เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 291
บทที่ 291 ฉันอยากเป็นผู้หญิงของคุณ
กลางดึก ซูย้าวที่กำลังอ่านหนังสือในห้อง ก็ถูกเสียงดังรบกวน
“โอ๊ย คุณนี่ร้ายจริงๆ! อย่าเล่นอีกค่ะ รอกลับห้องก่อน!”
น้ำเสียงของผู้หญิงมีเสน่ห์เย้ายวนดังเข้ามา
เสียงดังไม่มาก แต่เต็มไปด้วยความยั่วยวนเขินอาย เสียงที่ทะลึ่งตึงตังทำให้ตกใจ ฟังแล้วระคายหู
ที่นี่คือโรงแรม นอกจากนักธุรกิจที่เดินทางทำงานแล้ว ยังมีชายหญิงที่มาทำกิจกรรมเมื่อความต้องการสุกงอม
ซูย้าวไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว ย่อมเข้าใจอะไรเป็นอะไร
เธอเหยียดริมฝีปากยิ้ม พลิกหนังสืออ่านต่อ จมลึกอยู่ในความครุ่นคิดของตนเอง
“เฉินซี พอได้แล้ว! เรากลับห้องกันเถอะ!”
นอกประตู เสียงหญิงสาวหวานหยาดเยิ้ม เรียกชื่อออกมา สั่นสะเทือนแก้วหูของซูย้าว
หรือว่าคือ…
อาจเป็นเพราะแปลกใจ อาจเป็นเพราะคิดเชื่อมโยง ไม่รู้ทำไม เธอไม่เคยสนใจความรักหนุ่มสาว
ยังอดไม่ได้ที่จะสะกิดใจ เดินไปที่ประตู
นิ้วแตะที่มือจับประตู แต่ขณะที่หมุนล็อก จะเปิดประตูห้อง ก็หยุดชะงัก
ถ้าหากเปิดประตู แล้วเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น เธอควรจะทำอย่างไรดีล่ะ
พวกเขาสองคนหย่ากันนานแล้ว ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระ ชายหญิงเป็นผู้ใหญ่ ต่างมีความต้องการ ถึงอย่างไรข่าวซุบซิบของเขากับหานฉ่ายหลิง ก็ไม่ใช่เรื่องวันสองวันนี้
คาดเดาว่าระหว่างพวกเขาคงจะมีอะไรกันแน่ เพียงแต่คิดไม่ถึง…วินาทีที่ได้ยิน บางที่ในร่างกายอดไม่ได้ที่จะ เจ็บปวดขึ้นมา
เหมือนถูกเลื่อยเถือ เจ็บปวดรวดร้าว ต่อเนื่องไม่ยอมหยุด
นิสัยของเขาในด้านนั้น เธอยังจำได้ ตอนที่อ่อนโยน ก็เอาอกเอาใจจนที่สุด แผ่วเบาอ่อนโยน แต่เมื่อเกิดจะเผด็จการขึ้นมา ก็บ้าคลั่งเหมือนพายุฝนซัดสาด ทรงพลังรุนแรง ความเอาแต่ใจ ไม่สิ้นสุด
ช่างเถอะ
ถึงเวลานี้แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรจะคิดถึงเขาไปทำไม
ซูย้าวส่ายหัวแรงๆ พยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว ล็อกประตูเหมือนเดิม แล้วเดินกลับเข้าห้องนอน
แต่หารู้ไม่ เวลานี้ที่ทางเดิน มีเพียงหานฉ่ายหลิงคนเดียว
กัวหลินที่ยืนหน้าประตูห้องข้างๆ มองเธอแสดงบทบาทคนเดียว ถอนหายใจเบาๆ อย่างจนใจ
จิตใจริษยาของผู้หญิง ในด้านความรัก เกินกว่าที่จะจินตนาการมากนัก
ตอนที่หานฉ่ายหลิงกลับห้องที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกว่าที่ตัวเองทำเมื่อครู่ …จริงๆ!
เธอยิ้มขมขื่นหมดแรง นั่งจมอยู่ตรงนั้น สูดลมหายใจลึก “ฉันทำตัวน่าตลกมากใช่มั้ย”
กัวหลินมองเธอ ไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไรดี
“จะต้องเปลี่ยนมาอยู่ห้องนี้ให้ได้ เพื่อทำเรื่องเด็กๆ พวกนี้ อยากจะทิ่มแทงใจเธอ…”
แต่กลับไม่ได้คิด จะทิ่มแทงใจซูย้าวหรือไม่นั้นไม่อาจรู้ แต่กลับทิ่มแทงตัวเอง หานฉ่ายหลิงรินไวน์ให้ตัวเอง เปิดคอมพิวเตอร์ สุ่มเปิดหนังเรื่องหนึ่ง เห็นฉากเร่าร้อนในหนัง ชายหนุ่มหญิงสาวกอดรัดฟัดเหวี่ยง เสียงแผ่วเบามีเสน่ห์ ยิ่งเพิ่มบรรยากาศประชดประชันในห้อง
เธอเงยหน้ากระดกไวน์ หัวใจเหมือนถูกอะไรกดทับไว้ หนักอึ้งเหลือเกิน ได้ยินเสียงหอบหายใจของตัวแสดงในคอมพิวเตอร์ เพลิงแค้นยิ่งปะทุขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจ
น่าเกลียด!
วิธีการที่เมื่อก่อนเคยรังเกียจที่สุด ตอนนี้ตัวเองกลับใช้หมดแล้ว เมื่อไหร่ที่เธอกลายเป็นแบบนี้…
“กัวหลิน เธอคิดว่าไง เพื่อผู้ชายคนหนึ่ง เพื่อความรัก ถึงกับทำได้ทุกวิถีทางโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นหรือ” หานฉ่ายหลิงทุกข์ทรมานจนน้ำตาไหลพรากเป็นสาย เธอเองก็ไม่อยากเป็นอย่างนี้ ไม่อยากใช้วิธีแบบนี้ มัดใจเขาได้ รักใคร่หวานชื่น จนคนอื่นอิจฉาตาร้อน
แต่เธอก็รู้ดี ถ้าหากตัวเองไม่แย่ง ไม่ชิง ไม่ทำอะไรเลย สุดท้ายก็ได้แต่มองเขา โผเข้าไปในอ้อมกอดของผู้หญิงคนอื่น…
กัวหลินเห็นเธอกลัดกลุ้ม ก็ทนไม่ได้ เดินไปจับมือเธอแสนสงสาร “ประธานหาน คุณต้องเข้าใจ ไม่ว่าคุณทำอะไร เพื่อคนที่คู่ควร ก็คือถูกต้อง!”
คำพูดนั้นดังก้องในหู สีหน้าของหานฉ่ายหลิงเปลี่ยนไปยากจะคาดเดา
แววตาเย็นชา แสงเย็นวาบจากทุกทิศทาง ความรู้สึกเคียดแค้น ราวกับอยากจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้สิ้นซาก!
เรื่องที่ทำให้เธอโกรธจัด ก็คือเมื่อราวครึ่งชั่วโมงก่อน
หานฉ่ายหลิงเคาะประตูห้องโรงแรมที่ลี่เฉินซีพัก ในมือถือไวน์แดงขวดหนึ่งกับแก้วไวน์สองใบ ใบหน้าแย้มยิ้มให้เขา “เฉินซี ดื่มไวน์เป็นเพื่อนฉันหน่อยนะคะ!”
ลี่เฉินซีเอียงตัวเป็นธรรมชาติให้เธอเข้ามา เขายังทำงานอยู่ สวมแว่นกรอบทอง ซ่อนความสามารถและความสงบ นั่งบนโซฟาท่าทางสง่างาม ยิ่งขับให้รู้สึกสุภาพอ่อนโยน
มองเห็นชายหนุ่มใกล้เพียงแค่เอื้อม หานฉ่ายหลิงร่าเริง เปิดไวน์แดง แล้วเทลงในแก้วไวน์ เอียงตัวนั่งลงข้างๆ เขา
หานฉ่ายหลิงตั้งใจสวมชุดนอนลูกไม้บางสีขาว เผยให้เห็นชุดชั้นในสีเข้มที่อยู่ข้างใน ข้างนอกสวมเสื้อคลุมบางๆ สีดำตัดกับสีขาว เปิดเผยรูปร่างน่าหลงใหลมีเสน่ห์ของผู้หญิงมากที่สุด
รูปร่างบอบบาง เอวเพรียวเล็ก และดวงตาคู่นั้นที่เปี่ยมด้วยความเสน่หา มองเขาด้วยสายตาปรารถนากะพริบตาถี่ๆ
กลิ่นหอมอยู่ข้างๆ มือนุ่มนวลกอดแขนเขาช้าๆ เสียงที่พูดออกมา ประกอบกับบรรยากาศ ช่างอ่อนหวาน “เฉินซี ไม่ต้องทำงานแล้ว เป็นเพื่อนฉันเถอะ!”
ลี่เฉินซียังคงสนใจหน้าจอโน้ตบุ๊ก จัดการงานในคอมพิวเตอร์ ท่าทางยุ่งวุ่นวายไม่วางมือ
“เป็นเพื่อนฉันนะคะ!” เสียงเย้ายวนดังขึ้นอีกครั้ง เขย่าแขนเขาเบาๆ เอาแต่ใจนิดนึง
ในที่สุด ลี่เฉินซีไม่มีทางจดจ่อกับงานได้ หันไปมองเธอ “เป็นเพื่อนยังไง”
เธอมองโครงหน้างดงามของชายหนุ่ม กัดริมฝีปากล่างเบาๆ ท่าทางหว่านเสน่ห์ยิ่งยั่วยวน “คุณว่าไงล่ะ”
“รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ! ผมยังมีงานต้องทำอีก!” เขาพูดเรียบๆ เหมือนความสนใจไม่ได้อยู่ที่ตัวเธอ
หานฉ่ายหลิงอึ้งไป ตัวเองตั้งใจตระเตรียม แม้จะไม่คาดหวังให้เขาจู่ๆ เลิกระมัดระวังตัว มีอะไรกับตัวเอง แต่อย่างน้อยที่สุดก็เป็นบรรยากาศที่สวยงาม ไม่ควรจะอ่อนโยนหน่อยหรือ
ลี่เฉินซีปิดโน้ตบุ๊ก ลุกขึ้นไม่แสดงสีหน้าใดๆ พูดขึ้นอีก “พรุ่งนี้ยังมีงานอีก เด็กดี รีบกลับไปเถอะ!”
ดวงตางงงันเบิกโต “แต่ เฉินซี…”
มองเห็นชายหนุ่มถือคอมพิวเตอร์จะเดินเข้าไปในห้องนอน หานฉ่ายหลิงรีบลุกขึ้น ปรายตามองไวน์แดงบนโต๊ะ พูดขึ้นอีก “เป็นเพื่อนฉันดื่มไวน์เถอะค่ะ! ดื่มหมดแล้ว ฉันค่อยกลับไปนอน!”
เขาหยุดฝีเท้า หันมา มองเธอยิ้มให้จนใจ เดินมา หยิบขวดไวน์บนโต๊ะ เทใส่แก้วของตัวเอง เงยหน้ากระดกรวดเดียวหมดแก้ว
ท่าทางรวดเร็ว ทำเหมือนขอไปที
หานฉ่ายหลิงจ้องมองดูทั้งหมด ใจดวงหนึ่ง สั่นระริกช้าๆ
ผู้หญิงคนนั้นกลับมา แม้แต่หาเวลาว่างเป็นเพื่อนเธอเขาก็ไม่ใส่ใจขนาดนี้หรือ
“ไวน์ดื่มหมดแล้ว คุณกลับไปนอนเถอะ!” มือของเขาลูบหัวเธอเบาๆ หันเดินกลับจะเข้าไปในห้อง
หานฉ่ายหลิงตะลึง เดินตามไปอย่างไม่ลังเล กอดเขาจากด้านหลัง พูดน้ำเสียงอ่อนหวาน “เฉินซี ฉันติดตามคุณมาจะห้าปีแล้ว ฉันไม่คาดหวังให้พวกเรากลับไปเป็นเหมือนตอนแรกทันที กลับไปเหมือนเคย แต่…ฉันรักคุณ! ฉันอยากเป็นผู้หญิงของคุณ ทำให้ฉันสมหวัง ไม่ได้หรือคะ”
ลี่เฉินซียืนตรงนั้น เงียบๆ ไม่ขยับเขยื้อน
ครู่ใหญ่ ค่อยๆ แกะมือเธอออก ขณะที่หันมา ก็จับไหล่ของเธอ แววตาจืดจาง ไร้ซึ่งแววปรารถนา ยิ่งกว่านั้น ก็คือความคลุมเครือที่หานฉ่ายหลิงยากจะคาดเดา
“ฉ่ายหลิง ผมเข้าใจความรู้สึกที่คุณมีให้ผม และรู้ด้วยที่คุณเคียงข้างผมมาหลายปี ทำให้คุณลำบากแล้ว เพราะคุณไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ผมถึงไม่อาจทำยังไงกับคุณก็ได้ อย่างนี้ทั้งกับคุณ กับผม ไม่ยุติธรรม!”