื่อค้นพบว่าที่ห้องรับแขกมีระเบียงใหญ่ระเบียงหนึ่ง แต่ผ้าม่าน เปิดไว้เพียงครึ่ง
เธอบิดขี้เกียจ เดินไปเปิดผ้าม่าน
แสงแดดวันนี้ดีจริงๆ ไม่รู้ว่าเย่โม่เซินอีกนานเท่าไหร่กว่าจะมาถึง
หานมู่จื่อเดินไปถึงระเบียงมองไปรอบๆ บรรยากาศยิ่งเห็นยิ่งคุ้นตา หน้าหมู่บ้านมีต้นแปะก๊วย แล้วก็มีหินกรวดตามทางเดิน
นี่……ทำไมถึงดูเหมือนหมู่บ้านเธอเหลือเกิน
และตำแหน่งนี้……
หลังจากนี้อีกสิบวินาที หานมู่จื่อเดินกลับมาจากระเบียง แล้วรีบเดินเข้าไปทางประตู
พอเปิดประตูกันภัย หานมู่จื่อก็เหม่อลอยไปทางประตูบ้านของตนเอง
เป็นตามคาด……
ที่แท้เมื่อคืนตอนเธอหลับไป เย่โม่เซินพาเธอมาตรงข้ามบ้าน
ก่อนหน้าเย่โม่เซินพักที่นี่มาโดยตลอด
ในช่วงเวลาหนึ่ง ในใจหานมู่จื่อสับสนไปหมด พูดอะไรไม่ออก
เท่าที่เธอรู้ ก่อนหน้าตอนที่ซื้อบ้าน ตรงข้ามไม่มีใครอยู่ และก็ไม่น่าจะบังเอิญขนาดนี้ เธอมาซื้อบ้านตรงข้ามเย่โม่เซินหรือนี่
ความเป็นไปได้สูงมาก บ้านหลังนี้เย่โม่เซินมาซื้อทีหลัง
ส่วนเรื่องว่าทำไมเขาถึงต้องซื้อ เหตุผลนี่ไม่ต้องคิดเลย
หานมู่จื่อหลับตา ปิดประตูลงกลอน กลับเข้าไปในห้อง
เย่โม่เซินมาอย่างรวดเร็ว พอได้ยินเสียงเปิดประตู หานมู่จื่อที่นั่งอยู่บนโซฟาก็เงยหน้า ขึ้น
ผมเผ้าและเสื้อผ้าหลุดลุ่ย หน้าผากยังคงมีคราบเหงื่อ ตอนที่หานมู่จื่อเห็นเขา ก็เพียงสิบนาทีหลังจากวางสาย
เขาจะรีบแค่ไหนเนี่ย
หานมู่จื่อลุกขึ้นยืน เย่โม่เซินเดินมา โอบเอวเธอไว้
“ผมไม่ดีเอง คุณคงหิวแย่แล้วสิ”
“เอ่อ……ไม่ขนาดนั้นหรอก”หานมู่จื่อส่ายหน้า“ทำไมคุณมาเร็วขนาดนี้ล่ะ คุณขับเร็วเกินกำหนดมาเหรอ”
เย่โม่เซินยิ้มขึ้นมุมปาก“เป็นห่วงผมเหรอ”
เธอเบนสายตาออก ได้ยินเขาพูดว่า“สบายใจได้ ผมกำหนดความเร็วได้ดี ยังไงก็ต้องมีชีวิตมากินข้าวกับคุณอยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินดังนี้ หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะถลึงตา“ใครให้พาเล่า ทั้งๆที่ฉันแก้ปัญหาเองก็ได้ อีกอย่างนะ……ใช่ว่าฉันจะไม่คุ้นเคยกับที่นี่”
“ดูท่าคุณออกไปดูมาแล้วสินะ”
หานมู่จื่อพยักหน้า“ตอนที่รอคุณฉันไปที่ระเบียงมา ก็เลย……เดาถูกน่ะ”
เย่โม่เซินพิงบ่าของเธอ เมื่อเห็นเธอสวมเสื้อผ้าที่เขาเตรียมให้ ภายใต้ขอบตาที่ดำคล้ำ จึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ชอบไหมล่ะ”
“อะไรนะ”หานมู่จื่อเงยหน้าอย่างตกตะลึง เดาความหมายของเขาไม่ถูก
“เสื้อผ้า”เย่โม่เซินก้มหน้ามองด้วยแววตาอ่อนโยน“ผมเลือกเองทั้งนั้น”
“เลือกเองเหรอ”จู่ๆจะโพล่งออกไปได้ไง อย่างไรเสียเสื้อผ้ามีมากมาย เขามีเวลาไปเลือกที่ไหนกัน แต่ว่า……พอคิดถึงขนาดของเสื้อผ้าที่จะแนบตัว หานมู่จื่อคิดว่าเขาน่าจะพูดจริง
เธอจึงกระพริบตา จากนั้นจึงชมออกไปคำหนึ่ง
“ก็ดีนะ ก็ชอบล่ะ”
“ให้ ผมดูหน่อย……”เย่โม่เซินพูดเสียงต่ำ มือไปสัมผัสปกเสื้อเธอ และอยากจะปลดกระดุม
หานมู่จื่อหน้าถอดสี กดมือของเขาไว้“ทำอะไรน่ะ”
“ก็ดูเสื้อผ้าที่ผมเลือกสิ”
“ก็ดูสิ คุณมาปลดเสื้อผ้าฉันทำไม”หานมู่จื่อตบมือเขา แล้วก้าวถอยหลัง รู้สึกว่าคนๆนี้ผิดปกติ หลังจากที่ได้กลับมาพบกัน ทุกฝีก้าวเวลาที่เขาอยู่กับเธอ ดูเหมือนจะมีแต่ต้องการหลับนอน……
คือเก็บกดเหรอ ทำไมเมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้
เย่โม่เซินได้ฟังมองสายตาลุ่มลึกสองสามที แล้วพิงไปอีกที“ถ้าไม่ถอด จะดูยังไง”
“……”
หานมู่จื่อมองเขาประหนึ่งเขามีปัญหาสุขภาพจิต เธอเบี่ยงพลาง พูดพลาง“อย่าเลย ดูแบบนี้แหละ คุณคงจะไม่……”
เธอพูดไปทีหนึ่ง จู่ๆนึกขึ้นได้ แล้วหยุดจ้องมองเขา
“คุณว่าคุณเลือกเองกับมือ คงจะไม่……”
หมายถึงชุดชั้นในเหรอ หานมู่จื่อก้มหน้ามองร่องอกตัวเอง กระตุกมุมปากขึ้น อาศัยจังหวะที่เธอกำลังเหม่อลอย เย่โม่เซินก็อิงมาอีก ใช้อีกมือโอบเธอไว้ อีกมือนาบลงไปบน ร่องอก
“เป็นเด็กดีหน่อยน่า ขอดูหน่อย”
หานมู่จื่อหน้าถอดสี“เย่โม่เซิน หยุดเดี๋ยวนี้”
เธอแทบจะส่งเสียงคำรามออกมา
มือของเย่โม่เซินหยุดชะงัก ก้มมองเธอ ดวงตาสีน้ำหมึกมีแววขอร้อง น้ำเสียงแผ่วเบา“ขอดูหน่อยน่า นะ”
หานมู่จื่อ“……ไม่ได้”
“นะครับ”เย่โม่เซินกล่อมเธอต่อ น้ำเสียงราวดึงดูด หานมู่จื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห้ามความคิดไม่อยู่
เธอขยับริมฝีปาก ประชิดเย่โม่เซิน
สุดท้าย……จึงพยักหน้าอย่างสมยอม
พอได้รับคำอนุญาตจากเธอ เย่โม่เซินจึงไม่หยุด รีบปลดกระดุมเสื้อเธอออก เผยให้เห็น ลำคอขาวระหง และสายเสื้อในสีแดง
หานมู่จื่อรู้สึกว่าท่าทีของเขา สัมผัสได้ถึงลมหายใจแผ่วเบาที่ค่อยๆเพิ่มความหนักขึ้น เธอกระพริบตาอย่างตึงเครียด จากนั้นกัดริมฝีปาก
“คุณ คุณดูเสร็จหรือยัง”
“อืม……”เย่โม่เซินมองอย่างจริงจัง ริมฝีปากบางๆเชิดขึ้น“แนบตัวมาก ดูท่าผมเลือกเสื้อผ้าให้คุณได้ถูกต้องแล้วล่ะ”
พอเห็นเขาเอาแต่จ้อง หานมู่จื่อก็หน้าแดงหูแดงขึ้นมา กัดริมฝีปากผลักเขาออก
“เอาล่ะ ดูเสร็จแล้ว ไปกินข้าวได้ยัง ฉันหิวจะตายอยู่แล้วนะ”
เธอถอยไปอีกด้าน หันไปจัดแจงเสื้อผ้า
เพิ่งกลัดกระดุมเม็ดแรกเสร็จ เย่โม่เซินที่อยู่ด้านหลังก็โถมเข้ามา“ผมสั่งอาหารแล้วกัน เดี๋ยวค่อยกินได้ไหม”
ในตอนที่พูด ลมหายใจที่พ่นใส่เธอร้อนระอุ แล้วมือก็ไต่ไปสะเปะสะปะ
หานมู่จื่อตกใจ รู้ว่าเขาจะสั่งอาหารเพราะอะไร ดวงตากลอกไปมา“ไม่ได้นะ กินข้าวแล้วฉันต้องไปบริษัทรอบนึง ถ้าวันนี้คุณไม่ให้ฉันไป คุณก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นลูกชายคุณเลย”
มือที่พันเอวเธออยู่ จึงปล่อยออก
“มู่จื่อ คุณใจร้ายกับผมเหลือเกิน”
เย่โม่เซินบ่นขึ้น ราวกับอดรนทนไม่ได้ แต่ก็เหมือนระบายความในใจ จู่ๆก็ใช้ปากจู่โจม ลำคอของเธอ
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน หานมู่จื่อรู้สึกลำคอชาไปหมด เตรียมที่จะผละเขาออก แล้วจะถอย ไป
“เอาล่ะ ถอยไปเถอะ”
“รอเดี๋ยว”
หานมู่จื่ออยากดูว่าที่ลำคอได้เหลือร่องรอยอะไรทิ้งไว้หรือไม่ แต่เย่โม่เซินก็อุ้มออกมาที่ ประตูเสียก่อน
รอจนขึ้นรถที่ชั้นล่าง หานมู่จื่อจึงได้ไปดูลำคอตนเอง
ตามคาด รอยสีชมพูทิ้งไว้บนลำคอ ที่แย่ไปกว่านั้นวันนี้เธอสวมเสื้อคอต่ำ