เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 566
หลังจากที่ลี่เฉินซีออกไป ทั่วทั้งห้องรับรองก็เงียบสงัดขึ้นมาทันที เงียบถึงขนาดที่ว่าถ้ามีเข็มหล่นลงมาก็ต้องได้ยิน เงียบจนน่าแปลกใจ
แต่ในห้วงแห่งความเงียบนั้น ลู่ส้าวหลิงขมวดคิ้วพลางมองไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ “หว่านหว่าน คุณแน่ใจใช่ไหมว่าผู้หญิงที่อยู่ในจอคือ…”
ไม่ต้องรอให้เขาพูดจบ โม่หว่านหว่านก็พยักหน้ารับทันที “ฉันแน่ใจ นั่นต้องเป็นซูย้าวแน่ๆ!”
เธอรู้จักกับซูย้าวมาหลายปีแล้ว อย่าว่าแต่ว่าห่างกันสองปี หรือทรงผม ท่าทางจะเปลี่ยนไปเลย ต่อให้เปลี่ยนไปอีกสักกี่อย่าง เธอก็ยังจำได้อยู่ดี
ลู่ส้าวหลิงขมวดคิ้วแน่นอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก สายตากลับสังเกตไปเห็น ลู่จื่อซีที่กำลังเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง
ลู่จื่อซีดูงุนงงเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมทั่วทั้งห้องถึงมีบรรยากาศแบบนี้ แต่พอได้ยินบทสนทนาระหว่างพี่ชายกับพี่สะใภ้ เธอก็พอจะเดาได้อะไรบ้างนิดหน่อย
โม่หว่านหว่านก็สังเกตเห็นลู่จื่อซีแล้วเช่นกัน สีหน้าของเธอเลยดูสับสนเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเม้มริมฝีปากบางอย่างอึดอัดใจ พร้อมกับพูดขึ้นว่า “เสี่ยวซีขอโทษด้วยนะ ฉันรู้ว่าเธอกับเฉินซี…..แต่ซูย้าว…..”
ลู่จื่อซีเผยรอยยิ้มหวานให้กับเธอ พร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ “พี่สะใภ้ พี่ไม่ต้องพูดแบบนี้หรอก ถ้าเป็นซูย้าวจริงๆ ก็ดีน่ะสิ สองปีมานี้คุณลี่ดูลำบากมาก ถ้าพวกเขาสามีภรรยาได้กลับมาพร้อมหน้ากัน ก็ไม่ใช่ว่าดีแล้วเหรอคะ?”
โม่หว่านหว่านยิ้มขอบคุณเธออย่างจริงใจสำหรับความใจกว้างนี้ ก่อนจะเดินเข้ามาตบไหล่เธอเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องรับรองไป
ลู่ส้าวหลิงเดินตามออกไป พร้อมกับวานให้ยู่ฉือเห้าส่ง ลู่จื่อซีกลับบ้านด้วย
หลังจากที่เห็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ออกไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่จื่อซีก็ค่อยๆ จางลง มีเพียงความรู้สึกอ้างว้างที่พัดผ่านเข้ามาในแววตาเธอชั่วครู่เท่านั้น ก่อนจะที่มันผ่านเลยไป
……….
อีกด้านหนึ่งลี่เฉินซีขับรถอย่างรวดเร็วมาตลอดทาง หวางอี้ส่งข้อมูลที่หาเจอเข้ามาให้เขา คลิปวิดีโอนั้นเพิ่งจะถูกถ่ายในคืนนี้ แต่ด้วยเหตุผลอะไรนั้นก็ยังไม่ชัดเจน ซึ่งที่ค้นเจอก็มีเพียงสถานที่เท่านั้น
หลังจากที่ลี่เฉินซีขับมาถึงจุดหมาย เขาก็พบเข้ากับสถานีตำรวจ นัยน์ตาเขาหม่นแสงลงทันที
เขาจินตนาการสถานการณ์ที่จะได้พบเธออยู่นับครั้งไม่ถ้วน เพราะในใจลึกๆ แล้ว เขาเชื่ออยู่เสมอว่าเธอยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน
เมื่อสองปีก่อน ตอนที่ ชอลพุซยิงเธอที่หน้าอกไปสามนัด แต่ดูเหมือนทุกนัดจะหลีกเลี่ยงส่วนสำคัญของเธอทั้งหมด และที่น่าสงสัยไปกว่านั้นก็คือ เขาไปเอา ‘ศพ’ ของเธอไป
เพราะงั้นเขาถึงได้ออกตามหาเธอ ตามรอยเท้าของJock ค้นหาเกือบทุกซอกทุกมุมของโลก แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าวันหนึ่งเธอจะกลับมาอีกครั้ง ซ้ำยังกลับมาอยู่ที่เมืองเมืองนี้ แถมยังอยู่ที่สำนักงานตำรวจอีกด้วย!
ลี่เฉินซียกมือขึ้นลูบตรงหัวใจเบาๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินเข้าไป
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะดึกมากแล้ว แต่ภายในที่สำนักงานตำรวจยังดูวุ่นวายอยู่ ดูเหมือนมีคดีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนดูงานล้นมือวิ่งวุ่นกันไปหมด มิหนำซ้ำยังมีคนอีกหลายคนที่เพิ่งถูกจับกุมและถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเข้ามาด้วย
ลี่เฉินซียืนอยู่ตรงนั้น รอจนกระทั่งตำรวจสาวคนหนึ่งพอมีเวลาปลีกตัวออกมา จากนั้นเขาถึงได้เดินเข้าไปถามว่า “ขอโทษนะครับ ซูย้าวอยู่ที่นี่รึเปล่าครับ?”
ตำรวจสาวหยุดชะงักไปชั่วครู่ “คุณหาใครนะคะ?”
ลี่เฉินซีหยุดคิดเล็กน้อย เพราะถ้าจะพิจารณาดูแล้วซูย้าวคงไม่ได้ทำงานที่นี่อย่างแน่นอน แต่ถ้าจากเนื้อหาในคลิปเหมือนกับว่าเธอเพิ่งจะถูกจับกุมที่นี่ เขาลังเลไปเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า “ที่ถูกจับกุมเข้ามาเมื่อครู่นี้มีผู้หญิงคนไหนชื่อซูย้าวไหมครับ?”
ตำรวจสาวชะงักไปครู่หนึ่ง อาจเป็นเพราะเธอรู้สึกว่าชื่อนี้ดูไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไร แต่เธอก็ยังมีความอดทนเข้าไปค้นหาในคอมพิวเตอร์ตรงหน้าให้ จากนั้นจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างเคร่งขรึม พร้อมกับพูดว่า “ขอโทษนะคะ ไม่มีค่ะ”
ลี่เฉินซีชะงัก ก่อนจะเปิดคลิปวิดีโอในโทรศัพท์ให้ตำรวจสาวดู อีกฝ่ายดูไปสักพักก็ยิ้มออกมา “นี่เป็นขบวนการขายบริการผิดกฎหมายที่พวกเราพึ่งจับกุมค่ะ ซึ่งหัวหน้าหลี่เป็นคนลงมือจับกุมด้วยตัวเองเลยนะคะ…..”
เธออธิบายออกมาคร่าวๆ จากนั้นก็เข้าไปค้นหาในคอมพิวเตอร์อีกรอบ
นัยน์ตาของลี่เฉินซีเย็นยะเยือก เขารู้สึกพูดไม่ออก ขายบริการ…
เกิดอะไรขึ้นกับเธอในช่วงสองปีที่ผ่านมา แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการขาย…? !
หลังจากที่ตำรวจสาวตรวจสอบอยู่พักหนึ่ง เธอก็ส่ายหน้าเบาๆ “ไม่มีค่ะ ผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว แต่ไม่มีใครชื่อซูย้าวค่ะ”
หลังจากพูดจบ เธอก็มองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของลี่เฉินซี ดูเหมือนว่ามีอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่สามารถจะอธิบายออกมาได้ ตำรวจสาวเริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเขาขึ้นมา เธอเลยเริ่มค้นหาในคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ก่อนที่เธอจะตกตะลึงทันที “คุณคะ ที่ฉันหาเจอ มีเพียงข้อมูลเดียว นั่นก็คือคุณซูย้าวได้เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุไปเมื่อสองปีก่อน คุณแน่ใจนะคะว่าคุณตามหาเธออยู่?”
นัยน์ตาที่เย็นชาของลี่เฉินซีหรี่ลงเล็กน้อย หลังจากเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนที่เกิดขึ้น เขาใช้เวลาค้นหากว่าสามเดือน แต่ก็ไม่เจออะไร ตอนนั้นเจี่ยงเวินอี๋ก็ได้ยกเลิกข้อมูลทะเบียนบ้านของซูย้าวพร้อมกับบอกว่าบอกว่าทำแบบนี้แหละดีแล้ว เด็กๆ จะได้ไม่คิดมาก พวกเขาจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
แต่เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้ เขายังไม่หมดหวังเลยให้ตำรวจสาวตรวจสอบให้อีกสองสามครั้ง ก็ยังไม่เจออะไรอยู่ดี ทันใดนั้นก็มีตำรวจอีกนายหนึ่งเดินผ่านมาโดยบังเอิญ เขามองไปทางลี่เฉินซี ก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ได้ “ยังมีบางคนที่ถูกจับมา แต่ว่ายังไม่ทันได้ขึ้นทะเบียน รอก่อนสักครู่นะครับ ถ้ามี ทางเราจะติดต่อคุณไป”
ยังไงก็ตามผู้ต้องหาที่ถูกจับตัวมา จะช้าหรือเร็วก็ต้องติดต่อกับสมาชิกในครอบครัวอยู่แล้ว ตอนนี้สามารถติดต่อได้คนหนึ่ง คงสบายกว่าเดิมหน่อย
ลี่เฉินซีกล่าวขอบคุณเขา จากนั้นก็ทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ไว้ แล้วค่อยเดินจากไป
แต่เขาไม่ได้ออกไปไหน แค่กลับไปที่รถ พอหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด ก็มีรถไมบัคสีดำคันหนึ่งขับเข้ามาจอดที่ด้านข้าง หลังจากที่รถหยุด โม่หว่านหว่านก็ก้าวลงจากรถมาด้ายท่าทีร้อนรน
ลู่ส้าวหลิงเดินตามออกมาติดๆ ลี่เฉินซีเปิดประตูลงจากรถ ก่อนจะเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น จนโม่หว่านหว่านอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “โอ้พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกับย้าวย้าวของฉัน? ทำไมพอกลับมาก็โดนจับแบบนี้!”
ลี่เฉินซีเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเช่นกัน แต่เป็นไปได้ว่าตลอดสองปีที่ผ่านมานี้ จะต้องเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดอย่างมากสำหรับเธอแน่ๆ
ไม่ว่าเธอจะผ่านอะไรมา เขาไม่สนใจทั้งนั้น ตราบใดที่เธอกลับมา นั่นคงเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเขา เขาจะค่อยๆ ชดใช้และเติมเต็มทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยติดค้างเธอ…
ลู่ส้าวหลิงสะกิดภรรยาเบาๆ ก่อนจะโบกมือเป็นเชิงบอกว่าอย่าพูดอะไรเพ้อเจ้อ ดูอารมณ์ลี่เฉินซีด้วย
โม่หว่านหว่านพยักหน้ารับ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ย้าวย้าวไม่ใช่คนแบบนั้น มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด รอให้เราได้เจอเธอ ค่อยๆ พูดค่อยๆ คุย มันจะต้องดีขึ้นแน่ๆ”
ลี่เฉินซีถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะพยักหน้ารับช้าๆ
ตอนนี้เขาไม่ได้ติดใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ หรือเธอไปทำอะไรผิดมา แต่เขาแค่ต้องการเจอเธอเท่านั้น!
แค่ได้เจอเธอ เรื่องอื่นๆ ก็ไม่สำคัญ
“ดึกมากแล้ว พวกนายกลับไปก่อนเถอะ!” ลี่เฉินซีพูดขึ้นอย่างนิ่งเรียบ
ลู่ส้าวหลิงตบไหล่เขาเบาๆ ก่อนจะตอบกลับว่า “ถ้ามีอะไรคืบหน้าก็ส่งข่าวมาบ้างนะ หรือถ้าเกิดอะไรขึ้นก็โทรหาฉันได้ตลอด”
โม่หว่านหว่านก็พูดเสริมว่า “พรุ่งนี้วันหยุด คุณจัดการเรื่องซูย้าวไปก่อนเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าฉันจะเข้าไปดูเด็กๆ ที่บ้านให้เอง เรื่องลูกคุณทางนั้นสบายใจได้”
ลี่เฉินซีพยักหน้ารับอย่างขอบคุณ หลังจากส่งทั้งสองคนออกไปแล้ว เขาก็กลับขึ้นไปนั่งในรถอีกครั้ง ก่อนจะนั่งรอแบบนี้ไปจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น
แต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวอะไรส่งมา จนกระทั่งเขารอไม่ไหว เดินเข้าไปด้านในอีกรอบ
ตำรวจสาวที่เข้าเวรอยู่ยังไม่ทันได้เลิกงาน เธอรู้สึกผิดเล็กน้อยพอเห็นเขาเดินเข้ามา “คุณคะ พอดีพวกเรางานยุ่งมาก ก็เลยลืมแจ้ง…”
ลี่เฉินซีส่ายหน้าเบาๆ เป็นการบอกว่าไม่เป็นไร แต่ก่อนที่เขาจะได้ถามอะไร ตำรวจสาวคนนั้นก็พูดขึ้นมาก่อนว่า “ไม่มีคนที่ชื่อซูย้าวนะคะ แต่ฉันดูจากคลิปวิดีโอที่คุณทิ้งไว้ให้แล้ว ผู้หญิงที่คุณกำลังตามหา ใช่คนนี้รึเปล่าคะ…….”
เธอพูดขึ้นพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ที่ภาพบนหน้าจอเป็นใบหน้าด้านข้างของซูย้าวพอดี ลี่เฉินซีพยักหน้ารับ “ใช่ครับ เธอนี่ล่ะ”
“งั้นคุณคงจำผิดแล้วรึเปล่าคะ? ผู้หญิงคนนี้เธอไม่ได้ชื่อซูย้าว เธอแซ่อาน ชื่ออานหว่านชิงอีกอย่างจากที่ฉันตรวจดู คลิปวิดีโอนี้น่าจะมีอะไรผิดพลาด เธอไม่ได้เกี่ยวข้องในคดีนี้นะคะ แต่เธอเป็นคนที่โทรแจ้งกับทางตำรวจ แล้วยังช่วยทางเราจับขบวนการผิดกฎหมายนี้ด้วยค่ะ”
เลือดในร่างกายของลี่เฉินซีแข็งตัวขึ้นมาทันที ทั้งหมดแผ่ซ่านไปทั่วทุกตารางนิ้วราวกับว่าตัวเขากำลังจะขึ้นสนิม เขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
อานหว่านชิง?
ชื่อของใครสักคนที่ไม่คุ้นเคยดังก้องอยู่ในหัวเขาไปมา
“แล้วก็หลังจากที่เราจัดการสถานการณ์ทุกอย่างแล้ว เธอก็ออกไปแล้วค่ะ……”
นัยน์ตาที่เย็นชาของลี่เฉินซีหรี่ลงครู่หนึ่ง “ไปแล้ว? เธอได้บอกรึเปล่าว่าเธอไปที่ไหน? หรือเธอมีข้อมูลการติดต่อไหมครับ?”
ตำรวจสาวส่ายหน้าอย่างขออภัย “นี่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ทางเราไม่สามารถบอกได้ค่ะ”