เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 499
ฝ่ายหญิงนั้นเขินอาย ใบหน้าอิ่มเอมไปด้วยความรัก
คนเรา เมื่อใช้อารมณ์ความรักอย่างลึกซึ้ง สายตาจะแสดงออกทุกอย่างไว้ในนั้น สามารถมองออกได้ทั้งหมด
ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย
หานฉ่ายหลิงในตอนนี้ ก็เป็นแบบนั้น
ทั้งหมดของหัวใจเธอยกให้เขา เขาที่เธอรักมาตลอดหลายปี วาดฝันจะจับมือและใช้เวลาทั้งชีวิตกับเขา
แต่งงานกับเขา เป็นผู้หญิงของเขา มันคือความฝันที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตเธอ
และความฝันนี้ พรุ่งนี้ก็จะกลายเป็นจริงแล้ว
หานฉ่ายหลิงไม่เพียงแค่ซาบซึ้ง ทั้งยังกระตือรือร้น ถึงขนาดที่ใจเธอเวลานี้ก็ยังรู้สึกตื่นเต้น โชคดี และพูดไม่ออก
ไม่เหมือนกับท่าทางที่เธอแสดงออก จนถึงตอนนี้สีหน้าของลี่เฉินซียังคงสงบนิ่งและดูเย็นชา ดวงตาสีดำเยือกเย็น ดูน่าสะพรึงกลัวและไม่อบอุ่นเลยแม้แต่น้อย
เขาเพียงแค่มองใบหน้าค่อยๆ เข้ามาใกล้ตรงหน้าเขา เมื่อปากเธอเข้ามาใกล้ห่างจากปากเขาไม่ถึงเซน เขาก็ยกมือขึ้นหยุดเธอ
หานฉ่ายหลิงชะงักไป ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ “เฉินซี…”
“ไม่ต้องรีบ” เขาอ่อนลง มือเรียวยาวนั้นปัดหน้าของเธอออกไป ร่างขรึมเย็นชานั้น สายมองไปที่เธออย่างลึกซึ้ง
“มาคุยเรื่องอื่นกันก่อนดีกว่า”
หานฉ่ายหลิงงุนงงเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ร่างของทั้งสองยังอยู่ในท่าเดิมไม่เปลี่ยน เธอมองเขาพร้อมกะพริบตา
เขาคิดไตร่ตรองอยู่สักพัก เมื่อมองไปทางเธอก็ขมวดคิ้วออกมา “พวกเรารู้จักกันมานานขนาดนี้แล้ว เธอรู้สึกว่าฉันปฏิบัติต่อเธอดีไหม?”
คำถามนี้ หานฉ่ายหลิงไม่เคยคิดถึงมาก่อน พร้อมยิ้มออกมา “ดีอยู่แล้วสิ!”
เขาให้เงินเธอมากมายเพื่อสนับสนุนการก่อตั้งธุรกิจ หลังจากที่เธอคลอดลูกเมื่อห้าปีก่อน เขาก็ไม่ได้ทอดทิ้งเธอเลยสักนิด
แม้ว่าเรื่องคลอดลูกเธอจะปกปิดเป็นความลับ แต่ลี่เฉินซีฉลาดขนาดนี้ เธอรู้ ความสัมพันธ์ของเธอและชาร์ลีแม้จะยังปกปิดบังอยู่ แต่ก็เหมือนเปิดเผยไปแล้ว
แต่เขาไม่เคยพูดอะไรเลย
ท่าทียอมรับโดยนัย ก็เข้าใจได้ว่าเขายอมรับเธอ
ให้อภัยเธอ ดูแลเอาใส่ใจเธอ จนถึงขั้นยอมให้เธอ คงไม่มีใครคนไหนดีเท่านี้แล้ว
รวมถึงเพชรสีชมพูเม็ดใหญ่หายากที่สวมอยู่บนมือเธอนี้ ที่วันหนึ่งตอนเธอล้างมือไม่ทันได้ระวังทำตกน้ำไป เธอเสียใจอยู่นานมาก แต่เมื่อลี่เฉินซีรู้ข่าวเข้า วันต่อมา เขาก็ส่งวงที่ใหญ่กว่าเดิมและแพงกว่าเดิมมาให้เธอ
สายเปย์เอาใส่ใส่แบบนี้ ดูแลดีและไม่เห็นแก่ตัวแบบนี้ ถ้าไม่รัก แล้วจะเป็นอะไร?
ลี่เฉินซีพยักหน้าเบาๆ สายตานิ่ง “ถ้าอย่างนั้น ฉ่ายหลิง พวกเราต้องจริงใจกว่านี้ ถ้าเธอทำอะไร ปิดบังอะไรฉันอยู่ พูดออกมาซะตั้งแต่ตอนนี้ วางใจได้ ฉันจะยกโทษให้เธอ”
เสียงนั้นก้องอยู่ในหู ชั่วพริบตาเดียว หานฉ่ายหลิงก็ตัวแข็งทื่อ
เธอชะงักอยู่นาน แล้วค่อยๆคิดหาเหตุผล ครู่ใหญ่ๆ เธอกลับไปนั่งบนเก้าอี้ หลบสายตาชายที่อยู่ใกล้ตรงหน้าเธอ ลังเลใจไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากตอบออกไปอย่างไร
เรื่องที่ปิดบังเขานั้น ช่างมากมายเหลือเกินและเกินขอบเขตไปมาก
ถ้าต้องพูดเรื่องหนึ่ง ตามด้วยเรื่องหนึ่ง ไล่เลียงกันไปงั้นเหรอ?
เป็นไปไม่ได้หรอก!
มาถึงขึ้นนี้แล้ว ใกล้จะถึงวันที่มีความสุขที่สุด บริษัทลี่ซื่อก็ได้ประกาศข่าวงานแต่งออกไปแล้ว การ์ดเชิญก็ส่งไปถึงเพื่อนแล้ว พิธีแต่งงาน บริษัทลี่ซื่อยังไงก็ไม่มีทางยกเลิกอย่างเด็ดขาด
ถ้าเช่นนั้น เธอมีอะไรที่จะต้องกลัวอีก?
เธอเม้มปากอย่างไม่สะทกสะท้าน มองไปที่เขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “พูดอะไร? ทำไมฉันไม่ค่อยเข้าใจเลย? ปิดบังเธอ? เรื่องอะไรที่ฉันปิดบังเธอ?”
ลี่เฉินซีไม่พูดอะไรแล้ว
พริบตาเดียวใบหน้านั้นก็เคร่งขรึมยิ่งขึ้น แม้แต่ประกายในเงาตาก็หม่นลง ไม่สดใส เพียงแค่ใช้สายตาเย็นชาเมินเฉย จ้องนิ่งไปที่เธอราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
การเงียบไม่คุยกันเช่นนี้ ทุกเวลาทุกนาทีที่ผ่านไป สำหรับหานฉ่ายหลิงแล้วช่างทรมาน กำแพงที่ก่อขึ้นในใจของเธอราวกับว่าจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
เธอไม่อยากยืดเวลาออกไปอีกแล้ว พูดออกมาตรง “โอเค เฉินซี พวกเรากินข้าวกันเถอะ! ถ้าอาหารเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะ”
เธอพูด พร้อมกับรีบยื่นมือออกไปหยิบถ้วยซุป ลุกขึ้นตักซุปใส่ถ้วยให้เขา
ซุปเต็มถ้วยนั้น ถูกเธอส่งไปไว้ข้างๆ มือเขา แต่ก็ถูกเขาปัดทิ้งอย่างหยิ่งยโสและดุร้าย
ถ้วยชามเซรามิคนั้น ไม่สามารถรับแรงของเขาได้ มันตกพื้นเสียงดังพร้อมแตกเป็นเสี่ยงๆ
ซุปร้อนที่อยู่ในถ้วยนั้น สาดกระเด็นเต็มพื้น
หานฉ่านหลิงได้เพียงแต่ตื่นตกใจ ลุกขึ้นโดยพลัน
“ฉันจับไม่แน่นเอง ขอโทษ ที่ฉันยังมีเหลืออีกถ้วยให้เธอ…”
ไม่ปล่อยให้เธอทำอะไรให้อีก ลี่เฉินซีลุกขึ้นยืนอย่างทนไม่ไหว แล้วก็สะบัดมือเธอที่จับอยู่ออกไปอย่างไม่คาดคิด คนตัวเธอเซไปชนโต๊ะกินข้าว กระทบกับอุปกรณ์กินข้าวและเทียนที่ตั้งอยู่จนโคลงเคลง ทำให้เกิดเสียงกระทบกันเบาๆ เปลวไฟสั่นไหววูบวาบ ลวงโลก และน่ากลัว
ลี่เฉินซีปรายตามองลงไปที่เธอ ใบหน้าหล่อเยือกเย็นนั้นดูไร้เหตุผล “ไม่มีอะไรปิดบังฉันงั้นเหรอ? หานฉ่ายหลิง ตั้งแต่ตอนไหนกันที่เธอเปลี่ยนเป็นคนโกหกหลอกลวงแบบนี้!”
หานฉ่ายหลิงตื่นตระหนกและเริ่มว้าวุ่น เริ่มคิดรวบรวมหาวิธีการ แต่ก็ไม่สามารถหาคำพูดอะไรตอบกลับออกไปได้!
ราวกับว่าเสียความสามารถในการพูดไป เพียงแค่รู้สึกถึงความเยือกเย็นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เย็นเข้ากระดูกสันหลัง…
“โอกาส ฉันเคยให้เธอแล้ว แต่เธอเองไม่ต้องการ ถ้าอย่างนั้น อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน!” ลี่เฉินซีพูดด้วยน้ำเสียงไม่ปรานีราวกับผุดขึ้นมาจากนรก ทำให้บรรยากาศรอบตัวนั้นดูเยือกเย็นขึ้นมาทันที ทำให้เธอรู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที
ลี่เฉินซียืนอยู่ข้างๆ สายตาเยือกเย็นนั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “เธอวางยาลี่เจิ้ง จนทำให้เขาเกิดอุบัติเหตุที่โรงเรียน บาดเจ็บหนักจนสลบไปนานครึ่งปี แล้วเธอยังให้คนลักพาตัวซูย้าวไปนอกประเทศ แทบจะทำให้เธอเกือบตาย ไม่นานมานี้ยังลักพาตัวซีซีไปอีก เรื่องราวแต่ละเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่เธอทำหรอกเหรอ?”
ที่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นาน เป็นเพราะ’บุญคุณ’ของเจี่ยงเวินอี๋ที่บังคับให้ลี่เฉินซีและหานฉ่ายหลิงหมั้นหมายกัน มันทำให้เขาเกิดสงสัยขึ้นมา
ทำไมมันถึงบังเอิญขนาดนี้ เจี่ยงเวินอี๋เกือบจะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ หานฉ่ายหลิงก็เข้ามาช่วยชีวิตไว้ทันพอดี ห้องพักรักษาตัวของลี่เจิ้งก็เกิดไฟไหม้ ก็เป็นที่เข้าไปช่วยลี่เจิ้งที่หมดสติไม่ตื่นออกมาได้ทันเวลา
ลี่เฉินซีให้คนไปสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมทีหลัง ก็ได้ผลสรุปออกมา ดังนั้นเขาเลยใช้แผนซ้อนแผน ตกลงยอมรับหมั้นหมายกับเธอ ช่วยให้เธอสมหวังสักพัก เพียงแค่ต้องการดูผู้หญิงคนนี้ว่าจริงๆ แล้วเธอยังวางแผนจะหลอกลวงทำอะไรอีก
“เธอจัดฉากอุบัติเหตุรถยนต์นั้นขึ้นมา ทำเป็นหลอกว่าช่วยแม่ของฉัน หลังจากนั้นก็ร่วมมือกับเลขากัวหลินวางเพลิงห้องพักผู้ป่วย แล้วทำเป็นมาช่วยลี่เจิ้ง เพื่อที่จะทำให้แม่ฉันประทับใจเธอ และถือโอกาสนี้หมั้นกับฉัน”
ลี่เฉินซีมองเธอ คิ้วได้รูปที่วาดพอดีกับหางตาดูร้ายกาจนั้นที่ทำให้หานฉ่ายหลิงชอบที่สุดมาพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายนั้น แต่ทว่ารอยยิ้มแบบนี้ กลับทำให้เวลานี้เธอนั่งอยู่ไม่สุข หวาดกลัวจนก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ แววตาดูค่อยๆ แตกสลาย
“และตอนนี้ เธอยังใส่ร้ายป้ายสีซูย้าวอีก บังคับให้เธอมาหาฉันเพื่อตกลงร่วมมือระหว่างบริษัทลี่ซื่อและจู้สือกรุ๊ป แล้วก็ทำลายชื่อเสียงของจู้สือกรุ๊ป หลังจากนั้นก็ช่วยหลินหวั่นหญิงให้หลุดพ้นจากคดี เอาทุกอย่างใส่ความซูย้าว”
เขาพูดเน้นทีละคำด้วยเสียงชัดเจน ทุกคำที่พูดมาเหมือนมีดเย็นที่ใช้กรีดแทงเข้าไปในใจเธออย่างโหดเหี้ยม!
ลี่เฉินซีโน้มตัวลง ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความหม่นหมอง “ตลอดมานี้ ฉันคิดถึงความรักเก่าๆ ที่เคยมี อดทนกับเธอ แต่เธอยังมาทำแบบนี้อีกได้ยังไง? จะบอกว่าเธอคืองูพิษ ก็กลัวว่าจะคำนี้จะน้อยเกินไปด้วยซ้ำ!”
สีหน้าของหานฉ่ายหลิงซีดไม่มีเลือด ขาดซีดราวกับกระดาษ คอเกร็งแน่น ไม่อยากจะเชื่อเลยสักนิด ว่าทุกอย่างที่เธอทำ ในที่สุดเขาก็รู้หมดแล้ว…
เธอจินตนาการไม่ออกเลย จิตสำนึกส่วนน้อยนิดที่เหลืออยู่นั้นเก็บเอาไว้ในไหน พยายามหลุดพ้นทางการหลงทางนี้ เธอก้าวมาข้างหน้าด้วยตัวที่สั่นเทา “เฉิน เฉินซี ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด ฉัน…”
“ฉันอธิบายได้ จริงๆ นะ เธอเข้าใจผิดแล้ว!”
“เข้าใจผิดงั้นเหรอ?” ลี่เฉินซียกมือเชยคางเธอขึ้นมา รอยยิ้มเย็นชานั้นยิ้มออกมาราวกับคนเมา “ฉันหวังว่าฉันจะเข้าใจเธอผิดไปจริงๆ !”
ลี่เฉินซีเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกและมิตรภาพ แม้จะไม่รักกันแล้ว แต่เห็นแก่ความรักที่เคยมีให้กัน เขาจึงใจไม่แข็งพอที่จะลงมือกับผู้หญิงคนนี้
ดังนั้นมันจึงยืดเยื้อมาจนถึงตอนนี้
ผู้หญิงคนนี้ ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งกรงเล็บที่ดุร้ายของเธอก็มักจะยื่นมาทำร้ายซูย้าวกับลูกๆ อยู่ตลอด
เขาเสียใจจริงๆ ที่ตัวเองไม่กำจัดผู้หญิงคนนี้ออกไปให้เร็วกว่านี้ ถ้าเป็นเช่นนั้น เรื่องทุกอย่างในวันนี้คงไม่เกิดขึ้นมา