เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 228
บทที่ 228 กล้าปั่นหัวเขา
วันรุ่งขึ้น ราวห้าโมงเย็น หวางอี้ถอนเงินสดมหาศาลจากหลายธนาคาร ทั้งหมดวางลงในกระเป๋าล้อลากดำ ทั้งหมดถึงห้าใบ แล้วขนลงไปชั้นล่าง วางในรถ
ห้องประธานกรรมการบริหารชั้นบน ในห้องพักผ่อนส่วนตัวลี่เฉินซีอาบน้ำเสร็จ มองกระจกกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ต แล้วผูกเนคไท
ไม่ว่าอย่างไร หานฉ่ายหลิงถูกจับเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ เป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวข้องกับเขา อีกฝ่ายส่งคลิปมาให้ดู ยังเรียกชื่อเขาให้เป็นคนเอาเงินไปให้ เห็นชัดว่ามีเขาเป็นเป้าหมาย
แม้จะพูดว่าระหว่างเขากับหานฉ่ายหลิง นอกจากความเป็นเพื่อน จะไม่มีความสัมพันธ์อื่นใดแล้ว แต่เมื่อเธอเผชิญอันตราย เขาไม่มีทางนิ่งดูดาย
คนพวกนั้นนอกจากต้องการเงิน ยังกล้าหยามเกียรติหานฉ่ายหลิง อย่างนั้น คนพวกนี้ อย่าได้คิดรอดชีวิตออกไปจากเมืองAได้สักคนเดียว!
แต่สำคัญที่สุดคือ ต้องแน่ใจว่าหานฉ่ายหลิงปลอดภัยก่อน จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นไม่ได้ทั้งนั้น ไม่ได้เด็ดขาด
เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ลงไปชั้นล่าง ขับรถมุ่งไปที่คอนเทนเนอร์เลข120 ที่ท่าเรือตะวันออก
คนที่รับผิดชอบท่าเรือตะวันออก ส่งคนไปแอบช่วยลี่เฉินซี หาคอนเทนเนอร์เลขที่ 120 เจอนานแล้ว และจัดคนแทรกซึมอยู่รอบด้าน ขอแค่พวกเรียกค่าไถ่ปรากฏตัว ยืนยันหานฉ่ายหลิงปลอดภัยแล้ว ก็ลงมือได้!
และยังมีฝ่ายตำรวจที่เตรียมกำลังตำรวจไว้เรียบร้อยแล้ว ต่างเปลี่ยนเป็นชุดนอกเครื่องแบบแล้ว รอสแตนด์บายตลอดเวลา
ประตูใหญ่คอนเทนเนอร์เลขที่ 120 ค่อยๆ เปิดออก ข้างในมืดมิด ลี่เฉินซีเดินเข้าไปข้างใน หยิบไฟฉายขึ้นมา พบว่าภายในคอนเทนเนอร์ใหญ่ ว่างเปล่า
เห็นชัด พวกเรียกค่าไถ่วางแผนหลอกให้ติดกับ!
เขากัดฟันโมโห พวกเรียกค่าไถ่ ช่างใจกล้านัก ถึงกับกล้าปั่นหัวเขา!
ขณะที่จะออกไป มุมหนึ่งก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
กริ๊งๆๆ…
เมื่อเสียงดังขึ้น เขาตามเสียงไป ที่มุมหนึ่ง พบมือถือเครื่องหนึ่ง
เบอร์ที่ไม่ได้บันทึกชื่อโทรเข้ามา
เขาหยิบมือถือขึ้นมา กดรับสาย
“ประธานลี่ ตรงเวลาดี!” เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังมา
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วแน่น “แกอยู่ไหน เงินพร้อมแล้ว! หานฉ่ายหลิงล่ะ เธอเป็นไงบ้าง”
“วางใจเถอะ ในเมื่อคุณหานมีค่าให้ประธานลี่จ่ายเงินเยอะขนาดนี้ สินค้าที่มีราคา ผมจะทำให้เสียหายได้ยังไง แน่นอนเธอปลอดภัยไม่บุบสลาย!”
ลี่เฉินซีสูดลมหายใจลึก ตำรวจที่อยู่ไกลออกไปทำสัญญาณมือให้เขาถ่วงเวลา ทางนี้กำลังระดมกำลังค้นหาที่อยู่ IP
“แต่ว่า ประธานลี่ พวกเราคิดๆ ดูแล้ว เงินสดเยอะขนาดนี้ พวกเราไปเอาไม่สะดวก เลยอยากจะรบกวนประธานลี่ไปธนาคารหรือร้านเพชร แลกเป็นอัญมณีกับทองคำที่มีมูลค่าเท่ากัน”
“ร้อยละหกสิบแลกทองคำ ร้อยละสี่สิบแลกเพชร แลกเสร็จแล้ว พวกเราจะติดต่อไปอีกที!”
หลังจากนั้น ฝ่ายนั้นก็วางสายไป
สัญญาณตัดไปแล้ว ตำรวจค้นหาไม่เจอ!
ลี่เฉินซีสีหน้าเคร่งขรึม ดูเวลา ทุ่มกว่าแล้ว ถ้าไม่รีบทำเวลา ไม่ว่าธนาคารหรือร้านเพชรก็จะเลิกงานแล้ว!
เขารีบเข้าไปใจกลางเมืองให้เร็วที่สุด แลกเปลี่ยนกับร้านอัญมณีในเครือบริษัทลี่ซื่อ เวลานี้ ก็มีสายที่ไม่รู้ชื่อดังเข้ามาอีกครั้ง ——
“รู้กันประธานลี่มีร้านอัญมณีเยอะแยะ และยังมีโรงงานอัญมณี แต่ เพชรที่แลกมาทั้งหมด ต้องเอารหัสออกให้หมด! อีกอย่าง ทองคำก็มีรหัสไม่ได้! ไม่อย่างนั้น รอมาเก็บศพหานฉ่ายหลิงได้เลย!”
คนเรียกค่าไถ่เจ้าเล่ห์มาก ยื่นเงื่อนไขอีกข้อหนึ่ง
ลี่เฉินซีสีหน้าเครียด ได้แต่สั่งลงไป ให้ทำตามที่คนเรียกค่าไถ่ร้องขอ
เพชรทุกเม็ดจะมีรหัสและหมายเลขของตัวเอง เพื่อบอกข้อมูลรายละเอียด เช่น เพชรเม็ดนั้นผลิตที่ไหน ใครรับผิดชอบเจียระไน และบริษัทจัดซื้อ เมื่อเข้าสู่ตลาดแล้ว เป็นวิธีการหนึ่งที่ป้องกันการขายและรับในช่องทางผิดกฎหมาย
ดูออก พวกเรียกค่าไถ่ ฉลาดไม่ใช่น้อย
หลังจัดการเสร็จทั้งหมด ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว
คนของตำรวจยังเฝ้าอยู่ตลอด ทุกคนนั่งอยู่ข้างหนึ่ง จ้องมองมือถือรุ่นเก่าบนโต๊ะ เหมือนรอสัญญาณ ได้แต่รอพวกเรียกค่าไถ่ปรากฏตัว
ล่วงเข้าเกือบตีหนึ่ง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“โรงงานยาสูบอันเต๋อทางตะวันตกของเมือง ให้เวลาครึ่งชั่วโมง เลยเวลา มาเก็บศพได้เลย!”
พวกเรียกค่าไถ่สั่งเท่านี้ แค่สามสิบนาที ไม่มีทางขับรถไปทัน
ลี่เฉินซีคิดดูแล้ว สั่งหวางอี้ “ไปเตรียมเฮลิคอปเตอร์”
แต่หลี่เจิ้น ตำรวจแผนกอาชญากรรมผู้รับผิดชอบทำคดีเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ขวางเขาไว้ “ประธานลี่ พวกมันกำหนดเวลากะทันหัน น่าจะเดาได้ว่าคุณไปไม่ทันแน่ ต้องเลือกใช้เฮลิคอปเตอร์”
“แล้วไงครับ คุณคิดว่าพวกนั้นจะแย่งเฮลิคอปเตอร์ผมหนีไป ใช่มั้ย” ลี่เฉินซีถามทันที
หลี่เจิ้นพยักหน้า “เป็นไปได้มาก! พวกเราจะใช่ประโยชน์จากจุดนี้แหละ!”
“เอ๊ะ” ลี่เฉินซีหันไปมอง แสดงท่าทางคล้อยตามอีกฝ่าย
เช่นนี้ สมาชิกทีมทำคดีและลี่เฉินซี ฟังคำสั่งของ หลี่เจิ้น ส่วนหวางอี้เตรียมเฮลิคอปเตอร์เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว
บินตรงไปโรงงานยาสูบอันเต๋อทางตะวันตกของเมือง โรงงานนี้ถูกสั่งปิดเพราะต้องสงสัยผลิตและขายของปลอมเมื่อปีก่อน จึงอยู่ในสภาพปิดร้าง นึกไม่ถึง พวกเรียกค่าไถ่จะเลือกที่นี่
โรงงานอยู่ชานเมือง และยังอยู่ใกล้ทางด่วนเกาอันชิ่ง ห่างออกไปไม่มากยังมีสนามบินใหญ่อันดับสองของ เมืองA ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนหลบหนี ก็สะดวกมาก
เลือกใช้ที่นี่แลกเปลี่ยน ดูท่าพวกเรียกค่าไถ่ฉลาดทีเดียว
หลี่เจิ้นอ่านความคิดของพวกเรียกค่าไถ่ขาด จัดวางกำลังตำรวจเรียบร้อย รอบทางด่วนสี่ด้านถูกปิด จับพวกเรียกค่าไถ่ให้ได้ทุกคน ได้ตลอดเวลา
ตอนที่ลี่เฉินซีมาถึงที่นี่ ประตูโรงงานยาสูบ ยังไม่เปิด ประตูถูกล็อกเหมือนไม่เคยถูกเปิดมาก่อน เขาลงจากรถ เอียงตัวพิงรถ แล้วจุดบุหรี่
บุหรี่ในมือยังหมดไปไม่ถึงครึ่งมวน ก็ถูกลำแสงหนึ่งดึงดูด เขามองตาม ก็เห็นว่าแสงส่องมาจากชั้นบนของโรงงานบุหรี่ที่อยู่ด้านหลัง
หรือว่านั่นคือพวกเรียกค่าไถ่ อยู่ในโรงงานแต่แรกหรือ
จากนั้น ประตูใหญ่ที่ปิดอยู่ก็เปิดออกช้าๆ ลี่เฉินซีถือของที่เตรียมมา เดินเข้าไปข้างใน
ลานด้านในกว้างมาก เพราะเดิมมันคือโรงงาน โจรเรียกค่าไถ่ใส่หน้ากากสามคนยืนอยู่ไม่ไกล ในมือถือปืน ปลายกระบอกปืน จ่อมาทางเขา
ลี่เฉินซีไม่ตื่นตระหนก วางกระเป๋าลง ยกมือสองข้างขึ้นช้าๆ เพื่อยืนยันว่าเขาไม่ได้พกอาวุธมา แล้วร้องถาม “ฉ่ายหลิงล่ะ เธออยู่ไหน”
“ในห้อง” หัวหน้าเรียกค่าไถ่ตอบ
“ฉันจะเชื่อแกได้ไง” ลี่เฉินซีย้อนถาม
โจรเรียกค่าไถ่ยิ้มเย็น “เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่แก ฉันแค่จะบอกแกฉันผูกระเบิดไว้กับตัวคุณหาน ตั้งเวลา ห้านาที ถ้าเกินนี้ล่ะก็ ทุกอย่างที่นี่ รวมทั้งคุณหานของแก ก็จะกลายเป็นผุยผงในพริบตา!”
“แก…”
หัวหน้าโจรย้ำอีก “ตอนนี้ ส่งของที่สั่งมาให้พวกเรา!”
ลี่เฉินซีหรี่ตา จำต้องทำตามที่พวกโจรสั่งไปก่อน โยนกระเป๋าให้
โจรรับกระเป๋าไป ตรวจดูของข้างในอย่างละเอียด เมื่อแน่ใจแล้วก็พยักหน้า สามคนถือปืนถอยไปทางด้านหลังช้าๆ
รอจนสามคนไปแล้ว ลี่เฉินซีรีบสาวเท้าเข้าไปในโรงงาน ค้นหาตัวหานฉ่ายหลิงทุกชั้น
ในที่สุด ในห้องหนึ่งด้านใน ก็เจอเธอ
เสียงเปิดประตูดังโครม เสียงเศร้าของหานฉ่ายหลิงดังเข้ามาในหู ——
“อย่าเข้ามา! เฉินซี! หนีไปเร็ว!”