เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 422
รอเวลาไม่ถึง10นาที ห้องเก่าเกินจะคาดคิดที่เงียบสงบ ซูย้าวนั่งอยู่บนพื้นที่เย็นยะเยือก มองผู้ชายร่างสูงที่อยู่ตรงหน้า แอบปาดเหงื่อให้ตัวเอง
ลี่เฉินซีจะไม่จ่ายเงินเรียกค่าไถ่จริงไหม?
ก็ใช่ เขาอยู่ในประเทศจีน อยู่ๆ ก็มีโทรศัพท์เข้า บอกให้เขาเอาเงินออกมาก้อนใหญ่ขนาดนั้น และยังไม่อธิบายรายละเอียดอะไรอีก คิดว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็คงไม่ทำอย่างนี้สินะ!
แต่เงินก้อนนี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับชีวิตเธอนะ!
ถึงแม้ซูย้าวจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าถ้าหลังจากที่ลี่เฉินซียอมจ่ายเงินเรียกค่าไถ่ ชายคนนั้นจะปล่อยเธอไปจริงๆ แต่อย่างน้อยที่สุด เธอมีโอกาสรอดชีวิตอีกครั้ง หรือ สามารถ…
ไม่รอให้ซูย้าวคิด ชายที่อยู่ด้านนี้กว่าขึ้นมากะทันหัน “คุณใช้ฉันมาทดลองอดีตสามี คิดว่าการจับตัวครั้งนี้ สำหรับคุณแล้วไม่น่ากลัวเลยสักนิด!”
“คุณอยากให้ฉันกลัวคุณ?” เธอถามกลับ
ชายหนุ่มมองตาเธอ เย็นมาก
ถึงแม้จะไม่พูดอะไร แต่ในคำพูด ได้บอกคำตอบมาแล้ว
ซูย้าวยิ้มนิดๆ และพูดอย่างสงบว่า “ถ้ากลัวคุณ คุณจะปล่อยฉันไปไหม? หรือว่า แค่ฉันขอร้องคุณก็จะไม่ขายฉันหรือไง?”
เหตุผลเดียวกัน ถ้าคนอื่นคงอยากจะฆ่าเธอ มีดก็เตรียมไว้พร้อมแล้ว ให้เธอขอร้องอ้อนวอน เขาจะยอมปล่อยไปไม่ลงมือฆ่าเธอหรือไง?
ในเมื่อรู้ผลอยู่แล้ว คุณจะพยายามดิ้นรนต่อสู้และต่อต้านไปอีกครั้งเพื่ออะไร?
ในเมื่อยังผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนกัน
และยังกลับทำให้ใครบางคนได้ใจอีกด้วย ทำไมต้องทำอย่างนั้นล่ะ?
ชายหนุ่มจ้องมองซูย้าว ผู้หญิงคนนี้พิเศษจริงๆ คนที่ถูกจับเรียกค่าไถ่ในสิบล้านคนถึงจะเจอคนพิเศษอย่างนี้สักคน
“ถ้าฉันไม่ขายคุณ แต่ให้ความเจ็บปวดที่รวดเร็วกับคุณแทน ฆ่าคุณเสียละ?” จู่ๆ ชายหนุ่มก็พูดออกมา
“ฆ่าฉัน?” ซูย้าวทวนพูดสองคำนี้อีกครั้ง ดวงตาเฉยชากะพริบเล็กน้อย ก้มหน้าลงนิดหน่อย งั้นก็ฆ่าเลยสิ!”
เขายิ้มน้อยๆ คิดอย่างละเอียด ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจขึ้นมานิดหน่อย
หน้าตาสะสวย มีราศี ไม่ว่าจะด้านไหนๆ ก็ดีสุดๆ ทั้งนั้น ผู้หญิงอย่างนี้ ถ้าแค่โดนขายไปน่าเสียดายมากจริงๆ
ขณะที่เขากำลังคิด ก็มีเสียงดังมาจากด้านนอก
อยู่ๆ เกิดอะไรขึ้น
ชายหนุ่มเอื้อมมือด้านหนึ่งไปด้านหลังอย่างระมัดระวัง เดินไปที่ประตูอย่างเป็นธรรมชาติ ยืนอยู่ด้านข้างประตู แอบมองสำรวจสถานการณ์ด้านนอกผ่านทางช่องเล็กๆ
ด้านนอก ชายไว้หนวดมองนาฬิกาอย่างเบื่อหน่าย และมองหน้าจอโทรศัพท์ รอแจ้งเตือนเงินโอนเข้าบัญชี และอยู่ๆ ก็มีกล่องเล็กๆ ใบหนึ่งโยนเข้ามาใกล้เขา
ตุ๊ป เสียงดังหนักมาก
ชายไว้หนวดดีดตัวขึ้นทันทีทันใด และเอาปีนที่เอวออกมา ปลายกระบอกปืนหมุนไปทั่ว ในแววตาดำสนิทไม่เจอผู้คนเลย
เขาก้มลงด้วยความประหลาดใจ ค่อยเปิดกล่อง ด้วยท่าทางตื่นเต้นระมัดระวัง จนกระทั่งเห็นว่าในกล่องเต็มไปด้วยธนบัตร ทันใดนั้น หัวใจจึงปล่อยวางลงได้
ขณะนั้นเอง มีเสียงต่ำของผู้ชายดังอยู่ข้างหูเขา
“ให้เงินสดเลยตรงๆ ได้ไหม?”
ชายไว้หนวดลุกขึ้นพร้อมยกปืนขึ้น ก็เห็นลี่เฉินซีที่ก้าวขาเดินเข้ามาที่เขาทีละก้าว ผู้ชายที่สวมสูทและรองเท้าหนัง ทันใดนั้นบรรยากาศกลางคืนรอบๆ ค่อยละลาย แววตามองลึก บีบคนที่อยู่รอบๆ นี้
เมื่อเดินมาถึงด้านหน้า ลี่เฉินซีค่อยยกมือทั้งสองข้างขึ้น แสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่ได้พกพาอาวุธใดๆ มาเลย ชายไว้หนวดผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย
ชายไว้หนวดกวาดสายตามองเขา และมองกล่องใส่เงินที่อยู่บนพื้นอีกครั้ง “ของพวกนี้คุณพามาหมดเลยหรือไง?”
“ใช่ ฉันก็คือลี่เฉินซี เมื่อประมาณสองชั่วโมงก่อนอดีตภรรยาฉันโทรหาฉัน” เขาพูด
ชายไว้หนวดตะลึง รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่เมืองA คิดไม่ถึงว่าลี่เฉินซีจะมาถึงที่นี่ด้วยตัวเองภายในระยะเวลาสั้นอย่างนี้ ความเร็วนี้…
โกหกแน่ๆ!
ปลายกระบอกปืนสีดำสนิทยังคงเล็งไปที่เขา พูดอย่างตื่นตระหนก “แกมาที่นี่ได้ยังไง? แกแจ้งความหรือไง?”
“อย่าเข้าใจผิด ฉันก็แค่เอาเงินมาให้เท่านั้นเอง! ไม่มีคนอื่น นอกจากฉัน” ลี่เฉินซีพูดอธิบาย
ชายไว้หนวดไม่ค่อยเชื่อ ขณะที่ปืนยังจ่อไปที่เขา ก็มองไปรอบๆ ด้วย เพราะรอบๆ ห้องติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้หมดแล้ว เขากวาดสายตามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ หลังจากมั่นใจได้ว่ารอบๆ บ้านไม่มีใครอีก จึงสบายใจขึ้นมาเปลาะหนึ่ง
จากนั้น สำรวจทั่วร่างกายลี่เฉินซีหนึ่งรอบ และเล็งปืนไปที่เขาพลางหยิบกุญแจมือออกมา ให้เขาใส่กุญแจมือตัวเองไว้
ถึงแม้ลี่เฉินซีจะไม่ค่อยยินดี โดยเฉพาะชายไว้หนวดตรงหน้าที่เขาสามารถจัดการได้ภายใน2-3ครั้ง แต่เมื่อคิดว่าในห้องอาจจะมีการซุ่มโจมตีอีกก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ของซูย้าวเป็นยังไงก็ยังไม่แน่ชัด จึงไม่สามารถทำอะไรหุนหันพลันแล่นได้ชั่วคราว เขายอมทนเก็บความโกรธไว้ และทำตามที่บอกอย่างเชื่อฟัง
หลังจากนั้น ชายไว้หนวดจึงเคาะประตู
ชายหนุ่มเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้านผ่านช่องประตูอย่างชัดเจน จึงเปิดประตูห้องออกอย่างเป็นธรรมชาติ
ชายไว้หนวดเปิดกล่องหนังสีดำในเล็กให้ชายหนุ่มดูก่อน จากนั้นชายหนุ่มขยับตัวให้ลี่เฉินซีเข้ามาในห้อง
ซูย้าวเงยหน้าขึ้นมาเห็นเขา ตะลึงทันที
นี่ไม่ใช่ในประเทศจีน ลี่เฉินซีมาอยู่ที่นี่…ได้ยังไง?!
นอกเสียจากว่าเขาจะ….นานแล้ว
ลี่เฉินซียิ้มให้ออย่างสดใส “กลัวไหม? ไม่ต้องกลัวนะ ฉันมาแล้ว!”
เสียงต่ำของชายหนุ่ม ผ่านแสงแดดที่ไม่จำกัด รอยยิ้มบางๆ ที่อบอุ่นเหมือนแสงแดดในฤดูหนาว อบอุ่นจนหัวใจรู้สึกอบอุ่นตามไปด้วย
ทันใดนั้น ซูย้าวตกใจกับการกระทำหุนหันพลันแล่นของเขา
แต่ก็หลงใหลไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น และมีสติกลับมา และสังเกตชายหนุ่มและชายไว้หนวดตรงนั้นทันที ที่นี่ยังเป็นที่มั่นของพวกโจรลักพาตัว และเธอยังสังเกตเห็นกุญแจมือโลหะแวววาวบนข้อมือของลี่เฉินซีได้อย่างรวดเร็ว
“ดูๆ ไปแล้ว อดีตสามีของคุณดูให้ความสนใจอดีตภรรยาอย่างคุณมากกว่าที่ฉันคาดไว้อีกนะ!” ชายหนุ่มเยาะเย้ย และกรีดเงินสดในกล่องออกมายกมือหยิบขึ้นมาสองก้อนและโยนเงินไปตามการเคลื่อนไหว “แต่ว่าเงินแค่นี้ ดูเหมือนจะน้อยไปหน่อยสินะ?”
ลี่เฉินซีหันข้างตัว ยิ้มบางๆ “นี่คือเงินหนึ่งล้านดอลลาร์ ไม่พอกับตัวเลขที่เขาจ่ายไปจริง แต่ไม่เป็นไร แค่ขอเวลาให้ฉันหน่อย ได้เงินคืนแน่นอน ห้าล้านได้แน่นอน
ห้าล้าน?
ชายหนุ่มตะลึงน้อยๆ เขาจำได้ในโทรศัพท์ซูย้าวบอกว่าไม่น้อยกว่าสามล้านดอลลาร์ คิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะกล้า ‘คนโง่’ เพิ่มเงินขึ้นเป็นห้าล้านดอลลาร์
เงินมากขึ้น สำหรับโจรเรียกค่าไถ่แล้ว แน่นอนว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก
ชายหนุ่มชี้กระบอกปืนดันไปที่คางของลี่เฉินซี พูดด้วยเสียงโหดเหี้ยม “จะให้ฉันเชื่อแกได้ยังไง?”
“แกจะไม่เชื่อฉันก็ได้ แต่ไม่เชื่อเงินไม่ได้สิ?” ลี่เฉินซีมองไปที่เงินสดในกระเป๋าหนัง
ชายไว้หนวดตรวจสอบเงินในกระเป๋าด้วยตัวเองอีกครั้ง เป็นธนบัตรจริงทั้งหมด และก็ไม่เรียงเลขด้วย
ชายหนุ่มคิดพิจารณาสักพัก และค่อยๆ วางปืนลง “คุณต้องการเวลารวบรวมเงินอีกนานเท่าไหร่?”
“ให้เวลาฉันอีกสองชั่วโมง ถึงเวลานั้นจะมีคนมาส่งที่เหลือให้เอง” ลี่เฉินซีกล่าว
ประโยคเดียว ชายหนุ่มรีบคว้าปืนจ่อไปที่ศีรษะของลี่เฉินซีทันที กระแทกไปหลายครั้ง ตีจนกระทั่งเขาหัวแตกมีเลือดไหลออกมา
ซูย้าวมองภาพเหตุการณ์นี้ด้วยความตกใจ หัวใจบีบรัดแน่น มือสองข้างคว้าไว้แน่นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
“แกรู้จักที่นี่ได้ยังไง? และบอกใครไปแล้วบ้าง? แจ้งความหรือไม่?”
ร่างสูงใหญ่ของลี่เฉินซีทรุดลงเล็กน้อย ไม่นานก็ยืนได้สงบนิ่ง เลือดไหลเปื้อนบนใบหน้าที่หล่อเหล่า นัยน์ตาสีเข้มจ้องผ่านเลือดสีแดงสดไปที่โจรเรียกค่าไถ่ ริมฝีปากยิ้มเยาะ “ฉันแค่อยากจะช่วยผู้หญิงคนนี้ เงินแค่ไม่กี่ล้าน จะแจ้งตำรวจทำไม?”
หยุดไปสักพักและพูดต่อว่า “อีกอย่างอยู่ที่นี่ แจ้งตำรวจมีประโยชน์อะไร?”
พูดไปพูดมา ดูเหมือนมีเหตุผลมากอีกครั้ง
จริงๆ แล้วบริษัทลี่ซื่อมีอำนาจมากพอ ชื่อของลี่เฉินซีสามคำนี้ เป็นคู่ต่อสู้ที่คนในประเทศต่างไม่กล้ายั่วยุมานานแล้ว แต่ที่น่าตลกก็คือ ที่นี่ไม่ใช่ในประเทศจีนและไม่ใช่เมืองA
คนที่มีอำนาจในพื้นที่อื่นจะมีอิทธิพลเหนือคนในพื้นที่ได้ยังไง
ต่อให้แจ้งตำรวจ เกรงว่ารอให้ตำรวจตรวจสอบหาหลักฐานคงต้องใช้เวลาสักพัก ไม่มีทางเชื่อคำพูดทั้งหมดของเขาแน่นอน และยังต้องแจ้งไปยังสถานทูตอีก ความเกี่ยวข้องและการรายงานมากมาย
ลี่เฉินซีมองเขา และพูดขึ้นมากะทันหันอีกครั้งว่า “แกจะเชื่อหรือไม่เชื่อฉัน ยังไงฉันก็ให้เงินแกอยู่ดี แต่มีข้อแม้ ไม่ใช่แค่แกปล่อยผู้หญิงคนนั้นไป แกยังต้องช่วยทำเรื่องหนึ่งให้ฉัน”
กล้ามาเสนอเงื่อนไขกับตนเอง ชายหนุ่มราวกับได้ฟังเรื่องน่าขบขันยิ่งนัก หัวเราเย็นชาและมองไปที่ลี่เฉินซี แต่กลับฟังอีกฝ่ายพูดว่า “ฉันอยากให้แกจัดการคนคนหนึ่ง”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “ใคร?”
“หลินโม่ป่าย”