เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 909
บทที่909 คุณว่าใครเป็นลูกไม่มีพ่อ
คำถามนี้ หานมู่จื่อถามอย่างยากลำบาก เสียงที่พูดออกไปจึงแหบแห้งมาก
เย่โม่เซินมองสีหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดของเธอ แล้วยิ้มเยาะ “ผมไม่คู่ควรที่จะรู้เรื่องนี้เหรอ”
ในตอนนี้ หานมู่จื่อไม่รู้จะพูดยังไงดี เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ให้เย่โม่เซินฟังยังไง เธอเหมือนมีลางสังหรณ์อยู่ก่อนแล้วว่าเขาจะต้องรู้เรื่องนี้ แต่เธอยังไม่ได้เตรียมพร้อมเลย
พอเห็นเธอยืนนิ่ง ไม่พูดอะไรออกมาเลย ทำให้เย่โม่เซินรู้สึกผิดหวังมาก จึงพูดด้วยเสียงแข็ง “ถ้าหากผมไม่ถาม คุณตั้งใจจะปิดผมไปถึงเมื่อไหร่”
หานมู่จื่อส่ายหน้าไปมา “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”
“ผมเหมือนคนโง่ที่หลอกง่ายมากเลยหรือไง”
เขาลุกขึ้นจากโซฟา รูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาหาเธอ ก่อนจะขวางทางหนีของหานมู่จื่อไปจนหมด
พอเห็นท่าทางของเขาเป็นอย่างนี้ หานมู่จื่อเริ่มรู้สึกกลัว เธอพยายามถอยหลัง
และเพราะท่าทางแบบนี้ ยิ่งทำให้เย่โม่เซินคิดว่าเธอกำลังกลัวเขาอยู่ จึงยิ่งอารมณ์รุนแรงมากขึ้น เขาหรี่ตาลง แล้วเดินเข้าใกล้หานมู่จื่อมากขึ้นเรื่อยๆ จนหานมู่จื่อไม่มีทางจะถอยหนีแล้ว แผ่นหลังของเธอชนเข้ากับกำแพงเย็น
“คุณ คุณใจเย็นลงก่อนนะคะ ฉันไม่ได้โกหกคุณ… คุณ… โอ้ย”
หานมู่จื่อพูดยังไม่ทันจบ ข้อมือของเธอก็ถูกเย่โม่เซินบีบอย่างแรง ก่อนจะเอามาพาดไว้เหนือศีรษะ “ไม่ได้โกหก งั้นคุณบอกผมมา ว่าเด็กในท้องของคุณมันยังไง คืนวันนั้นผมเพิ่งแตะต้องร่างกายของคุณ คุณก็ท้องแล้ว อีกทั้งยังท้องได้สามเดือนแล้วด้วย”
หานมู่จื่อ “…”
ที่แท้เขาก็รู้เรื่องหมดแล้ว
ไม่ใช่แค่เรื่องที่เธอท้อง แม้แต่เรื่องที่เธอท้องได้กี่เดือนเขาก็รู้
“ที่แท้… คุณก็รู้เรื่องนี้ตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ทำไมคุณถึงได้…”
“ทำไมผมถึงได้มาพูดตอนนี้ใช่ไหม”เย่โม่เซินยิ้มเยาะ ก่อนจะพูดเสริมให้ สีหน้าของหานมู่จื่อเสียเล็กน้อย
ที่แท้เขาก็มองความคิดของเธอออกทั้งหมดเลย
เย่โม่เซินมองหน้าหญิงสาวที่งดงามตรงหน้า จนถึงตอนนี้แล้ว เธอก็ยังดูใสสะอาด ปราศจากสิ่งแปลกปลอม เธอบอกว่าตัวเองไม่ได้พูดโกหกเขา ให้เขาใจเย็นลง
แต่พอคิดถึงเรื่องที่เธอท้อง และเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของเขา แล้วเธอยังดูรักเด็กในท้องมาก
รวมถึงเหตุการณ์ตอนที่เธอกับเขาเจอกันครั้งแรก เย่โม่เซินรู้สึกอิจฉาตาร้อนจนแทบจะแผดเผาสติของเขาไปจนหมด
ก่อนหน้านี้เขาบอกตัวเองอยู่เสมอ ให้เชื่อในตัวเธอ ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่าสาเหตุอะไรก็ตาม
แต่พอเห็นเธอรักและดูแลเด็กในท้องอย่างดี ทำให้เย่โม่เซินรู้สึกอิจฉา
“บอกผมมา เด็กเป็นลูกของใคร คุณเข้ามาใกล้ชิดผม มีจุดประสงค์อะไร ครั้งแรกที่เจอกันคุณบอกว่าจำคนผิด หมายความว่าผมกับพ่อของเด็กในท้องคุณหน้าตาเหมือนกันมาก คุณเอาผมมาเป็นตัวแทนเขาใช่ไหม”
เสียงของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์ของเขาก็คุกรุ่นมากขึ้นด้วย
หานมู่จื่อรู้สึกถึงแรงบีบที่ข้อมือที่หนักขึ้น เหมือนต้องการจะบีบให้กระดูกของเธอหัก เธอเจ็บจนเหงื่อไหล ได้แต่บอกกับเย่โม่เซินว่า “คุณใจเย็นลงหน่อยได้ไหมคะ”
ใจเย็น จะให้เขาใจเย็นยังไงไหว ตอนนี้เย่โม่เซินแทบอยากจะดึงเธอลงนรกพร้อมกับเขาแล้วด้วยซ้ำ
แรงบีบของเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโมโห
“บอกมา ว่าลูกไม่มีพ่อนี่ใช่ลูกของผู้ชายที่คุณคิดถึงอยู่ตลอดคนนั้นหรือเปล่า”
ในขณะที่หานมู่จื่อรู้สึกเจ็บจนจะไม่ไหวแล้ว ก็มีเสียงเด็กตะโกนดังออกมา
“หยุดนะ”
เย่โม่เซินบีบมือของหานมู่จื่อแน่น ตอนที่สติสัมปชัญญะของเขาถูกแผดเผาไปจนหมด กลับมีเสียงเด็กน้อยดังขึ้นมา
เขาหันกลับไปมอง ต้นกำเนิดของเสียง
มีเด็กผู้ชายตัวน้อยมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา
ใบหน้านั้น
เย่โม่เซินยืนอึ้งอยู่กับที่ ในสมองว่างเปล่าไปหมด
เสี่ยวหมี่โต้วยืนอยู่ตรงนั้น ก่อนจะกระดิกนิ้วเรียกเย่โม่เซิน ให้เย่โม่เซินก้มตัวลง
ชายหนุ่มร่างสูงเหมือนถูกสะกดจิต ยอมก้มตัวลงต่อหน้าเสี่ยวหมี่โต้ว
พอเห็นว่าเย่โม่เซินยอมก้มตัวลงมา เสี่ยวหมี่โต้วจึงกะระยะทาง ดูเหมือนจะยังไม่พอ เขาจึงยิ้มออกมาแล้วพูด “ก้มลงมาอีกนิด”
เด็กน้อยเหมือนมีเวทมนตร์ ทำให้เย่โม่เซินเชื่อฟังคำพูด แล้วก้มลงตามคำสั่ง
เสี่ยวหมี่โต้วมองระยะห่าง พอรู้สึกว่าน่าจะพอแล้ว
เขาจึงกำหมัด แล้วคลายหมัด พอรู้สึกว่าน่าจะพอได้แล้ว เขาจึงใช้ฝ่ามือเล็กตบศีรษะของผู้ชายตรงหน้า แล้วพูดอย่างไม่พอใจ
“แด๊ดดี้บ้า ว่าใครเป็นลูกไม่มีพ่อ”
“…”
เสี่ยวเหยียนกับเซียวซู่ที่แอบมองอยู่ด้านข้าง ต่างก็ตกใจตามๆกัน
ตอนที่หานมู่จื่อเห็นเสี่ยวหมี่โต้ว เธอเองก็แปลกใจเหมือนกัน นึกว่าตัวเองกำลังฝันไป ไม่อย่างนั้นลูกน้อยที่อยู่ในประเทศ จะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน
พอเห็นว่าเย่โม่เซินยอมก้มตีวลงตามคำพูดของเด็กน้อย แล้วเด็กน้อยก็ตบศีรษะของเขาจนเกิดเสียง ถึงได้รู้… ว่าเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ทำให้หานมู่จื่อได้สติกลับมา
หลังจากที่ได้สติ เธอถึงได้รู้ว่า ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องจริง
เสี่ยวหมี่โต้ว…
ลูกมาได้ยังไงกัน…
แรงตบไม่ได้หนัก แต่พอตีลงบนศีรษะก็ทำให้เย่โม่เซินรู้สึกเจ็บ ทำให้เย่โม่เซินรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป
เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา แล้วสัมผัสได้ถึงความเจ็บที่ศีรษะ พอเห็นเด็กที่หน้าตาเหมือนกับเขาทั้งหมด
ใครกัน
ทำไมถึงได้หน้าตาเหมือนเขาแบบนี้
เดี๋ยวนะ
เมื่อตะกี้ ดูเหมือนเด็กคนนั้นจะเรียกตนเองว่าแด๊ดดี้ด้วย
เย่โม่เซินหรี่ตามอง ก่อนจะวางมือไว้บนไหล่ของเสี่ยวหมี่โต้ว แล้วสังเกตอย่างละเอียด
“ฮึ่ย แด๊ดดี้คนไม่ดี ปล่อยผมเดี๋ยวนี้เลยนะ”เสี่ยวหมี่โต้วที่ถูกจีบไหล่ไว้ จนรู้สึกเจ็บ รีบตะโกนออกมา “เมื่อตะกี้แด๊ดดี้ทำแบบนี้กับหม่ามี๊ด้วยใช่ไหม แด๊ดดี้เป็นคนไม่ดีจริงๆ ผมจะฟ้องหม่ามี๊ ให้หม่ามี๊ไม่ต้องอยู่กับแด๊ดดี้แล้ว ผมไม่เอาแด๊ดดี้ใจร้ายแบบนี้”
พูดจบเสี่ยวหมี่โต้วก็พยายามผลักเขาออกห่าง
แต่เด็กก็คือเด็ก ถึงแม้จะฉลาดยังไง ก็สู้เรี่ยวแรงของผู้ใหญ่ไม่ได้อยู่ดี โดยเฉพาะเย่โม่เซิน พอเห็นอีกฝ่ายเตรียมตัวจะเดินหนี เย่โม่เซินจึงออกแรงเพิ่ม ก่อนจะกัดฟันพูด “เมื่อตะกี้เราพูดว่าอะไร พูดให้ชัดเจน”
หานมู่จื่อที่ยืนตะลึงอยู่ได้สติกลับมา เธอรีบพุ่งตัวเข้าไปก้มตัวลง เธอจับแขนของเย่โม่เซินไว้
“คุณปล่อยเสี่ยวหมี่โต้วก่อนค่ะ เขาเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ คุณจับเขาแรงแบบนี้ เขาจะได้รับบาดเจ็บเอาได้”
พอได้ยินแบบนั้น เย่โม่เซินถึงได้สังเกตเห็นว่าเด็กน้อยตรงหน้ามีสีหน้าเจ็บปวดเล็กน้อย
สีหน้าของเย่โม่เซินเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะรีบปล่อยมือออกมา
เสี่ยวหมี่โต้วโมโหมาก เขาเหยียบเท้าของเย่โม่เซิน
“แด๊ดดี้คนบ้า แด๊ดดี้คนไม่ดี แด๊ดดี้ชอบใช้กำลัง”
พอพูดจบ เสี่ยวหมี่โต้วก็พุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดของหานมู่จื่อ “หม่ามี๊ แด๊ดดี้เป็นคนไม่ดี เราไม่เอาเขาแล้วได้ไหมครับ”