เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 47
บทที่ 47 ผู้ชายของคุณเยอะมากเลยนะ
ซูย้าวไม่รู้ว่าทำไมลี่เฉินซีถึงกลับมาอย่างกะทันหัน แต่เจิ้งเอ๋อมีความสุขมาก ที่ได้เจอเขา
โบกมือน้อยๆ ไปมา เพื่อเรียกให้เขากอด
ใบหน้าที่เย็นชาของชายคนนั้น สาวเท้าเดินเข้าไป เขาใช้มือข้างเดียวลูบหัวของเจิ้งเอ๋อ เพื่อเป็นการปลอบประโลม
หลังจากนั้น ก็เดินตรงขึ้นไปชั้นบน และหยิบเอกสารจากห้องอ่านหนังสือออกมา หลังจากนั้นก็ลงมาที่ชั้นล่างอีกครั้ง สายตาที่เย็นชากวาดมองไปที่ผู้หญิงที่อุ้มเล่นกับลี่เจิ้งอยู่
อีกด้านหนึ่ง พี่เลี้ยงเด็กที่เพิ่งจะล้างผลไม้เสร็จ ก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่ไม่ค่อยดี จึงกล่าวทักทาย เพื่อตัดบทอย่างรวดเร็ว
ซูย้าวที่อยู่ด้านล่าง นั่งอยู่บนโซฟาเงียบๆ ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง ก็รู้สึกได้ว่าดวงตาของชายคนนั้นเย็นชา และหัวใจของเขาก็เย็นชาเช่นเดียวกัน
เจิ้งเอ๋อที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอ โบกมือน้อยๆ ไปทางลี่เฉินซี พูดเสียงอ้อแอ้ และกระพริบตาโตปริบๆ ทำให้ดูน่ารักมาก
เพื่อหลีกเลี่ยงการจ้องมองของเด็กน้อย ดวงตาของลี่เฉินซีก็จ้องไปที่ซูย้าว ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกถึงการยุบของโซฟาที่อยู่ข้างๆ เธอ เขานั่งลงใกล้ๆ และทันใดนั้น ความรู้สึกบีบคั้นก็ได้เกิดขึ้น
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ สายตาของเธอ ประสานสายตาเข้ากับสายตาของนกที่แสนเย็นชาของเขา หัวใจของซูย้าวบีบแน่นขึ้น และในวินาทีต่อมา ลี่เจิ้งก็ถูกเขาอุ้มไปไว้ในอ้อมแขน
ทันทีที่เด็กน้อยอยู่ในอ้อมแขนของลี่เฉินซี เขาก็เริ่มกระสับกระส่ายทันที มือน้อยๆ จับที่คอเสื้อ และเล่นกับเนคไท แถมยังหัวเราะคิกคักอีกด้วย
ลี่เฉินซีไม่ได้โกรธเลย เพียงแค่ลูบใบหน้าเล็กๆ ของเด็กน้อยเบาๆ แล้วดึงเนคไทจากเจิ้งเอ๋อออกเบาๆ หลังจากนั้นก็วางเขาไว้
หลังจากนั้น เมื่อรอให้เขาหันกลับมาอีกครั้ง ร่างกายก็เหมือนมีภูเขาที่กดทับตัวอยู่ ด้วยออร่าที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ที่หรี่ตามองมาทางเธอ ทั้งร่างเต็มไปด้วยลมหายใจของผู้ชายที่สุดยอดคนนี้
เธออดไม่ได้ที่กลืนน้ำลาย ขนตายาวสวยของเธอ สั่นระริก
ตั้งแต่เล็กจนโต ลี่เฉินซีให้ความรู้สึกกับคนอื่นๆ ทั้งเย็นชาและมืดมนมาโดยตลอด ราวกับว่ามีหนามสีดำอยู่รอบๆ ตัวเขา และถูกเขียนด้วยคำว่า อย่าไว้ใจใคร
ตั้งแต่ตอนที่เธอรู้จักเขา เธอหลงใหลในนิสัยใจคอของเขา และเธอก็รักเขาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ มาตลอดกว่าสิบปี
แต่เป็นเพียงรักข้างเดียวมาตลอด
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยกล้าที่จะแสดงออก
และต่อมา เธอได้กลายเป็นคนใบ้ และมันก็กลายเป็นความลับที่ไม่อาจบรรยายได้
มือนุ่มๆ ของเธอ ลูบไล้ที่หน้าอกของเขา อย่างเป็นธรรมชาติ และดวงตาที่ชัดเจนของเธอ เต็มไปด้วยความเสียใจ และทำอะไรไม่ถูก
ทันใดนั้น นิ้วเรียวยาวของเขา ก็บีบคางของเธอ บังคับให้เธอมองดูตัวเอง ดูอย่างละเอียด และสายตาของเขาก็กวาดไปทั่วใบหน้าของเธอ อย่างช้าๆ และเต็มไปด้วยความเย็นชา“ดูไม่ออกเลยว่า เพศตรงข้ามมากมายที่สนใจคุณ ก็ถือว่าเยอะใช้ได้นะ!”
ซูย้าวสะดุ้ง สีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
ที่มาสนใจในตัวเธอเหรอ?!
“ลืมสิ่งที่ผมเคยบอกคุณไปแล้วหรือยัง?”
เพราะทั้งสองอยู่ใกล้มาก เสียงทุ้มต่ำของเขา จึงดังก้องอยู่ในหูของเธอ ลมหายใจอุ่นๆ ยังคงคลออยู่ในจมูก แต่มันกลับเย็นยะเยือก
ซูย้าวไม่รู้ว่าจะตอบยังไง โทรศัพท์ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ และลี่เฉินซีก็ไม่ชอบให้เธอใช้ภาษามือ แล้วเธอควรจะทำยังไงดี?
อาจจะไม่ต้องมีข้อแก้ตัว!
ลี่เฉินซียังคงจ้องมองมาที่เธอ ร่างสูงของเขาไม่ขยับเขยื้อน แต่ใบหน้าที่เย็นชานั้น ยังคงมืดมน
เธอรู้ว่าเขาไม่มีความสุข
แต่ซูย้าวยังไม่รู้ว่าตัวเอง ท้ายที่สุดแล้วทำอะไรผิด!
ถ้าสิ่งที่ผิด เป็นเพราะหลินโม่ป่ายยังคงมีความรู้สึกดีต่อเธอ แล้วระหว่างเขากับหานฉ่ายหลิงมันคืออะไร!
ลี่เฉินซีเฝ้ารอดูเธอประมาณครึ่งนาทีได้ และเมื่อเขาพูดอีกครั้ง น้ำเสียงก็อ่อนลง“เขาให้ยาอะไรกับคุณ?”
ยา?
ดวงตาของซูย้าวเปล่งประกาย จากนั้นริมฝีปากของเธอก็ขยับเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง
ดวงตาที่เย็นชาของลี่เฉินซีกวาดไปทั่ว อย่างหมดความอดทน และดวงตาที่แวววาวของเธอ เต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“ภาษามือ!”
ในที่สุดเขาก็พูดออกมา แต่คำพูดนั้น กลับทำให้ซูย้าวตกใจ
เธอมองเขาอย่างช้าๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
สีหน้าของลี่เฉินซีเปลี่ยนเป็นสีเข้ม เขากัดฟันก่อนที่จะพูดว่า“ผมเข้าใจ!”
เขาเข้าใจ……
ซูย้าวยิ่งสับสนมากขึ้น แต่หัวใจของเธอ กลับสั่นไหวไม่หยุด เขาสามารถเข้าใจภาษามือได้ แต่ทำไมเขาถึงไม่อนุญาตให้เธอ ใช้ภาษามือต่อหน้าเขาล่ะ?
น่าจะเป็นเพราะเธอเป็นใบ้ เมื่อใช้ภาษามือแล้ว เขาจะรู้สึกเสียหน้า!
ซูย้าวหายใจเข้าลึกๆ ร่างบอบบางของเธอขยับ และดึงมือออกมา แล้วก็พูดว่า“ยาจีนสำหรับการรักษาคอ”
คำนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในหู การแสดงออกทางสีหน้าของลี่เฉินซี ก็อ่อนลงในทันที
“คอของคุณ เป็นอะไรเหรอ?”เขาถามกลับ
ซูย้าวใช้ภาษามือตอบกลับ“คอไม่ได้เป็นอะไรค่ะ มันเป็นแค่ความผิดพลาดในวัยเด็ก!ไม่สำคัญหรอกค่ะ”
พ่อของเธอเสียชีวิตอย่างกะทันหัน มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และเธอก็เป็นใบ้มานานกว่าสิบปี เธอไม่สามารถบอกความลับนี้ให้กับใครได้ ซึ่งความลับนี้ก็ถูกปิดตายมาตลอดหลายปี
ไม่ใช่แม่และลูกสาวอย่างซัวฉ่ายลี่ แต่เป็นแม่แท้ๆ ของตัวเธอเอง!
และตอนนี้การควบคุมทั้งหมดของบริษัทซูซื่อ อยู่ในมือของเซียวควนและซัวฉ่ายลี่ และเธอไม่สามารถใช้ชื่อเสียงของบริษัทซูซื่อมาเป็นเดิมพันได้
ดวงตาของลี่เฉินซีจมดิ่งลงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรอีกครั้ง เจิ้งเอ๋อก็มองไปที่ผลไม้บนโต๊ะกาแฟ แล้วเอื้อมมือน้อยๆ ออกไป——
เด็กตัวเล็กๆ แบบนี้ จะเอื้อมถึงได้ยังไง?
ด้วยความสงสัย ซูย้าวจึงเหลือบมองไปที่ลูก พร้อมสีหน้าที่ตื่นตระหนก และลี่เฉินซีที่ทันสังเกตเห็น ทันทีที่เขาหันกลับมา ร่างเล็กของเจิ้งเอ๋อก็กำลังจะตกจากโซฟา และก็ถูกฝ่ามือใหญ่ของเขาจับไว้ได้ทัน
หัวใจของเธอที่เหมือนถูกแขวนไว้ ก็ราวกลับถูกปล่อยให้ร่วงตกลงมาในทันที
เมื่อวางเจิ้งเอ๋อไว้ในอ้อมแขนของเธอ ลี่เฉินซีก็หมดความตั้งใจที่จะถามคำถามต่อ ทันทีที่ร่างสูงลุกขึ้นออกจากโซฟา ก็ไม่พูดอะไรสักคำ เพียงแค่ทิ้งแฟ้มเอกสารไว้ตรงนั้น
ซูย้าวกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนของเธอ และถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ แต่เจิ้งเอ๋อที่ไม่ได้เข้าใจ ความหดหู่ในใจของคนเป็นแม่ มือเล็กๆ แตะที่แก้มของเธอ และใบหน้าเล็กๆ ที่ไร้เดียงสา ก็ถูไปมาที่คอของเธอ
อีกด้านหนึ่งของเมือง วิลล่าบริษัทซูซื่อ
ห้องหนังสือชั้นบน เซียวควนฝังตัวอยู่ในห้องทำงาน ซัวฉ่ายลี่นำชาร้อนจากด้านนอกเข้ามา มองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วขมวดคิ้วขึ้น“ช่วงนี้ผลประกอบการของบริษัทยังไม่ดีขึ้นเหรอคะ?”
ด้วยเหตุนี้ เซียวควนจึงอดไม่ได้ที่ถอนหายใจ และเอนตัวพิงกับเก้าอี้
“โครงการCCM ครั้งก่อนที่คุณไปหาซูย้าว เธอพูดอะไรบ้างไหม?”ซัวฉ่ายลี่ถาม
เซียวควนถอนหายใจอีกครั้ง และพูดว่า“เธอจะพูดอะไรได้?ก็แค่คนใบ้คนหนึ่ง พูดอะไรก็ไม่ได้!”
“แต่เรื่องโครงการนี้ เธอตกลงว่าจะคุยกับเฉินซีไม่ใช่เหรอ?”
เซียวควนส่ายหัว นึกถึงเมื่อสองสามวันก่อนที่ไปบ้านใหญ่ตระกูลลี่ และเจอเข้ากับลี่เฉินซี เกือบที่จะเผชิญหน้ากัน และก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ
ซัวฉ่ายลี่สังเกตจากคำพูด และการแสดงออก ก็เห็นถึงความอารมณ์หดหู่ของสามีของเธอ อดไม่ได้ที่จะแสดงความโกรธและความไม่พอใจ“เด็กผู้หญิงราคาถูกคนนี้ กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา ตั้งแต่เด็กก็เป็นหมาป่าตาขาวมาตลอด!ถ้ารู้แบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะพูดอะไร ก็จะไม่ยอมปล่อยให้เธอ ไปแต่งงานกับตระกูลซูหรอก!”
“พอแล้ว!พูดตอนนี้ มันสมเหตุสมผลแล้วเหรอ?”เซียวควนรู้ดีว่า ถ้าหากไม่ใช่เพราะความตั้งใจของหญิงชราตระกูลซูที่จากไปแล้ว ได้มีการระบุว่า ให้ลี่เฉินซีต้องแต่งงานกับซูย้าว
ก็จะไม่มีการแต่งงานระหว่างทั้งสองคนในวันนี้!
“ไม่ใช่ว่าคุณยังไม่ได้คุยกับอานโล๋นังแพศยานั่น?”
อานโล๋เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของซูย้าว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซัวฉ่ายลี่กักขังเธอไว้อย่างลับๆ ไว้ที่ไหนสักแห่ง นี่เป็นไม้เด็ดเพียงอย่างเดียวของเธอ ที่จะสามารถควบคุมซูย้าวได้
เซียวควนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“ผมคุยแล้ว!แต่เธอก็ยังปฏิเสธที่จะช่วย!”
“ยัยตัวแสบคนนี้ ก็เหมือนกับแม่ของเธอ เป็นกระดูกที่ต่ำต้อย!มาดูกันว่า ฉันจะใช้เวลาในการจัดการเธอได้ยังไง!”
ซัวฉ่ายลี่พูดด้วยความโกรธ แต่เซียวควนกลับถอนหายใจ และได้แต่ขมวดคิ้ว
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทซูซื่อ หากไม่สามารถรับโครงการCCMมาได้ เกรงว่ามันจะอยู่ได้อีกไม่นาน
การสนทนาระหว่างสามีและภรรยาภายในห้อง ซูหยวนได้ยินมันอย่างชัดเจน ผู้ซึ่งกำลังเดินผ่าน ร่างของเธอที่ยืนอยู่ข้างๆ ประตูนั้น ตัวแข็งเล็กน้อย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม นิ้วมือของเธอที่จับราวเอาไว้ คล้ายกับว่าจะบีบคอของใครบางคน
เนื่องจากซูย้าวที่ไร้ความปราณี ก็อย่ามาตำหนิเธอว่า ไม่มีความยุติธรรม!
ต้องหาวิธี เพื่อที่จะเอาชนะซูย้าวให้ถึงที่สุด…