เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 142
บทที่ 142 ผมอยากได้คุณ
ชั่วพริบตา เขาลงมือด้วยความรวดเร็ว จับซูย้าวแก้ผ้าจนหมด กลายเป็นเหมือนกับเขาเอง
เธอรีบจับผ้าห่มเอาไว้ เพราะยังไม่ได้เปิดไฟ ทำให้ทั้งห้องยังอยู่ในความมืด และด้วยความที่เธอลุกลี้ลุกลน ทำให้มือเธอจับไปโดนบางอย่างที่นิ่มๆ และมีขนอ่อนๆ
ซูย้าวไม่มีปฏิกิริยาใดๆ อยากจะสะบัดออก แต่ชายหนุ่มที่ไซร้อยู่ข้างหูเธอนั้นครางออกมาด้วยเสียงกระเส่า ความรู้สึกนี้ และปฏิกิริยาของเขา ซูย้าวแทบจะไม่ต้องคิดว่าวินาทีต่อมาจะเกิดอะไรขึ้น!
เธอรีบปล่อยมือออก แล้วรีบหลบไปขดตัวอยู่อีกฝั่ง ณ ตอนนั้น ไม่มีเวลาไปคิดว่าอากาศร้อนหรือไม่ เธอถูกเขาแกล้งเสียจนเขินแทบตาย!
ลี่เฉินซีพอใจเป็นอย่างมาก รีบพุ่งเข้ามาจับมือเธอเอาไว้ “มาสิ ทำต่อสิ วิ่งหนีทำไมล่ะ?”
ซูย้าวตกใจ กลัวว่าเขาจะแกล้งอะไรเธออีก!
เธอรีบสะบัดมือของเขาออก แล้วไปหลบอีกฝั่ง พร้อมหดมือทั้งสองข้าง ไม่ให้เขาหาเธอได้
ลี่เฉินซีหาแล้วหาอีก ก็หาไม่เจอ บวกกับที่เขายังบาดเจ็บ ถ้าขยับตัวมากไป จะทำให้แผลฉีกได้ เขาจึงยอมแพ้
เขานอนหายใจหอบและนอนลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า “ซูย้าว คุณลวนลามผม!”
ลวนลาม !
EXM?
เธอฟังไม่ผิดใช่ไหม!
“ผมเป็นขนาดนี้แล้ว คุณยังมาลวนลามผม ไม่คิดเลยว่าคุณเป็นแบบนี้!” เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เพราะมองไม่ชัด ทำให้เธอมองไม่เห็นรอยยิ้มนั้นของเขา ว่ามีความสุขขนาดไหน
และเขาก็มองไม่เห็นหน้าของซูย้าวเช่นกัน ว่ามันทั้งแดงและเขินอายขนาดไหน แดงจนเหมือนกับไฟเผา และอายจนทำตัวไม่ถูก
“ผมไม่สนหรอก คุณต้องรับผิดชอบ!” เขาทำท่าดื้อเหมือนกับเด็ก
ลี่เฉินซีพูดพ้้องกับพุ่งตัวไปหาเธอ แขนยาวๆของเขา ดึงเธอเข้ามากอดแน่นทั้งตัว ไม่ว่าเธอจะดิ้นอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย
เขายังจงใจพูด “ถ้าคุณยังขยับอีก ก็จะโดนแผลผมนะ!”
“……”
ซูย้าวจึงได้แต่ยอม เลิกขัดขืนเขา ยอมให้เขากอดเธอต่ออย่างหน้าด้านๆ กอดแน่นและร้อนมาก
“ถ้าหากไม่ใช่เพราะแผลยังไม่หาย ฉันล่ะอยากจะจัดการเธอจริงๆ!” ชายหนุ่มกระซิบด้วยเสียงแหบต่ำที่ข้างหูเธอ
เสียงยั่วยวนนั้น แทรกไปทุกอณู
ซูย้าวกลับได้ยินเสียงนั้น จนใจเต้นแรงมาก นายคนนี้…
“แต่ว่า ต่อให้เป็นตอนนี้ พวกเราก็ยังมีอะไรกันได้ อืม? จะลองดูไหมล่ะ?”
ลี่เฉินซีพูดพลางจับมือของเธอค่อยเลื่อนลงด้านล่าง
จังหวะที่เกือบจะเข้าด้ายเข้าเข็ม ซูย้วรีบถอนตัวออกมา หลบมือของเขาที่กำลังเลื้อยไปมา แต่ลี่เฉินซรกลับกระซิบกดดันที่ข้างหูของเธอ “ไม่ให้ความร่วมมือ? ดื้อจริงๆ”
เธอไม่ได้อยากจะเชื่อฟังแต่แรกด้วยซ้ำ
“มาสิ! ผมต้องการ!” ยังคงกระซิบที่ข้างหู เสียงที่เซ็กซี่นั้น ยั่วยวนเสียเหลือเกิน
เมื่อลี่เฉินซีเริ่มดื้อขึ้นมา ยังคงไร้ขีดจำกัดจริงๆ แถมยังกล้าพูดอีกว่า “ตอนนี้คุณช่วยผม ผ่านไปไม่กี่วัน ผมจะทำให้คุณสบายตัวเอง หืม?”
ซูย้าวโมโหจนกัดฟัน ไม่นานก็หลุดออกมาจากพันธนาการของเขา แถมยังถีบขายาวๆของเขาออกไปอีกด้วย
เธอค่อยๆเขยิบไปข้างเตียงด้วยความระมัดระวัง
ลี่เฉินซียังคงนิ่ง แล้วก็เขยิบเข้ามา ถึงแม้จะไม่มีแรงเท่าเมื่อก่อน แต่ยังคงดื้อดึง!
ซูย้าวคิดถึงแค่คำคำนี้ที่จะเอามาบรรยายเขา
เธอก็ได้เข้าใจแล้ว ว่าถ้าหากไม่ทำให้เขาพึงพอใจ ผู้ชายคนนี้ ก็จะทำตัวเหมือนเด็ก ดูแลยากกว่าเจิ้งเอ๋อเสียอีก
หลังจากครุ่นคิด ในขณะที่เขายังกอดเธออยู่ในอ้อมแขนแน่น ริมฝีปากบางจลดลงมาที่ริมฝีปากสีแดงของเธอ ลิ้นเรียวยาวตวัดเข้ามา เขาถอดเสื้อผ้าเธอจนไม่เหลือสักชิ้น ไม่จำเป็นต้องให้เขายั่วยวน แขนทั้งสองข้างของเธอค่อยๆยกขึ้นอย่างช้าๆ
เรื่องแบบนี้ เธอไม่ถนัดเลยจริงๆ
และท่าค่อนข้างแย่ ยังดีที่ปิดไฟอยู่ เธอจึงมองไม่เห็น จึงหลับตา แล้วสัมผัสถึงไออุ่นจากเขา และสัมผัสจากมือที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ
ลี่เฉินซีรั้งเธอไว้อีกครั้ง แล้วบดขยี้ริมฝีปากเธออีกครั้ง ราวกับจะกลืนกินเธอทั้งตัว จูบนั้นรุนแรง และเร่าร้อนกว่าปกติ
และวินาทีนั้น ไฟในห้องก็สว่างขึ้น!
ไฟคริสตัลสว่างขึ้น ทั้งห้องขาวโพลน และคนทั้งสองที่อยู่บนเตียงนั้น ไม่มีอะไรคลุมตัว โป๊เปลือย
ลี่เฉินซีสีหน้าเคร่งเครียด กำลังจะหันไปด่า กลับเจอเจี่ยงเวินอี๋ยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยสีหน้าตกใจ
เธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเจอเหตุการณ์นี้
ตกใจจนพูดไม่ออก
ซูย้าวได้สติขึ้นมา รีบดึงผ้าห่มมาปิดเอาไว้ รู้สึกอายมาก เธอรีบมุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม
ลี่เฉินซีกลับนิ่งเฉย แค่คลุมร่างกายเอาไว้ แล้วลุกขึ้นมานั่ง มองไปทางหน้าประตู แล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ “แม่ อยู่ๆทำไมถึงมาล่ะ?”
เจี่ยงเวินอี๋จึงเริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับ รีบตอบกลับ “ฉัน…ฉันได้ยินว่าในห้องมีเสียง ก็คิดว่าพวกแกทำอะไรกันถึงไม่หลับไม่นอน! แกยังบาดเจ็บอยู่ ต้องระวังหน่อย ไม่คิดว่า…”
ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้!
ถ้ารู้แบบนี้ ก็จะไม่เปิดประตูโดยพลการ
ลี่เฉินซีมีสีหน้าเครีงเครียด แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอนนี้เห็นแล้วหรือยัง? ออกไปได้แล้วหรือยัง?”
เจี่ยงเวินอี๋จะไปอย่างแน่นอน แต่ก่อนไป เธอพูดว่า “แกยังแผลไม่หายดี พวกแกเป็นสามีภรรยากัน เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องลับๆล่อๆ รอแผลหายดีก่อน จะทำอย่างไรก็แล้วแต่เลย!”
“…แม่!” เขาหมดคำจะพูด หน้าเคร่งเครียดยิ่งขึ้น
เจี่ยงเวินอี๋รีบปิดไฟ แล้วเดินจากไป
ถึงแม้ว่าเธอไปแล้ว แต่ลี่เฉินซีก็หมดอารมณ์แล้วเช่นกัน!
เขาเปิดผ้าห่มออกมา ซูย้าวรู้สึกค่อยยังชั่ว น่าอายจริงๆ!
ลี่เฉินกลับอ้าแขนดึงเธอให้นอนบนแขนตัวเอง กอดเธอ แล้วจงใจพูด “ไม่ต่อเหรอ?”
เธอก็หมดอารมณ์แล้ว!
เขายิ้ม แล้วกอดเธอเอาไว้ “โอเค นอนเถอะ!”
ประเด็นคือ เกิดเรื่องแบบนี้แล้ว ซูย้าวจะนอนหลับได้อย่างไร
แต่ความจริงกลับกัน เธอคิดว่าตัวเองไม่ง่วง จนสุดท้ายหลับตาลง ผ่านไปไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไป เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นรุ่งเช้าของอีกวันแล้ว
ที่แปลกคือ ลี่เฉินซีไม่ได้ไปไหน เขาตื่นมาอาบน้ำแต่เช้า ใส่ชุดอยู่บ้าน เปิดแอร์ แล้วนอนเช็คบางอย่างบนไอแพดอยู่ข้างๆเธอ
ที่สำคัญคือ ซูย้าวจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนอนบนแขนเขา และตอนเช้าตื่นขึ้นมา ก็ยังนอนบนแขนเขาเช่นเดิม
ดวงตากลมโตของเธอลืมขึ้นมา อย่างไม่น่าเชื่อ
ว่าตัวเธอจะได้ร่วมนอนกับลี่เฉินซี แล้วยังกอดกันจนหลับอีก ความใฝ่ฝันของเธอ ได้เป็นจริงแล้ว
ความสุขมาโดยไม่ทันตั้งตัว เธออยากได้ลูกอมแค่เม็ดเดียว เขากลับให้เธอมาทั้งห้อง ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้เธอได้รับความรักเสียจนน่าตกใจ
“ยังไม่ลุกขึ้นมาอีก? แขนผมชาจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว!” เขาพูดในขณะที่สายตายังจดจ้องอยู่บนไอแพด
ซูย้าวได้สติขึ้นมา รีบลุกขึ้น แล้วเธอก็พบว่า ตัวเธอยังคงเปลือยเปล่า ไม่ได้ใส่อะไร!
เธอยกผ้าห่มมาปิดด้วยความเขินอาย เธออายจนหน้าแดง
“นอนมาด้วยกันจนไม่รู้กี่รอบแล้ว ยังมีตรงไหนที่ฉันไม่เคยเห็นอีก?” เขาพูดพลางขยับแขนตัวเอง
“……”
ซูย้าวไม่รู้จะทำอย่างไร เธอจึงใช้ผ้าห่มห่อตัวเอง เดินเข้าไปในห้องน้ำ