เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 908
บทที่908คุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วเหรอคะ
ผู้หญิงห้องข้างๆเห็นว่าเธอเป็นคนนิ่งเงียบ ไม่ว่าจะพูดเธอยังไง เธอก็น่าจะไม่โต้กลับ แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอจะพูดแรงถึงขนาดนี้
พอเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่งอยู่กับที่ พูดอะไรไม่ออก หานมู่จื่อก็เดินเข้าไปในห้อง
ผู้หญิงห้องข้างๆรู้สึกไม่สนุกแล้ว จึงถือถุงขยะเดินลงไปทิ้งข้างล่าง ตอนที่เดินมาถึงตรงบันได แล้วเห็นเย่โม่เซินยืนพิงผนังอยู่ จึงโบกมือทักทาย
แต่เย่โม่เซินกลับไม่มองเธอเลยสักนิด หญิงสาวรู้สึกไม่สนุก จึงเตรียมตัวจะเดินกลับขึ้นไปบนห้อง
“คุณครับ”
เย่โม่เซินเรียกเธอไว้
ผู้หญิงห้องข้างๆหยุดเดิน ก่อนจะหันกลับมา แล้วส่งยิ้มหวานให้เย่โม่เซิน
ผู้ชายตรงหน้าหล่อมากจริงๆ อีกทั้งยังรวยมาก ไม่รู้ว่าดีกว่าแฟนของเธอกี่ร้อยกี่พันเท่า เธอรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่วันนี้ไม่ได้ใส่ชุดเซ็กซี่ออกมาทิ้งขยะ
ถ้าหากผู้หญิงห้องข้างๆเธอใช้รูปร่างเอาชนะใจอีกฝ่าย เธอก็ต้องทำได้เหมือนกัน และเธอก็น่าจะทำได้ดีกว่าหานมู่จื่อด้วย
เธอยิ้มเอียงอาย ก่อนจะมองหน้าเย่โม่เซินอย่างยั่วยวน
แววตาของเย่โม่เซินแข็งกร้าว ดุร้าย และคมกริบ
“จากนี้ไป ถ้าผมยังเห็นว่าคุณก่อกวนผู้หญิงของผมอีก”เขายิ้มเหี้ยม ก่อนจะแผ่รังสีอันตรายออกมารอบตัว “อย่าว่าแต่เขตสลัม คุณจะไม่มีที่ยืนในเมืองนี้อีกต่อไป คุณโชคดีมากที่ผมไม่ทำร้ายผู้หญิง แต่ผมก็ไม่ขัดข้องถ้าต้องทำ”
เย่โม่เซินพูดอย่างช้าๆ คำพูดแต่ละคำของเขา ทำให้สีหน้าเขินอายของผู้หญิงห้องข้างๆเริ่มซีดเผือด ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกเลย
“ไปซะ”
เย่โม่เซินตะโกนทิ้งท้าย
ผู้หญิงห้องข้างๆตกใจกลัวจนแทบจะเสียสติ เธอรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องทันที ตอนที่วิ่งขึ้นไป เธอคงสะดุดล้ม จนกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แล้วรีบวิ่งต่อไปอีก
ส่วนภายในห้อง ตอนที่หานมู่จื่อเดินมาเปิดลิ้นชัก เหมือนได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากด้านนอก เธอจึงหันไปมองเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงของใคร
หรือว่าเธอจะหูแว่วไปเอง
แต่เสียงนั่นเหมือนเสียงของผู้หญิงห้องข้างๆเธอเลย
ช่างเถอะ ยังไงเธอก็พูดไปชัดเจนแล้ว อีกฝ่ายจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเธอ
หานมู่จื่อหยิบกรอบรูปที่อยู่ในลิ้นชักออกมา ข้างในกรอบรูปเป็นรูปของเสี่ยวหมี่โต้ว เธอมองรูป ก่อนจะพูดเบาๆ
“เด็กดี รอหม่ามี๊นะ หม่ามี๊ตะต้องพาแด๊ดดี้หนูกลับไปหาหนูให้ได้เลย”
พอพูดจบ หานมู่จื่อก็ลูบรูปภาพสักพัก แล้วเอาใส่ไว้ในกระเป๋า
แบบนี้ก็สมบูรณ์แบบแล้ว
หานมู่จื่อคิดในใจ ก่อนจะปิดลิ้นชัก ตอนที่ลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินออกไปจากห้อง เธอกลับรู้สึกปวดท้องขึ้นมา เธอตกใจจนไม่กล้าขยับตัว ได้แต่นั่งลงบนเก้าอี้ช้าๆ ก่อนจะลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ
“เด็กดี หนูอย่าทำให้หม่ามี๊ตกใจสิคะ วันปีใหม่แบบนี้ หนูต้องเป็นเด็กดีนะคะ หม่ามี๊… ไม่อยากไปอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว”
หานมู่จื่อลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ แล้วพูดปลอบลูกในท้องอย่างอ่อนโยน
เธอไม่รู้ว่าระยะครรภ์ในตอนนี้ลูกจะได้ยินที่เธอพูดหรือเปล่า แต่ตอนนี้เธอทำได้แค่นี้จริงๆ
“เด็กดี รอหม่ามี๊จัดการเรื่องราวให้เรียบร้อย แล้วหม่ามี๊จะพักผ่อนให้เยอะ หนูต้องเป็นเด็กดีนะลูก…”
ตอนที่เย่โม่เซินเดินมาถึงตรงประตู เขาได้เห็นภาพนี้พอดี
ผู้หญิงที่เขารักกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ กำลังลูบหน้าท้องของตัวเอง แล้วพูดปลอบลูกที่อยู่ในท้อง
สำหรับเย่โม่เซินแล้ว ภาพตรงหน้าสร้างความเสียใจให้เขามาก
ผู้หญิงของตนเองตั้งท้อง ผู้ชายอย่างเขาควรจะดีใจถึงจะถูก แต่ภาพตรงหน้า เย่โม่เซินกลับดีใจไม่ขึ้น แต่ในทางกลับกัน สองมือของเขากำหมัดแน่น แววตาของเขาดุร้ายมาก
อารมณ์ที่ถูกเขาควบคุมเอาไว้ ตอนนี้ผนึกได้ถูกทำลายลงไปแล้ว ความโกรธเคืองหลั่งไหลออกมาจากผนึกนั้น ก่อนจะแผ่ออกมารอบๆตัวเขา นี่เป็นครั้งแรก ที่เย่โม่เซินรู้สึกว่าความโกรธเคืองของเขามีมากถึงขนาดนี้
หานมู่จื่อยังคงปลอบลูกในท้องอยู่สักพัก เธอรู้สึกถึงความผิดปกติ พอเงยหน้าขึ้นมามองไปที่ประตูทางเข้า
ตรงประตูทางเข้าว่างเปล่า ไม่มีใครสักคน
หรือว่าเธอจะรู้สึกไปเอง เมื่อตะกี้…เธอรู้สึกเหมือนมีคนยืนอยู่ตรงประตู
หานมู่จื่อเม้มปาก ก่อนละลูบหน้าท้องตัวเอง พอรู้สึกว่าอาการปวดท้องดีขึ้นแล้ว เธอจึงไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ หลังจากคุยกับลูกในท้องเรียบร้อย เธอจึงถือกระเป๋าเดินออกจากห้องไป
เย่โม่เซินยังคงรอเธออยู่ที่ใต้ตึก ตอนที่เธอเดินขึ้นไปมีปากเสียงกับผู้หญิงห้องข้างๆ จนทำให้เสียเวลาไปมาก แล้วยังรู้สึกปวดท้องขึ้นมากะทันหันอีก
เธอจึงไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว คงจะนานเกินเวลาไปจริงๆ
หลังจากเดินออกจากห้อง แล้วเตรียมจะเดินลงไป ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้ง
เพราะบนโซฟาห้องรับแขก มีเงาของอีกคนเพิ่มมาด้วย
หานมู่จื่อมองคนตรงหน้าอย่างตะลึง ก่อนที่สีหน้าจะซีดขาว
เย่โม่เซิน…
เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อตะกี้… ตอนที่เธอรู้สึกเหมือนมีเงาคน เป็นเขาอย่างนั้นเหรอ
หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากบาง แล้วเดินเข้าไปหาเขา
“ทำไมคุณถึงขึ้นมาล่ะคะ ฉันบอกให้คุณนั่งรออยู่บนรถไม่ใช่เหรอคะ”
เย่โม่เซินนั่งอยู่บนโซฟา แววตาที่แสนเย็นชาของเขาทำให้บรรยากาศในห้องหนาวเหน็บตามได้ด้วย ตอนที่หานมู่จื่อเดินเข้าไปหา เขาก็เงยหน้าขึ้นมา ทำให้เธอสบตาเข้ากับแววตาวาวโรจน์ของเขา
หานมู่จื่อหยุดเดินทันที เธอไม่กล้าเดินเข้าไปอีก
สายตาของเย่โม่เซิน มันดูผิดปกติมาก หานมู่จื่อคิดในใจ ตอนนี้เธอไม่เดินเข้าไปหาเขาจะดีที่สุด
พอเห็นเธอหยุดเดิน แล้วเห็นสายตาที่เธอมองมา ทำให้เย่โม่เซินยิ้มเยาะตัวเอง
“ไม่เดินเข้ามาเหรอ”เขาถาม
“ฉัน…”หานมู่จื่อเม้มปากแน่น พูดอะไรไม่ออก และไม่กล้าเดินเข้าไปหาด้วย
เพราะความลังเลใจของเธอ ทำให้บรรยากาศรอบตัวของเย่โม่เซินเยือกเย็นขึ้นไปอีก แม้แต่แววตาของเขาก็แข็งกร้าวมากด้วย “กลัวผมหรือไง”
หานมู่จื่อ “…”
“กลัวอะไรผม”สายตาของเย่โม่เซินอันตรายมาก เขาจ้องหน้าเธอนิ่ง ก่อนจะเคลื่อนสายตาลง จนไปหยุดอยู่ที่หน้าท้องของเธอ “คิดว่าผมจะทำร้ายเด็กในท้องคุณอย่างนั้นเหรอ”
พอคำพูดนี้จบลง สีหน้าของหานมู่จื่อรวมถึงริมฝีปากของเธอก็ซีดเผือดไปทันที
แววตาของเธอแทบไม่อยากจะเชื่อ และมองไปทางเย่โม่เซินอย่างตกใจ
ที่แท้… ที่เธอรู้สึกก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเธอคิดไปเอง เย่โม่เซินยืนอยู่ที่หน้าประตูจริงๆ แต่ว่า… แค่คำพูดไม่กี่คำของเธอ เขาไม่มีทางเป็นถึงขนาดนี้นอกจากว่า ตอนที่อยู่โรงพยาบาลเขาก็รู้เรื่องที่เธอท้องแล้ว
มิน่าล่ะเธอถึงได้รู้สึกว่าช่วงนี้เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี
แต่ว่า หานมู่จื่อยังคงอดที่จะถามออกมาไม่ได้ “คุณ… รู้มาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหมคะ”