เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 11
“เรื่องก่อนหน้านี้ที่เธอเกือบถูกรถชนตรงหน้าประตูหลังโรงแรม ทั้งๆที่เธอวางแผนเองกับมือ กลับมาใส่ร้ายหยวนหยวนของเรา ช่างกล้านะ” ซัวฉ่ายลี่พูดขึ้น
แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ยกมือจิกหัวซูย้าวอย่างแรง “อย่าลืม แม่คนบ้าคนนั้นของเธอยังอยู่ในมือพวกเรา หากไม่อยากให้เธอไปพบยมบาล ก็ให้เชื่อฟังหน่อย”
ซูย้าวนิ่งอึ้งไป คิดถึงแม่ที่อยู่ในสถานพักฟื้น ในใจเจ็บปวดอย่างรุนแรง
“ฉันขอเตือนเธอ หากยังคิดตุกติกอีก ฉันจะให้เธอได้เห็นดี” สุดท้ายซัวฉ่ายลี่กำดึงผมเธอไว้แน่น แล้วค่อยปล่อยมือ
ซูหยวนยังถือโอกาสพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ช่างเหมือนกับแม่คนบ้าคนนั้นของเจ้า รู้จักปีนขึ้นเตียงผู้ชายตั้งแต่เด็ก คบกับเพียงพี่เฉินซีไม่กี่วัน ก็ตั้งครรภ์มีมารหัวขนแล้ว”
ทุกคำทุกประโยค ดังสนั่นอยู่ในหูของซูย้าว
มือเรียวเล็กกำแน่นด้วยความโกรธ
“รอต่อไปเมื่อฉันแต่งงานกับพี่เฉินซีแล้ว จะเห็นแก่ที่เด็กคนนี้เป็นลูกที่เธอคลอด ฉันจะดูแลเลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี”
น้ำเสียงเรียบเฉย กลับเต็มไปด้วยความหมายที่กลับกัน
ซูหยวนยังพูดอีกว่า “นี่เรียกว่ากรรมของแม่ลูกชดใช้ ใช่ไหม? แค่คิดว่าเด็กเป็นลูกของเธอ ฉันก็อดไม่ได้ที่อยากจะทรมานเขาให้ตาย”
ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยเกลียดชัง ทุกๆคำเหมือนแทบเล็ดลอดออกมาจากไรฟัน
ซูหยวนเกลียดน้องสาวคนนี้มาก
เพราะติดตามซัวฉ่ายลี่แต่งเข้ามาอยู่ในตระกูลซูตั้งแต่เล็ก ตามหลักแล้ว ซูหยวนกับตระกูลซูไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย ดังนั้นเมื่อตอนที่พ่อยังอยู่ กลับลูกสาวที่เป็นลูกติดอย่างเธอ ก็มีแค่ดูแลตามมารยาทเท่านั้น
ซัวฉ่ายลี่รีบพูดขึ้นทันใดว่า “พอล่ะ พวกเราไปก่อนเถอะ”
ระเบียงทางเดินด้านนอก ซัวฉ่ายลี่ยังไม่ลืมที่จะตำหนิเสียงต่ำว่า “ลูกโง่ ลูกจะพูดอะไรเยอะแยะตอนนี้ทำไม? รอยัยโง่นั่นคลอดลูกออกมาก่อน ต่อไปจะจัดการยังไง ยังไม่แล้วแต่ลูกหรือ?”
“อืม ลูกจะรอวันนั้น” ซูหยวนหัวเราะเย้ย ดวงตาฉายแววแห่งความเจ้าเล่ห์
ส่วนในห้องผู้ป่วย ซูย้าวยากที่จะอดกลั้นความโกรธ โกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัว
ซัวฉ่ายลี่กับซูหยวนสองแม่ลูกคู่นี้ ตอนนั้นทำให้พ่อต้องตาย ยังเป็นกังวลเรื่องที่วางยาจนเธอเป็นใบ้ไม่พอ ตอนนี้ยังคิดที่จะจัดการกับลูกของเธออีก
ไม่ว่ายังไง ก็จะปล่อยให้แผนการของพวกเธอประสบความสำเร็จไม่ได้
ส่วนทางด้านบริษัทลี่ซื่อ เพิ่งประชุมเสร็จ ลี่เฉินซีกลับมายังห้องทำงาน ก็ได้รับสายที่เจี่ยงเวินอี๋โทรมา
“แม่รู้ว่าลูกไม่ชอบซูย้าว หากไม่ใช่เพราะเป็นคำสั่งเสียของคุณผู้หญิง แม่ก็จะไม่ให้ลูกสู่ขอคนใบ้คนหนึ่ง”
กับคำพูดที่พูดขึ้นมาอย่างทันใดนั้น ลี่เฉินซีขมวดคิ้ว “แม่ แต่อยากพูดอะไรกันแน่?”
“ไม่ว่ายังไง ลูกในท้องของเธอ ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลลี่เรา เรื่องของลูกกับฉ่ายหลิง เพลาๆกันหน่อย ยังไงก็ระวังถึงผลกระทบด้วย”
เจี่ยงเวินอี๋วางกองหนังสือพิมพ์และนิตยสารด้านข้างมือลง แทบพาดหัวข่าวทุกฉบับ ล้วนเป็นข่าวฉาวของลูกชาย เธอในฐานะที่เป็นแม่ จะนิ่งดูดายต่อไปได้อย่างไร
“ยังมี ลูกโยนซูย้าวเข้าไปในโรงพยาบาลทำไม? ไปรับกลับมา พอดีที่คืนพรุ่งนี้มีงานเลี้ยง ลูกพาเธอมาด้วย”
เป็นห่วงว่าลี่เฉินซีจะปฏิเสธ เจี่ยงเวินอี๋จึงพูดเสริมขึ้นอีกว่า “ถือโอกาสนี้ลบล้างข่าวฉาวของลูก ลูกรู้ดีว่าควรจะทำอย่างไร ใช่ไหม?”
ลี่เฉินซีไม่พูดอะไร รับสายโดยตรง
เอนพิงอยู่บนเก้าอี้หนัง เขายกมือปลดเนคไทอย่าหงุดหงิด กำลังจะจัดการเรื่องงาน ก็คิดอะไรขึ้นมาได้ แล้วรีบยกหูโทรศัพท์ตั้งโต๊ะขึ้นมาแล้วโทรออก
“รับเธอกลับมา”
ทางด้านโรงพยาบาล โม่หว่านหว่านอยู่บนโซฟา ปอกแอปเปิลไปด้วย พูดไปด้วยว่า “จะต้องทำอย่างไรดี? เธอก็รู้จักนิสัยของซัวฉ่ายลี่ดี รอเมื่อเธอคลอดลูกแล้ว เธอจะต้องสั่งโรงพยาบาลไว้ทั้งหมด ทำให้เธอคลอดยากหรือตกเลือดมาก แล้วก็ตายในทันที”
ซูย้าวนิ่ง สายตาจ้องมองดูเธอยังไม่พอใจ
โม่หว่านหว่านกลับหยิบแอปเปิลที่ปอกเสร็จแล้ววางในมือเธอ “อย่าหาว่าฉันเจตนาพูดให้ตกใจ ตอนนั้นผู้หญิงคนนั้นยังกล้าวางแผนสามีแท้ๆของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้กับเธอที่เป็นรูปสาวที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลย”
พูดถึงเรื่องในตอนนั้น ในใจซูย้าวกระตุกขึ้นมาทันที ตอนนั้น เธอเห็นซัวฉ่ายลี่ฆ่าพ่อของตัวเองตายกับตาตัวเองจริงๆ….
ซูหยวนรับเอายีนความโหดเหี้ยมของซัวฉ่ายลี่มาทั้งหมด ครั้งนี้ที่อยากจะปองร้ายลูกในท้องของเธอ คงจะวางแผนกันมาตั้งนานแล้ว
จะไม่ป้องกันไม่ได้
“ทำยังไงดี? จะอาศัยเพียงแค่กำลังของพวกเราไม่ได้แน่ จะต้องหาผู้ช่วยสักคน” โม่หว่านหว่านเสนอความคิดเห็น
และแล้ว เธอก็พูดชื่อของคนคนหนึ่งขึ้นมา “หรือว่า เอาเรื่องนี้บอกให้หลินโม่ป่ายรู้?”
ซูย้าวหยักคิ้วขึ้นหลินโม่ป่าย?
“เขาชอบเธอมาตลอด ยังอยากที่จะรักษากล่องเสียงให้เธอ ผู้ชายที่ดีแบบนั้น จะต้องช่วยหาเธอแน่นอน เลือกเขาเถอะ” โม่หว่านหว่านพูดอธิบาย
ซูย้าวส่ายหัว ใช้ภาษามือพูดว่า…ไม่ได้เด็ดขาด
โม่หว่านหว่านเม้นริมฝีปาก “นอกจากเขา ยังมีใคร?”
มองดูท่าทีสายตาครุ่นคิดของซูย้าว โม่หว่านหว่านพูดขึ้นอย่างตกใจว่า “โอ้พระเจ้า ไม่ใช่ว่าเธอยังคิดถึงคุณชายลี่คนนั้นของเธอนะ”
“เห็นที เขาทำร้ายเธอยังไม่ถึงที่สุด”
อีกวันในโรงแรมใหญ่หม่าดี มีงานเลี้ยงที่มีการรวมตัวของนักธุรกิจชนชั้นสูง ทุกอย่างที่นี่กำลังดำเนินไปอย่างคึกคัก
นักข่าวจากสำนักข่าวมากมายมารวมตัวกัน กำลังรอคอยข่าวเด็ด ในที่สุด ก็มีคนตะโกนร้องขึ้นว่า…
“เป็นรถของประธานลี่ ประธานลี่มาแล้ว”
นับได้ว่าอยู่ในสายตาของทุกคน รถเฟอร์รารี่สีดำก็ขับเคลื่อนมาอย่างช้าๆ
ซูย้าวควงแขนของลี่เฉินซี ก้มเอวเดินลงมาจาก ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงหน้าทุกคน ยิ้มให้ความร่วมมือนักข่าวถ่ายรูป
เธอม้วนผมยาวคลุมไหล่ สวมชุดกระโปรงยาวทรงเข้ารูปสีแชมเปญ การตัดเย็บที่ยอดเยี่ยมแสดงให้เห็นถึงรูปร่างที่สวยงามได้รูปของเธอ กระโปรงยาวพลิ้วไหวไปตามสายลม หน้าท้องที่นูนสูงมองเห็นได้อย่างชัดเจน
หญิงตั้งครรภ์ท้องหม้อ คนเคยเห็นมาแล้วเยอะแยะ แทบจะเห็นได้ทุกที่
แต่เหมือนอย่างซูย้าวนี้ จะมีสักกี่คน?
คิ้วตางดงามเหมือนดั่งภาพวาดน้ำหมึก ระยิบระยับ ไม่แสดงลวดลายสำบัดสำนวน กลับแลดูเหินห่างอย่างสงบเสงี่ยม สวยงดงามจนแทบไม่อยากละสายตา
ท่าทีดูเรียบร้อยไม่หยาบคาย ติดเป็นเงาตามตัว ริมฝีปากแดงภายใต้แสงไฟสาดส่อง เปล่งประกายแวววาวชวนให้หลงใหล
แสงไฟที่ฉายส่องอย่างท่วมท้นทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แขนยาวของลี่เฉินซีโอบเอวเธอไว้ “หากรู้สึกไม่สบาย คุณก็บอก”
พูดเสร็จ แล้วก็รู้สึกว่าไม่ถูก จึงกระซิบข้างหูเธอว่า “เขียนออกมา”
เขียน…
ในใจซูย้าววูบวาบ เขาไม่ชอบเธอใช้ภาษามือมาตลอด หากจะต้องสื่อสารกัน ก็ให้ใช้ภาษาเขียน
เฮ้อ เป็นความชอบที่แปลกจริงๆ
ความใกล้ชิดของทั้งสองคนถูกนักข่าวถ่ายภาพ มีคนตกใจ มีคำถามมากมายกำลังถามลี่เฉินซีอย่างกดดัน
สายตาของเขามองดูซูย้าวที่อยู่ด้านข้างอย่างลึกซึ้ง ดวงตาที่มองไม่เห็นเบื้องลึกข้างใน ทำให้ยากที่จะคาดเดา
ลี่เฉินซีประคองซูย้าวเข้าไปในโรงแรม ก่อนหน้านี้พูดกับพวกนักข่าวเพียงประโยคเดียวว่า… แฟนเก่าอะไร? ในความรู้สึกของผม มีเพียงภรรยาคนเดียว
ช่างเป็นคำพูดที่น่ารักมาก ในขณะที่พูดออกจากปากนั้น ทำให้พวกนักข่าวทั้งหมดต่างก็ตกตะลึง ไม่ต้องคิดหรือไม่ต้องคาดเดาเลย ข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์พรุ่งนี้ จะต้องลงรูปภาพข่าวของลี่เฉินซีกับซูย้าว
ภาพรักผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก ก็กลับมาเหมือนเดิมด้วยวิธีแบบนี้
ซูย้าวมองดูผู้ชายที่อยู่ใกล้ชิดกันแค่เอื้อม ดวงตาที่แตะต้องไม่ได้เหมือนดั่งสระน้ำลึก ราวกับว่ามองเห็นความรักที่ลึกซึ้งอยู่ในนั้นจริงๆ จึงยิ้มตามอย่างว่าง่าย