เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 535
ระยะทางจากวิลล่าถึงโรงพยาบาลใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เมื่อถึงโรงพยาบาล คณบดีกับคุณหมอท่านอื่นๆได้ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง
ซูย้าวถูกจัดให้อยู่ในห้องผู้ป่วยวีวีไอพีที่ดีที่สุดในโรงพยาบาล มีพยาบาลและพี่เลี้ยงประจำตัวคอยดูแล คุณหมอหลี่ในฐานะแพทย์ประจำสาขา ได้ทำการตรวจเช็กร่างกายของเธออย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความสะดวกในการรักษาในอนาคต
ทำการตรวจเช็กทุกประเภท ค่อนข้างจะยุ่งยาก แต่ลี่เฉินซีก็ติดตามอยู่ข้างกายตลอดกระบวนการ
ในที่สุดก็เสร็จสิ้นการตรวจเช็ก ซูย้าวกลับไปที่ห้องผู้ป่วย แค่ไม่กี่วินาที เขาก็มาอีก ในมือมีอาหารที่ให้คนสั่งมาเมื่อกี้นี้ กำลังร้อนๆ วางลงบนโต๊ะทีละอย่าง สีสันสดสวย น่าทานมาก
ชายหนุ่มจูงเธอมานั่งลง เอาตะเกียบถ้วยชาม วางลงในมือเธอ “น่าจะหิวแล้วล่ะ กินหน่อยเถอะ”
มือที่ถือตะเกียบของซูย้าวสั่นเล็กน้อย ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เอียงข้างมองไปทางเขา“คือ รอทานข้าวเสร็จแล้ว คุณก็กลับไปเถอะ ”
“ฉันพักอยู่ที่นี่คนเดียวได้ ไม่เป็นไร ยังมีพยาบาลและพี่เลี้ยงอยู่ แต่ทางบ้าน ลูกๆหลายคน คุณกลับไปดูแลก่อน”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ในใจซูย้าวมีความกังวลเล็กน้อย
สิ่งแรก เธอเป็นห่วงลี่เจิ้ง เมื่อกี้เพิ่งจะคลายความสัมพันธ์กับลูกคนนี้ไปเล็กน้อย ตอนนี้ตัวเองจู่ๆเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เด็กคนนี้จะคิดมากอีกครั้ง
อย่างที่สอง ปัญหาที่เธอกังวลที่สุด นั่นก็คือเตียวเตียว
ตอนที่ลี่เจิ้งหมดสติไม่รู้สึกตัว ในบ้านมีเพียงซีซีกับเตียวเตียว ชายคนหญิงคน แล้วอายุไล่เลี่ยกันด้วย แม้ว่าลี่เฉินซีจะปฏิเสธและไม่ชอบเตียวเตียว แต่เขาก็ดีกว่าเล็กน้อย
แต่ในตอนนี้ ลี่เจิ้งกลับมาแล้ว ลูกชายกับลูกสาวล้วนเป็นลูกในไส้ อันไหนสำคัญไม่สำคัญ ใครๆล้วนแบ่งได้อย่างชัดเจน
เธอกลัวจริงๆว่าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นในบ้านนี้อีก จะสร้างภาระทางจิตใจให้เตียวเตียว……….
ลี่เฉินซีมองดูเธอเงียบๆ ดวงตาคู่เล็กเต็มไปด้วยความลับ เขาเอื้อมมือไปโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด นิ้วมือเรียวยาวลูบไปที่แก้มเธอเบาๆ “ทางด้านเจิ้งเอ๋อคุณไม่ต้องห่วง ผมจะพาเขามาโรงพยาบาล มาพบเจอคุณบ่อยๆ เขาก็จะดีเอง”
หยุดไปครู่หนึ่ง เขาเชยคางน้อยๆแหลมๆของเธอขึ้น แล้วกล่าวว่า“สำหรับเตียวเตียว คุณก็วางใจได้ ผมยังไม่ได้เลอะเลือนขนาดนั้น ถึงแม้เด็กคนนี้จะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับผม แต่เขาก็เป็นเด็กคนหนึ่ง ผมจะไม่ทำให้เขาลำบากใจ ”
เมื่อพูดเช่นนี้ ก้อนหินหนักหน่วงในใจซูย้าวก็เบาลงบ้าง
เธอไม่เคยคิดว่า เรื่องที่ตัวเองกังวล ปรากฏว่าเขารู้ทั้งหมด……..
เขาปล่อยเธอ แล้วเริ่มทานข้าวกันสองคน รอจนกระทั่งทานข้าวเสร็จ ซูย้าวลุกไปเก็บถ้วยชาม จู่ๆลี่เฉินซีก็ก้าวเท้าใหญ่สองสามก้าวเข้าไป เอื้อมมือไป อุ้มเธอขึ้นมา
ในห้องผู้ป่วยที่ใหญ่โตและเงียบสงบ ความสนิทสนมใกล้ชิดอย่างกะทันหันของทั้งสองคน ทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยคลื่นความเร่าร้อน
หัวใจซูย้าวเต้นเร็วผิดปกติมาก อ้าปากค้างเบิกตากว้าง ชายหนุ่มก้มหน้ามองดูเธอ อุ้มเธอไปบนเตียงโดยตรง
“ผมง่วงแล้ว นอนกับผมสักพัก”
เธอถูกเขาวางลงบนเตียงแบบนั้น เตียงนอนในห้องผู้ป่วยออกแบบมาสำหรับคนเดียว ถึงแม้เตียงในห้องวีวีไอพีจะหรูหรา แต่ก็เทียบไม่ได้กับเตียงคู่ตัวใหญ่และกว้างในวิลล่า
เขาถอดเสื้อคลุมสูทออก คลายกระดุมเสื้อเชิ้ตสองสามเม็ด แล้วตะแคงนอนข้างๆเธอ เตียงทั้งเตียงยวบลง ทำให้เตียงดูแออัดและคับแคบเล็กน้อย
และในเวลานี้ ที่ด้านนอก ความมืดกำลังมาเยือน แสงนีออนนับไม่ถ้วนกำลังกะพริบ แสงไฟเป็นประกายระยิบระยับ เมื่อมองจากมุมมองของซูย้าวออกไป คืนที่มืดมิดเต็มไปด้วยแสงดาวระยิบระยับ มันเสริมให้คนข้างหลังเขาสะดุดตาขึ้น ทำให้โครงหน้าย้อนแสงของเขา ดูมีความกล้าหาญและมีสไตล์ หล่อเหลาราวเทพเจ้า
เขาลืมตาคู่สวยขึ้น มองดูเธออย่างแน่วแน่ ทันใดนั้นก็ลุกขึ้น ริมฝีปากเย็นบางประกบบนริมฝีปากของเธอเบาๆ ช้าๆ ไม่เอาแต่ใจ ไม่ใช้ความรุนแรง ร่างกายซูย้าวสั่นเล็กน้อย แล้วค่อยๆหลับตาลงอย่างผิดปกติ
ทั้งสองจูบกันในห้องเงียบสงัดนี้ บรรยากาศดีจนไม่น่าเชื่อ ความรู้สึกแบบนี้ ราวกับไม่เคยมีมาก่อน
เขาไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น เพียงแค่จูบเธอเบาๆ แล้วปล่อยไป
อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยเล็กน้อยแล้วจริงๆ
สองวันที่ผ่านมาอยู่ในวิลล่า ลี่เฉินซีไม่ได้พักผ่อนเลย อาการป่วยของซูย้าวเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ทางด้านลูกๆก็ยังต้องการเขาดูแล ยุ่งจนไม่อาจแยกร่าง เวลานี้ที่นอนลง ก็เป็นเพราะว่าง่วงแล้วจริงๆ
ผ่านไปเนิ่นนาน เมื่อซูย้าวลืมตาขึ้น พบว่าชายหนุ่มที่ตะแคงอยู่ข้างกายได้หลับไปแล้ว ขนตาดกดำหนาเป็นแพรราวรูปใบพัดโค้งสวยที่สุด เสียงลมหายใจเบาๆ คงที่ และก็ช้ามาก
เธอจ้องมองเขาอยู่เนิ่นนาน แล้วค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น ห่มผ้าให้เขา ตอนที่เตรียมจะลงจากเตียง ปรากฏว่าถูกมือที่อยู่ข้างหลังเอื้อมมาโอบเอวบางเธอไว้อีกครั้ง “นอนเป็นเพื่อนผม”
ชายหนุ่มไม่ได้ลืมตา เพียงแต่น้ำเสียงที่เย็นชานั้น เผยให้เห็นถึงความเอาแต่ใจเจ้ากี้เจ้าการอย่างไม่ต้องสงสัย
ซูย้าวกัดริมฝีปากล่าง ในที่สุดก็นอนกลับไปใหม่ ลี่เฉินซีเอื้อมมือกอดเธอจากด้านหลัง แล้วฝังศีรษะไปที่คอของเธอ สูดดมกลิ่นกายบนตัวเธออย่างละโมบ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เสียงแหบแห้งของเขาพึมพำเบาๆ“บนตัวคุณหอมอย่างนี้ตลอดเลย……”
ซูย้าวชะงักไปเล็กน้อย กัดริมฝีปากล่างเบาๆ ไม่พูดอะไร
ลมหายใจอุ่นๆของชายหนุ่มที่รดต้นคอเธอ กับเสียงเต้นของหัวใจของเขาประสานกันเป็นจังหวะ ราวกับกำลังมุดเข้าไปในหัวใจของเธอ ค่อยๆ ไปประสานเป็นหนึ่งเดียวกับเสียงเต้นของหัวใจเธอ
ซูย้าวก็หลับตาลง แล้วในหัวสมองก็ผุดภาพ ตอนที่พบเจอเขาครั้งแรกหลังจากที่กลับมาในประเทศจีนแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น เธอไม่อาจไม่ยอมรับว่า ลี่เฉินซีมีเสน่ห์มากจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นเมื่อห้าปีก่อน หรือตอนนี้
ทำให้เธอใจเต้นได้ตลอดเวลา
แต่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อห้าปีก่อน ก็เหมือนเป็นฝันร้าย และก็เป็นเงาติดตามเธออยู่ตลอดเวลา เธอไม่ใช่ใบ้น้อยๆที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อความรักในตอนนั้นคนนั้นอีกแล้ว ผ่านวัยกล้ารักกล้าเกลียดมาแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง สิ่งที่เธอมีมากกว่า ก็คือความกลัว
ไม่ว่าอย่างไร ทับซ้ำรอยเดิม คำเหล่านี้ พูดง่าย แต่ทำยาก โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นจริงๆ ไม่มีใครยอมรับได้
ขณะที่เธอกำลังหมกมุ่นครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ๆก็ได้ยินน้ำเสียงเบาๆจากชายหนุ่มด้านหลัง“คุณยังกลัวอะไรอยู่ เจิ้งเอ๋ออยากได้แม่ ซีซีก็ต้องการพ่อคนหนึ่ง ไม่ใช่หรือ ก็ถือว่าทำเพื่อลูก ให้โอกาสผมอีกครั้ง ไม่ได้หรือ”
มือที่จับขอบผ้าห่มของซูย้าวกระชับแน่นขึ้น
มือใหญ่ของลี่เฉินซีที่เอวของเธอรัดแน่นขึ้น วินาทีต่อมา หมุนตัวเธอ บังคับให้เธอหันมาทางตัวเอง ชายหนุ่มลืมตาที่งัวเงียขึ้น ประสานเข้ากับม่านตาที่ซับซ้อนของเธอ “หรือว่า คุณต้องการจะอยู่คนเดียวอย่างนี้ตลอดไปหรือ”
พูดจบ ไม่รอให้ซูย้าวพูดอะไร มือใหญ่ของเขาก็ปิดริมฝีปากของเธอไว้อย่างเผด็จการ“ขอเพียงผมยังมีชีวิตอยู่ ผมจะไม่ให้ชายอื่นเข้าใกล้คุณ ดังนั้นซูย้าว คุณตายใจได้แล้ว และก็ยอมรับเถอะว่า นอกจากผม ไม่มีใครเหมาะสมกับคุณมากกว่านี้แล้ว ”
มือใหญ่ทรงพลังของเขา พันธนาการเธอไว้ไม่ให้กระดุกกระดิก “และคุณก็หลบผมครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้คนจะอยู่ข้างกายผม หัวใจก็หลบไปอยู่ไกลๆ ไม่ใช่เพราะคุณมีใจให้กับผมอีกครั้งแล้วหรือ”
ซูย้าวมึนงง เวลานี้ นอกจากความเฉื่อยและเฉยชาแล้ว ไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบสนองอีก
เธอไม่อาจไม่ยอมรับว่า ทุกคำพูด ทุกประโยคของเขา ล้วนถูกต้อง
ซูย้าวมีใจให้เขาอีกครั้งแล้วจริงๆ แต่ว่า ยิ่งเป็นเช่นนี้ สามัญสำนึกของเธอ ก็ยิ่งต้องการจะหนี ต้องการจะหลบ
เธอมองดูเขาเงียบๆ ในที่สุดก็ก้มหน้า“มีใจหรือเปล่า กับเลือกคุณ มันคนละเรื่องกัน พูดรวมกันไม่ได้”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย“ทำไมถึงเป็นคนละเรื่อง”
“การมีใจให้มันเป็นเรื่องที่ทำกันได้ง่าย ฉันอาจจะมีใจให้คุณ และก็อาจจะมีใจให้กับคนข้างๆที่มาพูดสองสามคำ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ง่ายมาก ส่วนการเลือกคุณ มันเป็นการข้องเกี่ยวกับหลายๆอย่าง เฉินซี พวกเราไม่ใช่เด็กน้อยอีกแล้วนะ”
ซูย้าวถอนหายใจเบาๆ“เมื่อห้าปีก่อน คุณเป็นเพราะพินัยกรรมฉบับเดียวของคุณย่า เพื่อตำแหน่งที่ความมั่งคงของตัวเองในตระกูลลี่ จึงแต่งงานกับฉันโดยไม่เต็มใจ หลังจากแต่งงานไม่มีความรัก มีเพียงภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ และตอนนี้ไม่ใช่ตอนนั้น ไม่มีพินัยกรรมของคุณย่าแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องรักษาตำแหน่งในตระกูลลี่อีกแล้ว…….”
เธอยิ่งพูดยิ่งรู้สึกสับสน ทำได้เพียงรีบพูดให้จบ แล้วเปลี่ยนคำพูดว่า“อย่างไรก็ตาม ปัญหาระหว่างคุณกับฉัน มันยุ่งเหยิงเกินไป ไม่ใช่ว่าคำสองคำก็จะสามารถพูดได้ชัดเจน สรุปแล้ว ฉันไม่มีปัญญาเล่นด้วย”
ดวงตาคู่ดำของลี่เฉินซีมองดูเธอ ไม่พูดอะไร