เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 794
บทที่ 794 คุณจีบผู้หญิงแบบนี้หรือ
อร่อยมากจริง ๆ! นึกไม่ถึงว่าพี่สะใภ้จะมีทักษะด้านนี้อยู่ วันหลังจะต้องมากินฟรีบ่อย ๆแน่นอน
เฉียวจื้อคิดเงียบ ๆในใจ
หลังจากดื่มเสร็จ เฉียวจื้อก็ประคองชามแล้วมองไปยังหานมู่จื่ออย่างพึงพอใจมาก
“ผมขออีกชามได้ไหม”
หานมู่จื่อเหลือบไปมองเขา เมื่อเห็นการแสดงออกที่ดูมีความหวังอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ราวกับกำลังเมาจากการดื่มซุปปลา จึงทำให้อดยิ้มไม่ได้
สำหรับเชฟทุกคนแล้ว การที่มีคนชื่นชอบอาหารที่เขาทำ นั้นถือเป็นรางวัลและการยกย่อง
แม้ว่าหานมู่จื่อจะไม่ได้เป็นเชฟ แต่วันนี้อาหารมื้อนี้ ที่เธอทำเฉียวจื้อชอบกินสิ่งที่เธอทำเป็นอย่างมาก สำหรับเธอแล้วมันคือการยกย่องและชมเชยเป็นพิเศษ
เธอมีความสุขในใจโดยธรรมชาติ เมื่อมีความสุข จึงถือโอกาสนี้ลุกขึ้นยืนและรับชามของเขามา
“ได้สิ ฉันตักให้คุณ”
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ ในที่สุดเย่โม่เซินซึ่งนั่งนิ่งมาโดยตลอดก็ทนไม่ไหว จึงพูดออกไปอย่างเย็นชา
“คุณไม่มีมือหรือ”
เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้ทั้งสองคนต้องตกตะลึง เฉียวจื้อมองหน้าหานมู่จื่อ มองเห็นดวงตาสีเข้มของเขาได้อย่างชัดเจน
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ละสายตากลับมา “หรือผมทำให้เองดีกว่า!”
จากนั้นเขาก็หยิบชามในมือของหานมู่จื่อมา ลุกขึ้นยืนตักซุปปลาด้วยตนเอง ในใจรู้สึกเซ็งมาก
ฮึ ยู่ฉือเซินคนนี้คงจะอิจฉาเขาแน่นอนที่มีพี่สะใภ้ตักซุปปลาให้ด้วยตนเอง แต่ไม่ได้ทำให้เขา
ในเวลานี้หานมู่จื่อเองก็พบว่า เย่โม่เซินไม่ได้ขยับตะเกียบเลยตั้งแต่เขานั่งลง
หรือจะไม่ถูกปากเขาหรือเปล่า หานมู่จื่อไม่สามารถรู้ได้ว่าในใจเขากำลังคิดอะไรอยู่ ได้แต่เพียงหยิบชามขึ้นมา แล้วตักซุปปลาไปให้เขาหนึ่งถ้วย
“หรือ……คุณดื่มซุปปลาอุ่นๆสักถ้วยก่อนเถอะ”
เฉียวจื้อแอบมองไปยังเย่โม่เซิน
เย่โม่เซินมองไปยังชามซุปปลาที่อยู่ตรงหน้า แอบเปรียบเทียบอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าจะมากกว่าของเฉียวจื้อ ในใจจึงรู้สึกสบายใจสักหน่อย
เขาเงยหน้าขึ้นมองหานมู่จื่ออย่างเย็นชา
คุณรู้ก็ดีแล้ว
ในความเป็นจริงเขาไม่ได้ต้องการให้หานมู่จื่อตักซุปปลาอะไรให้ตนเองหรอก เพียงแค่เมื่อเธอตักให้กับเฉียวจื้อแล้ว จากนั้นก็ปล่อยให้ตนเองเคว้งอยู่ทางนี้ ทำให้เขาเซ็งเป็นอย่างมาก
เมื่อหานมู่จื่อเห็นว่าในที่สุดเย่โม่เซินก็ขยับมือ ตักซุปปลาเข้าปาก รอจนกระทั่งเขากินดื่มเสร็จและวางชามลงจึงรีบถามเขา “เป็นอย่างไรบ้าง”
เฉียวจื้อชื่นชอบขนาดนั้น นั้นแสดงว่าซุปปลาของเธอนั้นทำได้ไม่เลวสินะ
หานมู่จื่อ “……”
เมื่อเห็นว่าเธอมองตนเองอย่างกระตือรือร้น ใบหน้าขาวนวลและดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเธอเหมือนกำลังจะบอกว่า ชมฉันหน่อยสิ รีบชมฉันเร็วเข้า
“อย่างนั้นแสดงว่าอร่อยแน่ ยู่ฉือเซิน ผู้ช่วยน้อยของคุณฝีมือไม่เลว ผมว่า……คราวหลังพวกเราก็มากินข้าวที่นี่กันบ่อย ๆแล้วล่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของเย่โม่เซินก็เย็นชา เสียงของเขาก็จางหายไปเล็กน้อย
“ทั่วไป”
สายตาแห่งความคาดหวังของหานมู่จื่อก่อนหน้านี้ริบหรี่ลง รอยยิ้มของเฉียวจื้อก็หยุดทื่อบนริมฝีปาก โน้มตัวลงไปพูด “คุณนี่นะ เงื่อนไขเยอะเหลือเกิน คุณคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนเชฟยอดฝีมือที่ตระกูลยู่ฉือหรือไง มากินข้าวที่บ้านคนอื่น ปากก็อย่าจู้จี้ให้มาก ให้ตายสิ”
“ไม่เป็นไร……” หานมู่จื่อประนีประนอมให้จบ และพูดอธิบาย “ฉันรู้สึกว่าเขาพูดมาก็ไม่ผิด ฉันไม่ใช่เชฟที่ทำอาหารจริงจัง ก็คงทำได้ไม่ดีเท่าไรแน่นอน กินข้าวกันก่อนเถอะ”
พูดจบ หานมู่จื่อก็หยิบชามขึ้นมาและเริ่มพุ้ยข้าวเข้าปาก
อันที่จริงคำตอบของเย่โม่เซินก็ยังอยู่ในความคาดหวังของเธอ และเธอเองก็ไม่ได้คาดหวังให้เย่โม่เซินต้องมายกย่องชมเชยตนเอง แบบนั้นก็ไม่ใช่เย่โม่เซิน
แบบนี้ดีมาก
ฉากที่เธอก้มหน้าลงพุ้ยข้าวเข้าปากกลับซึมซาบเข้าสู่หัวใจของเย่โม่เซิน ทำให้เขาหรี่ตาลง เป็นภาพลวงตาของเขาหรือเปล่า
มักจะรู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้เหมือนจะกำลังผิดหวังหรือเปล่า
ผิดหวังอะไร เขาไม่ได้ชมเธออย่างนั้นหรือ
แต่เฉียวจื้อก็ชื่นชมเธอไปตั้งมากมาย เธอยังต้องการคำชมเชยจากตนอีกหรือ
แต่เฉียวจื้อกลับด่าเย่โม่เซินอยู่ในใจ
มื้ออาหารนี้กินกันอย่างต่างคนก็ต่างใจ ในใจของทั้งสามคนล้วนแต่มีความเห็นที่แตกต่างกัน
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ หานมู่จื่อก็เก็บจานและตะเกียบเข้าไปห้องครัว เฉียวจื้อรีบลงมือต่อว่าเย่โม่เซิน
“ผมจะบอกให้นะยู่ฉือเซิน คุณจีบผู้หญิงแบบนี้หรือ”
ได้ยินดังนั้น เย่โม่เซินก็ขมวดคิ้ว “นายพูดอะไร”
“ผมพูดอะไรผิด เขาลำบากทำกับข้าวให้คุณกิน คุณชมสักคำจะตายหรือไง จะต้องเสียเลือดเสียเนื้อหรือไง”
เฉียวจื้อเอนตัวเข้าไปใกล้ พูดเสียงเบา “อย่าโทษกันนะพี่ชาย ผมไม่ได้เตือนคุณนะ คุณจีบผู้หญิงแบบนี้มันจีบไม่ติดหรอก”
เย่โม่เซินชำเลืองตามองเขาในที่สุด
สายตานี้ กลับทำให้เฉียวจื้อกลัวจนตัวสั่น เขาไอเบาๆและกลอกตาไปมา “คิดเสียว่าผมไม่ได้พูดอะไรไปนะ โอ้……ก็แค่สงสารผู้ช่วยของคุณ จัดเตรียมมื้ออาหารอย่างดี สุดท้ายผลก็ไม่ได้รับคำพูดที่ดีจากคนอื่น เขาเป็นผู้หญิงนะ และก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเสียใจหรือเปล่า”
เย่โม่เซิน “……”
โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เย่โม่เซินเหลือบมองดูหมายเลขผู้โทร
“แย่แล้ว ตอนผมมาลืมจัดการกับตวนมู่เสว่ คุณปู่ยู่ฉือโทรหาคุณ คงจะไม่ใช่เพื่อมารบกวนคุณหรอกนะ” เฉียวจื้อก้มตัวไปดูหน้าจอโทรศัพท์ และรีบอธิบายอย่างรีบร้อน
เย่โม่เซินรับโทรศัพท์อย่างใจเย็น
“คุณตา”
“ไอ้เด็กเวร ฉันให้คอยอยู่ดูแลเสี่ยวเสว่ นายไปไหนแล้วล่ะ”
เย่โม่เซินเม้มริมฝีปากอันบางนั้น จู่ๆก็จ้องไปมองเฉียวจื้อ อธิบายด้วยเสียงเบา “เฉียวจื้อก่อเรื่องยุ่งยากไว้ ก็เลยมาหาผมเพื่อแก้ไขแทนเขา”
ทันใดนั้นเฉียวจื้อก็ต้องรับผิดแทน “……”
เฮ้ ใครยั่วใครกันแน่
“อะไรกัน เด็กเวรเฉียวจื้อ……วันทั้งวันก็ไม่ได้เรื่อง นายอย่าไปสนใจเขาเลย รีบกลับมาก่อนตอนนี้ ฉันมีเรื่องสำคัญจะพูดคุยกับนาย”
เรื่องสำคัญ……
เย่โม่เซินหรี่ตาแคบลง มองไปยังห้องครัวโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชา “เกรงว่าจะไม่ได้ครับ คุณตา ตอนนี้ผมกำลังยุ่งกับเรื่องอื่นอยู่”
“ก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่ต้องไปยุ่งเรื่องของเฉียวจื้อ นายรีบกลับมาหาตาก่อน วันนี้เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก”
“ความวุ่นวายเกิดแล้ว ผมวางก่อนนะ” เย่โม่เซินพูดจบ ก็วางสายของยู่ฉือจินทันที โดยไม่เห็นแก่หน้าเขาสักนิด
เฉียวจื้อเบิกตากว้าง “เรื่องสำคัญหรือ คงจะไม่ได้จะพูดคุยเรื่องงานแต่งของคุณกับตวนมู่เสว่หรอกนะ”
เย่โม่เซิน “……”
สีหน้าของเขายิ่งดูไม่ได้มากขึ้น ริมฝีปากอันบางนั้นถูกกดเอาไว้แน่น
เฉียวจื้อมองไปยังห้องครัว “ผมบอกคุณแล้ว เรื่องนี้หนีไพ่พ้น…… คุณปู่ยู่ฉือจะต้องให้คุณแต่งงานกับตวนมู่เสว่แน่นอน ถ้าคุณคิดจะต่อต้าน คิดว่าคงจะยากมาก”
“ชีวิตของผม ไม่ต้องการให้ใครมาคอยบงการ”
ใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น แม้ว่าจะเป็นคุณตา แล้วจะอย่างไร
“แต่นั่นก็คือตาของคุณนะ ช่างเถอะ……ผมว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจะร้ายแรง หรือว่า……พวกเราจะกลับก่อนดีไหม หลบหนีไปไม่มีทางพ้น”
พอดีกับในเวลานั้น หานมู่จื่อออกมาจากห้องครัว เธอได้ปอกผลไม้มาหนึ่งจานแล้วก้มลงวางไว้ตรงหน้าของทั้งสองคน
แต่เฉียวจื้อพูดขึ้นอย่างกะทันหัน “คุณผู้ช่วยตัวน้อย ตอนนี้ก็สายมากแล้ว พวกเราคงต้องกลับก่อนแล้วล่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หานมู่จื่อก็ตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นก็ก้มมองนาฬิกาบนข้อมือ
นี่ก็หนึ่งทุ่มแล้ว ค่อนข้างสายแล้วจริงด้วย ไม่คิดเลยว่าเวลาจะผ่านไปเร็วขนาดนี้ เธอจึงพยักหน้าด้วยความตกใจ “โอเค อย่างนั้นฉันไปส่งพวกคุณข้างล่าง”