เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 152
บทที่ 152 คุณไม่รักฉันแล้วเหรอ
หานฉ่ายหลิงเป็นฝ่ายใช้สองมือโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้ก่อน จากนั้นก็ดึงร่างกายสูงตระหง่านของลี่เฉินซีเข้ามาใกล้
เขาสูงมาก ส่วนสูง187เซนติเมตรน่าจะได้ หุ่นก็ดีเอามากๆ เขาอยู่ในชุดสูทรองเท้าหนัง ในตอนนี้ฤทธิ์ยาและฤทธิ์น้ำเมาแสดงอาการออกมา กลิ่นกายของเขาแฝงไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นบุหรี่ ดวงตาลึกล้ำเลื่อนลอย มองมาที่เธอด้วยประกายวาวโรจน์
หานฉ่ายหลิงชอบความรู้สึกนี้มาก ความรู้สึกยามที่เขามองมา แล้วในดวงตาส่องประกายคู่นั้นมีแต่เธอ
เพราะยาออกฤทธิ์อย่างกะทันหัน จึงทำให้ลี่เฉินซีรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเริ่มผิดปกติ คิ้วคมปราดขมวดเข้าหากันแน่น เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวพูดออกมาอย่างบางเบาว่า “เฉินซี ฉันต้องการคุณ ทำให้ฉันเป็นของคุณสิ!”
ทั้งน้ำเสียงน่าหลงใหล ทั้งริมฝีปากสีแดงระเรื่อ ผู้หญิงในอ้อมกอดจึงเหมือนสิ่งสวยงามที่อันตราย ทำให้หัวสมองของเขาพลันแตกกระจุย สติสัมปชัญญะและความรู้สึกต่างสอดประสานเข้าด้วยกัน จนยุ่งเหยิงซับซ้อนยากที่จะแยกแยะ
ดวงตาของหานฉ่ายหลิงวูบไหว เขารู้จักผู้ชายคนนี้ดี ความระแวงของลี่เฉินซีมีมากกว่าปกติ อีกอย่างไม่ว่าเขาจะทำอะไร ล้วนแล้วแต่มีกฎระเบียบเป็นของตัวเอง ถ้าเขาสามารถทำสิ่งใดได้เขาก็จะทำโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ เขาก็จะหักห้ามมันเอาไว้
ดังนั้น ในตอนนี้เธอต้องทำลายแนวป้องกันสุดท้ายของเขาลงให้ได้!
มือเล็กๆอ่อนนุ่มของเธอลูบไล้ยั่วยวนบนลำคอของเขาเบาๆ โอบล้อมเอาไว้ทีละนิด ในขณะที่ลิฟต์ค่อยๆเลื่อนขึ้นชั้นบน หานฉ่ายหลิงก็จงใจพูดยั่วยุออกมาว่า “ทำไม? ไม่กล้าแล้วเหรอ?”
กลิ่นไออ่อนๆแตะเข้าใบหน้าของเขา ความรู้สึกยั่วเย้า มันทำให้เขาควบคุมตัวเองได้ยาก!
ดวงตาของลี่เฉินซีฉายแววซับซ้อน ปกคลุมไปทั่วทั้งดวงตา
จิตใต้สำนึกบอกให้เขาผลักผู้หญิงคนนี้ออกไป แต่กลับไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ ราวกับถูกมนตร์สะกด ยิ่งเธอดึงเข้าไปประชิดก็ยิ่งควบคุมตัวเองได้ยาก เหมือนปลดปล่อยโหมดสัตว์ป่าออกมา แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่
หานฉ่ายหลิงรุกจูบเขาก่อน
ความรู้สึกเย็นซ่าน โจมตีความรู้สึกนึกคิดของเขา จนร่างกายเริ่มสั่นสะท้าน
แต่เขาก็ยังพอควบคุมสติได้อยู่บ้าง จึงพยายามผลักไสเธอออกโดยอัตโนมัติ พอดีกับที่ลิฟต์เดินทางมาถึงชั้นบนสุด ประตูลิฟต์จึงค่อยๆเปิดออก
เธอดึงเขาออกมาจากลิฟต์ ชั้นบนสุดมีสี่ห้อง ห้องที่หานฉ่ายหลิงจองไว้คือห้อง 2801 และเป็นห้องที่อยู่ลึกสุด
บริเวณทางเดินอันกว้างขวาง เธอคล้องแขนพาเขาเดินด้วยความเร่งรีบ
นี่เป็นโอกาสดีที่นานๆทีจะมีครั้งเลยนะ โอกาสที่จะได้วางยาลี่เฉินซี ไม่ได้มีแบบนี้บ่อยๆ!
อีกอย่างถ้าครั้งนี้ทำไม่สำเร็จ แล้วถูกเขาจับได้ แบบนั้นภาพจำดีๆของเธอที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ ก็คงพังย่อยยับไม่เป็นท่าแน่ เช่นนั้นแล้วไม่ว่ายังไง เธอต้องสู้ตายอย่างเดียว และต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น จะล้มเหลวไม่ได้!
เมื่อเข้ามาในห้อง ประตูยังไม่ทันได้ปิด เธอก็โอบรอบคอของเขาเอาไว้อย่างอดรนทนไม่ไหว จากนั้นก็จูบลงบนลูกกระเดือกของเขา เมื่อริมฝีปากบางประทับลงบนผิวเนื้อของเขา ความรู้สึกวูบวาบก็เข้ามาโจมตี จนทำให้ลี่เฉินซีสั่นสะท้านอย่างควบคุมร่างกายไม่ได้
เมื่อรับรู้ได้ถึงอาการกระหืดกระหอบของอีกฝ่าย เธอก็ตามหาจุดไวสัมผัสของเขา จากนั้นลิ้นสีแดงสดก็ค่อยๆไล้เลียหยาดเหงื่อที่ผสมปนเปอยู่บนร่างกายของเขาช้าๆ ลมหายใจที่สอดประสานถูกพ่นออกมา จนทำให้ใบหูของเขาชื้นเหงื่อ
เมื่อลี่เฉินซีก้มมองเธอ สายตาก็เผยแววอดทนอันแสนกระหายอยากออกมา เห็นได้ชัด ว่าเขากำลังพยายามควบคุมตัวเอง
ร่างกายตอบสนองมากกว่าปกติ จนทำให้เขารู้สึกแปลกๆ!
เขารีบปิดประตูลง แล้วแนบร่างเอาไว้กับบานประตู ลมหายใจหอบหนัก พร้อมกันนั้นก็ใช้แขนทั้งสองข้างดันเธอออก “ฉ่ายหลิง ผม…..ร่างกายผมไม่ปกติ!”
เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรแก้ไขความผิดปกตินี้ยังไง
มันรู้สึกทะแม่งๆ!
แต่หานฉ่ายหลิงกลับใช้มือเล็กโอบกอดเอวสอบของเขาเอาไว้อย่างหลงใหล จากนั้นก็ซบใบหน้าเล็กๆลงบนอกแกร่งของเขา แล้วพูดเสียงอ่อนหวานขึ้นมาว่า “ไม่ปกติตรงไหน? ฉันจำตอนที่เรายังคบกันได้ คุณก็เป็นอย่างนี้อยู่บ่อยๆไม่ใช่เหรอ?”
“ตอนนั้นก็ส่วนตอนนั้น!”
อุณหภูมิร่างกายของเขาสูงขึ้นแปลกๆ ความรู้สึกร้อนรุ่ม ทำให้ลี่เฉินซีรู้สึกเหมือนอยู่ในเตาผิง อีกอย่างการที่บางจุดบนร่างกายปูดบวมขึ้นมา ยิ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
เขาไม่เคยวางยาใคร และไม่เคยมีใครกล้าวางยาเขา
ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าอาการหลังจากกินยาเข้าไป มันจะเป็นยังไง
และเรื่องแบบนั้นระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง เขาเคยทำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เวลาทำกับซูย้าวก็เหมือนกัน แต่ทุกครั้ง ไม่ว่าจะโมโห ตื่นตัว หรือความรู้สึกมันจะซับซ้อนผสมปนเปกันขนาดไหน ล้วนแล้วแต่มีขั้นตอนของมัน ไม่เหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ที่จู่ๆก็……
หานฉ่ายหลิงอิงแอบอยู่ในอ้อมกอดของเขา พูดออกมาอย่างขัดใจว่า “แล้วตอนนี้มันไม่เหมือนกันตรงไหน? ระหว่างคุณกับฉัน…..ฉันก็ยังเป็นฉัน คุณก็ยังเป็น…….”
พูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกลี่เฉินซีตัดบท “แต่ผมแต่งงานแล้ว!”
คำพูดแสนเรียบง่าย โจมตีสติของหานฉ่ายหลิงจนพังยับเยิน!
เหมือนมีมีดคมๆ ทิ่มแทงเข้ามาที่หัวใจของเธออย่างแรง
เธอไม่สามารถรอให้เขารุกก่อนได้อีกต่อไป จึงค่อยๆผละมือออกจากเอวของเขาการกระทำนี้เหมือนน้ำแข็งที่ช่วยดับเปลวเพลิงที่ลุกโชนของเขาให้หมดลง
ในหัวยังคงจำภาพตอนที่ทั้งสองคบกันได้ เธอรู้ว่าเขาชอบการกระทำแบบไหน ขณะเดียวกัน เธอก็ยกมือขึ้นมาถอดชุดราตรีที่ใส่อยู่ออก
เมื่อลี่เฉินซีเห็นผู้หญิงตรงหน้าหลงเหลือแค่ชุดชั้นในอยู่บนตัว ร่างกายแสนเซ็กซี่เปิดเผยออกมาตรงหน้า ร่างกายเปลือยเปล่าก้าวถอยหลังทีละก้าว นิ้วมือเรียวเล็กชี้มาทางเขาด้วยท่าทางยั่วยวน
เขาขมวดคิ้ว ไม่ว่าร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองยังไง แต่สติสัมปชัญญะก็ยังคงอยู่เหนือกว่า เขา ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงแบบนี้
“เฉินซี คุณไม่รักฉันแล้วเหรอ?” หานฉ่ายหลิงรออยู่นาน ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากเขา เธอจึงก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง
เขาหลับตาลง สูดลมหายใจเข้า พยายามควบคุมความกระสับกระส่ายภายในร่างกาย “มันไม่เกี่ยวว่ารักหรือไม่รัก!”
เขาหยุดไปสักพัก จากนั้นก็อธิบายออกมาอย่างรวดเร็วว่า “ตราบใดที่ผมยังไม่หย่า ผมก็จะไม่ทำเรื่องที่ผิดต่อภรรยาของผม มันเป็นสิ่งที่ผู้ชายควรทำ!”
หานฉ่ายหลิงนิ่งไป
แต่เรื่องก็ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าเขาจะพูดยังไง ไม่ว่าเขาจะมีสติแค่ไหน หานฉ่ายหลิงก็ไม่สามารถหยุดมันลงเท่านี้ได้
เธอฝืนยิ้มออกมา แล้วเดินเข้าไปดึงเขามานั่งบนโซฟา “เฉินซี ฉันว่าสีหน้าคุณแปลกๆนะ คุณพักสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อน!”
เขาพยักหน้า เขาเองก็รู้สึกแปลกจริงๆ หวังว่าพอได้พักแล้ว คงจะดีขึ้นนะ
“ฉันจะไปเอาน้ำมาให้ คุณดื่มก่อนแล้วกัน” เธอพูดพร้อมกับเดินออกไปข้างนอก
ขณะเดียวกัน ก็ถือโอกาสช่วงที่เขาไม่ทันสังเกตเห็น หยิบกระเป๋าของตัวเองมา
เธอหยิบขวดยาที่ไม่มีป้ายกำกับยาออกมาจากกระเป๋า แล้วเทลงในแก้วน้ำ จากนั้นก็คนให้เข้ากันจนกลืนไปกับสีของน้ำ
เมื่อรอจนยาละลาย ถึงได้เดินกลับมา แล้วยื่นไปให้เขา “เอาไปสิ เฉินซี ดื่มน้ำสักหน่อย!”
เมื่อส่งแก้วน้ำไปให้เขา เธอก็นั่งลงข้างๆ แล้วยื่นมือออกไปคว้าชุดคลุมอาบน้ำขึ้นมาสวมบนร่างกาย จากนั้นก็พูดยิ้มๆออกมาว่า “เมื่อกี้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้เลย! ขอโทษนะ!”
เขาส่ายหน้าเล็กน้อย รีบเบนสายตาหนีจากร่างกายของเธอ อาการผิดปกตินี้ ทำให้เขาเกิดความรู้สึกเลอะเลือนชอบกล
“เฉินซี คุณดื่มน้ำก่อนสิ!” หานฉ่ายหลิงจ้องเขม็งแก้วน้ำ พร้อมกับเอ่ยเร่ง
เขากุมแก้วน้ำเอาไว้ รู้สึกมือเริ่มสั่นจนควบคุมไม่อยู่
นี่มันอะไรกันแน่?
ในระหว่างที่ความคิดของลี่เฉินซีตีกัน เขาก็เริ่มไตร่ตรองหาสาเหตุแต่ละอย่าง แต่ยิ่งคิด ก็ยิ่งควบคุมสมองไม่ได้ ทั้งๆที่เบนสายตาหนีจากร่างกายของหญิงสาว แต่ความรู้สึกลับร้องกู่ก้อง ให้เขาทิ้งความอดทนสุดท้ายไป แล้วพุ่งเข้าไปขย้ำเธอซะ!
หานฉ่ายหลิงเองก็ต้องการแบบนี้เหมือนกัน
เธอจ้องแก้วใบนั้น กังวลว่าเขาจะสงสัย และกลัวว่าเขาจะรู้ เธอทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงพยายามเบี่ยงเบนบทสนทนาออกไป “เฉินซี…….”
เสียงเธออ่อนหวาน ดุจดังน้ำผึ้ง
ยิ่งมาพูดอยู่ข้างหู ก็ยิ่งทำให้กระดูกกระเดี้ยวแทบอ่อนเปรี้ย!
ลี่เฉินซีหลับตาลงอย่างรวดเร็ว เขาพยายามส่ายหน้าเพื่อตั้งสติ แล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม….