เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 293
บทที่ 293 เหมาะสมกันจริงๆ
หานฉ่ายหลิงสวมกระโปรงชุดสีฟ้าอ่อน ขับให้รูปร่างที่สัดส่วนดีมากอยู่แล้วดูเซ็กซี่โดดเด่นมากขึ้น จับมือลี่เฉินซีท่าทางกระหนุงกระหนิง
สายตาของเธอสำรวจซูย้าว สุดท้ายก็กวาดตามองเจี่ยงหลิน ครู่หนึ่ง ก็ยิ้มออกมา เดินเข้าไปก่อน “นึกไม่ถึงว่าจะเจอกันที่นี่ บังเอิญจังค่ะ!”
ซูย้าวยิ้มบางๆ มีมารยาท
ลี่เฉินซีเดินตามหานฉ่ายหลิงเข้ามา ใบหน้าเคร่งขรึมไม่แสดงอารมณ์ มองทุกคนไม่พูดอะไร เหมือนเป็นรูปปั้นยืนนิ่ง
เจี่ยงหลิน ทักทายทั้งสองคน และยังพูด “นานๆ ทีจะเจอกัน กินข้าวด้วยกันมั้ยครับ!”
หานฉ่ายหลิงก็พูดขึ้น “จริงสิคะ บังเอิญจัง มาปารีสครั้งนี้ รู้ว่า ประธานเจี่ยง ก็อยู่ที่นี่ ฉันยังพูดกับเฉินซีอยู่เลย อยากจะหาเวลาไปทักทายคุณสักหน่อย!”
เจี่ยงหลิน ยิ้ม “อย่างที่กล่าวกันเลือกวันสู้วันที่เหมาะสมไม่ได้ แต่ว่า คุณก็รู้จักกับคุณซูหรือครับ”
หานฉ่ายหลิงได้ยินเช่นนั้น ก็จับมือซูย้าวเป็นธรรมชาติ “ฉันรู้จักกับซูย้าวมาหลายปีแล้วค่ะ!”
พูดจบ ก็มองซูย้าว แล้วพูดขึ้น “จริงมั้ย ซูย้าว”
เธอพยักหน้านิดๆ ดึงมือออกจากมือของเธอช้าๆ แสร้งยิ้มออกมา ทำเป็นสนิทสนมได้มากเท่าไรก็เท่านั้น
สี่คนเจอกันโดยบังเอิญ และยังร่วมโต๊ะอาหารเดียวกัน อึดอัดทำหน้าไม่ถูกจริงๆ
เจี่ยงหลิน ยังคงสนใจหัวข้อสนทนาเดิม หลังสั่งอาหารเสร็จ ก็ถามอีก “พวกคุณรู้จักกันได้ไงครับ”
“เรื่องหลายปีแล้วค่ะ ฉันมีเพื่อนไม่มาก คนที่พูดความในใจกันได้มีไม่กี่คน แต่ซูย้าวก็เป็นคนหนึ่ง เธอเป็นพี่น้องฉันค่ะ!” หานฉ่ายหลิงยิ้มร่าเริง มองซูย้าวหรี่ตา
เจี่ยงหลิน สังเกตเห็นสายตาของหญิงสาวลอย พูดขึ้นอีก “คืออย่างนี้! ทำไมผมจำได้ เมื่อหลายปีก่อนฉ่ายหลิงถูกคนจับตัวไป ได้ยินว่าคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังเป็นเพื่อนคุณ เรื่องนี้เป็นยังไงกันแน่ครับ”
“…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หานฉ่ายหลิงก็เงียบไป
เจี่ยงหลิน ยังคงใช้น้ำเสียงเรื่อยๆ ไม่ตั้งใจ สีหน้าเยาะ น้ำเสียงเรียบๆ เหมือนไม่ตั้งใจพูดขึ้น
แต่เรื่องที่อ่อนไหวเช่นนี้ ยังพูดในเวลานี้ให้ได้ ไม่ใช่ตั้งใจ จะมีสักกี่คนเชื่อ
บรรยากาศเงียบลงทันใด หานฉ่ายหลิงรีบปั้นยิ้มสร้างบรรยากาศ เปลี่ยนหัวข้อ เธอมองเจี่ยงหลินกับซูย้าวที่นั่งอยู่ตรงข้าม ถามบ้าง “ไม่รู้ว่าพวกคุณสองคน รู้จักกันได้ยังไงคะ”
“พวกเราหรือ”
เจี่ยงหลิน ยิ้มใช้นิ้วชี้ตัวเองกับซูย้าว คล้ายกับเจอหัวข้อที่น่าสนใจ สายตาแปลกๆ จ้องมองหานฉ่ายหลิง “คุณลองทายดูสิ”
“ทายหรือคะ” หานฉ่ายหลิงให้ความร่วมมือกับเขา ครุ่นคิด ใช้สมองเต็มที่ สุดท้ายก็ยังตอบอย่างไม่รู้จริงๆ “นึกไม่ออก บอกฉันหน่อยเถอะค่ะ!”
เจี่ยงหลิน กลับพูดขึ้น “คุณทายไม่ถูก หรือไม่กล้าทายครับ”
“มีอะไรไม่กล้าทายคะ” หานฉ่ายหลิงแววตาเป็นประกายแวบหนึ่ง คิดอะไรได้บางอย่าง รีบถาม “หรือว่า… ประธานเจี่ยง กำลังจีบซูย้าว”
ซูย้าวที่กำลังดื่มน้ำ สำลักน้ำ ไอไม่หยุด
เจี่ยงหลิน รีบหยิบกระดาษให้เธอ และยังยกมือลูบหลังเธอ พูดอ่อนโยน “ระวังหน่อย!”
หานฉ่ายหลิงสังเกตท่าทางใส่ใจของชายหนุ่ม ยิ่งคิดว่าตัวเองทายถูก “ฉันพูดถูกใช่มั้ยคะ ฉันทายถูกมั้ย”
ซูย้าวไอแค่กหลายครั้ง หลังจากหยุดไอแล้ว ก็พูดขึ้น “คุณหานเข้าใจผิดแล้ว เพราะงานฉันกับ ประธานเจี่ยง ถึงรู้จักกัน”
“อ้อ แค่นี้หรือ” หานฉ่ายหลิงผิดหวังนิดหนึ่ง
แต่ เจี่ยงหลินกลับพูด “คุณพูดถูกแค่ครึ่งเดียว พวกเรารู้จักกันเพราะงานก็จริง และเพิ่งรู้จัก แต่ผมชื่นชมนิสัยคุณซูมาก อยากจะจีบเธอจริงๆ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูย้าวอดไม่ได้กระแอมอีกหลายครั้ง
พนักงานนำอาหารมาส่ง หานฉ่ายหลิงมือถือส้อม พลางพูด “ดูแล้ว ประธานเจี่ยง เหมาะสมกับซูย้าวมาก! ถ้าคุณพูดจริง ฉันสนับสนุนค่ะ!”
เจี่ยงหลิน ยิ้มบางๆ สายตาอยู่ที่ผู้หญิงข้างๆ สายตาลึกซึ้ง ยากจะอ่านออก
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ลี่เฉินซีหั่นสเต๊กเนื้อในจานเงียบๆ ระหว่างมีดกับส้อมกระทบกัน มีแสงเย็นนิดๆ สเต๊กเนื้อในจาน ไม่นานนักก็หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หมด ตัวเองไม่ได้กินสักคำ หยิบจานของตัวเองส่งให้หานฉ่ายหลิง แล้วหยิบจานของเธอมาวางหน้าตัวเอง
เห็นท่าทางละเอียดอ่อน เจี่ยงหลิน ก็พูดขึ้น “ประธานลี่ดูแลแฟนดีจัง! ดูแลละเอียดทุกเรื่อง”
หานฉ่ายหลิงหัวใจพองโต ใบหน้าเขินอายแดงเรื่อนิดๆ
“เมื่อไหร่พวกคุณแต่งงาน ต้องบอกผมก่อน งานแต่งนี้ ผมต้องไปร่วมยินดีด้วยแน่!” เจี่ยงหลิน ยิ้มแหย่
หานฉ่ายหลิงปลื้มใจ พยักหน้าอนุญาต
มื้ออาหารผ่านไปอย่างอึดอัด ซูย้าวพยายามทำเป็นคนใบ้ ไม่อยากพูด ฟัง เจี่ยงหลิน คุยกับหานฉ่ายหลิง ภายนอกหยอกล้อ ตลกขบขันนั้น ซ่อนนัยไว้ภายใน
กินอาหารแล้ว ซูย้าวหยิบกระดาษมาเช็ดปาก พูดขอตัวสั้นๆ “ขอโทษค่ะ ฉันจะไปห้องน้ำหน่อย” แล้วลุกขึ้นออกไปจากโต๊ะ
หลบจากตรงนั้นได้ ก็เข้าไปในห้องน้ำ เธอถึงค่อยหายใจโล่งหน่อย ถ้ารู้ว่าจะเจอพวกเขาที่นี่ เธอคงจะไม่ตอบตกลงมากินข้าวกับ เจี่ยงหลิน
ขณะที่ข้างนอก เห็นซูย้าวเดินออกไป หานฉ่ายหลิงก็ถาม “ประธานเจี่ยง พวกเรารู้จักกันมาตั้งนาน คุณพูดกับฉันตรงๆ เถอะค่ะ เมื่อกี้ที่คุณพูด แค่พูดเล่นๆ หรือว่าจริงคะ”
เจี่ยงหลิน เงยหน้า ย่นคิ้ว “คุณหมายถึงเรื่องไหนล่ะครับ”
“คุณอยากจะจีบซูย้าวหรือคะ” เธอถาม
ปฏิกิริยาของเจี่ยงหลิน เริ่มจากยิ้มนิดๆ สายตาเฉียบคมมองลี่เฉินซี ชายหนุ่มนั่งเฉยอยู่ตรงนั้น ไม่อยากกินอาหาร เขาแทบไม่ได้แตะต้องอาหารตรงหน้า เพียงแต่เขย่าแก้วไวน์ ของเหลวสีแดงใสเป็นคลื่นขึ้นลง
“กลัวแต่ว่าบุปผาร่วงหล่นมีใจ แต่สายน้ำไหลไร้รักน่ะสิ“ เขาพูด
หานฉ่ายหลิงไม่เข้าใจ “อะไรคือบุปผามีใจสายน้ำไหลไร้รักคะประธานเจี่ยง ฉันรู้จักซูย้าวมานานแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่เลวทีเดียว ใส่ใจกับความรู้สึก ฉันหวังว่าเธอจะมีความสุข เจอคนที่รักเธอเร็วๆ ผู้ชายที่มอบความสุขให้เธอได้”
เจี่ยงหลิน นั่งพิงเก้าอี้ รอยยิ้มที่มุมปากไม่ชัดเจน “งั้นคุณรู้สึก ผมคือคนนั้นหรือเปล่าครับ”
“ถ้าใช่ล่ะก็ ดีแน่นอน แต่ปัญหานี้ ประธานเจี่ยง เป็นเจ้าของเรื่องเองยังยืนยังไม่ได้ ฉันจะไปตัดสินได้อย่างไรคะ” หานฉ่ายหลิงยิ้มพอเหมาะ
เจี่ยงหลิน เม้มปากนิดหนึ่ง “ฉ่ายหลิงฉลาดจริงๆ ถ้าคุณไม่มีประธานลี่ ผมจะต้องจีบคุณแน่!”
หานฉ่ายหลิงรีบคล้องแขนลี่เฉินซี น้ำเสียงอ่อนโยน “คุณดูสิ เฉินซี มีคนจะแย่งกับคุณ!”
“ใช่แล้ว ประธานลี่ต้องเฝ้าให้ดี ไม่งั้นวันไหนเผลอไป ผมจะเป็นคนแรกที่แย่งฉ่ายหลิง!” เจี่ยงหลิน ยิ้มแหย่
ลี่เฉินซีก็เล่นด้วย พูดแค่สั้นๆ “อึม ผมจะดูให้ดี!”
ซูย้าวกลับมาจากห้องน้ำ ร่วมโต๊ะอีกครั้ง มองอาหารตรงหน้าที่แทบยังไม่ได้แตะ ไม่อยากกินอะไรแล้ว เพียงแต่จิบน้ำผลไม้ไม่กี่คำ ไม่ได้ใส่ใจอะไร
กินอิ่มแล้ว หานฉ่ายหลิงคล้องแขนลี่เฉินซีอย่างสนิทสนม มองสองคนที่อยู่ด้านหลัง แล้วพูด “ถ้า ประธานเจี่ยง ไม่มีธุระอะไร ก็ไปส่งซูย้าว กลับโรงแรมหน่อยนะคะ!”
เจี่ยงหลิน ตั้งใจอย่างนี้อยู่แล้ว ซูย้าวรู้สึกอึดอัด แต่ยังไม่ทันปฏิเสธ พนักงานจอดรถก็ขับรถของเจี่ยงหลิน เข้ามาแล้ว
เธอจะปฏิเสธก็ดูจะไม่มีเหตุผล ได้แต่ฝืนเข้าไปในรถของ เจี่ยงหลิน
สายตาส่งทั้งสองคน หานฉ่ายหลิงราวกับประสบความสำเร็จมากมาย ยิ้มนิดๆ “เฉินซี ฉันรู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกันจัง!”
ลี่เฉินซีมองเธอแวบหนึ่ง สายตาเย็นชายิ่งกว่าอะไร ปล่อยมือเธอไม่พูดจา ขณะเดินไปขึ้นรถ พูดเรียบๆ “คุณจริงใจจะจับคู่พวกเขา หรือมีอะไรแอบแฝง