เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 487
บทที่487 เสน่ห์ของภรรยาเก่า
“ไม่มีสาเหตุุค่ะ”
ซูย้าวตอบอย่างเฉยชา น้ำเสียงเฉียบขาด
เธอเดานิสัยของลี่เฉินซีได้ตั้งนานแล้ว ว่าจะต้องสืบสาวราวเรื่องแน่นอน แต่ว่า จุดยืนของเธอในนาทีนี้ ก็ไม่สามารถอธิบายอย่างละเอียด
วิธีเดียวที่เหลือก็คือตัวเองจะต้องแน่วแน่หน่อย ขอแค่เธอไม่แสดงออก ถึงเขาสงสัยมันก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเด็กอายุห้าขวบ ลี่เฉินซีตัวโตขนาดนี้แล้ว ซูย้าวก็ต้องเลือกลูกชายอยู่แล้ว
ลี่เฉินซียืนอยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วสวยไว้ “ไม่มีสาเหตุุคุณจะกลับจู้สือกรุ๊ปอีกครั้งกะทันหัน? ไม่มีสาเหตุุคุณจะให้ผมร่วมงานกับจู้สือกรุ๊ป? ซูย้าว ผมไม่ได้รู้จักคุณแค่วันสองวันแล้วนะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ บอกผมมา!”
ซูย้าวคิดๆแล้ว ถ้าไม่ให้เหตุผลกับเขา ตามนิสัยของเขาแล้ว คงจะไม่ยอมเลิกราแน่นอน
“ถ้าจะให้พูดเหตุผลให้ได้ ก็ใช่ว่าไม่มี……”
เธอลากเสียงยาว เหมือนคิดหาเหตุผลได้ จึงรีบพูดว่า “คุณจะแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”
แววตาลุ่มลึกของลี่เฉินซีแหลมคม “เกี่ยวข้องด้วยเหรอ?”
“ก็แน่นอนอยู่แล้ว! คุณจะแต่งงานสร้างครอบครัวใหม่แล้ว ตอนนี้สถานการณ์ของลี่เจิ้งคืออย่างนี้ ฉันจะต้องคิดเผื่ออนาคตของตัวเองและลูกๆ ฉันกลับไปที่จู้สือกรุ๊ป สวัสดิการและค่าตอบแทนล้วนไม่เลวเลยทั้งนั้น ทำงานต่อไปดีๆ วันข้างหน้าพอออกจากบริษัทแล้ว ก็จะได้เงินชดเชยลาออกและเงินบำนาญ นอกเหนือจากนี้ ร่วมงานกับคุณ ฉันยังสามารถได้เงินก้อนโต ฉันอยากใช้เงินก้อนให้ชีวิตที่ดีกว่ากับลูกๆ”
ซูย้าวอธิบายเสร็จแล้ว ก็ได้มองไปที่เขาอย่างเย็นชา “ประธานลี่ คุณรู้สึกคำอธิบายของฉันโอเคมั้ยคะ?”
ลี่เฉนซีมองหน้าเธอ อดยกมุมปากขึ้นมาลางๆไม่ได้ เขารีบพยักหน้า “โอเค โอเคมากเลย”
เขาเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน มองร่างหนังสือสัญญาฉบับนั้น “ร่วมงานใช่มั้ย? ได้ ผมตอบตกลงคุณตอนนี้เลย!”
ระหว่างที่พูด เขาก็ได้หยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อของตัวเองลงไป ตัวหนังสือใหญ่ๆที่มีวาทศิลป์ เผยนิสัยคาสโนวาของเขา
ซูย้าวเคยคิดอยู่ว่าเขาจะยอมตอบตกลงร่วมงาน แต่คิดไม่ถึงว่าจะไวขนาดนี้
เขาเซ็นชื่อโดยตรง โดยที่ไม่คิดพิจารณาก่อนเลย
แต่ว่า นี่กลับได้แก้ไขปัญหายากของเธอไปปัญหาหนึ่ง ซูย้าวรู้สึกโล่งอกไปที จากนั้นได้ลุกขึ้นมาเก็บเอกสารที่เขาเซ็นชื่อให้เรียบร้อย “งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ ส่วนรายละเอียดเดี๋ยวฉันจะให้คนอื่นติดต่อบริษัทของคุณค่ะ”
พูดเรื่องพวกนี้เสร็จ ซูย้าวไม่ได้อยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว ก็ได้ไปจากบริษัทลี่ซื่อโดยตรง
เพราะตั้งแต่ต้นจนจบเธอไม่หันมามองเลย ดังนั้นก็เลยไม่มีทางรู้ว่า หลังหน้าต่างของห้องท่านประธานที่อยู่ชั้นบนสุดของตึกบริษัทลี่ซื่อ ลี่เฉินซียืนอยู่ที่นี่ สายตาจ้องมองอยู่ที่ร่างเงาของเธออยู่นานแสนนาน
แววตาที่ลุ่มลึกซับซ้อน ลึกซึ้งจนยากจะคาดเดา
ถือเอกสารที่เซ็นเรียบร้อยขึ้นรถ ซูย้าวพาผู้ช่วยกลับบริษัท เพิ่งเริ่มงานก็ได้เซ็นโปรเจ็คใหญ่ขนาดนี้ จะต้องดึงดูดความสนใจจากผู้คนไม่น้อยเลยอิจฉาริษยา มีทุกอย่าง
โดยเฉพาะหลินหวั่นหญิง
ตั้งแต่เธอกับโอวหยางเช่อกลับมาถึงเมืองA คิดหาวิธีร่วมงานกับบริษัทลี่ซื่อคือภารกิจของเธอมาโดยตลอด แต่จะเจอหน้าลี่เฉินซีสักครั้งก็ยังแทบเป็นไปไม่ได้เลย ยิ่งอย่าบอกว่าคุยเรื่องร่วมงานเลย
เธอมอบหมายเรื่องนี้ให้กับหานฉ่ายหลิง ดูเหมือนว่าก็ไม่เห็นผล แต่ไม่รู้เลย ว่าซูย้าวกลับคุยงานสำเร็จในพริบตาเดียวโดยไม่เปลืองแรงเลย
เสน่ห์ของภรรยาเก่านี่ไม่ธรรมดาจริงๆด้วย!
หลินหวั่นหญิงใจลุกเป็นไฟ พอฟังคำเสี้ยมของคนข้างกาย ความโกรธได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอมองซูย้าวด้วยสายตาดูถูก คำพูดที่พูดออกมาก็แปลกประหลาด “ซูย้าวนี่มีฝีมือจริงๆ สามีเก่าที่หย่ากันแล้วก็ยังสามารถหลอกใช้ได้อีก เพียงแต่ไม่รู้ความนิสัยที่ประธานซูชอบเอาความสัมพันธ์ส่วนตัวเข้ามาปะปนกับงาน เมื่อไหร่ถึงจะแก้ได้?”
ซูย้าวคำพูดที่เหน็บแนมบาดหูแล้วขมวดคิ้วแน่น เดิมทีก็ไม่อยากสนใจเธออยู่แล้ว ขณะนี้มือถือกลับดังขึ้นมากะทันหัน
เธอมองดูแวบหนึ่ง เป็นสายเรียกเข้าจากโรงเรียนอนุบาล จึงรับสายด้วยจิตใต้สำนึก
“คุณน้าครับ!”
ในสายมีเสียงเร่งรีบของเตียวเตียวดังก้องมา ความรู้สึกที่ตื่นตระหนก ไม่พูดก็สามารถรู้ได้
“เตียวเตียว? มีอะไรหรือเปล่า? หนูค่อยๆพูด”
“คุณน้าครับ ผมหาซีซีไม่เจอ! คุณครูก็หาเธอไม่เจอเหมือนกันครับ! น้ารีบมาเถอะครับ! รู้สึกว่าซีซี……จะหายตัวไปครับ!”
เตียวเตียวพูดจบ คุณครูก็รับโทรศัพท์มา “คุณซูคะ ทางเรายังตรวจสอบรายละเอียดอยู่ แต่ว่าหาตัวซีซีไม่เจอจริงๆค่ะ ถ้าเป็นไปได้ ตอนนี้คุณมาเที่ยวหนึ่งได้มั้ยคะ?”
“ได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย!” ซูย้าวพยายามไม่ให้ตนเองดูแตกตื่น พอวางสายปุ๊บก็ได้ลุกขึ้นจากไปทันที
หลินหวั่นหญิงยังอยากหาเรื่องอีก แต่นาทีที่ซูย้าวเดินผ่านเธอ ได้ทิ้งท้ายไว้อย่างเย็นชา “หลินหวั่นหญิง ตั้งแต่คุณดำรงตำแหน่งนี้ ถูกJockส่งมาที่เมืองA ก็น่าจะมีคนเคยบอกคุณแล้วว่าพยายามอย่าเป็นศัตรูกับฉัน!”
เสียงที่ทุ้มต่ำ น่ายำเกรงสุดๆ
หลินหวั่นหญิงฮื้ออย่างเย็นชา “ทำไม? แกอยากข่มขู่ฉัน?”
“ไม่ใช่ข่มขู่ ตอนนี้ฉันมีเรื่องเร่งด่วนต้องออกไป ทางที่ดีที่สุดคุณอยู่เฉยๆอย่าก่อกวน ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”
หลังจากได้ตักเตือนด้วยความหวังดี ซูย้าวไม่มีเวลามาเสียเวลากับเธอ ก็ได้ไปจากบริษัทอย่างเร่งรีบ
ตอนที่ขับรถมาถึงโรงเรียนอนุบาลก็ตอนเย็นแล้ว เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ล้วนถูกผู้ปกครองทยอยกันรับกลับบ้านแล้ว เหลือแค่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนไม่กี่คนที่มาค่อนข้างสาย มีคุณครูคอยรอพร้อมกับนักเรียน
เธอมาปุ๊บ ผู้อำนวยของโรงเรียนและคุณครูต่างก็วิ่งออกมา และเล่าสถานการณ์ให้เธอฟังคร่าวๆ เตียวเตียวก็ร้องไห้และกัดริมฝีปากล่างอย่างไม่หยุด ตอนที่เห็นเธอ ก็ได้กระโจนมาในอ้อมอกเธอ
“คุณน้า ผมไม่ดีเอง……”
ซูย้าวคอยกล่อมและปลอบโยนเด็ก “เรื่องนี้ไม่โทษหนูนะ จริงๆครับ!”
ตามที่คุณครูบอกตอนบ่ายเด็กทุกคนได้ทำกิจกรรมอิสระอยู่ที่สนามกีฬา ปกติซีซีเป็นคนที่มีนิสัยเก็บตัว แทบจะไม่เข้ากับเด็กคนอื่นๆเลย บวกกับเธอไม่พูดจา ง่ายมากที่จะถูกคนละเลย
ตอนที่ครูไปแจกไอศครีมให้กับเด็กๆ เตียวเตียวไปเอาไอศครีมให้ซีซี แต่พอเขากลับมาอีกที ซีซีก็หายตัวไปแล้ว
ในกล้องวงจรปิด เห็นแค่ซีซีวิ่งมาที่ประตูหลังของอนุบาล เพราะมีจุดบอดของกล้องวงจรปิด เลยไม่สามารถแน่ใจได้ว่าเด็กไปไหนกันแน่
ทั้งอนุบาลและถนนของละแวกนี้ก็หาไปหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่มีข่าวคราวเลย
ในขณะที่ทุกคนกำลังร้อนรนใจ และสอบถามว่าจะแจ้งตำรวจหรือเปล่า ทันใดนั้นมือถือของซูย้าวได้ดังขึ้น
ได้รับข้อความหนึ่งข้อความ หลังจากเปิดดูแล้วคือรูปถ่ายใบหนึ่ง
ซีซีนั่งอยู่บนรถคันหนึ่ง กำลังกินไอศครีมอยู่ ดูหน้าตาแล้วเหมือนไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย
ต่อมา ก็มีข้อความหนึ่งโผล่เข้ามาในสายตาเธอ “ลานจอดรถชั้นใต้ดินที่คุณพักอยู่ ฉันรอคุณอยู่ที่นี่”
มองข้อความในมือถือ หัวใจที่สับสนของซูย้าวเหมือนตกลงไปในเหวลึกอีก
“ตอนเย็นเพื่อนฉันเคยมาที่นี่ ตอนนี้ฉันไปหาเธอ ลองดูซิว่าเธอได้รับตัวเด็กไปหรือเปล่า เพราะฉะนั้นก่อนที่ฉันจะแจ้งข่าวให้พวกคุณทราบ เรื่องนี้อย่าเพิ่งแจ้งตำรวจ โอเคมั้ยคะ?” ซูย้าวพยายามปลอบโยนคุณครูและผู้อำนวยการโรงเรียนก่อน
ทุกคนต่างก็เห็นด้วย ก่อนไปซูย้าวได้ฝากฝังเตียวเตียวให้พวกเขาดูแล เธอในนาทีนี้ยุ่งจนหัวหมุน ไม่มีเวลาดูแลเด็กคนนี้แล้ว
ตลอดทางซูย้าวได้ซิ่งรถกลับมาถึงโรงแรม ลานจอดรถชั้นใต้ดิน ในรถที่จอดเรียงกันเป็นแถว รถปอร์เช่สีดำคันหนึ่ง ป้ายทะเบียนรถที่คุ้นเคยได้กระแทกเข้ามาในสายตาทันที เธอเดินไปหาอย่างไว
ตอนที่เธอยังอยู่ห่างรถยนต์ประมาณหนึ่งเมตร ประตูรถได้เปิดอัตโนมัติ เหมือนรอต้อนรับเธออยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว
ซูย้าวไม่ได้ขึ้นรถ แต่แค่จับรถไว้และก้มศีรษะลง มองผู้หญิงที่นั่งอยู่เบาะนั่งฝั่งคนขับแล้วพูดว่า “หานฉ่ายหลิง คุณจะทำอะไรกันแน่? ซีซีล่ะ?”
สายตามองดูในรถรอบหนึ่งก็ไม่เห็นซีซี ในรถนอกจากหานฉ่ายหลังแล้วไม่มีใครอยู่เลย
“จะอารมณ์ร้อนขนาดนั้นทำไม? ถ้าฉันอยากทำอะไรลูกสาวคุณจริงๆ ก็ไม่ส่งรูปไปให้คุณแล้ว!” หานฉ่ายหลิงยิ้มเบาๆและมองเธอด้วยหางตา “ขึ้นรถก่อนเถอะ! เราคุยกันหน่อย”
เก็บอารมณ์โกรธไว้ ซูย้าวขึ้นรถและโยนสัญญาที่ลี่เฉินซีเซ็นแล้วให้เธอ “สิ่งที่คุณต้องการ ฉันทำสำเร็จแล้ว คุณยังอยากคุยอะไรอีก?”
มองหนังสือสัญญาที่ซูย้าวโยนมาให้ หานฉ่ายหลิงเปิดมาดู มองดูลายเซ็นที่เซ็นลงไปในช่องแล้วอดหัวเราะเยาะไม่ได้
“เขายังแคร์คุณอยู่จริงๆด้วย……”
เธอพูดเกลี้ยกล่อมให้เขาฟังความคิดเห็นของตนเองอย่างมีความอดทนซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายครั้ง หวังแค่ว่าลี่เฉินซีจะสามารถตกลงร่วมงานกับจู้สือกรุ๊ป แค่เรื่องเซ็นชื่อง่ายๆแค่นี้เอง เขากลับใจจืดใจดำปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ซูย้าวใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน ก็ทำสำเร็จอย่างง่ายดาย
แตกต่างกันราวฟ้ากับดินจริงๆ!