เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 100
บทที่ 100 ผู้หญิงงูพิษ
“ผมให้คุณไปแล้วหรอ”
ลมหายใจเย็นๆของเขาลอยมา ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนเป็นกดดัน และรู้สึกอันตรายทันที
ซูย้าวตัวสั่นเล็กน้อย ดวงตาของเธอเบิกกว้าง จ้องใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าเธอแล้วรู้สึกลมหายใจกระตุกขึ้นมา
ลี่เฉินซีมองไปที่เธอ และยังคงยกยิ้มชั่วร้ายต่อไป น้ำเสียงของเขายังมีเสน่ห์เหลือร้าย โดยที่เปล่งออกมาไม่หนัก และเบาเกินไป “เป็นอะไร ทำครั้งเดียวก็อยากออกไปแล้วหรอ”
ซูย้าวรู้สึกได้ถึงแรงที่บีบแรงขึ้นตรงแขนของเธออย่างชัดเจน เธอกระพริบตาอย่างอ่อนแรง พร้อมทั้งร่างกายก็รู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น เธอไม่อยากอยู่กับเขาอีกต่อไปแล้ว
เขาแทบไม่ให้เวลาเธอตัดสินใจ วินาทีต่อไป เขาก็พาเธอวนกลับไปที่เตียงดังเดิม เขากดร่างกายลงมา และใช้แรงจูบริมฝีปากของเธอ ก่อนที่พายุสวาทจะโหมกระหน่ำอีกครั้ง….
การกระทำของลี่เฉินซีแตกต่างจากครั้งก่อนมาก ครั้งนี้เขาทั้งรุนแรง และบ้าคลั่ง เขาลงแรงทั้งหมดที่มีลงมาที่ร่างกายของเธอ ทำให้เธอแทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน
เมื่อหมดแรงแล้ว เขาถึงปล่อยเธอไป แต่ซูย้าวเหนื่อยมากลืมตาแทบไม่ขึ้น เธอเพียงแค่ได้ยินเสียงเปิดประตูเบาๆ ก่อนจะผลอยกลับไป
เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็เย็นมากแล้ว
แม้การนอนไปหลายชั่วโมงจะทำให้เธอมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่ร่างกายของเธอก็ยังเจ็บ และอ่อนแรง ดังนั้นเพียงแค่เธอลุกจากเตียง และเดินไปไม่กี่ก้าว ก็รู้สึกว่าเสียพลังงานมากแล้ว
เธอยอมกับความแข็งแกร่งของลี่เฉินซีจริงๆ
เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปชั้นล่าง เพื่อจะไปหาลูกชาย แต่เมื่อลงมา กลับเห็นเจี่ยงเวินอี๋นั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่น พร้อมกับอุ้มหนูเจิ้งเอ๋อไว้ในอ้อมแขน
เด็กตัวเล็กนั่งอยู่ในอ้อมแขนของคุณย่า พร้อมกับเล่นของเล่นในมือ
สายตาของเจี่ยงเวินอี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น จ้องหลานชายด้วยแววตารักใคร่
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น เธอก็มองตรงไปที่ซูย้าว ก่อนจะมีความโกรธขึ้นมา
“เธอยังมีหน้ากลับมาที่บ้านตระกูลลี่อีกหรอ”
เจี่ยงเวินอี้ส่งหลานชายให้พี่เลี้ยง และส่งสัญญาณว่าให้พาเด็กขึ้นไปข้างบนก่อน
หลังจากพี่เลี้ยงไปแล้ว เธอก็หยิบหนังสือพิมพ์บนโต๊ะกาแฟขึ้นมา และโยนมันไปที่ซูย้าว “ดูสิว่าเธอทำอะไรออกไป แม้แต่ครอบครัวของตัวเองยังไม่เว้น ยัยผู้หญิงอสรพิษ ตระกูลลี่ของเราต้องทนทุกข์มาหลายชั่วโครต สุดท้ายก็ยังต้องแต่งเธอเข้าบ้านมาอีก”
เจี่ยงเวินอี๋เสียใจที่ยอมทำตามความประสงค์ของผู้ใหญ่ และปล่อยให้ลูกชายของเธอแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ เมื่อเห็นสภาพของบริษัทซูซื่อ เห็นเซียวควนที่ติดคุก ซัวฉ่ายลี่ต้องสู้กับคดีหนี้อันมหาศาล และซูหยวนก็เสื่อมเสียชื่อเสียง
เกือบทุกคนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทซูซื่อไม่มีใครมีจุดจบที่ดีสักคน
“คนพวกนั้นเป็นครอบครัวของเธอ เธอใจร้ายใจดำขนาดนั้นได้ยังไง” เจี่ยงเวินอี๋รู้สึกเสียใจมาก
ผู้หญิงที่กล้าทำร้ายครอบครัวของตัวเองขนาดนี้ จะอ่อนโยนกับใครได้
“บอกมาสิว่าเป้าหมายต่อไปของเธอคือใคร เป็นบ้านตระกูลลี่ของเราหรอ เธอกำลังจะฆ่าพวกเรา และฮุบสมบัติตระกูลลี่ใช่ไหม” เจี่ยงเวินอี๋เริ่มเดาไปมั่วซั่ว
ซูย้าวได้แต่ก้มหน้าลงเงียบๆ อย่างไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
ก่อนหน้านี้ที่เธอเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวของซูหยวน และทำลายเซียวควน ก็เพื่อจะบีบบังคับให้ซังฉ่ายลี่ปล่อยแม่ของเธอเท่านั้น เธอไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร
แต่เมื่อถูกซัวฉ่ายลี่เอาคืน แม้จะไม่มีหลักฐาน แต่ก็เหมือนกับเธอกระโดดลงไปในน้ำแล้ว มันไม่มีทางที่จะล้างความบริสุทธิ์์ให้ตัวเองได้
เธอไม่ได้มีเจตนาทำร้ายคนอื่น เธอแค่ต้องการตัวแม่ของเธอคืน แต่เธอกลับกลายเป็นคนที่เลวร้ายที่สุด
ชนักนี้ เป็นสิ่งที่เธอต้องแบกรับใช่ไหม
“ทำไมจิตใจของเธอถึงได้เลวทรามอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่เจิ้งเอ๋อ ฉันก็อยากจะไล่เธอออกไปเดี๋ยวนี้!”
เจี่ยงเวินอี๋กัดฟันอย่างโกรธๆ เธอไม่มีความเห็นอกเห็นใจใดๆสำหรับผู้หญิงคนนี้ จากนั้นเธอก็พูดว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว บ้านตระกูลลี่ของเราก็ไม่อาจรับผู้หญิงเลวทรามอย่างเธอได้ รีบหย่ากับลี่เฉินซีซะ”
ซูย้าวตกใจ รีบเงบหน้าขึ้นทันที
ทันทีที่สบตากัน เจี่ยงเวินอี๋ก็พูดต่อว่า “จบกันด้วยดี พวกเราจะไม่ให้เงินเธอแม้แต่สตางค์เดียว และอย่างอื่นก็อย่าหวัง ผู้หญิงอย่างเธอมันไม่คู่ควร”
ในความคิดของแม่สามี ซูย้าวเป็นผู้หญิงที่ไม่ดี ไม่ผ่านตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้จะมีการพิสูจน์กว่าร้อยวิธี แต่เจี่ยงเวินอี๋ก็ไม่มีทางให้โอกาสนั้นกับเธอ
ซูย้าวขมวดคิ้วอย่างทำอะไรไม่ถูก เธอยกมือขึ้นเตรียมพูดด้วยภาษามือ แต่ก็ถูกขัดเสียก่อน “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว คนใบ้อย่างเธอ แค่อ่านภาษามือฉันก็ปวดหัวแล้ว”
เธอลุกขึ้นยืน และเดินออกไปพร้อมกับถือเสื้อโค้ท และกระเป๋าของเธอ พลางพูดว่า “เท่านี้แหละ พรุ่งนี้ฉันจะพาทนายความมาดำเนินเรื่อง คืนนี้เธอก็เก็บของให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เมื่อดำเนินการเสร็จก็ออกไปได้เลย”
ซูย้าวยืนอึ้งอยู่กับที่ พลางมองตามแผ่นหลังของเจี่ยงเวินอี๋ที่เดินห่างออกไปด้วยแววตาสับสน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพูดคำว่า “หย่า” ออกจากปากของเจี่ยงเวินอี๋
เธอรู้ดีว่าแม่สามีของเธอไม่ชอบเธอ และแทบจะทนเธอไม่ไหว แต่เจิ้งเอ๋อยังเด็ก อย่าบอกนะว่า….
เจี่ยงเวินอี๋เพิ่งออกไป ก็โทรกลับมาหาพี่เลี้ยง และแม่บ้านให้แพคของให้ซูย้าว เพราะกลัวว่าพรุ่งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไป
ในห้องนอน พี่เลี้ยงและแม่บ้านเม้ามอย พลางเก็บข้าวของไปด้วย “คิดดูนะ คุณผู้หญิงนี่จริงๆเลย ยังไงก็เป็นญาติกัน กล้าทำอย่างนี้ลงไปได้ยังไง”
“ถ้าบริษัทซูซื่อล้มละลายจริงๆ แล้วจะมีประโยชน์อะไรกับเธอ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ!”
“ช่างใจร้ายจำดำจริงๆ! ทำได้กับญาติตัวเอง นับประสาอะไรกับคนอื่น ไม่แปลกใจที่คุณท่านจะไล่สะใภ้แบบนี้ออกไป…..”
“หึหึ…ใช่น่ะสิ เป็นผู้หญิงที่ใจร้ายที่สุด”
เสียงพูดคุยดังเข้าหูของซูย้าวที่ยืนอยู่นอกประตู เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของตัวเองถูกกดทับด้วยอะไรบางอย่าง จนรู้สึกอึดอัด และเจ็บปวด
ญาติหรอ
ถ้าซัวฉ่ายลี่ และคนอื่นๆเป็นญาติกับเธอ เธอขอไม่มีดีกว่า
สิบปีก่อน พ่อของเธอตายต่อหน้าต่อตา เพราะโดนซัวฉ่ายลี่วางยาพิษ
นอกจากนี้เธอยังถูกซัวฉ่ายลี่บังคับให้ดื่มยาใบ้พิษ จนทำให้เธอกลายเป็นคนใบ้ ไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป
เซียวควน และซัวฉ่ายลี่ภรรยาของเขาพยายามฆ่าเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยการจัดฉากให้เป็น ‘อุบัติเหตุ’ ต่างๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ลิฟต์ไหม้ เธอหนีออกมาได้ แต่รอยแผลเป็นที่ขาของเธอยังคงอยู่ มันยังคงย้ำเตือนอยู่เสมอว่า คนที่เธอเรียกว่าญาติ พยายามฆ่าเธออยู่เรื่อยๆ
เธอแค่ต้องการแม่ของตัวเองคืน อยากได้ของที่เป็นของตัวเอง แต่พวกเขากลับเอาความผิดทั้งหมดมาใส่ร้ายป้ายสีเธอ เมื่อคิดดูดีๆแล้ว เธอทำผิดอะไร
ไม่มีใครคิดในฝั่งของเธอ ทุกคนต่างผลักความผิดทั้งหมดมาที่เธอ…..
ซูย้าวมองลูกชายตัวน้อยของเธอข้างเปล เขายังเด็กมาก ดวงตาสีดำกลมโตกระพริบตาน้อยๆจ้องมองเธออย่างใสซื่อบริสุทธิ์์
เธอไม่มีทางให้ลูกกำพร้าแม่ และไม่มีทางยอมปล่อยให้ลูกอยู่ในบ้านตระกูลลี่แน่
ไม่มีทาง!