เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 210
บทที่210 ฉันหวังให้คุณมีความสุข
ล็อบบี้ที่ขนาดใหญ่ของโรงแรม เนื่องจากการปรากฏตัวของทั้งสี่คนอย่างกะทันหัน บรรยากาศที่แสนดีฉับพลันก็เย็นยะเยือกราวกับตกลงไปในธารน้ำแข็ง
ใบหน้าหล่อเหลาของลี่เฉินซีถูกปกคลุมด้วยไอหมอกสีดำ แสดงอาการไม่สะทกสะท้าน และหานฉ่ายหลิงที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา จ้องชายหนุ่มหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา
เพ้ยส้าวหลี่ก็รีบถือวิสาสะกุมมือของซูย้าวไว้ ท่าทางที่สนิทสนม ทำให้เธอถึงกับไม่สบอารมณ์
จึงได้ต่อต้านเล็กน้อย แต่เพ้ยส้าวหลี่ก็ไม่สนใจ รอยยิ้มยังคงเบ่งบานอยู่บนใบหน้าราวกับดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิ
“เพิ่งกลับเมื่อสองสามวันก่อน ทำไมเหรอครับ เดี๋ยวนี้ประธานเพ้ยให้ความสนใจกับการเดินทางของผมแล้วเหรอครับ” เสียงทุ้มต่ำของลี่เฉินซีได้เปล่งออก ริมฝีปากเกร็งขณะขยับขึ้นลง เผยให้เห็นว่ากำลังข่มอารมณ์โกรธเอาไว้
เพ้ยส้าวหลี่ยิ้มขึ้น “ไม่ใช่ว่าให้ความสนใจครับ เพียงแต่สองสามวันนี้ไม่ได้ยินซูย้าวเอ่ยถึงก็เท่านั้นเอง!”
เขาจะต้องจงใจอย่างแน่นอน
จงใจพูดเพื่อให้เข้าใจผิด เปล่ง‘ซูย้าว’สองคำนี้ออกมาจากปากของเขาอย่างนุ่มนวล อาลัยอาวรณ์
สีหน้าของลี่เฉินซีก็ยิ่งคล้ำหมองขึ้น ขนตาของเขาบางราวกับปีกจักจั่น ดวงตาดำขลับไร้ความรู้สึก จึงมองไม่ออกถึงอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ด้านใน
“ตั้งแต่ผมกลับมาก็งานยุ่งตลอด จึงไม่ได้บอกให้เธอทราบ”
ประโยคที่ดูเหมือนจะเป็นคำอธิบาย ราบเรียบ
ซูย้าวได้หรี่ดวงตาที่งดงามลง ความซับซ้อนได้แวบเข้ามาแล้วก็จากไป
หานฉ่ายหลิงที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา รู้สึกอายเล็กน้อย มือน้อยๆจับเสื้อของเขา พูดด้วยเสียงต่ำอย่างอ่อนโยนว่า “ปล่อยฉันลงมาก่อนเถิด!”
ชายหนุ่มกลับทำราวกับไม่ได้ยิน ยังคงไม่เคลื่อนไหวใดๆ
และไม่ได้ปล่อยเธอลงมา
เพ้ยส้าวหลี่ที่ยืนดูอยู่ข้างๆ ยิ้มด้วยมุมปากอย่างเย็นชา มองดูความใกล้ชิดสนิทสนมของชายหนุ่มหญิงสาวด้วยสายตาเชือดเฉือน จากนั้นจึงพูดขึ้น “ดูแล้วประธานลี่คงจะยุ่งจริงๆ!”
ชะงักไปชั่วครู่ เพ้ยส้าวหลี่ก็ก้มหน้าไปมองซูย้าวที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่สามารถอธิบายได้บนริมฝีปากของเขา “ไม่รู้ว่าจะยุ่งอยู่กับเรื่องงานหรือว่าธุระส่วนตัว!”
สีหน้าของซูย้าวเปลี่ยนเล็กน้อย การควบคุมอารมณ์ที่ทำได้ดีมาตลอด ทำให้เธอตอนนี้ก็ไม่แสดงอาการใดๆออกมาให้เห็น ถึงแม้ว่าภายในจิตใจจะเจ็บปวดรวดร้าวใจสลายมากเพียงไหน แต่สีหน้ายังคงเรียบนิ่งไม่มีอาการ
ไม่รู้ว่าเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ปากไม่ตรงกับใจแบบนี้ เธอคุ้นเคยจนเชี่ยวชาญไปแล้ว
ลี่เฉินซีกวาดสายตามองคนทั้งคู่ครู่หนึ่ง และไม่ได้พูดอะไรมากมายต่อไปอีก เพราะคิดว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์ จึงได้อุ้มหานฉ่ายหลิงไปเปิดห้องแล้วพาเธอขึ้นตึกไป
แต่ว่าตั้งแต่ต้นชนปลาย เขาไม่ยอมปล่อยให้หานฉ่ายหลิงเท้าแตะพื้น อุ้มเธอจากชั้นแรกไปถึงห้องชุดที่อยู่ชั้นบนสุด
จนกระทั่งวางเธอลงบนโซฟาที่อยู่ในห้อง แล้วก็ค่อยๆลุกขึ้น คลายเนกไทออก จากนั้นก็เดินไปที่ริมหน้าต่าง
เนื่องจากหานฉ่ายหลิงถูกคลื่นทะเลสาดจนเปียกปอน เมื่อเธอลุกขึ้นจึงต้องถือกระโปรงที่เปียกชุ่มเดินเท้าเปล่าเข้าไปหาเขา มือที่นุ่มนิ่มจับไปที่แขนของเขา น้ำเสียงยิ่งนุ่มนวล “คุณอย่าไปเข้าใจผิดนะ ฉันคิดว่าต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างแน่ๆ ดังนั้นเธอถึงได้อยู่ด้วยกันกับเพ้ยส้าวหลี่”
“มีเหตุผลรึ”
ลี่เฉินซีกดเสียงต่ำพูดเน้นย้ำ มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เธอดึกดื่นป่านนี้มาพบเจอกับชายหนุ่มที่นี่!
ชายหญิงอยู่กันตามลำพัง และเธอก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ต้องหลีกเลี่ยง เหตุผลไม่รู้จักนี้หรืออย่างไร หรือเพราะเขาต้องไปทำงานที่อื่น แล้วเธอจึงทนรอไม่ไหว……
อารมณ์โกรธที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจฉับพลันปะทุขึ้น หวีดหวิวมาเป็นระลอกๆ ความแข็งแกร่งของหัวใจสั่นสะเทือนไปทุกเซลล์อณูเส้นประสาท โครงหน้าที่หล่อเหลาของเขา ผุดเส้นเลือดออกมาให้เห็น หานฉ่ายหลิงเห็นแล้วจึงซบไปกอดแน่นอยู่ในอ้อมแขนของเขา “อย่าโกรธเลย จะต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน คุณรู้จักเธอมานานขนาดนี้ เป็นสามีภรรยากัน ไม่ควรจะเข้าใจอะไรผิดกัน”
มาถึงขนาดนี้แล้ว เธอก็ยังแก้ต่างให้กับซูย้าว ดูโง่ไปหรือเปล่า
แต่เมื่อคิดดูดีๆแล้ว ยิ่งช่วยแก้ต่าง ก็ยิ่งกระตุ้นไฟในใจของเขา จากนั้นทำตัวเป็นตาอยู่นั่งดีๆได้ปลาไปกิน ไม่ใช่หรือ
“ต่อให้คุณไม่คิดถึงเธอ คุณก็ควรจะคิดถึงเจิ้งเอ๋อนะ!”หานฉ่ายหลิงยังคงพูดพล่าม เกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด
ลี่เฉินซีกลับมองเธอด้วยความประหลาดใจ “คุณไม่ใช่ต้องการให้พวกเราหย่ากันเหรอ ทำไมถึงได้แก้ต่างให้เธอ”
เขาคนนี้ เรื่องพลังกับความสามารถนั้นไม่มีที่ติ แต่ขณะเดียวกันเขาก็มีจุดอ่อนเช่นกัน
ขี้สงสัย
คิดว่าทุกคนต่างก็มีเช่นกัน
การสงสัย ก็เหมือนกับเมล็ดพันธุ์ เมื่อปลูกลงไปแล้ว ก็จะค่อยๆหยั่งรากลึก แผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่ว สุดท้ายก็ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ แม้นจะถูกค้นพบในสักวันหนึ่ง ก็ไม่สามารถที่จะถอนรากถอนโคนได้อีก
ดังนั้นการควบคุมจิตใจมนุษย์ นั้นเป็นตำราชนิดหนึ่ง และก็เป็นเรื่องที่สนุกน่าสนใจ
“ฉันรักคุณ และก็ต้องการที่อยู่กับคุณตลอดไป อยากย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ ยิ่งต้องการให้คุณรีบหย่า เพื่อกลับคืนสู่อิสระ แต่ว่า……”
หานฉ่ายหลิงตั้งใจลากเสียงยาว ดวงตาดวงโตที่งดงามซับซ้อน ชวนหลงใหลทอประกายแวววับ ยิ้มอย่างขี้อ้อน ร่างคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“ฉันยิ่งต้องการให้คุณมีความสุข ไม่ชอบให้คุณโมโห เพราะจะทำให้ร่างกายคุณแย่ ฉันต้องการให้ผู้ชายของฉันมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง”
ลี่เฉินซีจ้องมองเขา แล้วที่สุดก็ยิ้มขึ้น
ไม่ไปเล้าหลือถึงคำพูดของเธอนั้นจริงเท็จมากแค่ไหน รู้แค่เพียงว่าฟังแล้วสบายใจก็พอ เขายืดแขนแล้วกอดรัดเธอไว้แน่นในอ้อมกอด ทันใดนั้นก็สัมผัสถึงเสื้อผ้าที่เปียกปอนของเธอ จึงได้พูดขึ้นว่า “กระโปรงเปียกขนาดนี้ รีบไปเปลี่ยนเถอะ!”
ในขณะเดียวกันก็ปล่อยคลายตัวเธอ เขาหยิบโทรศัพท์แล้วโทรหาเลขาของเขา ให้เธอส่งชุดผู้หญิงมาให้ เป็นขนาดเท่ากับตัวของหานฉ่ายหลิง
เธอเม้มริมฝีปากอย่างเอียงอาย และพูดเสียงเบา “งั้นฉันจะเข้าไปอาบน้ำก่อน คุณรอฉันอยู่ที่นี่นะ ตกลงไหม”
ในคำพูดแฝงความหมายให้คิดลึก มีหรือที่เขาจะฟังไม่เข้าใจ จึงหันหน้าไปทางดวงตาที่เขินอายของเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “วันนี้ดึกมากแล้ว ผมต้องกลับก่อน คุณดูแลตัวให้ดี”
“แต่……”
หานฉ่ายหลิงไม่อยากให้เขาจากไป จึงคว้ามือของเขาไว้ “อยู่ที่นี่ไม่ได้เหรอ เพราะอย่างไรพวกเราก็…..”
“ฉ่ายหลิง” เขาขัดคำพูดของเธอ แล้วยื่นมือไปจับที่ไหล่ของเธอ “คุณต้องจำไว้ว่าผมยังไม่ได้หย่า ซูย้าวยังคงเป็นภรรยาของผม”
ทันใดนั้นหัวใจก็ร่วงตกลงอย่างรวดเร็ว
หานฉ่ายหลิงสีหน้าผิดหวัง เธอไม่พอใจใช้มือน้อยๆจับเขาไม่ยอมปล่อย “อย่างนั้น……”
“พอเถอะ คุณพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้ผมค่อยมาเยี่ยมคุณ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ค่อยๆแกะมือเธอออก สิ่งที่เหลือไว้ให้กับหานฉ่ายหลิงก็คือ แผ่นหลังที่หันเดินออกไปอย่างเย็นชา
เธอกัดริมฝีปากโดยที่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ฟังเสียงประตูปิดลง กำหมัดแน่นอย่างโกรธแค้น ตราบใดที่เขาไม่หย่าขาด หัวใจของเขาก็จะไม่มีทางอยู่ที่ตัวเอง ยิ่งไม่มีทางทำเรื่องอย่างอื่นอย่างแน่นอน!
อย่างนั้น……
หานฉ่ายหลิงจับที่ท้องน้อยๆของตัวเอง เด็กคนนี้จะทำอย่างไรดี
ห้องอาหารที่อยู่ด้านล่าง เพ้ยส้าวหลี่กับซูย้าวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกันพร้อมกับอาหารรสเลิศมากมายที่วางอยู่ตรงหน้า เธอไม่แตะต้องแม้แต่คำเดียว สายตาเยือกเย็นจ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
“คุณเรียกฉันมาที่นี่ก็เพื่อต้องการให้ฉันเห็นภาพตรงหน้าเมื่อสักครู่อย่างนั้นเหรอ” ซูย้าวถามขึ้นด้วยภาษามือ
เธอถูกเพ้ยส้าวหลี่เรียกออกมา และได้พาเธอมาที่รีสอร์ทใกล้ทะเลแห่งนี้ ตอนแรกบอกมีธุระที่ต้องการจะบอกให้เธอทราบ เป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่าตอนนี้ดูแล้วที่บอกว่า‘มีธุระ’ก็แค่ต้องการให้เธอเห็นกับตาว่าลี่เฉินซีกลับประเทศมาแล้ว และกำลังคลอเคลียอยู่กับหานฉ่ายหลิง
เพ้ยส้าวหลี่ยกริมฝีปากยิ้มเบาๆ ส่ายหัวเล็กน้อย “ถ้าหากว่าเพราะสิ่งนี้ อย่างนั้นช่างไร้สาระสิ้นดี คุณเข้าใจผมผิดแล้ว!”
“อย่างนั้นก็แปลว่ามีธุระอย่างนั้นสิ มีธุระอะไรล่ะ” ซูย้าวถามตรงไปตรงมา ไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้
“คุณล้มเซียวควนได้สำเร็จ อีกทั้งจัดการกับคดีความเมื่อสิบกว่าปีก่อน ได้แก้แค้นแล้ว ซัวฉ่ายลี่ก็รับโทษตามกฎหมาย ผมยังไม่ทันได้แสดงความยินดีเลยนะ!”เพ้ยส้าวหลี่กล่าว
ซูย้าวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเย้ย สายตาเย็นชาจ้องมองเขา แล้วพูดด้วยภาษามือ “เพราะฉะนั้น คุณต้องการอยากจะบอกอะไร”
“ในเมื่อเรื่องราวเหล่านี้ได้ทำสำเร็จแล้ว อย่างนั้นตอนนี้มีความสนใจอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างที่เขาอยู่เมืองนอก กลับประเทศมาแล้วทำไมถึงไม่บอกไม่ยอมมาพบเจอคุณ”