เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 947
บทที่ 947 ไม่ไปรบกวนเธอก็ได้
หลังจากเสี่ยวเหยียนกับหานชิงจากไป ที่บ้านก็เหลือแต่หานมู่จื่อคนเดียว
ห้องรับแขกที่เมื่อคืนคึกคักเป็นพิเศษ พริบตาเดียวก็ดูว่างเปล่าขึ้นมาทันที
หานมู่จื่อลังเลอยู่ครู่นึง เดินไปเปิดผ้าม่านที่บดบังแสงแดดเอาไว้ ปล่อยให้แสงแดดในฤดูหนาวสาดส่องเข้ามาทั่วห้องรับแขก
แสงแดดที่สาดส่องเข้ามา ในห้องดูอบอุ่นขึ้นมาในทันที หานมู่จื่อเม้มปากอย่างดีใจ เธอที่ทานข้าวเสร็จ ได้โทรศัพท์ไปหาเสี่ยวหมี่โต้ว พอวางสายไปก็เริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมา แล้วกลับไปนอนที่ห้องต่อ
แต่นี่ปีใหม่ทั้งที นอนทั้งวันแบบนี้ ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ?
แต่คิดๆแล้วก็ไม่มีอะไร ในเมื่อเธออยู่นี่ก็ไม่มีญาติที่ไหนอยู่แล้ว ถึงแม้จะฉลาดตรุษจีนในประเทศก็เหอะ เธอก็เหมือนจะไม่มีญาติที่ไหนเหมือนกัน
และแล้ว หลังหานมู่จื่อคิดๆอยู่ครู่นึง ก็กลับไปนอนที่ห้องอย่างสบายใจ
ช่วงนี้ เธอมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก ไม่ได้พักผ่อนดีๆ แถมมีเรื่องในใจ ยังทำให้เธอนอนหลับไม่เพียงพอ
แต่ถึงตอนนี้แล้ว ทุกคนต่างก็อยู่ข้างกายตัวเองแล้ว เธอยังมีอะไรนอนไม่หลับอีก?
ไม่นาน หานมู่จื่อก็หลับสนิทเลย
เย่โม่เซินกับเสี่ยวหมี่โต้วทานข้าวเสร็จกลับมา ยังห่อของว่างกลับมาให้หานมู่จื่อ สุดท้าย พอเปิดประตูห้องเข้า
มาแล้ว ก็เห็นหานมู่จื่อยังหลับอยู่ แต่แล้วเสี่ยวหมี่โต้วก็ปิดประตูเบาๆอย่างระมัดระวัง วางของไว้บนโต้วแล้ว
พูดกับเย่โม่เซิน
“แดดดี๊ หม่ามี๊ยังหลับอยู่นะครับ แดดดี๊ห้ามไปรบกวนหม่ามี๊นะ!”
ได้ยินลูกชายสั่งสอนตัวเอง เย่โม่เซินสีหน้าเรียบเฉยแม้กระทั่งไม่ตอบกลับอะไรเขาเลย
เสี่ยวหมี่โต้วเอามือคาดเอว:“แดดดี๊ใจร้าย ได้ยินที่ผมพูดมั้ย?”
เย่โม่เซินเอามือบีบหัวคิ้วที่ปวดตุ๊บๆ พูดอย่างจนปัญญา:“ได้ยินแล้ว ฉันไม่ไปรบกวนเธอก็ได้”
ถ้าคนที่ไปเปิดประตูคือเขา เห็นว่ามู่จื่อยังหลับอยู่ เขาเองก็ไม่ไปทำให้เธอตื่นหรอก
เขาเคยได้ยินมาว่า ผู้หญิงที่ตั้งท้องนั้นจะชอบนอน เดิมที เมื่อคืนเธอก็นอนดึกอยู่แล้ว กลางวันนอนเยอะหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่……
ต่อจากนี้ เรื่องที่เขาต้องทำในทุกวัน……
เป็นเพราะกำลังคิดพิจารณาอยู่ นิ้วมือเรียวยาวของเย่โม่เซินได้เคาะอยู่ที่โต๊ะ ดังอย่างเป็นจังหวะ
เสี่ยวหมี่โต้วสั่งเกตท่าทีของเขาอยู่ครู่นึงจู่ๆเงยหน้าขึ้นมาพูด:“แดดดี๊ แดดดี๊กำลังคิดแผลร้ายอะไรอยู่ใช่มั้ย?”
ได้ยินแบบนี้แล้ว เย่โม่เซินดึงสติกลับมาในทันที สายตาที่จ้องเสี่ยวหมี่โต้วอยู่นั้น ได้ค่อยๆหรี่ตาลง
ไม่นึกเลยว่า ขนาดเรื่องในใจของเขายังไม่รอดจากสายตาลูกตัวแสบคนนนี้ได้?นี่มันใช่ลูกชายของตัวเองจริงหรอ?ขนาดความคิดของเขาๆยังอ่านออกทุกอย่าง?
เผชิญหน้ากับคำถามกับดักแบบนี้ เย่โม่เซินไม่ได้ตอบกลับถามกลับไป:“แล้วนายว่าล่ะ?”
เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตาปริบๆ“ผมเดาว่าต้องใช่แน่นอน!”
เย่โม่เซิน:“……”
ไอ้ตัวแสบที่เอาแต่หาเรื่องพ่อ
จะยังไงเขาก็เป็นลูกของเขา ถึงจะเอาแต่หาเรื่องเขาก็ตาม และอีกอย่าง ใครให้เขาทำผิดกับสองแม่ลูกไว้ก่อนล่ะ?
เพราะฉะนั้น เขาต้องรีบคืนความทรงจำกลับมาให้ได้
ตอนที่หานมู่จื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมานั้น เพราะถูกคนพูดเสียงดังทำจนตื่น จากที่เธอนอนสะลึมสะลืออยู่ คล้ายจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้และตะโกนอยู่รางๆ
แต่เพราะว่าเธอหลับลึกมาก รู้สึกแต่ว่าเสียงนี้น่ารำคาญมาก เลยไม่ได้ไปสนใจ
ไม่นาน เสียงยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ จนหานมู่จื่อหลับต่อไม่ได้อีก สมองก็เริ่มได้สติฟื้นอย่างสิ้นเชิญ
เสียงนี้……ทำไมฟังแล้วคุ้นจังเลย?
หานมู่จื่อนอนอยู่บนเตียงครู่นึง จู่ๆก็พลิกตัวลุกจากเตียง หยิบเสื้อคลุมมาคลุมตัวนึงก็เดินออกไปเลย
พอเปิดประตูห้องแล้ว เสียงนั้นยิ่งดังขึ้นอย่างมาก
“ฮ่าๆๆๆอย่าห้ามฉัน ฉันไม่ได้เมา ฉันจะดื่มอีก ดื่ม!!”
พอเปิดประตู หานมู่จื่อก็เห็นเสี่ยวเหยียนยืนอยู่บนโซฟาอย่างกับคนบ้า ในมือกำมือถือไว้ทำท่าชนแก้วอยู่ ใบหน้าของเธอแดงอบชมพู สายตาดูเบลอๆ เห็นชัดว่าเมาจนไม่รู้วันนี้คือวันไหนแล้ว
และเธอยังคิดว่ามือถือเป็นขวดเหล้าไปแล้ว
เกิดอะไรขึ้น?
นี่เป็นความคิดแรกของหานมู่จื่อ เสี่ยวเหยียนออกไปซื้อเสื้อพร้อมหานชิงไม่ใช่หรอ?โอกาสยากที่ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง เพราะฉะนั้น หานมู่จื่อที่ดีใจแทนเธออยู่นั้น ยังได้ไปนอนอย่างสบายใจ
ทำไมตอนนี้เธอถึงได้เมากลับมาแบบนี้
เสี่ยวเหยียนที่บ้าๆบอๆแบบนี้ เซียวซู่ที่อยู่ข้างๆกลับร้อนใจมาก เขาคอยพูดเกลี้ยกล่อมเสี่ยวเหยียนอยู่ข้างๆไม่หยุด ถึงขั้นจะไปหยิบมือถือที่อยู่ในมือของเธอมา
สุดท้ายกลับถูกเสี่ยวเหยียนตบมือของเขาออก
“ห้ามนายมาแย่งเหล้าฉันดื่ม!ฝันไปเหอะ!”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนกอดมือถือของตัวเองไว้แน่น “เหล้านี่เป็นของฉัน!เป็นของฉันคนเดียว!พวกนายใครก็อย่าคิดจะแย่งไป”
ทั้งสองคนเสียงดังมาก
ข้างๆกลับยังมีสองพ่อลูกคอยยืนมองอยู่ ไม่มีท่าทีจะเข้าไปช่วยเลยแม้แต่คน
เย่โม่เซินและเสี่ยวหมี่โต้วนั่งอยู่ที่ๆไกลจากเสี่ยวเหยียนมาก ทั้งสองคนสีหน้าเรียบเฉยนั่งอยู่อย่างงั้น ราวกับไม่ได้ยินเสียงและเหมือนไม่มีคนๆนี้อยู่อย่างไรอย่างงั้น
ยากมากที่จะเห็นสีหน้าแววตาและท่าทางของสองพ่อลูกที่ตรงกันแบบนี้
แต่ไม่นึกเลยว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
เห็นหานมู่จื่อออกมา สองพ่อลูกถึงขยับตัวขึ้น แต่ยังไม่รอให้พวกเขาได้อ้าปากพูด หานมู่จื่อก็เดินมาด้วยท่าทางทั้งโกรธและโมโห
“เกิดอะไรขึ้น?”
พอเสียงของเธอดังขึ้น ห้องรับแขกก็ได้เงียบไปอยู่ครู่นึง แม้กระทั่งเสี่ยวเหยียนที่อาละวาดเมาอยู่ หลังได้ยินเสียงของเธอก็เงียบไปครู่นึง หลังจากนั้นก็หันมองมาที่เธอ
“เสี่ยวเหยียน เธอทำไมถึงได้ดื่มจนเมาเละเทะมาแบบนี้?และเธอไปยืนสูงบนนั้นทำไม?รีบลงมาซะ!”
เสี่ยวเหยียนกอดมือถือไว้ยืนอึ้งอยู่ครู่นึง มองมาทางหานมู่จื่อแล้วจ้องอยู่นานพักนึง จู่ๆแววตาเปล่งประกายขึ้นมา ราวกับเห็นสมบัติเลอค่าอย่างไรอย่างงั้น จากนั้นก็โดดลงจากโซฟาทันที แล้ววิ่งไปทางหานมู่จื่ออย่างรวดเร็ว
เธอวิ่งเร็วมา และเห็นชัดว่าทุกคนไม่นึกว่า จู่ๆเธอจะวิ่งมาทางหานมู่จื่อได้
เย่โม่เซินหรี่ตาลงด้วยสีหน้ารู้ถึงอันตราย รีบลุกขึ้นมา
แต่ห่างออกจากเสี่ยวเหยียนและหานมู่จื่ออยู่ช่วงนึง แต่เสี่ยวเหยียนได้วิ่งไปถึงตรงหน้าของหานมู่จื่อแล้ว นี่ถ้าหากเธอวิ่งชนเข้าไปแล้ว……
“หลบไป”
เย่โม่เซินตะโกนออกคำนึง
เดินที หานมู่จื่อยังรู้สึกไม่มีอะไร แต่ถูกเสียงตะโกนของเย่โม่เซินทำจนเธอตื่นตกใจไปทั้งคน
แต่เธอหลบไม่ทันแล้ว เห็นเสี่ยวเหยียนวิ่งมาตรงหน้าของเธอต่อตา มือคู่นึงกลับหยุดเธอไว้ได้ทัน
ท่าทางของเสี่ยวเหยียนก็ได้หยุดลงตาม
หานมู่จื่อเงยหน้ามองไปทางคนๆนั้น
“พี่คะ?”
เขากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?ทำไม เมื่อกี๊ไม่เห็นเขาเลย?
แล้วนี่โผล่ออกมาจากไหน?
หานชิงดึงแขนเสื้อของเสี่ยวเหยียนไว้ ยับยั้งท่าทางของเธอที่วิ่งพุ่งเข้าใส่ เสี่ยวเหยียนขัดขืนอยู่ครู่นึง เห็นว่าตัวเองขยับไม่ได้ หันไปมองแรงที่ฉุดดึงตัวเองเอาไว้
ใบหน้าของเธอ จากที่มีสีหน้าบีบเบี้ยวร้องเจ็บอยู่ แต่หลังจากที่เห็นหน้าของหานชิงแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนในทันที
เซียวซู่ที่ตามติดมาก็สั่งเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนในกะทันหันของเสี่ยวเหยียน อดไม่ได้มองหน้าของหานชิงอีกที
หานชิง——พี่ชายของคุณนายน้อย และก็เป็นท่านประธานของบริษัทตระกูลหาน
ก่อนหน้านี้ เขายังนึกว่าคนที่เสี่ยวเหยียนพูดถึงน่าจะเจอกันที่ต่างประเทศ แต่ตอนนี้……เซียวซู่สั่งเกตเห็นว่า คนๆนี้น่าจะเป็นพี่ชายของคุณนายน้อยชื่อว่าหานชิง?