เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 725
บทที่ 725 มองเสี่ยวหมี่โต้วหน่อยได้ไหม
ดังนั้นเสี่ยวหมี่โต้วจึงถูกเหลือไว้ในประเทศ ช่วงนี้เรื่องนี้ได้แพร่กระจายในประเทศจีนอย่างร้อนระอุ ก็ไม่รู้ว่าเสี่ยวหมี่โต้วรู้หรือเปล่า
หานชิงได้แต่ภาวนาให้เสี่ยวหมี่โต้วยังไม่รู้เรื่องนี้
ดังนั้นตอนที่เสี่ยวหมี่โต้ววิ่งไล่เขาผู้ซึ่งมีฐานะเป็นลุง เดิมทีหานชิง อยากจะโกหกเขาว่า แดดดี้หม่ามี๊ของหนู หลังจากที่จัดพิธีแต่งงานเสร็จ ก็ถือโอกาสไปฮันนีมูนแล้ว อีกสักระยะเวลาหนึ่ง ถึงจะกลับมา
หลังจากความคิดนี้ก่อตัวขึ้นในสมอง หานชิงก็รู้สึกว่าไม่ได้
เพราะเขาเองก็ไม่อาจแน่ใจได้เลยว่า เย่โม่เซินจะกลับมาหรือไม่
กลับมาได้ยังดี ถ้ากลับมาไม่ได้ล่ะ? แล้วเขาสร้างคำโกหกนี้ จะอธิบายกับเสี่ยวหมี่โต้วยังไง? เมื่อเด็กรู้ความจริงในอนาคต ก็ยังคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเสียใจ
หานชิงมองเสี่ยวหมี่โต้วตรงหน้า ที่ท่าทางบริสุทธิ์ไร้เดียงสาต่อหน้า ทำใจเด็ดเดี่ยว
บอกความจริงกับเขาโดยตรงเลยจะดีกว่าเสียอีก อนาคตเขารู้ความจริงแล้ว จะได้ไม่ต้องเสียใจ ถ้าเย่โม่เซินมีชีวิตรอดกลับมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ถือเป็นเซอร์ไพรส์ไม่ใช่หรือ?
เมื่อนึกถึงอย่างนี้ หานชิงก็นั่งลงตรงหน้าเสี่ยวหมี่โต้ว ยื่นมือออกไปลูบหัวของเขาเบาๆ พูดด้วยเสียงต่ำ “เสี่ยวหมี่โต้ว ลุงมีอะไรบางอย่างอยากจะบอกกับหนู”
เสี่ยวหมี่โต้วเอียงหัวเล็กน้อย “ลุง?”
“หนูไปห้องทำงานกับคุณลุง แล้วลุงจะบอกทุกอย่างกับหนู”
*
อีกด้านหนึ่ง หานมู่จื่อนั่งอยู่บนเตียงโรงพยาบาล จ้องมองไปที่แสงแดดนอกหน้าต่างด้วยแววตาว่างเปล่า
“มู่จื่อ เสี่ยวหมี่โต้วร้องไห้บอกว่าจะวิดีโอคอลกับคุณ คุณจะไม่สนใจเขาหน่อยหรือ?” เสี่ยวเหยียนถือโทรศัพท์ไว้ นั่งบนขอบเตียง มองไปที่หานมู่จื่อ
เมื่อได้ยิน ปลายนิ้วของหานมู่จื่อชะงักเล็กน้อย จากนั้นเธอก็หันหน้าหนี ไม่ได้สนใจเสี่ยวเหยียน
ริมฝีปากซีดเผือดเม้มไว้อย่างแรง แววตาของหานมู่จื่อสิ้นหวังเล็กน้อย
เธอสัญญากับเสี่ยวหมี่โต้วไว้ว่า จะหาแดดดี้ให้เขา แต่ตอนนี้เธอกลับมาทำให้แดดดี้ของเขาหายไป ก่อนที่แดดดี้ของเขาจะกลับมา เธอยังมีหน้าอะไร ที่จะไปพูดกับเสี่ยวหมี่โต้ว?
เกรงว่า ตอนที่เห็น ตัวเองยังไม่ทันพูด น้ำตาก็ไหลออกมาก่อนแล้ว
เสี่ยวเหยียน “มู่จื่อ อย่าใจร้ายแบบนี้เลย เสี่ยวหมี่โต้วเสียใจมากเลยนะเขาคิดว่าตัวเองเพิ่งหาเจอแดดดี้นะ คุณไม่สนใจเขาตอนนี้ จะให้เขาร้องไห้แทบตายหรือไง?”
ในขณะที่พูด ดวงตาของเสี่ยวเหยียนก็เริ่มแดง “ขอร้องล่ะ มู่จื่อ คุณพูดกับเขาหน่อยเถอะ ไม่กี่คำก็ได้ วันนี้ตอนที่ฉันวิดีโอคอล เสี่ยวหมี่โต้วร้องไห้แทบขาดใจแล้ว นี่เป็นครั้งแรก ที่ฉันเห็นเขาร้องไห้แบบนี้ คุณรู้ไหม…… เมื่อก่อนเสี่ยวหมี่โต้ว ไม่เคยร้องไห้เลย”
หานมู่จื่อฟังจนหัวใจสั่นไหว ริมฝีปากชมพูเปิดออกเล็กน้อย หัวใจของเธอจะทนไว้ได้อย่างไร?
แต่ว่า……ถ้าตอนนี้เธอเจอเสี่ยวหมี่โต้ว เธอจะพูดอะไรกับเขา?
บอกว่ามีแดดดี้ของหนูเกิดอุบัติเหตุ ขุดบาดแผลของตัวเองอีกครั้งหรือ?
หานมู่จื่อส่ายหัวเบาๆ “ไม่ อีกสองสามวันแล้วกัน ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จริงๆ”
“มู่จื่อ!” เสี่ยวเหยียนไม่ยอมแพ้ ยังคงเรียกชื่อของเธอ
คำพูดของเธอทำให้หานมู่จื่อรู้สึกร้อนรนหงุดหงิด พูดอย่างเย็นชาโดยตรง “ออกไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก”
เสี่ยวเหยียนไม่ได้ขยับ แต่ก็เงียบลง หานมู่จื่อคิดว่า เธอเข้าใจคำพูดของตัวเองแล้ว
แต่ใครจะรู้ว่า หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งนาที ทันใดนั้นเสียงร้องไห้ของเด็กชายก็ดังขึ้นในห้องผู้ป่วยที่เงียบสงบ
“หม่ามี๊! หม่ามี๊……ฮึมๆ……”
เสียงที่คุ้นเคยนี้ ทำให้หานมู่จื่อสั่นสะดุ้ง มองไปที่ต้นเสียงนั้นอย่างเหลือเชื่อ
ตามที่คาด เธอเห็นเสี่ยวเหยียนถือโทรศัพท์ เปิดวิดีโอคอลไว้ เสี่ยวหมี่โต้วในหน้าจอ ร้องไห้กระหืดกระหอบ ร้องหาเธอตลอดเวลา
น้ำตาและเสียงร้องไห้นี้ ราวกับมีดคม แทงเข้าไปในหัวใจของหานมู่จื่อ
เธอเบิกตากว้างจ้องมองเสี่ยวหมี่โต้ว หันหน้าหนีอย่างรวดเร็ว น้ำตาคลอเบ้าแล้ว
“หม่ามี๊ มองเสี่ยวหมี่โต้วหน่อยได้ไหม? หม่ามี๊…… เสี่ยวหมี่โต้วอยากพูดกับหม่ามี๊……”
“ปิดวิดีโอคอลทิ้ง” หานมู่จื่อได้ยินตัวเองใช้น้ำเสียงที่เย็นชาสั่งเสี่ยวเหยียน
เสี่ยวเหยียนไม่ฟังเธอ ยังคงเอาวิดีโอคอลไว้ตรงหน้าเธอ เหมือนตั้งใจที่จะต่อต้านกับเธอจนถึงที่สุด
“มู่จื่อ คุณมีสติหน่อย ทางวิดีโอไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือเสี่ยวหมี่โต้ว ลูกชายแท้ๆของคุณ คุณทำกับเขาแบบนี้ ไม่รู้สึกเจ็บใจสักนิดเลยหรือ? เขาแค่อยากจะคุยกับคุณเท่านั้น!”
“เอาออกไป ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย” เสียงของหานมู่จื่อยิ่งเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ดวงตาของเธอ ได้ปรากฏความโกรธเคืองแล้ว
เสี่ยวเหยียนประชด เลยหันไปพูดกับเสี่ยวหมี่โต้ว “เสี่ยวหมี่โต้ว หนูได้ยินหรือยัง? หม่ามี๊ใจร้ายของหนู ตอนนี้ไม่อยากพูดกับหนู น้าเสี่ยวเหยียน ต่อให้อยากจะช่วยหนู ก็ไม่สามารถช่วยได้ เอาล่ะ หนูไม่ต้องร้องไห้แล้ว ร้องไห้เสียใจมากแค่ไหน ก็ไม่มีคนปลอบ จะมีประโยชน์อะไร? เด็กดีเช็ดน้ำตาออก แล้วไปทำการบ้าน ได้ยินไหม?”
เสี่ยวหมี่โต้วดวงตาแดงก่ำ ส่ายหัวอย่างแรง “ไม่ หนูจะเอาหม่ามี๊”
ยังไงแล้ว ก็เป็นแค่เด็กน้อยอายุไม่เท่าไหร่ ไม่ว่าจะฉลาดแค่ไหน แต่ในเวลานี้ ได้เห็นหานมู่จื่อไม่อยากสนใจเขาแล้วจริงๆ เสี่ยวหมี่โต้วรู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกทอดทิ้ง รู้สึกเสียวยิ่งนัก
ดังนั้นเสี่ยวหมี่โต้วจึงร้องไห้ไม่ขาดสาย เสียงร้องไห้หานมู่จื่อฟังจนทั้ง ปวดใจทั้งหงุดหงิด เลยตวาดด่าออกมา
“หนูร้องไห้อะไร? หม่ามี๊หนูยังไม่ร้องไห้เลย หนูกำลังร้องไห้อะไร? ห๊า?”
เสียงของหานมู่จื่อเฉียบขาดมากตอนที่สายตากวาดมองไป ก็เหมือนกับว่าเสี่ยวหมี่โต้ว ทำความผิดอะไร
เสี่ยวหมี่โต้วถูกเธอดุอย่างนี้ นิ่งอึ้งอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็เม้มปากไว้ ร้องไห้ด้วยน้ำเสียงเด็กน้อยไร้เดียงสา “หนูคิดถึงหม่ามี๊แล้ว…… หม่ามี๊ เสี่ยวหมี่โต้วมาหาหม่ามี๊ได้ไหม?”
“ไม่ได้” หานมู่จื่อปฏิเสธเขาอย่างไร้ความปรานี “ถ้าหนูเชื่อฟัง ก็อยู่ที่บ้านดีๆ หลังจากที่หม่ามี๊หาแดดดี้ของหนูเจอ ก็จะกลับไป”
เสี่ยวหมี่โต้วร้องไห้ยิ่งรุนแรงมากขึ้น “หม่ามี๊ โกหก ทั้งๆที่คุณลุงได้บอกกับเสี่ยวหมี่โต้วแล้ว แดดดี้ประสบอุบัติเหตุ อาจจะไม่กลับมาอีกแล้ว”
ประโยคนี้กระทบกระเทือนจิตใจของหานมู่จื่อ เธอเบิกตากว้างในทันที มองดูเสี่ยวหมี่โต้วในวิดีโอคอลอย่างเหลือเชื่อ
“ใครอนุญาตให้หนูพูดจาเหลวไหลแบบนี้ คำพูดของหม่ามี๊ หนูก็จะไม่ฟังแล้วหรือ? แดดดี้ของหนูแค่หายตัวไปเท่านั้น เขาจะต้องกลับมาแน่นอน!”
เสี่ยวหมี่โต้ว “ถ้าอย่างนั้นเสี่ยวหมี่โต้วก็จะรอกับหม่ามี๊พร้อมกัน หม่ามี๊……เมื่อก่อนหม่ามี๊ไม่เคยทิ้งเสี่ยวหมี่โต้วไว้ ทำเรื่องอะไรก็จะพาเสี่ยวหมี่โต้วไปด้วย ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ได้หรือเปล่า?”
เสียงของเด็กผู้ชายตัวน้อย เต็มไปด้วยการอ้อนวอน ไม่ว่าใครก็ตาม ที่ได้เห็นท่าทางของเขา ก็จะไม่สามารถปฏิเสธได้แน่นอน แต่หัวใจของ หานมู่จื่อบาดเจ็บ สภาพของเธอในตอนนี้ แม้แต่ตัวเองยังรังเกียจเลย จะให้ลูกชายได้เห็นเธอในสภาพนี้ได้อย่างไร?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เธอจึงพูดอย่างเย็นชา “ไม่ได้ หม่ามี๊คนเดียวก็พอแล้ว หนูไม่ต้องมา เข้าใจไหม?”
เสี่ยวหมี่โต้วทำแก้มป่อง “แต่หนูอยากอยู่ด้วยกันกับหม่ามี๊ หม่ามี๊…… หม่ามี๊ตอบตกลงเสี่ยวหมี่โต้วเถอะนะ? เสี่ยวหมี่โต้วจะเชื่อฟังอย่างแน่นอน จะไม่ยั่วโมโหหม่ามี๊เลย หม่ามี๊ได้ไหม?”
เขาเริ่มตอแยแล้ว ขอร้องอ้อนวอนหานมู่จื่อทีละคำ ฟังจนหัวใจคนแตกสลาย
เสี่ยวเหยียนถือโทรศัพท์อยู่ข้างๆ ได้ยินประโยคเหล่านี้ อดไม่ได้ที่จะตาแดง จากนั้นก็พูดกับหานมู่จื่อว่า “คุณตอบตกลงเขาเถอะ เขาไม่ใช่คนอื่นเสียหน่อย เป็นลูกในไส้คุณนะ