เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 413
ตอนกลางคืนของท้องทะเลนั้น อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ลมทะเลพัดแรง คลื่นทะเลรุนแรง อุณหภูมิลดฮวบ
บนเรือทั้งลำไม่มีอะไรที่จะสามารถใช้มาลดความหนาวเย็นได้เลย จึงทำให้ซูย้าวและอานซินเออร์ต้องหนาวจนตัวสั่น
ทั้งสองคนเบียดอยู่ด้วยกันในห้องเดินเรือที่ไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก จ้องมองดูเส้นทางเดินเรือที่แสดงอยู่บนหน้าจอ ในใจของอานซินเออร์ได้แต่อ้อนวอนอยู่ไม่ขาด ขอให้ขึ้นฝั่งเร็วๆ ด้วยเถอะ!
มีเพียงแต่แบบนี้ ถึงจะสามารถทำให้ได้รับความช่วยเหลือได้
ไม่งั้น เธอไม่กลัวว่าตัวเองจะโดนโจรดูถูกเหยียดหยาม แต่กลับจะโดนอากาศที่ไม่แน่นอนนี้ทำให้ตายไปซะก่อน!
จากที่ไกลๆ ลำแสงแสบตาแสงหนึ่งส่องมาแยงตาทั้งสองคนจนลืมตาไม่ขึ้น
ถึงแม้ว่าซูย้าวและอานซินเออร์จะอยู่ในห้องเดินเรือ แต่ก็ยังสามารถรู้สึกถึงลำแสงที่แรงกล้าจากด้านหน้าได้
“นั่นมันอะไรน่ะ? ในท้องทะเลยังมีแสงด้วยเหรอ?” อานซินเออร์ถามขึ้นอย่างแปลกใจ
ซูย้าวพูดขึ้น “น่าจะเป็นแสงจากประภาคาร พวกเราใกล้จะเข้าฝั่งแล้ว! วางใจเถอะ เดี๋ยวก็จะได้รับความช่วยเหลือแล้ว!”
อานซินเออร์รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก “ดีจังเลย!”
ทั้งสองคนรู้สึกดีใจไม่หยุด อานซินเออร์ยิ่งจับมือของซูย้าวไว้แน่น “หลังจากที่ผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว พวกเราก็ถือได้ว่าผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันแล้ว ซูย้าว ต่อไปคุณก็จะเป็นเพื่อนรักของฉันแล้วนะ!”
“อืม พวกเราก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่” ซูย้าวพูดขึ้นเรียบๆ แล้วก็ไม่ได้ดีใจมากเท่าไหร่ แต่ในใจกลับมักจะรู้สึกไม่สบายใจ เหมือนกับว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“ต่อไปถ้าคุณมีเรื่องอะไร ที่ต้องการให้ฉันช่วยเหลือ ก็บอกฉันได้เลย ฉันจะต้องช่วยคุณแน่ๆ!” อานซินเออร์ตบหน้าอกเล็กน้อย ท่าทางมีสัจจะแบบนั้นดูสง่างามมาก
เรือลำเล็กแล่นได้เร็วมาก หลังจากที่ผ่านลำแสงที่แยงตานั้นแล้ว แล่นไปอีกไม่นาน ก็สามารถมองเห็นเกาะเล็กๆ และฝั่งได้แล้ว
ตามองเห็นว่าจะได้เทียบท่าแล้ว
อานซินเออร์ก็อดไม่ได้ที่จะดีใจขึ้น “ดีจังเลย!”
เธอรีบร้อนผลักประตูออกไปจากห้องเดินเรือ แล้วก็โบกมือร้องขอความช่วยเหลือไปทางชายฝั่งไม่หยุด “ไฮ มีคนอยู่หรือเปล่า! มาช่วยพวกเราด้วย”
ซูย้าวตามอยู่ข้างหลังเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ขัดขวางการกระทำของเธอ แต่ว่าก็มองสำรวจทุกอย่างบนฝั่งอย่างระมัดระวัง ทางโน้นมีแสงไปที่สว่างไสวอยู่ และยังสามารถมองเห็นเงาคนเดินไปเดินมาไม่หยุดด้วย น่าจะเป็นพวกคนงานที่ขนย้ายสินค้าบนท่าเรือ
จากที่เรือลำเล็กค่อยๆ เทียบท่า และพวกคนงานเห็นพวกเธอเข้า ผู้คนมากมายก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือให้เรือจอดสนิทลงได้ จากนั้นก็พยุงซูย้าวและอานซินเออร์ลงจากเรือ
“พวกคุณเป็นใคร? ทำไมดึกขนาดนี้แล้วยังอยู่บนเรือได้?” มีคนถามขึ้น
อานซินเออร์และซูย้าวหนาวจนตัวสั่น แม้แต่พูดเสียงก็ยังสั่นไปด้วย “พวกเรา……พวกเราเจอเรื่องลำบากมา ช่วยพวกเราด้วยเถอะ!”
ที่นี่เป็นต่างประเทศ พวกคนงานก็เป็นคนต่างชาติ หลังจากที่ผ่านการสนทนากันด้วยภาษาอังกฤษแล้ว พวกคนงานพวกนี้ก็พอจะเข้าใจสถานการณ์แล้ว และมีคนเสนอความคิดเห็นขึ้นว่า “ให้คนพาพวกคุณไปสถานีตำรวจดีกว่า! ไปทางนั้น จะสามารถช่วยพาพวกคุณกลับประเทศได้……”
อานซินเออร์พยักหน้า “ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ!”
และวินาทีนั้น ก็มีผู้ชายคนหนึ่งก้าวออกมา “ผมมีรถ สามารถส่งพวกคุณไปได้พอดีเลย! สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากนี่แค่ยี่สิบกว่านาทีเท่านั้น เดี๋ยวระหว่างทางผมจะซื้อกาแฟให้พวกคุณสักสองแก้ว ดูพวกคุณหนาวกันซิ……”
ขณะที่ผู้ชายพูดไปนั้น ก็ถอดเสื้อนอกออกอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วยื่นให้กับอานซินเออร์
ผู้ชายอีกคนทางด้านนี้ก็ถอดเสื้อนอกออกแล้วก็ยื่นให้ซูย้าวเหมือนกัน
หลังจากที่ทั้งสองคนขอบคุณแล้ว ก็คลุมเสื้อนอกของผู้ชายเอาไว้ และได้รับความอบอุ่นคลายหนาวได้ชั่วคราว แล้วเดินตามผู้ชายใจดีออกไปจากท่าเรือ
ตอนระหว่างที่เดินไปที่รถนั้น ผู้ชายก็ได้ซื้อกาแฟมาสองแก้วจากเครื่องหยอดเหรียญอัตโนมัติในละแวกใกล้ๆ นี้แล้วยื่นให้กับทั้งสองคนจริงๆ
คนทั้งหลายเดินไปด้วยพูดคุยกันไปด้วย แล้วผู้ชายก็พูดขึ้นว่า “อากาศทางด้านนี้กับเกาะโคลนนั้นไม่เหมือนกัน อุณหภูมิของกลางวันกับกลางคืนนั้นต่างกันมากเลย”
“ก็ใช่นะซิ หนาวมากเลย!” อานซินเออร์พูดตอบกลับไป
ซูย้าวกลับอึ้งไปทันที เกาะโคลนเหรอ?
ผู้ชายคนนี้รู้ได้ยังไงว่าพวกเธอมาจากที่นั่น……
วินาทีต่อมา อานซินเออร์เองก็เหมือนกับว่าจะจับข้อผิดสังเกตได้แล้ว ฝีเท้าจึงหยุดลงทันที
จากที่ทั้งสองคนหยุดเดิน ผู้ชายคนนั้นก็หมุนตัวมาอย่างแปลกใจ แล้วมองพวกเธออย่างยิ้มแป้น “ทำไมไม่เดินแล้วล่ะ? รถของผมอยู่ข้างหน้านี่เอง เดี๋ยวผมไปส่งพวกคุณที่สถานีตำรวจ!”
สายตาของซูย้าวขยับเล็กน้อย แล้วยิ้มและพูดขึ้นว่า “พวกเราลองคิดกันดูแล้ว ในเมื่อคนร้ายก็ได้หนีไปแล้ว เรื่องเล็กแค่นี้ คงไม่ต้องรบกวนตำรวจหรอก! พวกเรามาคิดหาวิธีกลับประเทศกันเองก็พอแล้ว!”
อานซินเออร์เองก็พยักหน้ากันติดๆ “ใช่ ใช่! ขอบคุณกาแฟของคุณมาก!”
พูดแล้ว ทั้งสองคนก็ค่อยๆ ถอยหลังไป จ้องมองผู้ชายแล้วยิ้มแหยะๆ ขึ้น และอยากจะพยายามรักษาระยะห่างจากผู้ชายคนนั้นให้ได้มากที่สุด เพื่อหาโอกาสหลบหนี
แต่ผู้ชายคนนั้นกลับยิ้มอย่างเรียบเฉย ราวกับว่าไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลยยังไงอย่างงั้น “งั้นพวกคุณมีที่พักหรือยัง? หรือว่าให้ผมส่งพวกคุณไปที่โรงแรมละแวกนี้ดีกว่า!”
“คุณใจดีเกินไปแล้ว พวกเราไปกันเองก็พอแล้ว!” ซูย้าวพูดขึ้น
อานซินเออร์จับมือกับเธอไว้ ทั้งสองคนต่างก็รู้สึกถึงความผิดปกติแล้ว ความรู้สึกเป็นอันตรายอย่างหนึ่งในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน กำลังระเบิดตัวขึ้นในใจตอนนี้
“ทำไมจะต้องเกรงใจด้วยล่ะ? ดึกขนาดนี้แล้ว แล้วพวกคุณก็เป็นผู้หญิงกันทั้งสองคนด้วย ผมไปส่งก็เป็นทางผ่านด้วย! มาเถอะ!”
ผู้ชายคนนั้นพูดไปแล้ว ก็ก้าวเดินมาข้างหน้า
ขายาวๆ ของเขาก้าวใหญ่ๆ แค่สองสามก้าวก็เดินมาถึงตรงหน้าทั้งสองคนแล้ว ในใจของซูย้าวและอานซินเออร์ยิ่งรู้สึกไม่ดีขึ้นมา แล้วก็รีบร้อนถอยหลังไปไม่รู้กี่ก้าว
“พวกคุณสังเกตเห็นอะไรเข้าแล้วใช่ไหม?” ผู้ชายคนนั้นรู้สึกถึงความผิดปกติ
อานซินเออร์และซูย้าวมองสบตากันในวินาทีนี้ทีหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้สนใจจะอธิบายกับชายหนุ่ม ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกันว่า‘วิ่ง’จากนั้นก็หมุนตัวและใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดวิ่งไปทางริมชายหาด
คนงานที่ชายหาดเยอะแยะ จะต้องมีบางส่วนที่เป็นคนดี ขอแค่วิ่งไปถึงที่ที่คนเยอะ ก็จะต้องได้รับความช่วยเหลือแน่ๆ……
ทั้งสองคนคิดไปแบบนี้ แต่กลับลืมคิดไปถึงเรี่ยวแรงและฝีเท้าของผู้ชายที่อยู่ข้างหลัง แค่ไม่กี่นาที ก็โดนผู้ชายคนนั้นจับตัวได้แล้ว
ผู้ชายบีบบังคับพวกเธอมาถึงมุมที่คับแคบ แล้วก็ยิ้มเย็นอย่างชั่วร้ายออกมาให้ทั้งสองคน “พวกคุณมีความหมายมากกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก! ถึงกลับสามารถจัดการShawnได้ ไม่เลวเลยนี่!”
และก็เป็นเช่นนั้น
พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน!
“คุณเองก็เป็นลูกน้องของเจียงจี้เซิงเหรอ? เขาเป็นคนให้พวกคุณทำอย่างนี้ใช่ไหม?” อานซินเออร์ถามขึ้น
พยายามถ่วงเวลาให้มากที่สุด ดูซิว่าจะสามารถหาโอกาสหลบหนีได้หรือเปล่า
ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นว่า “พวกเราเป็นลูกน้องของใครนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ จะให้พวกคุณหนีไปตามใจชอบไม่ได้!”
พอพูดจบ ผู้ชายคนนั้นก็เดินขึ้นหน้า ฝ่ามือของเขานั้นมีแรงเยอะมาก มือหนึ่งจับซูย้าวเอาไว้ และอีกมือหนึ่งก็จับอานซินเออร์ไว้ แล้วก็ตะคอกอย่างข่มขวัญขึ้นว่า “ผมไม่ชอบทำร้ายผู้หญิง เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดพวกคุณอย่ามาตุกติกกับผมดีกว่า!”
ถึงแม้ว่าเขาจะพูดแบบนี้ แต่ซูย้าวและอานซินเออร์ก็ไม่สามารถที่จะเชื่อว่าเป็นจริงอย่างโง่ๆ แล้วยอมมอบตัวให้เขาจับไปได้?
ทั้งสองคนยังคงขัดขืนสุดชีวิต ผู้ชายกระชากผมของทั้งสองคน ในช่วงที่ฉุดกระชากกัน ซูย้าวรู้สึกแต่เพียงว่าหนังศีรษะนั้นเจ็บมาก แล้วก็พยายามอดทนกับความอัดอั้นแล้วอ้าปากกัดตรงแขนของชายหนุ่ม
“อ้า!”
ชายหนุ่มโดนกัดจนร้องเสียงดัง แล้วก็ปล่อยผมของทั้งสองคนออกอย่างอัตโนมัติ
ซูย้าวรีบใช้ช่วงเวลาว่างนี้ ลากตัวอานซินเออร์แล้วหมุนตัววิ่งหนี
วิ่งไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ที่ทางเลี้ยวมุมหนึ่ง อยู่ๆ ที่มุมมืดก็มีเงาคนหนึ่งโผล่ออกมา ทั้งซูย้าวและอานซินเออร์ต่างก็ไม่ทันได้ระวังตัว จึงโดนไม้กระบองที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าฟาดลงมาที่ท้ายทอย จากนั้นร่างกายก็อ่อน แล้วโซเซล้มลงกับพื้น
ผู้หญิงที่ท่าทางดูวัยรุ่นคนหนึ่งเดินออกมา ผมสีทองตาสีฟ้า รูปร่างผอมบาง จ้องมองซูย้าวและอานซินเออร์ที่นอนอยู่บนพื้น แล้วก็ถอนหายใจเฮ้อทีหนึ่ง
ไม่รอให้ผู้หญิงผมทองมีปฏิกิริยาอะไร ซูย้าวก็ตะเกียกตะกายพยายามจะลุกขึ้นมา แต่กลับรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ขาขึ้นมา พอหันไปมอง ก็เห็นเข็มฉีดยาอันหนึ่งกำลังแทงเข้าไปที่ขาของตัวเอง
ทางด้านอานซินเออร์ก็โดนเข็มฉีดยากำลังแทงอยู่ที่แขนเหมือนกัน
ต่อจากนั้นของเหลวเย็นๆ ก็ถูกฉีดเข้าไป ร่างกายของทั้งสองคนค่อยๆ รู้สึกชา แล้วสูญสิ้นความรู้สึกและหมดสติไปกับพื้น
ผู้หญิงผมทองถึงได้ลุกขึ้นมา แล้วมองไปที่ผู้ชายที่กำลังเดินมาทางด้านนี้ และยิ้มเย็นขึ้น “นายนี่ชะล่าใจเกินไปแล้ว!”
ใบหน้าของชายหนุ่มไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร เพียงแต่แค่เดินมา ใช้แขนยาวๆ ก็อุ้มตัวผู้หญิงทั้งสองคนขึ้นมา แล้วเอามาแบกไว้บนไหล่ แล้วเดินไปที่รถตู้ของตัวเอง
ผู้หญิงผมทองเดินตามมาอยู่ข้างหลัง แล้วจู้จี้ขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “ถ้าเกิดว่าเป็นเหมือนShawn ที่ทำพังอีกละก็ นายรู้ใช่ไหม ว่าเจ้านายจะต้องโกรธแน่! เราไม่ได้เงินมันแค่เรื่องเล็ก แต่อาจจะต้องแบกรับความรับผิดชอบด้วย นายระวังหน่อยนะ!”
ชายหนุ่มพยักหน้าให้หญิงสาว แล้วก็ขึ้นไปนั่งที่นั่งคนขับ
“จำไว้นะ เจ้านายแค่ต้องการให้ควบคุมการเคลื่อนไหวของพวกเธอ ส่วนอย่างอื่น นายอย่ามาทะลึ่งไปเรื่อยนะ!” ผู้หญิงผมทองตักเตือนขึ้นอีกครั้ง
ชายหนุ่มยิ้มอย่างขึ้นมาทีหนึ่ง “ฉันรู้แล้วนะ! ยัยผู้หญิงสองคนนี้เป็นผู้หญิงเอเชีย ฉันไม่สนใจผู้หญิงแบบนี้หรอก!”
ผู้หญิงผมทองหัวเราะขึ้นเล็กน้อย จ้องมองผู้ชายที่ขับรถจากไป แล้วโบกมือให้เขาเล็กน้อย
ในรถตู้นั้น ทั้งซูย้าวและอานซินเออร์สองคนกำลังนอนไม่ได้สติอยู่ในนั้น กุญแจมือที่ข้อมือโดนแกะออกไปแล้ว แล้วชายหนุ่มก็ได้เปลี่ยนอันใหม่ให้ทั้งสองคนอันหนึ่ง
ขับรถไปด้วยและเหล่มองผู้หญิงที่กำลังสลบอยู่ข้างหลังทีหนึ่ง แล้วก็เอาผ้าห่มที่อยู่บนที่นั่งข้างคนขับ โยนไปบนตัวของทั้งสองคน