เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 660
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่660 กลับไปอย่างว่าง่าย
“20นาทีเหรอ”น้ำเสียงเย่โม่เซินฟังดูไม่พอใจ หานมู่จื่อได้แต่อธิบาย“ฉันเดินผ่านซุปเปอร์มาร์เก็ต อยากแวะซื้อของหน่อย ไหนๆคุณก็อยู่หน้าบ้านแล้ว รอหน่อยไม่ได้หรือคะ”
“ซุปเปอร์มาร์เก็ตไหน ผมไปรับ”
“ไม่ต้อง!”หานมู่จื่อปฏิเสธอย่างร้อนรน
ถ้าให้เขามารับ ก็รู้กันหมดพอดี หานมู่จื่อสูดลมหายใจลึกๆ พยายามให้ตัวเองสงบ
“ไม่ต้องมารับฉันค่ะ ฉันซื้อของแป๊บเดียว ถ้าคุณรอจนเหนื่อย คุณกลับบ้านคุณก่อน ค่ำหน่อยฉันไปหาคุณเอง”
พอพูดออกไป ทางนั้นเงียบอยู่นาน สุดท้ายตอบกลับมาว่า“ตกลง”
พอวางสาย หานมู่จื่อถอนหายใจออกมาด้วยความโล่ง เธอเอามือกุมอก รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงและเร็ว
ถ้าโกหกบ่อยเกินไป ต่อไปจะรู้สึกผิดไหมนะ
แต่ว่าในเวลานี้ หานมู่จื่อจะคุยกับเย่โม่เซินได้อย่างไร ตามอารมณ์ของเขา ถ้าเธอบอก ว่าอยู่โรงพยาบาล เขาจะต้องรีบบึ่งมาทันที และถ้ารู้ว่าเธอมาเยี่ยมเย่หลิ่นหาน เรื่องก็จะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่
เธอรู้ดีกว่าไม่ควรมาเยี่ยมเย่หลิ่นหาน แต่ว่าเธอจะใจจืดใจจำไม่ได้นี่นา
หานมู่จื่อจึงบอกตัวเองว่า พอถามหมอเสร็จแล้ว แน่ใจว่าเย่หลิ่นหานพ้นขีดอันตรายเธอจะรีบกลับ
“คุณหาน เวลานี้ยังมีเรื่องที่บริษัทหรือครับ”พอเดินไป ผู้จัดการอี้อดถามขึ้นไม่ได้
พอฟังแล้ว หานมู่จื่อจึงมองทีหนึ่ง“ไม่ใช่ค่ะ เป็นคนในบ้าน มีอะไรหรือคะ”
“ไม่มีอะไรครับ ผมคิดว่าป่านนี้แล้วยังทำงานที่ทำงานไม่เสร็จ แล้วให้คุณหานมา ก็รู้สึกเกรงใจครับ”ผู้จัดการอี้ยิ้ม จากนั้นก็อดไม่ได้“จริงสิ คุณหานมีแฟนหรือยังครับ”
หานมู่จื่อ“……คำถามของผู้จัดการอี้ ฟังดูแปลกนะคะ”
“เอ่อ”
“เวลานี้ประธานหานของคุณเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ คุณมาถามคำถามแบบนี้กับฉัน เหมาะสมหรือคะ”
แววตาของหานมู่จื่อเฉียบคม จนผู้จัดการอี้เสียวสันหลัง เขายิ้มอย่างกระอักกระอ่วน เหงื่อตก มือหนึ่งปาดเหงื่อ“เหอะๆ ผม……ผมถามไปงั้นเอง ไม่รู้จะคุยอะไร ถ้าคุณหานถือสา ต่อไปผมจะไม่พูดครับ ขอโทษจริงๆ”
หานมู่จื่อจึงเก็บสายตา มองไปทางห้องผู้ป่วย
บรรยากาศโดยรอบเงียบจนอึดอัด ผู้จัดการอี้มองดูด้านข้างใบหน้าที่แสนจะเย็นชาของ
หานมู่จื่อ ไม่กล้าปริปากพูด
ได้แต่รออยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดคุณหมอก็ออกมา
“ใครเป็นญาติผู้ป่วยครับ”
หานมู่จื่อยืนนิ่งไม่ขยับ ผู้จัดการอี้รอครู่หนึ่ง ได้แต่เดินขึ้นหน้า
“สวัสดีครับคุณหมอ ผมเป็นเพื่อนผู้ป่วย ญาติของเขายังไม่มาน่ะครับ มีอะไรบอกผมได้”
“ผู้ป่วยลำไส้อักเสบเฉียบพลันครับ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ตรวจดู ถ้าไม่มีอะไร คืนนี้ก็กลับได้ครับ คนหนุ่มๆ ต้องระวังเรื่องอาหารนะครับ”
“ครับๆ ขอบคุณคุณหมอนะครับ ผมจะบอกเขา”
พอหมอออกไป ผู้จัดการอี้จึงสาวเท้าเดินไปที่ห้องผู้ป่วย เดินไปไม่กี่ก้าวถึงได้รู้ว่าคนด้านหลังไม่ขยับ เขาจึงหันหลังไปมองหานมู่จื่อ
“คุณหาน ไม่ไปหรือครับ”
หานมู่จื่อยิ้มเล็กน้อย“ในเมื่อเขาไม่เป็นไรแล้ว ฉันไม่เข้าไปแล้วดีกว่าค่ะ”
“คือ……”
“รบกวนผู้จัดการอี้ค่ะ ฝากดูแลประธานหานด้วย ฉันยังมีธุระที่บ้านต้องจัดการ ขอตัวก่อนนะคะ”
พูดจบ หานมู่จื่อไม่รอให้ผู้จัดการอี้ตอบกลับ ก็รีบจากไป
หานมู่จื่อเดินฉับๆออกไปจากโรงพยาบาลอย่างไม่ชะลอฝีเท้า พอออกจากโรงพยาบาล เธอจึงรีบเรียกรถแล้วบอกจุดหมาย แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาเรคคอร์ดการโทร
ช่วงที่เธอคุยกับเย่โม่เซินห่างกันสิบห้านาที ตอนนี้ถ้าเร่งกลับไป อย่างน้อยต้องใช้เวลา อีกสิบห้านาที
เฮ้อ เมื่อกี้เธอน่าจะบอกเวลามากหน่อย แต่ถ้าบอกมากไป เย่โม่เซินก็จะสงสัยเอาได้ ตอนนี้รีบไป เวลาก็ไม่พออยู่ดี
หานมู่จื่อเก็บสายตา มองไปที่คนขับ
“คุณลุงคะ รบกวนเร็วหน่อยได้ไหมคะ ฉันรีบ”
คุณลุงดูไม่พอใจ:“พวกหนุ่มสาวเนี่ยสักแต่ว่าเร็ว ไม่ได้สนใจความปลอดภัยเลย เวลานี้ เป็นเวลารถติดที่สุด จะไปเร็วได้ไง”
“ขอโทษนะคะ ฉันรู้ว่ามันยาก แต่ว่าคุณลุงช่วยเร่งให้ฉันหน่อยนะคะ ขอร้องล่ะ”หานมู่จื่อทำมือขอร้องคนขับ คนขับหรี่ตามอง แล้วเก็บสายตากลับ“ผมจะพยายามเร่งแล้วกัน แต่ถ้ารถติดก็ช่วยไม่ได้นะ”
บทจะซวยก็ประดังประเดเข้ามา หมายความว่าอย่างนี้สินะ
เธอรีบกลับไป แต่ว่าเจอรถติด เวลานี้เวลารถติดพอดี
รถติดจนขยับไม่ได้ หานมู่จื่อร้อนใจ คอยมองนาฬิกาตลอด เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเย่โม่เซินอย่างไรดี
“คุณลุงคะ ตรงนี้จะติดอีกนานไหม ”
“ตอบไม่ได้ เวลานี้รถติดมาก บางทีครึ่งชั่วโมง ชั่วโมงนึงยังมี แต่เรายังไม่รั้งท้าย ค่อยๆขยับไปได้”
ค่อยๆขยับก็ไม่ทันอยู่ดี
หานมู่จื่อมองดูโทรศัพท์ แล้วส่งข้อความให้เย่โม่เซิน
{ตอนนี้ฉันยังกลับไม่ได้ คุณจะรอฉันไหม}
พอส่งข้อความออก โทรศัพท์ก็มาทันที
หานมู่จื่อเห็นเป็นชื่อเย่โม่เซิน ก็ปวดหัวตุ๊บขึ้นมาทันที แต่ก็บากหน้ารับโทรศัพท์
“ไปไหน ทำไมยังไม่กลับ”
เสียงเย่โม่เซินทุ้มต่ำ ฟังเหมือนไม่พอใจ
หานมู่จื่อกัดริมฝีปาก หลับตา“รถ รถติดค่ะ……”
“คุณอยู่ซุปเปอร์ข้างล่างไม่ใช่เหรอ แล้วมารถติดอะไรล่ะ”
หานมู่จื่อสูดลมหายใจ ไม่รู้ตอบไงดี
ทั้งคู่เงียบไปครู่ใหญ่ เย่โม่เซินเหมือนรู้สึกอะไรได้ จึงถามว่า“คุณอยู่ไหน ส่งโลเคชั่นมา ผมไปรับ”
“……รถติด รถคุณมาก็ไม่มีประโยชน์หรอก มาไม่ได้”
เย่โม่เซินสูดลมหายใจลึกๆ“คุณช่างมีวิธียั่วโทสะผมจริงๆ มู่จื่อ”
“คุณอย่าโกรธ ฉันจะลงรถ เดินกลับตอนนี้”
พูดพลาง หานมู่จื่อเตรียมตัวลงรถ แต่กลับได้ยินเย่โม่เซินบ่น“รถเยอะขนาดนี้ จะมายังไงกลับไปอยู่เฉยๆอย่างว่าง่ายเถอะ”
เธอจึงหยุดอยู่กับที่ ในใจอึดอัดเหลือแสน“ทำไงดีคะ”
“ทำไงได้ล่ะ”เย่โม่เซินอ่อนใจ“รอให้รถเลิกติด ผมรอคุณอยู่ชั้นล่าง”
พอได้ยินเย่โม่เซินพูด หานมู่จื่อก็รู้สึกลำบากใจขึ้นมา กัดริมฝีปากตัวเอง ไม่รู้ว่าควรพูด อะไรดี หลังจากวางโทรศัพท์ ในใจเธอรู้สึกเซ็งมาก
เธอโกหกอยู่ทางนี้ ส่วนเขาก็ไม่รู้เรื่องอยู่ทางนั้น