เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 436
การเดินทางสิบกว่าชั่วโมง ในที่สุดเครื่องบินก็ค่อยๆ ลดระดับลงแล้ว เห็นอาคารสิ่งปลูกสร้างด้านนอกลางๆ มานากัวเป็นเมืองหลวงของนิการากัว ทิวทัศน์สวยงาม น่าดึงดูดใจ
ซูย้าวกับอานซินเออร์กำลังมองวิวนอกหน้าต่างเครื่องบิน เบิกบานใจอย่างอธิบายไม่ถูก
แต่ลี่เฉินซีกลับนั่งอยู่ด้านหลังเธอสองคน ถอนหายใจไม่หยุดอย่างจำใจ
ในสิบกว่าชั่วโมงนี้ ความสนใจทั้งหมดของซูย้าวโฟกัสอยู่ที่อานซินเออร์ ทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะกันสนุกสนาน ไม่สนใจเลยว่าเขาก็อยู่ตรงนี้
ว่าแล้วเชียว การเดินทางที่หาได้ยากครั้งนี้ ไม่ควรจะพาใครมาด้วยเลย!
อานซินเออร์……
ไม่กลับประเทศไปทำหน้าที่ดาราของเธอให้ดีๆ ล่ะ ดันจะตามมาด้วยอีก ทำตัวเป็นก้างขวางคออย่างนี้ สนุกมากไหม?
ลี่เฉินซีเต็มไปด้วยความแค้นเคือง ตามทั้งสองคนออกมาจากสนามบิน แล้วยังทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเข็นกระเป๋าเดินทางอีกด้วย ความกลัดกลุ้มในใจ ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาได้
ด้านหน้า อานซินเออร์กับซูย้าวเดินเคียงข้างกัน ตอนที่ชำเลืองมาเห็นผู้ชายที่อยู่ด้านหลัง เห็นหน้าอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความไม่ยินดี อานซินเออร์จึงพูดขึ้นเบาๆ “ซูย้าว ฉันเป็นก้างขวางคอหรือเปล่าเนี่ย! รู้สึกอยู่ตลอดเลยว่าถ่วงเวลาของเธอกับคุณลี่……”
“ที่ไหนกันล่ะ อย่าคิดมาก ระหว่างฉันกับเขาบริสุทธิ์ ไม่มีอะไรเลย!” ซูย้าวอธิบาย
“แต่ว่า คนที่ช่างสังเกตก็มองออกกันทั้งนั้นแหละ เขาแคร์เธอมาก! โดยเฉพาะตอนที่เธอได้รับบาดเจ็บจนหมดสติ เขาอยู่ข้างเตียงตลอดทั้งวัน แม้แต่ร่างกายของตนเองเขายังไม่สนใจเลย ผู้ชายดีๆ ที่มีความรู้สึกลึกซึ้งอย่างนี้……”
อานซินเออร์ซาบซึ้งกับการกระทำทั้งหมดของลี่เฉินซี ถ้าชีวิตนี้ได้เจอคนที่ยอมทำเพื่อตนเองอย่างนี้ แล้วจะยังต้องการอะไรอีก?
ฟังแล้ว แต่ซูย้าวกลับยิ้มเยาะ “เขามาช่วยฉัน ก็เหมือนตอนนี้ที่พาฉันมาที่นี่ ฉันซึ้งใจมาก แต่อย่าเข้าใจผิดว่าเขาจะรู้สึกอะไรกับฉันเลย อันที่จริง เขาก็มีคู่หมั้นแล้ว”
ซูย้าวไม่เคยลืม ความจริงที่ลี่เฉินซีกับหานฉ่ายหลิงหมั้นกัน เขามีเจ้าของแล้ว ต่อให้จะปฏิบัติต่อตนเองยังไง ก็ไม่ควรคิดเพ้อเจ้อ
สิ่งที่ผู้หญิงกลัวที่สุด ก็คือคิดว่าคนอื่นจะมีความรู้สึกกับตนเอง แต่ความจริงกลับพบว่าคิดไปเองฝ่ายเดียว
ความเสียใจกับความผิดหวังอย่างนั้น แทบไม่ต่างจากอกหักเลย
ซูย้าวจึงไม่อยากให้ใจของตนเองเจ็บปวด!
ไม่เอาอีกแล้ว
อานซินเออร์คิดๆ แล้วก้มหน้า “ก็ใช่ เขามีคู่หมั้นแล้วจริงๆ ! น่าแปลก……”
เข้าไปที่โรงแรมก่อน พักผ่อนชั่วครู่
ก็ถือโอกาสในช่วงนี้ ลี่เฉินซีให้คนสืบหาตารางการเดินทางกับที่พักของเจียงจี้เซิงอย่างแน่ชัด จะได้สะดวกให้ผู้หญิงสองคนข้างกายไปพบเขา
หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ หลังจากเธอได้รู้สถานการณ์ เขาก็ครุ่นคิดอย่างละเอียด ทำไมถึงรู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้ เจียงจี้เซิงสามคำนี้ ถึงน่าสนใจมากกว่าตนเองอีกล่ะ?
อย่างน้อยที่สุด แค่พูดชื่อนี้ ก็ดึงดูดความสนใจทั้งหมดของซูย้าวได้ทันที แต่ตนเองในสายตาของเธอเหมือนกับ……
เขาถอนใจเบาๆ เดินเข้าไป พูดขึ้น “เจียงจี้เซิงไม่ได้อยู่ด้านนี้ ได้ยินว่าเขาไปภูเขาไฟเซอร์โร เนโกรแล้ว”
“ภูเขาไฟเซอร์โร เนโกร?” ซูย้าวตกใจเล็กน้อย นึกถึงการท่องเที่ยวครั้งนี้ของเจียงจี้เซิง ยังไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ลี่เฉินซีนั่งอยู่ด้านข้าง ไขว่ห้างอย่างสง่าผ่าเผย “ไถลสเก็ตบอร์ดลงมาจากภูเขาไฟ เจียงจี้เซิงคลั่งไคล้ในกีฬาเอ็กซ์ตรีมมาก ก็ต้องไปที่นั่นอยู่แล้ว”
“อย่างนี้เอง!” ซูย้าวดูเวลาเล็กน้อย “งั้นถ้าตอนนี้เราไปกันเลย ก็น่าจะได้เจอเขาสินะ?”
“ตอนนี้?” ลี่เฉินซีเพิ่งจะได้นั่งพัก เขาลุกขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ กดไหล่ของซูย้าวให้เธอนั่งลงไป “อย่าเพิ่งรีบร้อนขนาดนั้น วางใจเถอะ เจียงจี้เซิงหนีไม่ได้หรอก ต่อให้หนี ผมก็จะจับกลับมาให้คุณ! คุณพักผ่อนไปก่อน……”
“ฉันไม่เป็นไรนะ!”
แม้ปากเธอจะพูดเช่นนี้ แต่อันที่จริงคนที่เพิ่งผ่านความตายมา แล้วยังนอนอยู่บนเตียงตั้งหลายวัน สภาพร่างกาย เทียบกับคนปกติไม่ได้อยู่แล้ว
ลี่เฉินซีดึงมือของเธอ “มานี่ ให้ผมดูแผลคุณหน่อย น่าจะต้องเปลี่ยนยาได้แล้วมั้ง!”
พูดถึงเรื่องนี้ ซูย้าวจึงพูดขึ้น “ฉันรู้สึกคันๆ คุณช่วยดูให้ฉันหน่อย……”
“คัน?” ลี่เฉินซีตกใจ จับผมของเธอโดยสัญชาตญาณ ลูบๆ อย่างระมัดระวัง ค่อนข้างมันแล้ว จึงถามขึ้น “คุณไม่ได้สระผมมากี่วันแล้ว?”
“ตอนออกจากโรงพยาบาล คุณช่วยฉันสระไปครั้งเดียวไม่ใช่เหรอ?” เธอพูด
ลี่เฉินซีตะลึงงัน “ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้? 8-9 วันแล้ว? โอ้มายก๊อด! คุณจะเลี้ยงแมลงแล้วสินะ!”
“……”
เธอรีบผลักมือเขาออกไป “งั้นฉันจะเลี้ยงแมลงแล้ว คุณอย่ามาแตะฉัน!”
“ทำไม? คุณไม่ต้องพูดถึงเลี้ยงแมลงหรอก ต่อให้เลี้ยงหนอนผมก็ไม่รังเกียจ!” เขายิ้ม ขยับมือเธอออกไป ตรวจดูบาดแผลที่หลังศีรษะอย่างตั้งใจ
ฟื้นฟูได้ไม่เลว ตกสะเก็ดแล้ว ถึงได้รู้สึกคัน แต่ก็ตัดสาเหตุที่ต้องสระผมออกไปไม่ได้
แต่ซูย้าวกลับตกตะลึง สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ “คุณสิเลี้ยงหนอน! ขยะแขยงชะมัด!”
“ตอนนี้ที่น่าขยะแขยงไม่ใช่ผมนะ! คุณนั่นแหละ!” ลี่เฉินซีหัวเราะ ให้เธอนั่งนิ่งๆ อยู่บนโซฟาไม่ให้ขยับไปไหน แล้วพูดขึ้น “ไม่ต้องโวยวายแล้ว ผมจะช่วยคุณสระผมเอง!”
“คุณช่วยฉัน?”
ซูย้าวท่าทีเชื่องช้า นึกถึงตอนที่อยู่โรงพยาบาลด้วยจิตใต้สำนึก ก็เป็นเขาที่ช่วยตนเองเช็ดตัวกับสระผม……
ตอนนี้เธอฟื้นตัวแล้ว ทำไมถึงยังให้เขาทำเรื่องพวกนี้อีก จึงรีบส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก ฉันทำเองดีกว่า!”
“คุณทำเอง? คุณแน่ใจ?” เขาไม่ค่อยเชื่อ ถึงขั้นไม่วางใจ
แต่ซูย้าวกลับท่าทางแน่วแน่ “ฉันทำได้แน่นอน! ไม่ต้องพูดถึงสระผมหรอก ฉันโตขนาดนี้ แล้วยังเลี้ยงดูสั่งสอนเด็กตั้งกี่คน ฉันคงไม่ดูแลตัวเองให้แย่หรอกหน่า!”
เธอพูดเช่นนี้ แล้วก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที
เธอรองน้ำร้อนเอาไว้ เนื่องจากบนศีรษะยังมีบาดแผล โดนน้ำไม่ได้ทั้งหมด แล้วก็ไม่ได้ใส่หมวกคลุมผมจึงไม่สะดวกที่จะใช้ฝักบัวอาบน้ำ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงเอากะละมังรองน้ำร้อน แล้ววางไว้บนอ่างล้างมือ ค่อยๆ ทำความสะอาดผม
ลี่เฉินซีเดินเข้ามา ร่างสูงเอียงตัวพิงอยู่ที่ข้างประตู เอียงหัวมองเธอ
โดนสายตาอย่างนี้ของเขาจับจ้องอยู่นาน กลับทำให้ซูย้าวไม่รู้จะทำยังไง เธอจึงต้องพูดขึ้น “เอ่อ คุณจะเอาแต่จ้องฉันทำอะไร?”
“ไม่มีอะไร แค่ดูเฉยๆ คุณก็เข้าใจว่าเป็นการเชยชมอยู่ก็ได้” น้ำเสียงของเขาเบิกบาน บอกไม่ถูกว่ามีอะไรผิดปกติ
เธอเบ้ปากเย้ยหยัน อวดเก่งไม่ยอมแสดงความอ่อนแอ ก้มหัว ค่อยๆ ทำผมให้เปียกทีละนิดๆ เพราะบาดแผลอยู่ที่หลังศีรษะ เธอเองก็มองไม่เห็น จึงทำได้เพียงใช้มือคลำๆ ไม่ระวังเพียงเล็กน้อย น้ำก็ไหลไปโดนบาดแผลแล้ว……
แค่เห็นฉากนี้ ลี่เฉินซีก็ทนไม่ได้ ก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว
กดมือของเธอเอาไว้ ฝ่ามือเรียวยาวดึงผ้าขนหนูมากดที่บาดแผลของเธอ “ยังจะอวดเก่งอยู่อีก แผลที่หลังหัว คุณจะทำให้ติดเชื้อเพราะโดนน้ำ ใช่ไหม?”
“ฉัน……”
“คุณอะไรล่ะ? เห็นๆ อยู่ว่าตัวเองทำไม่ได้ ยังจะฝืนอีก คุณนี่ดื้อจริงๆ !”
ถึงปากของลี่เฉินซีจะตำหนิ แต่น้ำเสียงที่ออกมากลับอ่อนโยน ไม่ได้ตำหนิเลยสักนิด ในทางกลับกัน แค่ปิดฝาชักโครกลงมา ให้เธอนั่งลงไปที่ด้านบน ร่างสูงยืนอยู่ข้างกายเธอ หยิบฝักบัวออกมา หลังจากปรับน้ำให้อุ่นแล้ว จึงค่อยๆ ทำผมของเธอให้เปียก ค่อยๆ สระผม
นิ้วมือของฝ่ายชายอยู่ที่ปลายผมไม่สั้นไม่ยาวของเธอ ถูไปถูมา อย่างช้าๆ อีกมือหนึ่งกดบาดแผลบนหลังศีรษะของเธอเอาไว้ แน่ใจว่าจะไม่โดนน้ำแม้แต่นิดเดียว ไม่ส่งผลกระทบต่อบาดแผลอีก จึงสระผมได้อย่างไม่มีข้อผิดพลาด
ขั้นตอนที่ยาวนานไม่ง่ายเลยที่จะสำเร็จลงได้ บนหัวของซูย้าวพันด้วยผ้าขนหนูสะอาด เหมือนกับตุ๊กตาบาร์บี้ที่น่าเอ็นดู โดนลี่เฉินซีจัดการให้นั่งอยู่ด้านข้าง เขาทำความสะอาดอ่างอาบน้ำอย่างดี รองน้ำร้อนใส่ แล้วกวักมือเรียกเธอเข้ามา
เธอเดินเข้ามา เขากลับยืนอยู่ที่ด้านหน้า แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอ ปากก็พูดขึ้น “อาบน้ำเลยเถอะ! อาบเสร็จแล้ว จะได้ลงไปกินข้าว แล้วค่อยขึ้นมานอน……”
“อื้ม อาบน้ำก็ดี” ซูย้าวยิ้มอย่างเห็นด้วย
“อีกเดี๋ยวอยากกินอะไร? เมนูพิเศษของที่นี่? หรืออยากกินอาหารตะวันตก?” เขาถาม
แต่ซูย้าวกลับค่อยๆ จับมือของเขา ขัดจังหวะการแกะกระดุมของเขา “เรื่องอาบน้ำ ฉันทำคนเดียวก็ได้มั้ง?”
“จะได้ยังไง? คุณเป็นคนป่วยนะ! หมอบอกไว้แล้ว ต่อให้ออกจากโรงพยาบาล ก็ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ การดำเนินชีวิตควรให้คนอื่นจัดการให้ แน่นอนว่า ในฐานะที่เป็นอดีตสามี ผมยินยอมที่จะรับภาระ เพื่อเตรียมทุกอย่างให้คุณ……” เขาอธิบายอย่างสง่าผ่าเผย แต่รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์กลับทรยศเปิดเผยความจริงที่อยู่ในหัวออกมาทั้งหมด