เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 408
เวลาบ่ายสองกว่าๆ บาร์เล็กๆของต่างประเทศ ก็ไม่มีลูกค้ามากเท่าไหร่ ซูย้าวนั่งอยู่ที่ข้างบาร์ คอยจิบค็อกเทลที่มีชื่อว่าTweena
อากาศของที่นี่ค่อนข้างอบอุ่นกว่า เธอใส่แค่เสื้อเชิ้ตธรรมดาและกางเกงยีนส์ รองเท้าส้นเตี้ย แต่งตัวได้ค่อนข้างสบายๆ แม้แต่หน้าก็ไม่ได้แต่ง สามารถเรียกได้ว่าหน้าสดเลย
ถึงแม้เดินทางมาครั้งนี้เพื่อมาหาคน แต่สามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ก็นับว่ามาไม่เสียเที่ยวแล้ว
สิบกว่านาทีก่อน เธอได้รับข้อมูลจากพนักงานโรงแรม บอกว่าทุกเย็นเจียงจี้เซิงจะมานั่งดื่มเหล้าที่บาร์แห่งนี้ เพื่อจัดฉากว่า‘เจอกันโดยบังเอิญ’ เธอก็ได้แต่ใช้วิธีที่โง่ที่สุดนั่งรออยู่ที่นี่
เวลาผ่านไปทีละนิดๆ ในบาร์มีลูกค้าน้อยมาก อาจจะเพราะยังไม่ถึงช่วงกลางคืน ลูกค้าทยอยมากันไม่กี่คน แต่ก็ไม่ใช่เจียงจี้เซิงเลย
มองดูใกล้จะรอเก้ออยู่แล้ว ซูย้าวดื่มค็อกเทลไปแก้วแล้วแก้วเล่า รู้สึกแอลกอฮอล์เริ่มออกฤทธิ์แล้ว จึงจำใจต้องลุกก่อน หลังเช็คบิลเสร็จเธอได้ออกจากบาร์ไปก่อน
เดินเล่นชิวๆอยู่ข้างนอกไปพักหนึ่ง ที่นี่ใกล้เกาะนางฟ้า วิวสวยอยู่ข้างกาย เธอเองก็ได้ไปเดินเล่นที่เกาะเล็กๆพร้อมกับนักท่องเที่ยวชุดใหญ่
เดิมทีมีใจมาตามหาคน นาทีนี้ก็ถูกวิวทิวทัศน์ที่สวยงามดึงดูดอย่างไม่รู้ตัว ไม่นานเธอก็ได้หลอมรวมเข้าไปในนั้นเหมือนนักท่องเที่ยวคนหนึ่งอย่างสิ้นเชิง
ภูมิทัศน์เกาะที่สวยงามกับภูมิทัศน์วัฒนธรรม ทำให้คนเดินดูเพลินจนลืมกลับบ้าน ภูมิทัศน์ธรรมชาติที่ดีเป็นพิเศษ บวกกับสิ่งแวดล้อมนิเวศวิทยาทางทะเล ค่อยๆทำให้ที่นี่กลายเป็นดินแดนแห่งความฝัน
โปรแกรมใหญ่สุดของหนึ่งในนี้ ก็คงจะเป็นดำน้ำแล้ว
ได้ยินว่าจุดประสงค์หลักที่เจียงจี้เซิงมาที่นี่ก็เพื่อจะมาดำน้ำ
มองอุปกรณ์ดำน้ำที่ให้เช่าในฝั่งโน้น และสปีดโบ๊ทที่ครบครัน ซูย้าวก็อดอ่อนไหวไม่ได้
น้ำทะเลสีฟ้าคราม หาดทรายที่ขาวสะอาด ทำให้คนอดถอนหายใจไม่ได้ ไม่ใช่คำว่าสวยก็จะสามารถบรรยายได้
ซูย้าวได้เดินไปกับนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ได้เช่าสปีทโบ๊ทและอุปกรณ์ดำน้ำกับร้านค้าข้างๆ จากนั้นก็ได้ดำน้ำอยู่ตรงกลางของเกาะเล็กๆ ภายใต้การใช้ใจอบรมของอาจารย์
เธอจมปลักเข้าไปในวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจนถอนตัวไม่ขึ้น แต่ไม่รู้เลยว่า ที่ไกลๆมีคนคอยจับตาดูทุกฝีก้าวของเธอและตามติดเหมือนเงา
เจียงจี้เซิงปะปนเข้าไปอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยว แต่งตัวด้วยชุดกีฬาธรรมดา ใส่หมวกแก๊ปสีขาวและสะพายกระเป๋า ยากที่จะจินตนาการว่าเจ้านายที่มีทรัพย์สินเป็นแสนล้านจะถ่อมตนและชิวขนาดนี้
ซูย้าวไม่ได้สังเกตเห็นเขาเลย เพราะยังไงซะทั้งสองมีระยะทางที่ห่างกันไกลเกินไป
ผู้ชายยืนอยู่ที่ชายฝั่ง มองดูผู้หญิงนั่งเรือไปกับนักท่องเที่ยวหลายคน เขาคอยจับตาดูร่างเงานั้น พร้อมยิ้มมุมปากเล็กน้อย
ผู้หญิงที่สามารถทำให้ลี่เฉินซีหลงหัวปักหัวปำ เขาชักอยากจะเปิดหูเปิดตากับเสน่ห์ของผู้หญิงคนนี้แล้วล่ะสิ!
แต่เสียดาย ตอนนี้เขามีเวลาไม่ค่อยมากนัก ให้เธอตะลอนคนเดียวไปก่อนเถอะ!
ดำน้ำเป็นการออกกำลังที่ไม่เลวเลย ไม่เพียงสามารถชื่นชมกับภูมิทัศน์ของใต้ท้องทะเล มองดูฝูงปลาแหวกว่ายผ่านข้างกายตัวเอง โลกใต้ทะเลที่ค้นหาหมู่เกาะ ก็เป็นการออกกำลังกายที่ไม่เลวเลย
ตอนที่ซูย้าวกลับมาถึงโรงแรมก็เหนื่อยจนอ่อนระโหยโรยแรงแล้ว
แม้แต่ข้าวเย็นก็ไม่อยากจะทานแล้ว นอนคว่ำอยู่บนเตียง ง่วงเหงาหาวนอนด้วยความเหนื่อยล้า ตอนที่ใกล้จะหลับ จู่ๆถูกสายเรียกเข้าทำเอาสะดุ้งตื่น
ทางฝั่งของโม่หว่านหว่านก็เพิ่งไปรับเด็กทั้งสองเสร็จ เตรียมพาเด็กๆไปทานข้าว และถือโอกาสถามสถานการณ์ฝั่งเธอ
“ย้าวย้าว เธอกินข้าวยัง?” โม่หว่านหว่านถาม
ซูย้าวหาวทีหนึ่งแล้วพูดเปื่อยเรื่อย “ไม่ค่อยหิวอ่ะ ไม่อยากกินแล้ว……”
“ทำไมฟังน้ำเธอฟังดูเหนื่อยขนาดนี้? เธอเจอเจียงจี้เซิงแล้วเหรอ?”
ซูย้าวลุกขึ้นมา และอธิบายสถานการณ์หลังจากมาถึงที่นี่ และกิจกรรมดำน้ำของตอนบ่าย
โม่หว่านหว่านฟังจบแล้วฉุนขึ้นมาทันทีเลย “เธอไปที่นั่นคือไปเที่ยวเหรอ? เธอไปที่นั่นเพื่อไปหาเจียงจี้เซิงไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงเอาแต่เล่นขนาดนี้?”
แต่หยุดไปครู่หนึ่ง โม่หว่านหว่านก็อดไม่ได้อยู่ดี เธอได้ถามคำหนึ่งว่า “ดำน้ำสนุกหรือเปล่า? ทางโน้นสวยมากมั้ย?”
หัวใจที่หวั่นไหว ยังไงก็ควบคุมไม่อยู่
ซูย้าวเม้มปากยิ้ม ได้คุยกับเธอไปไม่กี่คำ ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเจอเจียงจี้เซิง แต่ยังไงก็ต้องหาโอกาสให้ได้ก่อน!
โม่หว่านหว่านกลับพูดว่า “หาโอกาส? ขึ้นไปชั้นบนและเคาะประตูโดยตรงเลย บอกเขาว่าเธอจะเจอหน้าเขา! ให้มันเด็ดขาดหน่อย!”
“……”
“รีบทำเสร็จรีบกลับมา! ต้องถึงขั้นนี้เลยเหรอ? เพื่อเรื่องแค่นี้ยืดเยื้อนานขนาดนี้ ไม่เหมือนสไตล์การทำงานของเธอเลยสักนิด!”
หยอกเล่นกับโม่หว่านหว่านไปหลายคำ ซูย้าวรู้สึกมือถือมีข้อความเข้า ถึงได้จบการสนทนา
พนักงานเป็นคนส่งมาอีกแล้ว บอกว่าเจียงจี้เซิงจะไปทานข้าวที่ร้านอาหารชั้นล่างทุกคืน
ซูย้าวสูดหายใจลึกๆ ถึงแม้เหนื่อยล้าไปทั้งตัว แต่เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตัวเองมาในครั้งนี้ เธอจะท้อถอยไม่ได้ พอคิดแบบนี้แล้วได้รีบไปล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าและลงไปชั้นล่างโดยเร็ว
นั่งอยู่ในร้านอาหาร มองดูกลุ่มคนรอบด้านที่ล้วนทานข้าวอยู่ เธอตัวคนเดียวก็ได้ยึดครองโต๊ะตัวหนึ่งแล้ว พอมองกลุ่มคนที่รออยู่หน้าร้านอาหาร มักจะมีความรู้สึกว่าไม่อาจทนดูอยู่นิ่งเฉยได้
เธอรอไปประมาณหนึ่งชั่วโมงและทานอะไรไปนิดหน่อยแล้ว เห็นเจียงจี้เซิงยังไม่ปรากฏตัวอีกเช่นเคย เธอก็ไม่สะดวกรอต่อไป ได้แต่เช็คบิลแล้วลุกไปจากโต๊ะ
รู้สึกเวลาทั้งวัน นอกจากดำน้ำแล้วล้วนใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์
ทำไมข้อความที่พนักงานคนนี้ส่งมาทุกครั้งถึงไม่แม่นยำเลย?
ซูย้าวกำมือถือไว้แล้วเดินไปยังทิศทางของโรงแรม จู่ๆด้านหลังมีเสียงของผู้หญิงก้องมา——
“ซูย้าว?”
เธออึ้ง พอหันมากลับประหลาดใจที่เห็นอานซินเออร์
ต่างเมืองต่างถิ่น อานซินเออร์แต่งกายสวยหรู ใส่แมสชิ้นหนาและแว่นตาสีดำ ผมยาวเงางามทิ้งตัวอย่างสวยงาม ข้างกายยังมีผู้ช่วยที่ชื่อว่าคาร์สคอยติดตามอยู่
“คุณอาน? คุณก็อยู่ที่นี่……” ซูย้าวพูดคำนี้จบ เหมือนในใจก็เห็นแสงสว่างทันที “หรือคุณอานมากับประธานเจียง?”
อานซินเออร์ฟังแล้วเดินมาใกล้เธอ พร้อมถอดแมสและแว่นออก “คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ ถึงแม้จี้เซิงก็อยู่ที่นี่ แต่ฉันไม่ได้มากับเขาค่ะ”
“……อ๋อ แบบนี้เหรอคะ!” ความหวังที่ผุดขึ้นมาจากในใจเธอไม่ได้ดับสนิท
อานซินเออร์ก็ฟังความหมายของเธอออก “ประธานซูมาที่นี่ คงไม่ใช่เพื่อมาหาจี้เซิงอย่างเดียวมั้งคะ?”
ซูย้าวซื่อสัตย์มาก ได้พยักหน้าโดยตรง “ใช่ค่ะ ฉันมีความคิดนี้จริง แต่นี่ก็สองวันนี้ยังไม่เห็นประธานเจียงเลยค่ะ”
“ฉันรู้เขาพักอยู่ที่ไหนค่ะ พักอยู่ที่ชั้นบนพอดีเลย เอาอย่างนี้! ฉันพาคุณขึ้นไป เราไปเจอเขาโดยตรงก็ได้แล้วนี่คะ!” จู่ๆอานซินเออร์ได้พูดขึ้นมา
ไม่รอให้ซูย้าวตอบ คาร์สที่อยู่ข้างกายก็รีบพูดว่า “ซินเออร์ของฉัน เธอหยุดสร้างปัญหาเถอะ! เธอใช่ว่าจะไม่รู้สักหน่อย เรามาครั้งนี้ประธานเจียงก็โมโหมากพอแล้ว! ถ้าเธอยังสร้างปัญหาอีก ไปยั่วโมโหเขาจะทำยังไง!”
ซูย้าวฟังออกว่าคำพูดของคาร์สมันละเอียดอ่อน
อานซินเออร์กลับไม่แคร์เลยสักนิด “ไม่เป็นไรหรอก ทุกครั้งที่จี้เซิงโกรธ ฉันแค่ง้อหน่อยก็หายแล้ว เขาไม่โกรธฉันจริงๆหรอก!”
อานซินเออร์พูดจบก็ได้เดินมาควงแขนซูย้าว “ไปเถอะ! มีฉันอยู่ ไม่เป็นไรหรอก! ถึงแม้ฉันไม่สามารถรับประกันเรื่องที่คุณอยากทำสำเร็จว่าจี้เซิงจะต้องเห็นด้วยแน่นอน แต่อย่างน้อยฉันสามารถให้คุณได้เจอหน้าเขาค่ะ”
“เอ่อ แต่ว่าแบบนี้มันจะดีเหรอคะ? จะไม่มีผลกระทบกับคุณเหรอคะ?” ซูย้าวเดินไปด้วยและพูดไปด้วย
อานซินเออร์ยิ้ม “จะมีผลกระทบอะไร? สามารถเจอหน้าเขาบ่อยๆ สำหรับฉันแล้วยินดีอย่างยิ่งด้วยซ้ำ!”
ไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นมาได้ สรุปก็คืออานซินเออร์เปลี่ยนมาเป็นคนริเริ่มมาก เธอดึงซูย้าวไว้ ก็ไม่แคร์คาร์สที่คอยขัดขวางอยู่ข้างหลัง ได้เดินเข้าโรงแรมโดยตรง
นั่งลิฟท์มาตลอดทาง ไม่นานทั้งสองก็มาถึงชั้นบนสุด
คาร์สไม่กล้าแส่หาเรื่องเจียงจี้เซิง และกลัวจะก่อเรื่อง ย่อมไม่กล้าขึ้นมาด้านบนอยู่แล้ว
อานซินเออร์ดึงซูย้าวเดินอยู่ที่ริมทางเดิน ตรงริมทางเดินเงียบกริบ ไม่เจอใครเลยสักคน
ชั้นบนสุดเป็นห้องสูทหมด เป็นมาตรฐานของห้องดีลักซ์ หรูหราและประณีต แม้แต่พรมก็ยังแพงเวอร์
การบริการของที่นี่ก็สุดยอด ส่วนใหญ่ถ้าไม่เรียกจะไม่มารบกวน
หน้าห้องของห้องด้านในสุด อานซินเออร์พาเธอมายืนนิ่งอยู่ที่นี่ “ห้องนี้เลยค่ะ ฉันรู้รหัส!”
“……”
ซูย้าวรู้สึกบุกเข้าไปโดยพาลการแบบนี้ มันจะดีหรือเปล่า?
แต่ยังไม่รอให้เธอได้คิดอะไร แค่ไม่สังเกต อานซินเออร์ก็กดรหัสผ่านและผลักประตูออกแล้ว
ด้านในมืดสนิท สายตาพร่ามัว มองอะไรไม่ชัดเลย
อานซินเออร์ดึงเธอเข้ามาโดยตรง และยื่นมือหาสวิตช์ไฟที่ผนังไปมั่ว—