เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 285
บทที่ 285 พบกันอีกครั้ง
หลังจากใช้เวลาบินนานกว่าสิบชั่วโมง เมื่อมาถึงลักเซมเบิร์ก ก็เป็นช่วงเวลากลางคืนตามเวลาท้องถิ่น
คริสตินมารับเธอที่สนามบิน ทั้งคู่ที่มีโอกาสเจอกันน้อย จึงแทบจะมีเรื่องราวมากมายที่คุยไม่กันหมด “แบบนี้แล้วกัน ไม่ต้องพักโรงแรมหรอก มาพักที่บ้านฉัน!”
“เอ่อ…..” ซูย้าวรู้สึกลำบากใจ แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธ จึงพูดขึ้น “เป็นการรบกวนเธอกับไซม่อนหรือเปล่า”
คริสตินยิ้มขึ้น “ไม่เลย! สองสามวันมานี้ ด้วยงานสัมมนาแล้ว เขาคุยธุรกิจกับนักธุรกิจต่างชาติหลายคนที่โรงแรม ตอนนี้ก็ดึกมาก คงไม่กลับไม่แล้ว!”
“เป็นแบบนี้เองเหรอ…..”
เมื่อเป็นเช่นนี้ ซูย้าวก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธอีก จึงถูกคริสตินขับรถพาเธอกลับไปที่บ้าน
เมื่อเห็นใบหน้าที่ทุกข์ใจของซูย้าว คริสตินพลางเตรียมอาหารให้เธอ พลางพูดขึ้น “การมาครั้งนี้ นอกจากงานสัมมนาแล้ว เธอยังต้องการคุยเรื่องงานกับกรุ๊ปKใช่ไหม”
คำพูดประโยคเดียวก็จี้จุดตรงใจของซูย้าว ครั้งนี้เธอมาที่นี่ในนามของจู้สือเพื่อมาเจรจาเรื่องการร่วมมือกับกรุ๊ปK สำหรับการสัมมนานั้นก็เป็นแค่ความบังเอิญ
เมื่ออยู่ในหน้าที่ ทุกอย่างจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเอง
โดยเฉพาะภารกิจที่เจ้านายได้มอบหมาย แม้ว่าเธอไม่เต็มใจขนาดไหน ก็ต้องฝืนใจทำ แต่ว่าครั้งนี้ ซูย้าวกลับรู้ลึกรางๆว่า การเจรจาร่วมมือกันครั้งนี้โอกาสที่จะสำเร็จนั้นมีน้อย
ในอาณาจักรที่แข็งแกร่งของจู้สือกรุ๊ป นั้นไม่มีโครงการอัญมณี จู่ๆก็บุ่มบ่าม มีความเด็ดเดี่ยวที่ต้องการร่วมมือกับกรุ๊ปK เกรงว่าประธานไซม่อนจะไม่ตอบรับ
เห็นดวงตาที่หม่นหมองของเธอ คริสตินจึงพูดขึ้น “วางใจเถิด พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปหาไซม่อน พวกเราร่วมมือกันมาหลายปีแล้ว ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่!”
เมื่อพูดเช่นนี้ เธอจึงได้ยิ้มขึ้น หวังว่าการเจรจาธุรกิจกันครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จะได้ไม่เป็นการมาเสียเที่ยวและเหนื่อยเปล่าจากการเดินทางที่ยาวไกลเช่นนี้
วันต่อมางานสัมมนาจัดขึ้นตามเวลาที่กำหนด ได้พบปะกับผู้ประกอบการหลายองค์กรมากมายในตลาดเศรษฐกิจเอเชียและยุโรป การสื่อสารสังสรรค์ต่างๆจึงครื้นเครงขึ้น ซูย้าวรู้สึกว่าตัวเองนั้นเหนื่อยล้าจนร่างกายไม่สามารถทำตามที่ใจต้องการ
ในตอนค่ำยังมีงานเลี้ยงอีก และเป็นคนเหล่านี้ที่เข้าร่วม จึงต้องพบปะสังสรรค์กันอีก ซูย้าวจึงได้เปิดห้องเพื่อพักผ่อนชั่วคราว
เมื่อถึงตอนค่ำงานเลี้ยงก็ดำเนินไปตามปกติ เสียงแก้วเหล้าชนกัน เสียงคุยสนทนาเฮฮากัน ต่างอาศัยการร่วมวงการทานอาหารคุยถึงเรื่องธุรกิจของตัวเอง ตลอดทั้งคืน ซูย้าวก็คุยเจรจาสำเร็จกับการสั่งซื้อเล็กๆน้อยๆกับเจ้าของธุรกิจสองสามราย ถือว่าครั้งนี้เป็นการมาที่ไม่เสียเที่ยว
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เธอมึนงงก็คือ ตลอดงานทั้งคืนไม่เห็นไซม่อนเลย กำลังคิดที่จะไปถามคริสติน แต่อีกฝ่ายได้เดินตรงเข้ามาหาตัวเองพอดี “ซูย้าว ต้องขอโทษจริงๆ ทางปารีสมีเรื่องนิดหน่อย ไซม่อนจึงต้องรีบไปจัดการด่วน!”
“ไม่เป็นไร ไว้คุยกันโอกาสหน้าก็ได้!” เธอยิ้มเบาๆ แต่กลับไม่สามารถปกปิดความผิดหวังในแววตาได้
คริสตินครุ่นคิด “ถ้าหากฉันจะบอกว่าฉันก็ต้องไปที่ปารีสด้วย เธอจะไปกับฉันไหม”
“เธอก็จะไปปารีสด้วยเหรอ” เธอตกใจ
“ใช่ เดิมทีฝั่งนั้นก็มีธุรกิจที่ต้องเจรจาด้วย และเรื่องฝั่งนี้วันนี้ก็จัดการเรียบร้อยแล้ว!” คริสตินกล่าว
ซูย้าวครุ่นคิด มาแค่เพียงวันเดียว ก็คลาดกับประธานไซม่อนแล้ว ถ้าเจรจาการร่วมมือกันไม่สำเร็จ กลับไปก็ไม่มีอะไรไปนำเสนอ สู้ไปปารีสด้วยกัน บางทีเรื่องการร่วมมือกันอาจจะยังมีความหวัง
“อย่างนั้นต้องรบกวนเธอแล้ว ฉันไปกับเธอด้วยนะ!” เธอกล่าว
คริสตินแสดงออกว่าด้วยความดีใจ จึงรีบสั่งให้เลขาไปเตรียมการ และจะออกเดินทางกันในคืนนี้ เช่นนี้แล้วจะได้ไปถึงปารีสก่อนเช้าวันพรุ่งนี้
เธอยังกล่าวขึ้นอีกว่า “เดิมทีคิดว่าประธานลี่จะมาด้วย แต่คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายก็ไม่ได้เจอ…..”
ลี่เฉินซีไม่ได้มา ซูย้าวเดาออกตั้งแต่แรก จึงไม่มีอะไรสงสัย พูดแต่เพียงว่า “เขาค่อนข้างงานยุ่ง คงปลีกตัวมาไม่ได้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆน่ะ”
คุยกันมาตลอดทาง จนเมื่อรถขับมาถึงปารีส ท้องฟ้าก็สว่างพอดี ไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน เมื่อมาถึงโรงแรมซูย้าวก็รีบไปพักผ่อนที่ห้องทันที
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็เป็นเวลาเที่ยงวัน ยังรู้สึกง่วงเล็กน้อย แต่เมื่อมองเวลาแล้ว ก็ไม่กล้าที่จะงัวเงียอีกต่อไป จึงรีบลุกพรวดจากเตียง ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถไปที่สำนักงานใหญ่ของกรุ๊ปK
คริสตินเจอเข้ากับเธอพอดี จึงรีบพูดขึ้น “ซูย้าว เธอมาพอดีเลย ในห้องทำงานของไซม่อนเพิ่งจะมีแขกมาเยือนหนึ่งคน เธอต้องทายไม่ถูกแน่ๆเลยว่าเป็นใคร!”
ซูย้าวเห็นเธอดีใจเช่นนี้ จึงพูดขึ้น “ใครเหรอ”
“เดี๋ยวเจอแล้วเธอก็จะรู้เอง!” คริสตินขึ้นตึกไปพร้อมกับเธอ ขณะเดียวกันยังพูดขึ้น “ไซม่อนเพิ่งจะเจรจาธุรกิจใหญ่สำเร็จด้วย ต่อไปนี้คงจะต้องยุ่งมากแน่ๆ!”
ถึงว่าทำไมเธอมีความสุขเช่นนี้ ที่แท้ก็คุยเจรจาการซื้อขายสำเร็จนี่เอง ซูย้าวจึงยิ้มตาม แล้วพูดแสดงความยินดี จากนั้นก็ออกจากลิฟต์แล้วเดินตรงไป
ประตูห้องสำนักงานของประธานถูกผลักออก คริสตินสาวก้าวเข้าไปแล้วพูดขึ้น “ไซม่อน คุณดูสิว่าใครมา” เมื่อไซม่อนเห็นซูย้าวก็รีบลุกขึ้น “คุณซู เดินทางมาจากแดนไกล ไม่ได้ไปรับด้วยตัวเอง ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง!”
ซูย้าวทักทายถามไถ่กับเขาสองสามคำ จากนั้นคริสตินก็ดึงแขนของเธอ บอกให้เธอมองไปยังอีกทางหนึ่ง “ดูสิเธอ ตรงนี้ยังมีใครอยู่อีก”
มองไปตามที่เธอบอก เมื่อเห็นชัดเจนคนที่นั่งอยู่บนโซฟา ซูย้าวถึงกับตาค้าง
ชายหนุ่มที่ใบหน้ารูปงามนั่งหันข้างอยู่บนโซฟาข้างใน เมื่อได้ยินเสียงดังถึงได้ค่อยๆเงยหน้าหันมา สายตาเย็นชากวาดมองมายังใบหน้าซูย้าว
ไม่ได้มีอาการตกใจเฉกเช่นเธอ ลี่เฉินซีนั่งเงียบๆอยู่ตรงนั้น ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจของซูย้าวถึงกับช็อก ที่แท้คริสตินพูดถึงการเจรจาธุรกิจสำเร็จ หมายถึงเขานี่เอง…..
ลี่เฉินซีนั่งอยู่ตรงนั้น เบนสายตาไปอย่างไม่แยแส แล้วยกกาแฟที่วางอยู่ข้างๆขึ้นมาจิบ มุมปากของเขาค่อยๆยกขึ้น “กาแฟที่คุณคริสตินชงมาให้ รสชาติชั่งแตกต่างจากทั่วไปจริงๆ”
“ขอเพียงแค่ประธานลี่ชอบ ฉันสามารถชงให้ท่านได้เป็นประจำนะคะ” คริสตินกล่าว
เขากับไซม่อนคุยสนทนากันอย่างเฮฮา ราวกับว่าซูย้าวเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกัน
สนทนากันสักพัก สายตาลี่เฉินซีเหลือบมามองเธอแวบหนึ่ง จู่ๆก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาขึ้น เปลี่ยนมาเป็นคุยเรื่องงาน เขาพูดขึ้นว่า“บริษัทลี่ซื่อไม่ค่อยมีประสบการณ์เกี่ยวกับอัญมณี ครั้งนี้ได้ร่วมมือกับกรุ๊ปk คงต้องขอคำแนะนำประธานไซม่อนแล้ว!”
“ประธานลี่พูดตลกแล้ว เดิมทีบริษัทของเราตั้งใจที่จะขยายตลาดไปที่ประเทศจีนอยู่แล้ว ได้ประธานลี่มาร่วมมือ สำหรับพวกเราแล้วถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง!”
ซูย้าวที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดจากบทสนทนาแล้วรู้สึกแปลกใจ ดวงตาฉงนขึ้น คริสตินสังเกตเห็นแววตาของเธอ จึงได้อธิบายขึ้น “โครงการเครื่องประดีบมี่ไต้ของกรุ๊ปkได้คุยเจรจาสำเร็จกับประธานลี่แล้ว…..”
เครื่องประดีบมี่ไต้
นี่เป็นจุดประสงค์หลักของการมาครั้งนี้ของเธอไม่ใช่เหรอ จู้สือกรุ๊ป ก็มีประสงค์ที่จะพัฒนาโครงการนี้ร่วมกับกรุ๊ปkเช่นกัน
เห็นสีหน้าทุกข์ใจของเธอ คริสตินจึงถามขึ้น “ซูย้าว เธอเป็นอะไรไป”
“ความจริง…..”
เมื่อคำพูดถึงริมฝีปาก เธอกลับสังเกตเห็นแววตาเย็นชาของลี่เฉินซีที่น่ายำเกรงประกายแสงแห่งความเคียดแค้น ซ่อนอยู่ในนั้น
จึงทำให้หวนคิดถึงการทะเลาะเมื่อไม่นานมานี้ เขาในตอนนี้ได้ตัดสินไปแล้วว่าเธอคือผู้อยู่เบื้องหลังการทำร้ายลูกชาย จึงได้เกลียดเธอเข้ากระดูกดำ ถ้าหากให้ไปบอกถึงเจตจำนงถึงความต้องการที่อยากได้การร่วมมือในครั้งนี้ ลี่เฉินซีมีแต่จะขัดขวางอย่างแน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ของเธอก็ยิ่งคับขันขึ้น
เพราะฉะนั้น จึงต้องกลืนคำพูดที่อยู่ริมฝีปากลงไป แล้วเปลี่ยนพูดคำอื่นขึ้น “ไม่มีอะไร เพียงแต่ต้องการจะคุยกับไซม่อนเรื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตัวใหม่เท่านั้น แต่ในเมื่อประธานลี่อยู่ที่นี่ อย่างนั้นค่อยคุยกันวันหลังก็ได้”
เธอเอ่ยกล่าวอีกไม่กี่คำ ก็หันหลังแล้วเดินออกไป คริสตินจึงเดินมาส่งเธอ
ด้านนอก คริสตินได้ถามขึ้นอีก “ต้องการคุยแค่เรื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตัวใหม่จริงๆหรือ ทำไมฉันดูแล้วเหมือนยังมีเรื่องอื่นอีกนะ”
เธอส่ายหน้า “ไม่มีเรื่องอื่นจริงๆ เธอคิดมากไปแล้ว คงเป็นเพราะฉันพักผ่อนไม่เพียงพอเลยดูไม่สดใส!”
“ก็ได้! แต่ว่าถ้ามีเรื่องอะไร ต้องบอกกับฉันนะ”
ซูย้าวพยักหน้า เธอใช้สายตาส่งเธอขึ้นรถแท็กซี่ไป เมื่อรถขับออกมาได้ไม่ไกล หัวสมองของเธอก็ผุดแววตาของลี่เฉินซีในตอนที่เห็นเธอ ดูเย็นชาราวกับคนแปลกหน้าก็ไม่ปาน เธอครุ่นคิด จากนั้นก็ให้คนขับรถวกกลับมาเส้นทางเดิม จนกลับมาถึงที่บริษัท