เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 275
บทที่ 275 ได้พบลูกสาว
ห้องผู้ป่วยVIPเพิ่มพยาบาลบนตึกชั้นสูงสุด เงียบ สะดวกสบาย เครื่องทำความชื้นพ่นไอออกมาเป็นวงคลื่น เพิ่มความชื้นในอากาศ
ลี่เจิ้งยังคงอยู่บนเตียงพร้อมร่างกายที่เต็มไปด้วยท่อมากมาย นอนหลับตาอยู่ตรงนั้น
ลี่เฉินซีค่อยๆก้าวเท้าไปข้างเตียง ลากเก้าอี้แล้วนั่งลง
มองดูลูกชายที่ยังคงสลบอยู่ ดวงตาปิดสนิททั้งคู่ ไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นคืนสติ ยังคงนอนอยู่อย่างนั้น เงียบๆ นอนเหมือนเช่นวันธรรมดาทั่วไป
มือเรียวยาวคล้ายหยก ลูบแก้มเด็กอย่างเบามือ หลับตาลงอย่างอ่อนแรง ราวกับใช้พลังมหาศาลค่อยๆระงับความเจ็บปวดที่พลุ่งพล่านออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
เจิ้งเอ๋อ ลูกจะต้องฟื้นนะ
ลูกคือความหวังและทุกอย่างของพ่อ พ่อมั่นใจว่าลูกจะต้องชนะมันได้ และฟื้นขึ้นมา
ก่อนที่ลูกจะฟื้นขึ้นมา พ่อจะคอยดูแลทุกอย่างของบริษัทลี่ซื่อ รอคอยวันที่ลูกจะมารับช่วงต่อ
เมื่อห้าปีก่อน ลี่เฉินซีเคยไปทำงานที่อเมริกา เจรจากับทนายความเป็นการส่วนตัวและเป็นความลับ เพื่อทำพินัยกรรมและปิดผนึกไว้
หากวันใดที่เกิดเรื่องขึ้น ทุกอย่างในนามของบริษัทลี่ซื่อ ให้กับลี่เจิ้งเพียงคนเดียวเป็นผู้สืบทอด
ถึงแม้ว่าวันหนึ่ง เขาจะอาจจะแต่งงานใหม่ หรือมีอารมณ์ใดๆต่อกัน แต่เรื่องพวกนี้ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสืบทอดธุรกิจของตระกูลได้ พูดอีกอย่างคือ นอกจากลี่เจิ้งแล้ว ไม่มีใครได้ครองสมบัติของบริษัทลี่ซื่ออีก
ลงจากตึก เขาก็ไปที่ห้องฉุกเฉิน เพื่อไปดูเด็กที่ไม่รู้จักคนนั้น
ห้องผู้ป่วยปิดอยู่ เขาผลักประตูเบาๆ กำลังจะก้าวเท้าเข้าไป ก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ ห้องโล่ง เตียงก็โล่ง
ผ้าห่มถูกดึงออกไปกองอีกฝั่ง รองเท้าเล็กๆสกปรกๆที่พื้นคู่นั้น ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว
เกิดอะไรขึ้น?
เขาสะดุ้งเล็กน้อย รีบสาวเท้าออกไป มองเห็นพยาบาลตรงทางเดิน จึงรั้งไว้ แล้วถามว่า “เด็กที่อยู่ที่ห้องนี้ล่ะ? ทำไมไม่เห็นแล้วล่ะ?
พยาบาลได้ยินอย่างนั้น ก็ตกใจ พรางพร่ำบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก พอเดินเข้าไปดู ห้องว่างไม่มีใครอยู่จริงๆ เด็กผอมบางที่ตัวเต็มไปด้วยบาดแผลคนนั้น หายไปแล้ว!
“เด็กคนนั้นมีบาดแผลเต็มตัวไปหมด มีไข้หนัก ทำไมถึงได้…… ถึงจะฟื้นแล้ว ก็ไปได้ไม่ไกลหรอกมั้งคะ! “พยาบาลกล่าว
ลี่เฉินซีก้าวเท้าเดินก้าวใหญ่ออกไปข้างนอก อยากไปดูห้องควบคุมสักหน่อย ก็เจอเข้ากับใครบางคนที่คุ้นเคยอย่างไม่ได้ตั้งใจ ที่โถงห้องฉุกเฉิน
ผู้หญิงถือเอกสารไว้หลายอย่าง กำลังต่อแถวที่ไม่สั้นไม่ยาวนัก ดูวิตกกังวลเล็กน้อย ท่าทางร้อนรน
เขาเดินไปหา “ซูย้าว? คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ซูย้าวได้ยินเสียง จึงหันไปมองข้างๆ เมื่อได้พบกับลี่เฉินซี เธอก็สะดุ้งทันใด พอได้สติก็ถามขึ้น “คุณอยู่ที่นี่ ถ้าอย่างนั้นเจิ้งเอ๋อ…..”
เขารีบส่ายหัวก่อน “เขาไม่เป็นไร”
เธอรู้สึกโล่งใจ คนข้างหน้าจ่ายเงินเสร็จแล้ว กำลังจะออกไป ซูย้าวเดินเข้าไปยื่นเอกสาร แล้วจ่ายเงิน
จัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว จึงเดินออกมาจากแถว มองดูลี่เฉินซี ทันใดก็อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็อ้ำๆอึ้งๆ “เป็นเพราะว่าฉัน…..”
บางช่วงเธอคลุมเครือ ไม่ได้ตั้งใจอยากปิดบัง เป็นเพียงเพราะว่ามันกะทันหันเกินไป เลยไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไร
ช่วงเวลาประจวบเหมาะ ไม่ไกลมีคนวิ่งมา รีบบอก “เบิกยาเสร็จรึยัง? ซีซีอ้วกอีกแล้ว พยาบาลรอใบสั่งยาให้น้ำเกลือน่ะ!”
“……อ่ะ เบิกเสร็จแล้ว!” ซูย้าวรีบยื่นเอกสารไปให้
โม่หว่านหว่านคว้าเอกสารมา กำลังจะรีบกลับไป แต่กลับชำเลืองเห็นด้านข้างของลี่เฉินซี หล่อนชะงักนิดหน่อย แล้วพูดขึ้น “บังเอิญจัง ประธานลี่ก็อยู่ที่นี่ด้วย!”
“อืม เมื่อกี้เธอพูดว่าซีซี?”
ลี่เฉินซีจ้องตาเขม็ง พอรู้ตัวก็รู้สึกว่าซีซีที่พูดถึงน่าจะเป็น…….
“ลูกสาวของฉัน” ซูย้าวรีบอธิบาย เพื่อขัดจังหวะความคิดของเขา
เป็นแบบนี้นี่เอง
“ก็เป็นลูกสาวฉันด้วยสินะ!” เขาตรงไปตรงมา ห้าปีที่ผ่านมาไม่เคยได้เห็นหน้าลูกสาว เคยปรากฏตัวในฝันนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งใบหน้าของเด็กคนนี้กลับเลือนลางไม่ชัดเจน
ซูย้าวใบหน้ากระวนกระวาย สูดหายใจลึก กำลังอยากเอ่ยปาก โม่หว่านหว่านกลับพูดขึ้นมา “ไม่ทราบว่าทำไมประธานลี่ถึงอยู่ที่นี่คะ? ไม่สบายเหรอ? ลี่เฉินซีไม่รอตอบ ด้านหลังเสียงที่อ่อนหวานของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา
“เฉินซี”
แบบนี้ ไม่จำเป็นต้องให้เขาอธิบายอะไร โม่หว่านหว่านรีบพูด “อ๋อ พอจะเดาได้แล้ว นี่เป็นคุณหาน หรือ……”
โม่หว่านหว่านกวาดตาดูห้องผู้ป่วยไม่กี่ห้อง เมื่อกี้เพิ่งจะพาซีซีไปเข้าห้องน้ำตรงทางนั้น หลายวอร์ดล้วนแต่เป็นเด็กเล็ก ช่วงฤดูนี้ โรคหวัดระบาดหนัก เด็กติดโรคนี้ง่าย
เธอหยุดนิ่งไปสักพัก พูดอีกว่า “หรือว่าลูกของคุณหานป่วยสินะ! อย่างนั้นเราก็อย่าถ่วงเวลาเขาเลย ให้ประธานลี่ไปทำหน้าที่พ่อเลี้ยงเสียเถอะ!”
พูดจบ หล่อนก็ดึงมือซูย้าวไป “ไป ซีซียังรอพวกเราอยู่!”
“……”
ลี่เฉินซีไม่พูดอะไร
และไม่พูดถึงสิ่งที่โม่หว่านหว่านวิเคราะห์ว่าถูกหรือผิด แค่คำว่าพ่อเลี้ยง ก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บไปทั้งแก้วหู
ในความคิดของลี่เฉินซีนั้น เขาไม่เคยคิดอยากเป็นพ่อเลี้ยงใคร ตัวเองมีลูกชายและลูกสาวอยู่แล้ว ทำไมถึงอยากจะเป็นพ่อให้ลูกคนอื่นล่ะ?
ในตอนนั้นหานฉ่ายหลิงก็เดินเข้ามา มองเห็นเงาของคนสองคนไกลๆ ใจหายเล็กน้อย “บังเอิญจริงๆ! คุณซูก็อยู่ที่โรงพยาบาลด้วย”
ลี่เฉินซีไม่ได้พูดอะไร เดินเลี่ยงผู้หญิงที่อยู่ข้างๆไป ก้าวเท้าเดินตามซูย้าวอย่างรีบเร่ง
“เฉินซี!”
ตอนที่หานฉ่ายหลิงเรียกเขานั้น ชายผู้นั้นเดินก้าวเท้ายาวๆออกไปหลายเมตรแล้ว เธอกัดฟันอย่างไร้เรี่ยวแรง ผู้หญิงชั้นต่ำที่น่ารังเกียจคนนี้ ตั้งแต่หล่อนกลับมา ไม่ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ก็จะต้องเจอพวกชั้นต่ำพวกนี้!
สมกับเป็นวิญญาณที่คอยตามหลอกหลอนฉันเสียจริง!
ในห้องโถงผู้ป่วยนอก ที่มุมด้านในมีเด็กผู้หญิงนอนตะแคงข้างอยู่บนเตียงที่ไม่เล็กไม่ใหญ่นัก ใบหน้าเล็กๆสวยใสนวลผ่อง ด้วยร่างกายที่เจ็บปวด ใบหน้าจึงซีดเซียว ดวงตากลมโตคู่นั้น จึงดูอ่อนล้าไม่มีเรี่ยวแรง หัวเล็กๆของเธอหนุนอยู่บนตักของซูย้าว
หลังพยาบาลรับใบสั่งยา ก็รีบไปจัดเตรียมยา จากนั้นเดินไปเจาะเข็มให้กับเด็กน้อย
เด็กผู้หญิงเชื่อฟังมาก ทำตามที่นางพยาบาลบอก มือเล็กๆวางอย่างเชื่อฟัง ซูย้าวปิดตาเธอไว้ เข็มเจาะผ่านผิวหนัง เจ็บจนเธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ผ่านไปสักพักถึงคลายออก
ที่หน้าประตูห้องโถง ลี่เฉินซีหยุดฝีเท้าลง
เห็นภาพฉากนี้ไกลๆ เพ่งมองเด็กผู้หญิงที่นอนอยู่บนตักของซูย้าว ใบหน้าอ่อนโยน ดวงตากลมโตสวยงาม ใบหน้าที่ได้สัดส่วน และผมยาวประบ่า น่ารักและสวยงามเหมือนตุ๊กตา
หน้าตาสวยจริงๆ
นี่คือลูกสาวของเขา
ชื่อซีซีหรือ?
ลี่เฉินซีเพ่งมองใบหน้าที่น่ารักของเด็กผู้หญิงคนนี้ จ้องดูทุกการเคลื่อนไหว เหม่อลอยไปพักหนึ่ง
ห้าปีแล้วสินะ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบลูกสาว
เขากลับไม่ได้รีบร้อนเข้าไปหา เด็กที่ไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน ต้องรู้สึกไม่คุ้นเคยแน่นอน ถ้าหากว่าทำให้เด็กตกใจ ก็ไม่ดีแน่
แค่มองดูอยู่ห่างๆสักพัก ก็พอแล้ว
โม่หว่านหว่านปอกส้มในมือ แกะเปลือกออกให้สะอาด แล้วป้อนซีซีในขณะเดียวกันก็เลิกคิ้วกวาดตามองร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างประตู
หล่อนยกศอกดันซูย้าว “นี่ เธอจะให้เขาเห็นหมดเปลือกเลยเหรอ?”
ที่จริง ซูย้าวมองเห็นเขาตั้งนานแล้ว
ก็มองออกว่าเขาไม่ได้อยากจะเดินเข้ามา แอบสังเกตอยู่แบบนั้นสักพัก ถึงจะพูดว่า “อะไรคือให้เห็นหมดเปลือก? เขาก็ไม่ได้มาทำให้เด็กตกใจ จะว่าไป ยังไงซะซีซีก็เป็นลูกของเขา……”
เรื่องพวกนี้ ซูย้าวไม่เคยคิดจะปิดบังเขา
ไม่เพียงตอนนี้ ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอเตรียมใจไว้ทุกครั้ง เตรียมใจว่าอาจจะเจอเขากะทันหัน แม้กระทั่งคิดคำพูดไว้แล้ว รอเพียงแค่เขาปรากฏตัว ควรจะอธิบายเรื่องนี้กับลูกสาวอย่างไร ……
แต่น่าเสียดาย ที่เขาไม่เคยปรากฏตัวเลย
ที่ด้านนอก หานฉ่ายหลิงมองเห็นฉากนี้ หล่อนจ้องมองไปที่แผ่นหลังที่สูงใหญ่สง่าของชายผู้นั้น แล้วบีบนิ้วมือกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ