เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 255
บทที่ 255 คิดตื้นๆ ไม่รู้ว่าจะมีมหันตภัยตามมา
ริมแม่น้ำ เมืองM
แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว แต่เมฆบนท้องฟ้ากลับมืดดำ เมฆหนาแน่น บดบังแสงอาทิตย์ ท้องฟ้ามืดสลัวในชั่วพริบตา คล้ายกับพายุกำลังจะมา
ดีที่โม่หว่านหว่านพกร่มมาด้วย เห็นซูย้าวที่อยู่ข้างๆ ในชุดดำ ใบหน้าสงบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ราวกับไม่สนใจลมแรงรอบตัวและการเปลี่ยนแปลงของอากาศแต่อย่างใด
เธอเพียงแต่เหม่อมองแม่น้ำเงียบๆ ในหัวนึกถึงตอนเด็กๆ แม่พาตัวเองมาเล่นที่นี่
พูดได้ว่า เมืองMเป็นสถานที่พวกเธอแม่ลูกมีความทรงจำลึกซึ้งที่สุด
อานโล๋เคยพูดหลายครั้ง อยากจะกลับมาที่นี่สักวันหนึ่ง อยู่ที่บ้านเก่า เหมือนคนแก่ธรรมดาทั่วไป ซื้ออาหารทำกับข้าว ชีวิตเรียบง่าย บางครั้งก็รอคอยลูกสาวลูกเขยพาหลานมาหา ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้ามีความสุข
ความปรารถนาเรียบง่าย แต่ยากที่จะเป็นจริงได้อีก
สิ่งเดียวที่เธอทำได้ ก็คือทำตามความปรารถนาของแม่ นำเถ้ากระดูกของแม่มาโปรยที่แม่น้ำแห่งนี้ เถ้ากระดูกทีละกำมือ โปรยลงไป ปล่อยเถ้ากระดูกของแม่ไปกับสายน้ำ แต่ที่เหลือในใจ กลับเป็นความทุกข์ที่ยากจะลบเลือนออกไปได้
“แม่คะ หนูให้สัญญาชีวิตนี้จะต้องหาคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ ให้มันถูกลงโทษตามกฎหมาย แก้แค้นให้แม่”
“ไม่สิ ไม่ใช่รับโทษตามกฎหมาย หนูจะฆ่ามันกับมือเอง หนามยอกเอาหนามบ่ง หนูทนไม่ได้นานขนาดนั้น เพื่อปกป้องลูก ปกป้องครอบครัว ไม่รู้ว่าทำร้ายคนรอบตัวมากมายแค่ไหน!”
“เพราะหนูโง่เกินไป ไร้เดียงสาเกินไป ถึงได้รักผู้ชายคนหนึ่งมากขนาดนี้ ไม่ว่าเขาจะดี จะเลว ชาตินี้นอกจากเขาเป็นพ่อของลูก ไม่ใช่อะไรอื่นแล้ว หนูสัญญา จะไม่รักเขาอีก…”
ซูย้าวคิดเงียบๆ ในใจ เหมือนจะสาบานกับตัวเอง ชีวิตนี้ นอกจากลูก เธอจะไม่รักใครอีก
เพียงแต่ไม่หวั่นไหว ไม่ให้ใครเข้ามาในใจ ก็จะไม่เจ็บ เธอจะไม่ทำตัวเป็นคนโง่อีก เป็นผู้หญิงใบ้ที่กล้ำกลืนความทุกข์!
หานฉ่ายหลิง สร้างหลักฐานเท็จใส่ความ บัญชีนี้ สักวันหนึ่ง ต้องชดใช้คืนหลายเท่า!
ต้องให้ผู้หญิงคนนั้นได้ลิ้มลองรสชาติถูกใส่ร้ายบ้าง มันเจ็บปวดทรมานแค่ไหน!
หลังโปรยเถ้ากระดูกของแม่แล้ว ซูย้าวก็อยู่ยาวที่ เมืองM
พักที่บ้านเก่าของอานโล๋ ใช้ชีวิตตัดขาดจากโลกภายนอก นั่งกอดเข่าบ่อยๆ นั่งคนเดียวในห้องทั้งวัน ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
โม่หว่านหว่านเพื่อดูแลเธอ ถึงกับลาออกจากงานที่เมือง A เพ้ยส้าวหลี่เข้าใจดี ยังให้เงินชดเชยเธอก้อนใหญ่ ขอให้เธอช่วยดูแลซูย้าวให้ดี
บ้านเก่าอายุห้าสิบกว่าปีแล้ว ไม่ว่าเฟอร์นิเจอร์หรือการตกแต่ง ก็เก่ามาก แม้แต่แก๊สและวงจรไฟฟ้าก็ขัดข้องบ่อยๆ
โม่หว่านหว่านอยากจะเสนอให้เธอเปลี่ยนที่อยู่ แต่เห็นซูย้าวอารมณ์ไม่ดี จึงไม่กล้าพูดกับเธอ
ไม่ว่าจิตใจจะย่ำแย่อย่างไร ก็ต้องคิดถึงเด็กในท้อง ซูย้าวกินข้าวสามมื้ออย่างยากลำบาก แต่กลืนอาหารอย่างไม่มีชีวิตชีวา เหมือนเครื่องจักร เหมือนหุ่นไม้พูดช้าๆ ที่ไร้จิตวิญญาณ
โม่หว่านหว่านพูดเกลี้ยกล่อมจนหมดแล้ว แต่เหตุผลทุกคนเข้าใจ เพียงแต่เรื่องนี้เกิดกับใคร ก็เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
นอกจากดูแลอย่างดี โม่หว่านหว่านก็ไม่รู้จริงๆ จะทำอะไรได้อีก
หลายเดือนผ่านไป ซูย้าวต้องไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลตามกำหนด กลัวว่าจะมีคนรู้ ตอนโม่หว่านหว่านลงทะเบียน ใช้ชื่อของตัวเอง และแลกข้อมูลประจำตัวกับซูย้าว
แม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ไม่อาจหลบสายตาบางคนไปได้
ที่เมือง A ซูย้าวจากไปได้สามเดือนกว่าแล้ว ในร้านอาหารฝรั่ง เธอเป็นเพื่อนลี่เฉินซีกินข้าว
ชายหนุ่มกินเร็วมาก ท่าทางรีบร้อนคอยดูนาฬิกาข้อมือตลอด เห็นชัดว่ารีบร้อนมาก
หานฉ่ายหลิงมองเขา น้ำเสียงอ่อนโยน “เป็นอะไรไปคะ รีบร้อนขนาดนี้เลยหรือ ช่วงนี้กิจการบริษัทก็ดีมาก คุณเป็นเจ้าของ ไม่ต้องร้อนใจทุกเรื่องหรอกค่ะ!”
“ช่วงบ่ายนัดลูกค้าคุยงาน สายไม่ได้ จะเกิดผลเสียนะครับ” ลี่เฉินซีพูดเรียบๆ กินซุปไม่กี่คำ ก็หยิบผ้ามาเช็ดปาก แล้วลุกขึ้น พูดอีกสั้นๆ “ผมกลับบริษัทก่อน เดี๋ยวคุณกลับเอง ได้มั้ย”
หานฉ่ายหลิงพยักหน้า รอยยิ้มบนใบหน้าปิดบังความผิดหวัง
ก่อนออกไป ดูเหมือนเขาจะนึกอะไรได้ พูดขึ้นอีก “ฉ่ายหลิง คุณท้องหลายเดือนแล้ว ผมให้หวางอี้จัดการเรื่องที่อเมริกาแล้ว รีบไปเถอะ!”
“เอ่อ…” หานฉ่ายหลิงหลุบตามองท้องที่เริ่มโตขึ้น ใบหน้าอายจนแดงเรื่อ
ความขมขื่นแล่นขึ้นมาจากก้นบึ้ง ท้องโดยไม่ตั้งใจ แม้แต่พ่อเด็กก็ไม่รู้ ทำทุกวิถีทางสุดท้ายก็ไม่ได้แต่งกับลี่เฉินซี สุดท้ายยังต้องไปคลอดที่อเมริกาหรือ
นี่มันอะไรกัน!
แม้จะคับข้องใจ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ได้แต่พยักหน้านิดๆ “ค่ะ ฉันฟังคุณ”
ลี่เฉินซีไม่พูดอะไรอีก เดินตรงดิ่งออกไปจากร้านอาหาร
หานฉ่ายหลิงที่อยู่คนเดียว ก็ไม่รู้สึกอยากอาหาร นับแต่ยัยใบ้นั่นจากไป ทุกวันเขาเป็นอย่างนี้ จมอยู่กับการทำงานถอนตัวไม่ขึ้น เหมือนหุ่นยนต์ทำงานไม่พักผ่อน นอกจากงาน เรื่องเดียวที่ดึงความสนใจจากเขาได้ ก็คือลี่เจิ้ง
ขณะที่เธอคิดอยู่ มือถือก็ดังขึ้น
เบอร์ที่ไม่ได้บันทึก แต่หานฉ่ายหลิงรู้ว่าใครโทรมา
“ประธานหาน มีเรื่องหนึ่งแปลกมาก ผมสืบได้ผู้หญิงท้องคนหนึ่งที่เมืองMคล้ายกับคุณที่บอกมาก!”
หานฉ่ายหลิงดวงตาเป็นประกาย รีบถาม “ผู้หญิงท้องคนนั้นชื่ออะไร”
“โม่หว่านหว่าน”
ริมฝีปากยิ้มเย็น รู้ว่าตอนที่ซูย้าวจากไป โม่หว่านหว่านก็ลาออกตามไปด้วย ตอนนี้สลับสถานะกัน นึกว่าคนอื่นจะเดาไม่ได้หรือ
“ส่งประวัติคนไข้มาให้ฉัน! แกจับตาให้ดี รู้ว่าต้องทำยังไง ใช่มั้ย”
วางสายแล้ว มือถือหานฉ่ายหลิงก็ได้รับอีเมล เปิดออกดู ไม่ผิดคาด คนที่ท้องเจ็ดเดือนกว่า ไม่ใช่ซูย้าว แล้วจะเป็นใครได้
ตอนแรกเธอยังสงสัย ซูย้าวปล่อยข่าวแท้ง อาจจะไม่จริง นึกไม่ถึงว่าเธอจะเดาถูก
ยัยใบ้นี่ กล้าเล่นลูกไม้หรือ
น่าเสียดาย เธอคิดอย่างไร ก็นึกไม่ถึงว่าตัวเองคิดตื้นๆ ไม่รู้ว่าจะมีมหันตภัยตามมา ครั้งนี้ ต้องถอนรากถอนโคน!”
เมืองM ห่างจากเมือง A ไกลมาก เมืองริมทะเลเหมือนกัน แต่ห่างไกลกัน ข้ามน้ำข้ามทะเล นั่งเครื่องบินสี่ห้าชั่วโมงถึงจะถึงที่หมาย ถ้านั่งรถไฟก็ยิ่งช้ากว่า
โม่หว่านหว่านเป็นเพื่อนซูย้าวไปตรวจครรภ์กลับมา เห็นช่วงนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดี ก็เลยชวนเธอไปซื้อของใช้เด็กเป็นเหตุผลไปเดินช้อปปิ้ง
ดีที่ผ่านช่วงเวลาจมกับความทุกข์มาแล้ว อารมณ์ของซูย้าวค่อยๆ ดีขึ้นไม่น้อย ทำให้โม่หว่านหว่านวางใจ ปล่อยวางได้บ้าง
สองคนถือไอศกรีมนั่งที่เก้าอี้ริมทาง ซูย้าววางของในมือลง ทำมือ “หว่านหว่าน ช่วงนี้ เป็นเพราะเธอช่วยฉันมากมาย ขอบใจนะ”
ถ้าหากไม่มีโม่หว่านหว่าน ซูย้าวอยู่ที่นี่คนเดียว และยังท้องด้วย หลายเรื่องทำได้ไม่สะดวก โชคดีที่มีเธออยู่ด้วย
“อะไรล่ะ มีอะไรต้องเกรงใจกัน! จะมาขอบใจฉันทำไม รอหลานชายฉันออกมา เธอค่อยขอบใจฉัน!”
โม่หว่านหว่านกินไอศกรีม ใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เมื่อนึกถึงเด็ก ซูย้าวก็ลูบท้องกลมโต ในหัวนึกถึงคำพูดที่หมอสั่งก่อนหน้านี้
“จริงสิ เมื่อกี้หมอพูดอะไรกับเธอ เห็นเธอออกมาแล้ว อารมณ์ไม่ค่อยดี”
ซูย้าวคิดๆ ดูแล้ว ไม่พูดดีกว่า เพียงทำมือบอกเธอ “ความลับ ไม่นานเธอก็จะรู้!”
กำหนดคลอดใกล้มาถึงแล้ว อีกไม่นาน เธอก็จะได้เห็นหน้าลูกแล้ว..