เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 395
Run
คือสัญญาณที่ใช้เตือนหลินหวั่นหญิงในยามที่เกิดเรื่องหรือสถานการณ์วิกฤติ นานมากแล้ว เพิ่งจะได้ใช้สัญญาณนี้ นี่เป็นครั้งแรก
เธอจ้องตัวอักษรอังกฤษที่อยู่บนมือถือ พยายามขัดขืนต่อการแตกตื่น ดวงตาหด รีบหยิบ
ซิมมือถือออกมาทำลาย
แล้วนึกอะไรขึ้นได้ เร่งรีบหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไป
บ้านชุมชนกลางเมืองแห่งหนึ่ง ชั้นใต้ดินได้ถูกดัดแปลงกลายเป็นห้องทดลองทางเคมีไปตั้งนานแล้ว คนมากมายที่สวมชุดฆ่าเชื้อสีขาวเดินเข้าๆออกๆยุ่งกันน่าดู
กระดาษที่ใช้แพ็คขนมหวานUUQตกเกลื่อนพื้น ถังขยะขนาดใหญ่แทบจะไม่พอใส่ มีคนเข็นออกไปทิ้งแล้วค่อยกลับมาใส่ต่อ
จู่ๆ หลินหวั่นหญิงก็มา ทำให้คนที่รับผิดชอบฝั่งนี้ตกใจมาก“คุณหลินครับ ไหนคุณบอกว่าไม่มีความจำเป็นคุณจะไม่มาที่นี่ไม่ใช่หรอครับ?หรือว่า……”
“ใช่ อีกฝั่งเกิดเรื่องแล้ว!พวกนายก็ไปเก็บตัวก่อนพักหนึ่ง!”ระหว่างที่หลินหวั่นหญิงพูดไปด้วยก็เปิดกระเป๋าแล้วหยิบเช็คออกมาหลายใบยื่นให้กับคนรับผิดชอบ“รับเงินไปซะ พวกนายแยกย้ายกันไปเที่ยวหรือพักผ่อนเมืองที่อยู่ละแวกนี้กันก่อน รอข่าวคราวแน่ชัดแล้ว ฉันค่อยแจ้งพวกนายอีกที!”
ทุกคนพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง คนที่รับผิดชอบรับเช็คไว้ เริ่มสั่งการให้ทุกคนหยุดงานในมือ เตรียมเปลี่ยนชุดแยกย้ายกันไป
ไม่ถึงยี่สิบนาที ชั้นใต้ดินที่กว้างใหญ่ก็ไม่เหลือแม้แต่เงาคน
หลินหวั่นหญิงยืนอยู่ที่นี่คนเดียว มองของทุกอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะ มีผงสีขาวที่สกัดออกมาใส่เป็นถุงๆ วางเรียงอยู่ในถาด เธอมองดูทั้งหมดนี้แล้วขมวดคิ้วขึ้น
หลายปีก่อนหน้านี้ เธอก็เริ่มร่วมมือกับคนพวกนี้ ทำธุรกิจผิดกฎหมายพวกนี้แล้ว ถึงจะผิดกฎหมาย ถึงเธอจะต้องกลัวอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ได้เงินมหาศาล
หลายปีมานี้ ธุรกิจยิ่งอยู่ยิ่งโต ทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย แต่ครั้งนี้ดันมาเกิดเรื่องเสียก่อน!
ยังมีออเดอร์ล็อตใหญ่ที่ลูกค้าสั่งจากเมืองนอก ถ้าไม่สามารถส่งของตามเวลากำหนดละก็ เธอควรจะทำยังไง?
น่าเจ็บใจจริงๆ!
หลินหวั่นหญิงกำมือไว้จนแน่นด้วยท่าทางโกรธ พยายามคิดทบทวนอยู่ในหัวต่างๆนานา คิดแล้วคิดอีก ก็ยังไม่แน่ใจจุดหนึ่ง นั่นก็คือยาPTM4ชนิดนี้สามารถรบกวนประสาทสัมผัสกลิ่นของสัตว์ แล้วตำรวจรู้ได้ยังไง?
และยังมีขนมหวานนี่อีก ถึงรสชาติจะแปลกไปหน่อย แต่ถ้าไม่ได้เพิ่มยาตัวอื่นเข้าไปผสมและสกัดออกมา มันก็แค่ขนมหวานชนิดหนึ่ง ต้องผ่านกระบวนการสกัดเฉพาะ ถึงจะกลายเป็นของที่มีราคาแพงและทำเงินได้
หรือว่าจะเป็นซูย้าว?
หลินหวั่นหญิงรีบส่ายหัว ไม่กล้าคิดต่อ ถ้าเป็นซูย้าวจริง นั้นเธอก็กำแผนการทั้งหมดของพวกเขาในมือแล้วนะสิ?
ไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้แน่!
เธอแค่คิดไปเอง!
หลินหวั่นหญิงสูดหายใจเข้าลึกๆทีหนึ่ง พยายามทำให้จิตใจตัวเองสงบ สงบสติอารมณ์อยู่นาน เธอถึงถือกระเป๋าเดินออกจากชั้นใต้ดิน ขับรถออกจากลานจอดรถ สีหน้ากลับมาเป็นภาพลักษณ์เจ้านายหญิงก่อนหน้านี้ที่ดูสูงส่งเย็นชาอีกครั้ง
ไม่รู้เลยว่า ในรถสีดำคันหนึ่งที่อยู่ในลานจอด ซูย้าวกำลังจับตาดูรถมาเซราติสีแดงที่เร่งขับออกไปอย่างรวดเร็ว เธอถอดแว่นออกอย่างช้าๆ
พิมพ์ข้อความบนมือถืออย่างรวดเร็วแล้วส่งออกไป
“ขอบคุณมากเลยนะ แมงมุม”
ที่แท้ สถานที่ลับของหลินหวั่นหญิงซ่อนอยู่นี้เองหรอ ไม่ลับพอเลยนะ รอบคอบมาตลอดก็ต้องมีพลาดบ้างละนะ!
บุคคลเบื้องหลังที่วางแผนและร่วมมือกับหลินหวั่นหญิงคือใคร ซูย้าวรู้มาตลอด
PTM4ยาชนิดนี้ ก็คือคนที่ชื่อแมงมุมช่วยสืบให้เธอ แมงมุมแค่เป็นชื่อปลอม หลายปีก่อน เธอใช้ฐานะแฮกเกอร์ท่องอยู่ในโลกไซเบอร์ ได้รู้จักกับคนคนนี้ คอยช่วยเธอมาตลอด
ที่ซูย้าวยังไม่ทำอะไรหลินหวั่นหญิง ก็เพื่ออยากจะจับตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของหล่อน สัญชาตญาณเธอบอก คนลึกลับที่อยู่เบื้องหลังคนนี้ เป็นไปได้ว่า อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดอยู่ทั้งหมดนี้
ทั้งหมดนี้เก็บไว้ก่อน ยังไม่ต้องคิด คราวนี้ หลินหวั่นหญิงคงเอาแต่สนใจเรื่องตัวเอง ไม่มีเวลามาหาเรื่องเธอได้แน่ ฉวยโอกาสนี้ ซูย้าวต้องจัดการปัญหากับทางบริษัทเจียงหย่วนให้ดีก่อน ที่กล้าใช้ลูกมาขู่เธอ เจียงจี้เซิงคนนี้ ร้ายกาจจริงๆ!
คืนวันนั้น หลินโม่ป่ายมาที่โรงแรม
“โม่ป่าย ช่วงนี้ ฝั่งคุณเป็นไงบ้าง?”เธอกับหลินโม่ป่ายไม่เจอกันมาหลายวัน เรื่องที่เกี่ยวกับกรุ๊ปหลิน เธอได้ยินมาไม่น้อย
แต่โดยรวมแล้วก็แค่มีใจแต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะว่ากรุ๊ปหลินเป็นบริษัทยาทางการแพทย์ ครั้งนี้ ตำแหน่งประธานยังไม่ได้เปลี่ยนคนขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ย่อมนำมาซึ่งความเป็นปรปักษ์ของบรรดาผู้ที่รอคอยตำแหน่งประธานมาอย่างยาวนาน มีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ หลินโม่ป่ายยุ่งมากจนไม่มีเวลาพัก
“ก็ไม่มีอะไรมาก!ก็แค่เรื่องจุกจิก ผมรับมือไหวน่ะ”เขามองหน้าเธอแล้วยิ้มอ่อนๆ
ซูย้าวชงกาแฟมาให้เขาแล้วมองหน้าผู้ชาย ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วัน เขาดูผอมไปเยอะมาก สถานการณ์ฝั่งกรุ๊ปหลินคงน่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน ทุกย่างก้าวหลังจากนี้ต่างเต็มไปด้วยอันตราย
“ผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับบริษัทเจียงหย่วนแล้วนะ ซูย้าว ตระกูลหลินกับตระกูลเจียงถือว่ามีความสัมพันธ์อยู่บ้าง ถ้าคุณอยากพบหน้าเจียงจี้เซิงละก็ ให้ผมไปเป็นเพื่อนเถอะนะ!”ระหว่างที่หลินโม่ป่ายพูด ดวงตาที่คมเข็มเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและกังวล
เธอรู้ว่าเขาเป็นห่วงเธอมาตลอด
เจียงจี้เซิงไม่ใช่คนดีอะไร นี่ขนาดยังไม่เคยเจอหน้ากัน ก็ผิดใจกันขนาดนี้แล้ว ถ้าได้เจอหน้าแล้วละก็ ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก
ถึงรู้ว่าข้างหน้าเป็นถ้ำเสือ แต่เธอถูกบีบมาถึงจุดนี้แล้ว นอกจากเดินไปข้างหน้าต่อ ก็ไม่มีทางเลือกอื่น?
“โม่ป่าย ฝั่งกรุ๊ปหลินคุณก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว เรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้ ไม่ต้องห่วงหรอกนะ!”เธอพูด
หลินโม่ป่ายขมวดคิ้วทีหนึ่ง ลุกขึ้นมาจับมือของเธอไว้“คุณยังเป็นเหมือนเดิมไม่มีผิดเลยนะ ชอบทำเป็นเข้มแข็งอยู่เสมอ ทำตามที่ผมบอกเถอะนะ!ตระกูลหลินกับตระกูลเจียงถือว่าพอรู้จักการมีความสัมพันธ์อยู่บ้าง อย่างน้อยเจียงจี้เซิงก็น่าจะเห็นแก่ความสัมพันธ์นี้อยู่บ้าง!”
ที่จริงแล้ว หลินโม่ป่ายก็ไม่กล้ามั่งใจขนาดนั้น
ตอนนั้น นายหญิงใหญ่ของตระกูลเจียง ก็คือคุณย่าของเจียงจี้เซิง ป่วยหนัก เป็นพ่อของหลินโม่ป่ายที่ทำการผ่าตัดรักษาให้เอง ก็ถือว่าได้ช่วยชีวิตของนายหญิงใหญ่เจียงไว้ หลังจากนั้นต่อมา การดำเนินการผ่าตัดต่างๆ ก็ล้วนแต่เป็นคนของตระกูลหลินทำการผ่าตัดให้ จนกระทั่งนายหญิงใหญ่เจียงสิ้นลมหายใจด้วยโรคชรา
ทั้งหมดนี้ ซูย้าวเองก็รู้
เพราะฉะนั้น เวลานี้เธอพูดขึ้นมา“นายหญิงใหญ่เจียงตายไปตั้งนานแล้ว และความสัมพันธ์นี้คงเจือจางไปนานแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ใครๆก็รู้ว่าเจียงจี้เซิงเป็นลูกนอกสมรส ถึงตอนนี้นายหญิงใหญ่นายหญิงใหญ่เจียงยังมีชีวิตอยู่ ความสัมพันธ์เขากับนายหญิงใหญ่เจียงก็คงไม่ดีแน่ เขาคงไม่ยอมถอยเพราะเรื่องนี้หรอก”
หลินโม่ป่ายถอนหายใจทีหนึ่ง“ก็คงอย่างนั้น แต่ผมไปสืบมาแล้วนะ คนในบริษัทของคุณ มีคนแอบอ้างชื่อของคุณ ปล่อยข่าวให้กับสื่อเรื่องการร่วมมือของจู้สือกับเจียงหย่วน ถึงได้มีเรื่องพวกนี้ตามมา”
“คนอย่างฉันสร้างศัตรูไว้เยอะ ชินกับมีคนตั้งใจใส่ร้ายหาเรื่องอะไรพวกนี้แล้ว!”เธอยิ้มบางๆ เจอปัญหาอะไรก็แก้ไปทีละเปลาะ ดูกันไปทีละก้าวเหอะ ในเมื่อตัวเองไม่ได้ทำเรื่องชั่ว แล้วทำไมต้องกลัวด้วย
แต่ความหมายของหลินโม่ป่ายคือ“จะสามารถหาคนที่เล่นตุกติกในเรื่องนี้มาได้มั้ย ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็จะอธิบายและชี้แจงได้ง่ายขึ้น”
“เสี่ยวจางสืบมาหลายวันแล้ว ไม่มีเบาะแสอะไรเลย คงจะหาไม่เจอแล้วล่ะ ช่างเถอะนะ!”ซูย้าวจัดการเด็กสองคนเสร็จ ตัวเองก็เปลี่ยนชุดแล้วออกมาจากห้องนอน หยิบกระเป๋าแล้วลงไปพร้อมหลินโม่ป่าย
ตารางงานของเจียงจี้เซิงในเมืองAมีถึงแค่คืนนี้ พรุ่งนี้เช้าเขาก็จะกลับไปเมืองBแล้ว ฉวยโอกาสที่เขายังอยู่นี่ รีบพบหน้าก่อน อาจจะดีก็ได้!
เวลานี้ ก็ได้แต่หวังอย่างเดียว
หลินโม่ป่ายเดินลงพร้อมเธอ ล็อบบี้ชั้นหนึ่ง ระหว่างที่กำลังเดินไปทางออกนั้น จู่ๆซูย้าวก็ตกใจ เห็นลี่เฉินซีเดินมาข้างหน้า และยังมีหานฉ่านหลิงเดินอยู่ข้างกายเขา
สภาพของลี่เฉินซีดูไม่ค่อยดี ใบหน้าหล่อดูเหนื่อยล้าเหมือนไม่สบาย แต่รูปร่างยังคงสง่าผ่าเผย ดูหล่อเป็นอาหารตาเหมือนเดิม
หานฉ่านหลิงควงแขนเขาไว้แล้วพูดขึ้นเบาๆ“ที่รักคะ ยังรู้สึกไม่สบายอยู่มั้ยคะ?ฉันว่า ให้ฉันโทรเรียกหมอมาดูหน่อยดีมั้ยคะ!”
คำว่า‘ที่รัก’เบาๆคำหนึ่ง กลับเข้าถึงหูของซูย้าว หัวใจที่สงบกลับสั่นไหวอย่างน่าประหลาด