เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 212
บทที่ 212 โอกาสทอง
เสียงของเขาทุ้มต่ำ ดุร้าย
โทสะที่ยับยั้งเอาไว้ ปะทุออกมาทั้งหมด
ตอนนี้ วินาทีนี้ ในหัวของลี่เฉินซีฉายภาพทุกอย่างตอนอยู่ที่โรงพยาบาล ภาพที่เธอกับหลินโม่ป่ายกอดกันแน่น แล้วไหนจะที่ภาพเพ้ยส้าวหลี่จับมือเธอ ทั้งสองคนยังเดินออกมาจากโรงแรมด้วยกันด้วย
ที่นี่มันโรงแรมนะ
ผู้ชายอย่างเพ้ยส้าวหลี่ พาผู้หญิงมาทำอะไรที่นี่?
เขาไม่สามารถควบคุมไฟโกรธที่ลุกโชนขึ้นมาในใจได้อีกต่อไป ใบหน้าหล่อเหล่าของลี่เฉินซีเริ่มถมึงทึงน่ากลัว สายตาที่จ้องมองมาที่เธอแดงเถือก “ผมถามคุณอยู่นะ ตอบมาเดี๋ยวนี้!”
เขาออกปากสั่ง ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมให้ต่อต้าน
ซูย้าวกลับไม่มีกะจิตกะใจตอบ เธอมองมาที่เขา ด้วยสายตาที่ผิดหวัง
ควรตื่นได้แล้ว!
เธอหันหน้าหนี พร้อมกับกำหมัดแน่น จนเล็บจิกลงผิวเนื้อ จากนั้นเธอก็เดินจากเขาไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง
ลี่เฉินซียืนอยู่กับที่ ชั่วพริบตา เขาก็รู้สึกว่ามันไร้สาระจนอยากเงยหน้าหัวเราะออกมาดังๆ แต่เขาก็อดเอาไว้ เขาหลับตาลง จากนั้นเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งนัยน์ตาก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม จดจ้องแผ่นหลังของผู้หญิงที่กำลังเดินห่างออกไป สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ตามไป
เธอไม่อยากอธิบาย แล้วเขาจะฝืนถามไปทำไม
ช่วงนี้ ซูย้าวเหนื่อยมาก
ทุกวันนี้เธอต้องไปๆมาๆระหว่างโรงพยาบาลกับอพาร์ทเม้นท์ ขณะที่ดูแลแม่ไปด้วย ก็ยังต้องดูแลลูกไปด้วย
และในขณะเดียวกันเธอก็ต้องทำงาน
มีบริษัทแห่งหนึ่งติดต่อมาหาเธอหลายครั้ง จนสุดท้ายก็ติดต่อเธอได้ อยากให้เธอไปทำโปรแกรมให้ แล้วยังมีกรุ๊ปKที่ก่อนหน้านี้ไหว้วานให้เธอทำโปรเจคให้ ทั้งสองล้วนแล้วแต่ให้ค่าตอบแทนหนัก อีกอย่างเธอเองก็ถนัดด้านนี้ จึงไม่มีเหตุอะไรต้องปฏิเสธ
คิดถึงชีวิตหลังจากนี้ เธอจึงต้องการเงินจำนวนมาก
มีแค่แบบนี้ ถึงจะทำให้แม่และลูกของเธอกินอิ่มนอนหลับ อีกอย่าง ในท้องของเธอยังมีลูกอีกหนึ่งคน หลังจากนี้ภาระจะยิ่งหนักขึ้น เพราะเธอต้องรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียว
อาการของอานโล๋ฟื้นคืนกลับมาค่อนข้างเร็ว ไม่กี่วัน ก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน ทั้งยังดูมีชีวิตชีวาขึ้นด้วย
เพียงแต่เมื่อเห็นซูย้าว อานโล๋ก็จับมือของเธอเอาไว้อย่างสงสาร ถอนหายใจแล้วพูดว่า “อดนอนอีกแล้วใช่ไหม!ดูสีหน้าแกไม่ดีเอาซะเลย! อย่าปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยเกินไปสิ ในท้องยังมีเด็กอีกคนนะ แกต้องพักผ่อนเยอะๆ !”
เธอแค่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น บางครั้งเวลานอนอยู่บนเตียง เธอก็อยากหลับเหมือนกัน เพียงแต่ทำยังไงมันก็ไม่หลับสักที
สาเหตุคงเป็นเพราะเธอยังไม่ปล่อยวางล่ะมั้ง!
ไม่ว่าเขากับหานฉ่ายหลิงจะเป็นยังไง เธอก็ไม่อยากไปเห็นมันกับตา ถ้าไม่สามารถตัดใจได้จริงๆ ก็จะไม่ยอมหันกลับไปเด็ดขาด
อานโล๋มองมาที่เธอ พร้อมกับคร่ำครวญออกมาอย่างจนปัญญาว่า “แกนี่นะ ฉันต้องพูดยังไงกับแกดี?”
แม่ทุกคนล้วนแล้วแต่หวังว่าลูกของตัวเองจะมีความสุข น่าเสียดาย พอลูกโตขึ้น ก็ล้วนแล้วแต่มีชีวิตเป็นของตัวเอง เมื่อเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง ส่วนคนเป็นแม่ทำได้เพียงคอยปลอบประโลมและตักเตือน ไม่สามารถสอดมือเข้าไปยุ่งได้
กลางดึก ในตอนที่หานฉ่ายหลิงขับรถมาถึงร้านเหล้า ก็พบว่าลี่เฉินซีเองก็เพิ่งมาถึงได้ไม่นานเหมือนกัน กำลังนั่งดื่มวิสกี้อยู่บนเคาน์เตอร์บาร์คนเดียว
พวกผู้หญิงที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลต่างปรายตามองมาที่เขาอย่างอ้อยอิ่ง เหมือนเสือชีตาห์ได้กลิ่นเลือด สายตาเหมือนจะกระโจนเข้าใส่อย่างไรอย่างนั้น!
หานฉ่ายหลิงถลึงตาใส่ผู้หญิงพวกนั้นอย่างเหวี่ยงๆ เมื่อเดินมานั่งข้างๆเขา ก็ได้กลิ่นเหล้าฉุนจัดในทันที คงไปงานเลี้ยงมาก่อนหน้านี้ล่ะมั้ง ไม่รู้ว่าดื่มไปเยอะเท่าไหร่
“เฉินซี ทำไมดื่มเยอะขนาดนี้ล่ะ?” เสียงนุ่มๆของหานฉ่ายหลิงดังขึ้นมา ทำให้เขาที่เริ่มเมาเล็กน้อย เหมือนได้ยินเสียงจากสวรรค์
ลี่เฉินซีหันไปด้านข้าง ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มเมาเคลิ้ม มองมาที่เธอพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “ดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ!”
“ฉัน……..”
ทันใดนั้นหานฉ่ายหลิงก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองท้อง จะดื่มได้ยังไง!”
เธอแย่งแก้วเหล้ามาจากมือของเขา กำลังจะบอกไม่ให้เขาดื่มแล้ว แต่จู่ๆนัยน์ตาของเธอก็พลันเป็นประกายขึ้นมา เมื่อคิดได้ว่านี่เป็นโอกาสที่ดีเลยนี่นา!
“ผมไม่เมา ไม่เป็นไรหรอกน่า!” ลี่เฉินซีพูด พร้อมกับแย่งแก้วในมือของเธอมา ขณะเดียวกันก็กวักมือเรียกบาร์เทนเดอร์เอาเหล้ามาเสิร์ฟต่อ
บาร์เทนเดอร์เสิร์ฟวิสกี้แก้วหนึ่ง เสิร์ฟเหล้าอีกแก้วหนึ่ง
หานฉ่ายหลิงมองเขาเทเหล้าอย่างกระวนกระวาย สายตาเริ่มเลื่อนลอย ถ้าพลาดโอกาสนี้ไป เด็กคนนี้…….
ช่างเถอะ!ถือซะว่าทำเพื่อเด็กคนนี้แล้วกัน ทุ่มสุดตัว!
ทันใดนั้นเธอก็ยกแก้วขึ้นมา “งั้นฉันจะดื่มเป็นเพื่อนคุณแล้วกัน!แต่แค่แก้วเดียวนะ!”
เขาพยักหน้า ยกแก้วขึ้นมาดื่มลงไปทั้งหมด
ต่อมา ลี่เฉินซีก็เทอีกจนเต็มแก้ว จากนั้นก็เงยหน้าดื่มลงไปรวดเดียว เขาทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง หานฉ่ายหลิงมองเขาตาค้างอยู่ข้างๆ
เธอบอกให้เขาหยุดดื่ม จากนั้นก็เตรียมพยุงเขาเดินออกไป แต่ว่า………
มือที่กำลังลังเลของเธอลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ เมื่อเขาดึงเธอกลับมานั่ง แล้วเทให้อีกแก้ว “มา ฉ่ายหลิง ดื่มกับผม!”
หานฉ่ายหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดูเหมือนเขาจะยังไม่เมามาก อย่างน้อยก็ยังจำได้ว่าเธอคือใคร
“ทำไมดื่มเยอะขนาดนี้!เฉินซี คุณมีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า?” เธอลองหยั่งเชิงถามดู เธออิงแอบอยู่ข้างๆเขา จนร่างกายนุ่มนิ่มเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาทั้งหมด
ไม่รู้คิดอะไรได้ ลี่เฉินซีถึงได้แสยะยิ้มเย็นออกมา เขายกแก้วขึ้นมากรอกปากอีกครั้งแก้วแล้วแก้วเล่า จนวิสกี้ในขวดใกล้จะหมดเต็มที หานฉ่ายหลิงเองก็รู้สึกว่าไม่ค่อยจะดีแล้ว
“เฉินซี หยุดดื่มได้แล้ว!คุณดื่มเยอะเกินไปแล้วนะ!” เธอเอ่ยห้ามเสียงเล็กเสียงน้อย ถ้าเขาดื่มจนหมดสติ แบบนั้นแผนของเธอก็สูญเปล่านะสิ!
เธอรีบแย่งแก้วมาจากมือของเขาอย่างรวดเร็ว คิดเงินเสร็จก็พยุงเขาออกไป “เรากลับบ้านกัน!”
ลี่เฉินซีในตอนนี้ เมามากแล้วจริงๆ
คืนนี้เขาไปงานเลี้ยงมาสองที่ จึงดื่มไปค่อนข้างเยอะ บวกกับที่เพิ่งดื่มไปเมื่อกี้อีก จึงมากพอที่จะทำให้สติสัมปชัญญะของคนคนหนึ่งตีแตก เขารู้สึกว่าทุกอย่างที่เห็นล้วนแล้วแต่แยกเป็นสองร่าง มึนงงราวกับโลกกำลังสั่นสะเทือน ร่างกายสูงใหญ่โงนเงนอย่างทรงตัวไม่อยู่ ต้องให้หานฉ่ายหลิงช่วยพยุงถึงเดินออกมาจากร้าน
เมื่อพยุงเขาขึ้นมาบนรถ หานฉ่ายหลิงก็หาโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆ สุดท้ายก็เลือกโรงแรมห้าดาว แล้วออกแรงพยุงเขาขึ้นไป
ห้องอยู่สุดโถงทางเดิน มันจึงเงียบสงัด ไม่ว่าจะส่งเสียงดังเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครมารบกวนได้แน่นอน
เมื่อมองไปที่ชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่บนเตียง เธอก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาถอดเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วค่อยๆปีนขึ้นเตียงไป “เฉินซี?”
ขณะที่เอ่ยเรียกเขา มือเล็กๆก็สะกิดแขนเขาไปด้วย
ลี่เฉินซีลืมตาขึ้นมาช้าๆ ด้วยสายตาพร่าเบลอ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่กลิ่นเหล้า เขาขมวดคิ้วมุ่นอย่างอึดอัด จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาลูบหน้าของเธอ ทว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของเขา กลับบาดหูหานฉ่ายหลิงเป็นอย่างมาก
“ซูย้าว กลับมาแล้วเหรอ…….”
ซูย้าว?
เขายังคิดถึงนังใบ้นั่นอยู่อีกเหรอ?!
หานฉ่ายหลิงนิ่งไป วินาทีต่อมา ก็จับมือเขาเอาไว้ “เฉินซี ฉันเอง หานฉ่ายหลิงไง คุณดูดีๆสิ!” บางทีเขาอาจจะเมามากไป บางทีอาจจะได้ยินอะไรมา เอาเป็นว่า ตอนนี้คิ้วของเขาขมวดแน่นยิ่งกว่าเดิม ถึงขั้นพลิกตัวหันหลังให้แล้วหลับตาลง
หานฉ่ายหลิงกำมือแน่น ในตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าต่อให้ผ่านไปกี่ปี เขาก็ยังปฏิบัติกับเธอเหมือนอย่างเคย แต่กลับไม่เคยสัมผัสเธอเลย
เขาแคร์นังใบ้นั่น
บางทีอาจจะยังชอบอยู่ก็ได้
เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้ตัวก็เท่านั้น!
หานฉ่ายหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ดึงตัวของเขาเข้ามา แล้วใช้มือแกะกระดุมเสื้อเชิ้ต และปลดเนกไทออก จากนั้นก็ถอดออกทีละชิ้นๆ
ไม่ว่าในใจของเขาจะเป็นใคร ไม่ว่าเขาจะรักนังใบ้นั่นหรือไม่ คืนนี้ เธอก็จะทำให้เขาเป็นของเธอ
ขอแค่ผ่านคืนนี้ไป เด็กในท้องของเธอ ก็จะมีพ่อแล้ว
ส่วนการแต่งงานของเขากับซูย้าว ก็จะจบลง!