เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 300
บทที่ 300 เขาเกิดเรื่องแล้ว
ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านั้น
ผู้ชายสามสี่คนรีบร้อนเข็นรถทำความสะอาดมาถึงท่าเรือ เพราะเป็นช่วงบ่าย ท่าเรือมีคนไม่มากนัก และยังติดต่อไว้ก่อน จึงมีแต่คนที่รู้เรื่องไม่กี่คน คอยรอรับอยู่
“เตรียมเรียบร้อยแล้ว เรือลำนี้แหละ ส่งคนมาให้ข้าเถอะ!” ผู้ชายไว้หนวดเคราเดินออกมา
คนกลุ่มนั้นพยักหน้า เปิดผ้าห่มบนรถทำความสะอาด เห็นร่างหญิงสาวบอบบาง เพราะฤทธิ์ของยา สลบไสลไม่ได้สติ
ชายไว้หนวดเครากวาดตามอง ไม่สนใจอะไรมาก ลงมืออุ้มซูย้าวขึ้นมา พาดขึ้นบ่า ขณะที่จะหันไป ก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาจากไม่ไกล
เสียงฝีเท้ารีบเร่ง และค่อนข้างดัง ดึงความสนใจของทุกคน
พากันหันไปดูตามเสียง ก็เห็นร่างชายสูงใหญ่ สวมชุดสูท ใบหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้าน แผ่รัศมีความเย็นชา
“พวกแกจะพาเธอไปไหน”
ลี่เฉินซีเดินเข้าไปใกล้ ดูออกว่าคนพวกนี้มีเจตนาไม่ดี และซูย้าวถูกชายไว้หนวดเคราควบคุมอย่างง่ายดาย ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เดาได้ว่าคงถูกวางยา
“แกรู้จักเธอหรือ” ชายไว้หนวดเคราย้อนถาม เห็นชัดว่าเลิกคิ้วนิดหนึ่ง ในแผนไม่มีเรื่องนี้
คนอื่นรู้สึกเซ็ง ต่างหันไปสบตากัน อย่างที่กล่าวกันแผนตามการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน ไม่สนอะไรทั้งนั้น มาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเขาไม่มีทางเพราะจู่ๆ มีคนหนึ่งปรากฏตัว ถึงเปลี่ยนแผนใหม่
ดูออกแต่แรกว่าคนพวกนี้เจตนาไม่บริสุทธิ์ ลี่เฉินซีหน้าเย็นเยือก “รู้จักแล้วไง ไม่รู้จักแล้วไง ปล่อยเธอซะ เรื่องอื่น ฉันจะไม่เอาเรื่อง…”
“ปล่อยหรือ” ชายไว้หนวดเคราหัวเราะ ราวกับได้ยินเรื่องตลกชวนหัว
อีกนิดเดียวจะได้เงินในมือ มีเหตุผลอะไรจะไม่เอา
อยากให้พวกเขาปล่อยคน ฝันไปเถอะ!
“ปล่อยคนไม่ได้ ไม่อย่างนั้น นายลองดูสิจะแย่งไปจากพวกเราได้มั้ย” ชายไว้หนวดเคราพูด
มองเห็นคนรอบๆ ตั้งท่าเตรียมพร้อมแล้ว ท่าทางเหมือนเตรียมจัดชุดใหญ่ สูดลมหายใจลึก ลี่เฉินซียกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อสูท สายตาเย็นชามองพวกคนที่อยู่ตรงหน้า พูดน้ำเสียงเย็นชา “พูดกันดีๆ ไม่ชอบชอบใช้กำลังใช่มั้ย! ดี ดีมาก——“
เมื่อสิ้นคำพูดนั้น เขาก็โยนเสื้อสูททิ้ง รวดเร็วปานสายฟ้าฟาด เข้าไปหาคนที่ใกล้ที่สุดทันที เตะเข้าเต็มแรง ผู้ชายคนนั้นร้องโอยกระเด็นตกลงไปในทะเล
คนอื่นๆ แทบจะไม่เห็นว่าเขาลงมืออย่างไร ในพริบตา บรรยากาศตึงเครียด ชายไว้หนวดเคราที่แบกซูย้าว ก็โยนผู้หญิงที่แบกอยู่ลง หยิบปืนออกมาจากเอว
“ขืนขยับอีกล่ะก็ ข้าลั่นไกทันที!”
ปากกระบอกปืนส่องตรงไปที่ซูย้าวที่นอนไม่ได้สติบนพื้น ชายไว้หนวดเคราเดาไม่ถูกสถานะของชายหนุ่ม แต่รู้สึกได้ เขาแคร์ผู้หญิงคนนี้มาก
ไม่ผิดคาด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลี่เฉินซีหยุดชะงักทันที ยืนตัวแข็งทื่อ ไม่ขยับเขยื้อน
ชายไว้หนวดเคราจ่อปืนมาใกล้ๆ บีบบังคับ “ชูมือสองข้างสูงๆ คุกเข่าลงช้าๆ! เดี๋ยวนี้!”
ลี่เฉินซีเหลือบตามองหญิงสาวด้านหลัง ขมวดคิ้วจนใจ ได้แต่ทำตามคำสั่ง
คุกเข่าลงช้าๆ เข่ายังไม่ทันแตะพื้น หัวก็ถูกกระแทกเต็มแรง ชายไว้หนวดเครากระแทกปืนใส่หัวเขาสองครั้ง ข้างๆ ยังมีผู้ชายคนหนึ่งทุบที่ท้ายทอยเขา พริบตาเดียว ลี่เฉินซีรู้สึกว่าสมองว่างเปล่า ทุกอย่างมืดมิด ล้มลงกับพื้น
คนอื่นที่เหลือรีบโฉบเข้ามา ทั้งหมัดทั้งศอกใส่เขา ไร้ซึ่งความปราณี
โดยเฉพาะคนที่ตกทะเลเพิ่งปีนขึ้นมา ตัวเปียกโชก กับลี่เฉินซีที่สลบหมดสติ ซัดเต็มที่เพื่อระบายความแค้นเมื่อครู่
กระทั่งชายไว้หนวดเคราสั่ง “พอแล้ว!” คนอื่นถึงหยุดลงมือ
“เวลามีไม่มาก รีบโยนผู้หญิงลงเรือ!” ชายไว้หนวดเครากำชับ
สองคนนั้นทำตาม แบกซูย้าวขึ้นเรือ
อีกคนคอยจับตามองชายหนุ่มที่หน้าเปื้อนเลือด “แล้วไอ้ผู้ชายนี่ล่ะ จัดการยังไงดี”
“โยนทะเลให้ปลากินมั้ย!”
ชายไว้หนวดเคราคิด “เหมือนผู้หญิงคนนี้ โยนลงเรือ ไม่ช้าก็เร็วพวกมันก็ต้องตาย พวกเราจะได้ไม่ต้องออกแรงจัดการ!”
“ได้!”
พวกเขาลงมือว่องไว ไม่กี่นาที สองคนก็ถูกโยนลงเรือ มีคนขับเรือเร็ว พาเรือประมงลำนี้ออกทะเล เมื่อออกจากผืนน้ำตรงนี้ ค่อยปล่อยเรือประมงทิ้ง
ลูกน้องที่ส่งไปทิ้งเรือประมง ขับเรือเร็วพาเรือประมงออกไปไกลถึงสี่ชั่วโมง ออกจากเมืองนี้แล้ว ถึงค่อยโล่งใจกลับมา
ชายไว้หนวดเครารอจนลูกน้องกลับมา ถึงค่อยโทรไปหาผู้ว่าจ้าง
“ทุกอย่างตามที่สั่ง เรียบร้อยแล้ว!”
เมื่อได้ยินรายงานในโทรศัพท์ ซูหยวนที่อยู่ปลายสายริมฝีปากเชิดขึ้นนิดหนึ่ง เผยความยินดี “ไม่เลว ค่าตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ โอนเข้าบัญชีครึ่งหนึ่ง ที่เหลือ รอ 48 ชั่วโมงระเบิดทำงานแล้ว ค่อยโอนที่เหลือให้”
ชายไว้หนวดรับคำพอใจ แล้ววางสายไป
ซูหยวนก็วางสาย หยิบแก้วไวน์จากบนโต๊ะพออกพอใจ มองของเหลวแดงสดในแก้ว เคลื่อนไหวขึ้นลง ดั่งชีวิตคนเรา มีขึ้นมีลงเสมอ
ใครจะไปคิด ผ่านไปห้าปี ความแค้นตอนนั้นที่ซูย้าวทำให้แม่เธอติดคุก เธอจะแก้แค้นสำเร็จ
แค้นใหญ่หลวงต้องชำระ อารมณ์ดีที่หาได้ยาก ดื่มไปหลายแก้ว แก้มแดงเรื่อ เริ่มเมานิดหน่อย ก็ได้ยินเสียงกดกริ่ง ลุกขึ้นไปเปิดประตู
เห็นผู้ชายที่หน้าประตู รูปร่างมีเสน่ห์ของซูหยวนรีบปราดเข้าไปหา แนบชิดในอ้อมอกชายหนุ่ม ตาปรือแสดงความรักทางสายตา “หลิน มาเร็ว มาเป็นเพื่อนฉันดื่มเหล้าเถอะ!”
เจี่ยงหลิน ถูกเธอลากมา นั่งลงที่โซฟา
มองบนโต๊ะเห็นขวดไวน์เหลือไวน์ไม่มาก เจี่ยงหลินก็มองเธอ คิ้วขมวดนิดหนึ่ง แกะมือหญิงสาวออก ถามเรียบๆ “วันนี้คุณอารมณ์…ดีมากหรือ”
ซูหยวนนั่งบนตักเขา มือโอบรอบคอเขา กระซิบข้างหูชายหนุ่ม “แค่อารมณ์ดีหรือ ดีสุดๆ ต่างหาก!”
“เอ๊ะ” ดวงตาเจี่ยงหลิน เคร่งขรึม “เรื่องน่ายินดีอะไรหรือ ลองเล่าให้ผมฟังได้มั้ย”
ซูหยวนยังไม่เมาจนขาดสติ ต่อให้เมาก็เถอะ เธอไม่มีทางพูดเพ้อเจ้อหลังดื่มเหล้าแน่
เธอเพียงแต่โอบคอเขา ริมฝีปากแดงเย้ายวนลูบไล้ใบหน้าคมคายของเขา ลมหายใจของหญิงสาว แผ่วเบาอุ่นๆ กลิ่นทรงเสน่ห์ทำให้เลือดสูบฉีด เคลื่อนเข้าไปใกล้หูของเขา พึมพำเบาๆ “ไม่บอกคุณหรอกค่ะ!”
“ไม่บอกใช่มั้ย งั้นดูว่าผมจะใช้วิธีไหนทำให้คุณบอก!” เจี่ยงหลิน ขยับริมฝีปากร้าย แขนยาวเรียวช้อนตัวเธอ อุ้มขึ้น ก้าวยาวไปทางห้องนอน
ขณะที่อีกฟากหนึ่งของเมือง หานฉ่ายหลิงนั่งกระวนกระวายในห้องพักโรงแรม เมื่อเห็นกัวหลินกลับมา ก็รีบเดินเข้าไปหา “เจอตัวมั้ย เฉินซีอยู่ที่ไหน”
กัวหลินส่ายหน้า “วันนี้ประธานลี่ที่จริงไม่มีตารางงานอะไร K กรุ๊ปก็ไม่ได้ไปค่ะ และไม่ได้พาใครไปด้วย ดูเหมือนจะขับรถออกไป แต่ไปที่ไหน ก็ไม่ทราบค่ะ…”
“ป่านนี้แล้ว เขายังไม่รับสาย ข้อความก็ไม่ตอบกลับ หายไปไหนกันแน่…”
หานฉ่ายหลิงรู้สึกได้ว่าไม่ใช่เรื่องดี นึกอะไรขึ้นมาได้ รีบสั่งกัวหลิน “เธอไปที่โรงแรมริมทะเลตรวจดูหน่อย วันนี้เขาไปที่นั่นหรือเปล่า!”
กัวหลินเข้าใจ รีบพยักหน้า เดินออกไป
หานฉ่ายหลิงกัดฟันหงุดหงิด ได้แต่หวังว่าทั้งหมดนี้จะเป็นการคาดเดาของเธอเท่านั้น หวังว่าวันนี้เขาจะไม่ได้ไปที่โรงแรมริมทะเล และไม่เห็นซูย้าว…
เธอประมาทมากไปจริงๆ!
สองสามวันนี้ ลี่เฉินซีนอกจากคุยเรื่องงานที่ K กรุ๊ป เวลาที่เหลือก็อยู่กับเธอเกือบตลอด ไม่ได้พูดถึงซูย้าวเลย กระทั่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น เขาก็ไม่สนใจ
แต่วันนี้ ถ้าหากเขาไปหาเธอที่นั่นล่ะก็ ถ้าเกิดเขาเจอตอนที่ผู้หญิงคนนั้นถูกลักพาตัวไป นั่นจะ…
หานฉ่ายหลิงไม่กล้าคิดต่อ รีบหยิบมือถือโทรไปหาเบอร์หนึ่ง