เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 124
บทที่ 124 ชีวิตคุณสำคัญกว่าฉัน
เวลาย้อนกลับไปหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า
ลู่ส้าวขับรถพาซูย้าวจากไปโดยที่ไม่สนสีหน้ามืดมนอันหล่อเหลาของลี่เฉินซีเลยแม้แต่น้อย สีหน้าของเขาน่ากลัวมาก
กล้าแย่งภรรยาของเขาไปโดยไม่ไว้หน้าและเกรงใจเขาแบบนี้ บนโลกนี้ก็คงมีแต่ลู่ส้าวหลิงคนเดียวที่กล้าทำ!
หานฉ่ายหลิงเห็นเขาหน้าบึ้ง อดไม่ได้หัวเราะขึ้นมา“คุณยังใจแคบเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ !”
ลี่เฉินซีขมวดคิ้ว ใจแคบ?!
จู่ๆมีคนใช้คำนี้กับเขา
“วางใจเถอะค่ะ อย่าเห็นว่าส้าวหลิงปกติเป็นคนสนุกเฮฮา แต่ในเรื่องสำคัญและจริงจังแล้ว เขาก็แยกแยะออก เขาไม่ทำอะไรเลยเถิดหรอกค่ะ!”หานฉ่ายหลิงพูดปลอบใจ
ลี่เฉินซีอดขมวดคิ้วไม่ได้ “ผมไม่ใช่ว่าไม่รู้จักนิสัยของเขาสักหน่อย”
เรื่องที่เขาเป็นห่วงไม่ใช่กลัวว่าลู่ส้าวหลิงจะทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายอะไรหรอกนะ แต่เป็นเรื่องอย่างอื่นมากกว่า
หานฉ่านหลิงก็ไม่อยากจะซักถามต่อ เรื่องแบบนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ต้องรู้สึกไม่ชอบใจแหละ โดยเฉพาะคนอย่างลี่เฉินซี ที่เป็นผู้ชายที่เจ้าอำนาจชอบควบคุมคนอื่นแบบนี้ กล้าแย่งภรรยาของเขาไปต่อหน้าต่อตา เฮ้อ……
“เอาล่ะ นี่ก็ดึกแล้ว ให้ผมส่งคุณกลับไปเถอะนะ!”ลี่เฉินซีพูด
หานฉ่ายหลิงจับเสื้อคลุมของผู้ชายที่คลุมอยู่ที่ไหลให้แน่นแล้วพยักหน้า
เดิมที หวางอี้อยากจะขับรถเอง แต่ลี่เฉินซีมีงานอื่นให้เขาทำ เลยจากไปก่อน
ลี่เฉินซีขับรถเอง หานฉ่ายหลิงนั่งอยู่ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ทั้งสองคนพูดคุยกันตลอดทาง ขับมุ่งไปทางบ้านตระกูลหาน
บ้านตระกูลหานกับบ้านตระกูลลี่อยู่ฝั่ง เหมือนกันต่างก็ต้องผ่านสะพานคว่าไห่และถนนถนนผูขุยกับเซ็นทรัลสแควร์
ลี่เฉินซีขับรถนิ่งมาก ไม่เร็วไม่ช้ากำลังดี ไม่เหมือนกับลู่ส้าวหลิงที่ขับรถพุ่งชนอย่างเร็ว บนถนนในยามค่ำคืน ทั้งสองคนดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนของเมือง และเพลิดเพลินกับแสงไฟครัวเรือนในเมือง รู้สึกอารมณ์แปลกไปอีกแบบ
“เฉินซี คุณรู้มั้ยว่าฉันชอบสัตว์อะไรมากที่สุดคะ?”เธอจู่ๆก็ถามขึ้นมา
เขาตอบไปคำนึงอย่างไม่ต้องคิด“กวางซิก้า”
ทุกคนต่างก็มีสัตว์ที่ตัวเองชอบเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ สัตว์ที่หานฉ่ายหลิงชอบที่สุดก็คือกวางซิก้า
แปลกมาก
แต่เธอกลับดูมีความสุขกับมันมาก
เธอพยักหน้าแล้วพูด“นั้นคุณรู้ว่ากวางซิก้าชอบทานอะไรมั้ยคะ?”
ลี่เฉินซีชายตามองเธอ“คุณเป็นอะไรไป?”
หานฉ่ายหลิงเอียงหัว แล้วทำปากจู๋ หน้าตาที่สะสวยมีความน่ารักอยู่ด้วย “กวางซิก้าชอบกินหญ้า ที่ๆไม่มีหญ้า สำหรับกวางซิก้าแล้วก็คือขุมนรกที่สิ้นหวัง”
เขาเหมือนจะเข้าจะแล้ว แค่ไม่พูด
หานฉ่ายหลิงก็พูดต่อ“บริษัทหานซื่อก็เปรียบเสมือนกวางซิก้า เหมาะสำหรับทำธุรกิจเล็กๆเท่านั้น นำพาธุรกิจไปได้ สามารถเลี้ยงดูพนักงานสองสามร้อยคนและฉันกับบริษัทหานซื่อก็พอแล้ว สำหรับฉันแล้ว การที่หาเงินมากมาย ขนาดนั้น กลับเป็นภาระอย่างนึง”
“แล้ว?”ลี่เฉินซีคอยๆหมุนพวงมาลัยขับไปทางสะพานคว่าไห่。
มือข้างนึงของเธอเท้าคางไว้ หันหน้ามองผิวทะเลนอกหน้าต่างรถ “โครงการCCUก็เหมือนเค้กชิ้นโตที่กำไรมหาศาล เหมาะสำหรับบริษัทลี่ซื่อ กรุ๊ปเพ้อซื่อและบริษัทLH แต่ไม่เหมาะสำหรับหานซื่อของเรา”
หานฉ่ายหลิงพูดความในใจออกมา เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับการทำธุรกิจ แต่เกิดมาในตระกูลที่ทำธุรกิจ เลยเลือกไม่ได้ที่ต้องรับช่วงบริษัทต่อจากพ่อ
สิ่งเดียวที่เธอต้องการทำก็คือพัฒนาไปอย่างมั่งคง อย่าปล่อยให้รากฐานของบริษัทต้องถูกทำลายด้วยมือของตัวเองก็พอ
ไม่จำเป็นต้องพัฒนาให้ใหญ่โตถึงขั้นนั้น มันดูเวอร์ไป!
“นั้นตามความหมายของคุณแล้ว บริษัทลี่ซื่อคือสัตว์อะไรล่ะครับ?”เขาย้อนถามอย่างสนใจ
“หมาป่าละมั่ง!หรือไม่ก็เสือ หรือราชาแห่งป่า!”หานฉ่ายหลิงเปรียบเทียบอย่างเพ้อฝัน
ลี่เฉินซีอดไม่ได้หัวเราะออกมา รอยยิ้มที่สดใส หล่อจนทำคนใจละลาย
ทั้งสองคนกำลังมีความสุขอยู่กับการพูดคุย ไม่ทันได้สนใจอย่างอื่น แม้แต่ความเร็วของรถที่จู่ๆเพิ่มขึ้น ก็ยังไม่ทันสังเกตุ
ผ่านสะพานคว่าไห่แล้ว เดิมทีควรขับไปทางถนนผูขุย แต่รถกลับเลี่ยงซ้ายโดยตรง วิ่งไปทางถนนคดเคี้ยวบนเขา ด้วยความเร็วเป็นเท่าตัว
หานฉ่ายหลิงรู้สึกถึงแล้วรีบพูด“เฉินซี คุณทำอะไรคะ?ทำไมขับรถเร็วขนาดนี้?”
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วตั้งแต่ที่รถวิ่งไปผิดทางแล้ว สีหน้าดูมึนงง“ผมไม่ได้เร่งความเร็วเลยนะ อีกอย่าง ก็ไม่ได้เปิดโหมดขับอัตโนมัติด้วย รถนี้……”
เบรคหรือว่าคันเร่งต่างก็ใช้งานไม่ได้
รวมถึงระบบควบคุมก็ด้วย
ด้วยสัญชาตญาณ ลี่เฉินซีเลยไปเปิดประตู ปรากฏว่าประตูรถและหน้าต่างถูกล๊อคตาย เปิดไม่ได้เลย
หานฉ่ายหลิงเริ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดี มือที่ตื่นเต้นจับแขนของเขาไว้ “เฉินซี คุณมองที่กระจกมองหลังซิคะ รถเบนซ์สีดำคันหลังตามเรามาตลอดเลยใช่มั้ยคะ?”
ลี่เฉินซีสังเกตุเห็นนานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ ระบบของรถไม่มีปัญหาอะไรเลยไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะยังไงแล้วเมืองA เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ถึงจะดึกมากแค่ไหน บนถนนก็ยังมีรถผ่านไปมาเป็นเรื่องปกติมาก
แต่เห็นจากตอนนี้แล้ว มีคนแฮ็กระบบรถของพวกเขา แถมความเร็วของรถก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เข็มชี้มาตรความเร็วขึ้นเป็นสีแดง ความเร็วของรถวิ่งถึงขีดสูงสุด อยู่บนถนนคดเคี้ยวบนเขา ที่นี่มีรถวิ่งผ่านน้อยมาก วิ่งไปข้างหน้าอีก หลังผ่านอุโมงไปก็คือถนนที่เป็นริมหน้าผา……
“เฉินซี ทำยังไงคะ?”
หานฉ่ายหลิงไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ตื่นตกใจจนควบคุมตัวเองไม่ได้
เขารีบกุมมือของเธอไว้แล้วพูดปลอบใจ“ไม่เป็นไรนะ มีผมอยู่ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณเป็นอะไรไปแน่!”
“ฉันไม่ได้เป็นห่วงฉันหรอกนะคะ แต่เป็นคุณต่างหาก!”เธอรีบอธิบาย
ไม่ว่าต้องเจอกับสถานการณ์อันตรายยังไง ความปลอดภัยของคนรักสำคัญกว่าตัวเองเสมอ
หานฉ่ายหลิงจับมือของเขาไว้ “เฉินซี คุณถึงเป็นคนสำคัญสุด จำไว้นะคะ ไม่ว่าเดี๋ยวจะเกิดอะไรขึ้น คุณต้องคิดหาวิธีช่วยตัวเองให้ได้นะคะ ไม่ต้องสนใจฉัน!”
“ห้ามพูดเหลวไหล!”เขาตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายก็ไม่ขัดสติ ปล่อยมือจากหานฉ่านหลิง แล้วหันไปหาของอะไรก็ได้ที่สามารถใช้ได้ในรถ
ตอนนี้ จะให้พ้นจะการควบคุมของรถคันหลังคงเป็นไปไม่ได้ วิธีเดียวที่มีอยู่ก็คือฉวยโอกาสที่ยังอยู่ในอุโมงนี้ หาของทุบกระจกแล้วหนีเอาตัวรอด
ถึงแม้ก็อาจจะบาดเจ็บเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ถือว่าดีสุดแล้ว!
เขาหาอยู่นาน หาได้แค่อุปกรณ์ที่ทุบกระจก
หวางอี๋เป็นคนซื้อมาหลังจากที่รับรถมา คิดว่าอาจมีโอกาสได้ใช้ ไม่นึกเลยว่าจะเร็วขนาดนี้!
เพราะอยู่ในรถ พื้นที่ถือว่าไม่ใหญ่มาก ออกแรงทุบได้ไม่สะดวก รถยังคงวิ่งอยู่ เขาแทบจะใช้แรงทั้งหมดที่มี แต่ก็แค่ทุบกระจกฝั่งของหานฉ่ายหลิงแตกได้ฝั่งเดียว
ยังไม่ทันรอเขาทำอะไรต่อ รถก็ได้วิ่งออกจากอุโมงแล้ว ข้างหน้าก็เป็นถนนริมหน้าผาแล้ว รถพุ่งไปทางริมหน้าผาอย่างเร็ว
รถคันหลังก็ตามมาติดๆ ราวกับยมทูตที่คลานออกมาจากนรก วิ่งถือดาบฟันมาข้างหน้า——
“เฉินซี!”หานฉ่ายหลิงตะโกนอย่างตื่นตระหนก
รถวิ่งเร็วมาก ไม่ทันไรก็พุ่งชนกับราวกั้นริมถนน วิ่งไปทางหน้าผาแล้วดิ่งลงไปทันที
ลี่เฉินซีกอดหานฉ่ายหลิงไว้อย่างแน่ รถที่ตกลงมากระแทกกับต้นไม้ที่อยู่ตามหน้าผา กระแทกอย่างต่อเนื่องและกลิ้งไปเรื่อยๆ ทั้งสองคนตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายสุดขีด
รถเบนซ์ที่ตามหลังมาก็หยุดลง มีผู้ชายคนนึงเดินลงจากรถ ใส่หมวกแก๊ปสีดำยืนดูที่ริมหน้าผา
ใต้หน้าผามืดไปหมด มองไม่ค่อยชัดเจน รถโรลส์รอยซ์สีดำดิ่งลงไปก็หายสาบสูญไปในพริบตา
คนใส่หมวกแก๊ปหัวเราะอย่างดูถูก ดีดนิ้วให้กับคนในรถหนึ่งที แสดงถึงงานสำเร็จ
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถแล้วจากไป